โอ้ว่าแม่จ๋า......จำประโยคนี้ได้หรือไม่.

กิ่งโศก

li40.gif	
 ในทุกๆ ปี ในวาระโอกาส วันสำคัญ เช่นวันเฉลิมพระชนม์พรรษา ขององค์สมเด็จพระราชินี ของเราชาวไทยทุกคน   คือ ๑๒ สิงหาคม ของทุกปี ที่คนไทยได้ถือเอาวันนี้ เป็นวัน
  แม่  
.....กิ่งโศก คนยาก จะได้ยิน บทเพลงเกี่ยวกับพระคุณ แม่ ดังกระหึ่ม  ในหมู่บ้าน ในเคหาส์ หรือแหล่งชุมชน ต่าง ๆ กันทั้งเดือน สิงหาคม เลยทีเดียว มีหลายเพลง และนักร้อง ที่ร้องหลายคน...
   และ บทเพลงที่ถือ ว่า เป็นต้นแบบ ที่กิ่งโศก ฟัง ทีไร น้ำตาจะคลอไปด้วยทุกครั้ง นั่น คือเพลง
 ค่าน้ำนม..
บทเพลงนี้ ถูกถ่ายทอดโดย นักร้อง มากมาย...ใครร้องก็ ประทับใจทุกครั้ง..ยิ่งคนที่กำพร้ามารดาด้วยแล้ว ..เพื่อนของข้าพเจ้า เคยวิ่งไปหลบ มุมหลังห้องเรียนร้องไห้มาแล้ว สมัยเป็นนักเรียน ประถม..
li40.gif
....คนร้อง   ทำนอง...ที่ประสานกันได้อย่างเหมาะเจาะ..นั่นยิ่งทำให้มีความวิจิตรยิ่ง..แต่อื่นใด กิ่งโศก กับเห็นความเลิศอัฉริยะในเชิงกวีบท  และเนื้อหา ของผู้ที่ประพันธ์บทเพลง บทนี้ ..ครูไพบูลย์ บุตรขัน.... ในทุกวลีที่ผจงกรองกลั่นออกมาช่างเปี่ยมไปด้วยความหมายในอารมณ์ ของผู้แต่งหรือผู้ที่เป็นบุตรพึงเขียนถึงแม่...แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง...เพียงแค่วรรคแรก คงสะกดความรู้สึกแก่เหล่าผู้บุตรชายหญิง..ต้องสดับแล้ว...
หรือ แม้แต่ท่อนนี้ ที่ทำให้ กิ่งโศก..ต้องน้ำตาซึม..โอ้ว่าแม่จ๋า ลูกคิดถึงค่าน้ำนม
..........ก่อนที่จะถึงที่มาของบทเพลงนี้...เรามาร้องทวนกันอีกสักครา ดีไหม..
li40.gif
เพลงค่าน้ำนม
 
"แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง
ที่เฝ้าหวงห่วงลูกแต่หลังเมื่อยังนอนเปล
แม่เราเฝ้าโอ้ละเห่
กล่อมลูกน้อยนอนเปลไม่ห่างหันเห ไปจนไกล
เมื่อเล็กจนโตโอ้แม่ถนอม
แม่ผ่ายผอมย่อมเกิดจากรักลูกปักดวงใจ
เติบ โตโอ้เล็กจนใหญ่
นี่แหละหนาอะไร มิใช่ใดหนาเพราะค่าน้ำนม
* ควร คิดพินิจให้ดี 
ค่าน้ำนมแม่นี้ จะมีอะไรเหมาะสม
โอ้ว่าแม่จ๋า ลูกคิดถึงค่าน้ำนม
เลือดในอกผสม กลั่นเป็นน้ำนมให้ลูกดื่มกิน
ค่าน้ำนมควรชวนให้ลูกฝัง
แต่เมื่อหลังเปรียบดังผืนฟ้าหนักกว่าแผ่นดิน
บวช เรียนพากเพียรจนสิ้น
หยดหนึ่งน้ำนมกิน ทดแทนไม่สิ้นพระคุณแม่เอย"
li40.gif
กิ่งโศก ขอคัดลอกที่มาของเพลงนี้ จากเวป นี้ : http://thainews.prd.go.th/Misc/motherdaynew/milk.html
ความเป็นมาของเพลง "ค่าน้ำนม"
 
          
เพลงค่าน้ำนม เป็นเพลงที่แต่งโดย ไพบูลย์ บุตรขัน ขับร้องบันทึกเสียงครั้งแรกโดย ชาญ เย็นแข เมื่อ พ.ศ. 2492 ได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมาก เป็นเพลงที่สร้างชื่อเสียงให้กับไพบูลย์ บุตรขัน และชาญ เย็นแข มากที่สุด ได้รับการยกย่องว่าเป็นเพลงที่เป็นรากฐานของเพลงลูกทุ่ง ในงานกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย เมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2532 
 
          เพลงค่าน้ำนม เป็นเพลงหนึ่งในจำนวน 5-6 เพลง ที่ไพบูลย์ บุตรขัน แต่งให้กับมารดา คือนางพร้อม ประณีต (ครูไพบูลย์ มีนามสกุลเดิมว่า ประณีต) ซึ่งเป็นผู้ที่ดูแลครูไพบูลย์อย่างใกล้ชิดมาตลอด ตั้งแต่วัยหนุ่มจนท่านเสียชีวิตในวัย 70 กว่าปี เมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2508 ถึงแม้ครูไพบูลย์จะป่วยเป็นโรคเรื้อนซึ่งได้รับความรังเกียจจากบุคคลทั่วไป
 
          เพลงค่าน้ำนม เป็นเพลงแรกที่ชาญ เย็นแข ได้รับการบันทึกเสียง โดยในครั้งแรกครูไพบูลย์ตั้งใจจะให้บุญช่วย หิรัญสุนทรเป็นผู้ขับร้องบันทึกเสียงกับวงดนตรีศิวารมย์ของครูสง่า อารัมภีร แต่บุญช่วย หิรัญสุนทรเกิดป่วยไม่สามารถมาร้องได้ ครูสง่าจึงเสนอให้ชาญ เย็นแขซึ่งเป็นลูกศิษย์ มาขับร้องแทน 
 
          ในการขับร้องบันทึกเสียงครั้งแรก ครูสง่า อารัมภีร เป็นผู้เล่นเปียโน บันทึกเสียงเพียงไม่กี่ครั้งก็ใช้งานได้ เรียบเรียงเสียงประสานโดย สง่า อารัมภีร และ ประกิจ วาทยกร (บุตรชายของพระเจนดุริยางค์) วางจำหน่ายเมื่อ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2492 โดยบริษัทนำไทย จำกัด แผ่นเสียงตราสุนัขสลากเขียว แผ่นครั่งขนาด 10" ความเร็ว 78 รอบต่อนาที ขายได้ 800 แผ่น 
 
          หลังจากแผ่นเสียงเพลงนี้ออกจำหน่าย ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ลาวัณย์ โชตามระ นักหนังสือพิมพ์บันทึกไว้เมื่อ พ.ศ. 2508 ว่า เป็นประวัติการณ์ที่ว่า พอถึงวันแม่ซึ่งทางการยุคหนึ่งกำหนดให้ถือเอาวันที่ 15 เมษายน ตลอดวัน วิทยุก็จะกระจายเสียงแต่เพลงที่เขาแต่งขึ้น นั่นคือ เพลงค่าน้ำนม ที่มีเนื้อร้องขึ้นต้นว่า "แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง..." 

li40.gif090809el571390.jpg
อันที่จริง อยากนำเสนอ ประวัติ คีตกวีลูกทุ่ง ท่านนี้ ..เพราะ ในช่วงชีวิตที่รุ่งโรจน์ นั้น ท่านยังเผชิญกับโรค ทุกบั่นทอน ชีวิตท่าน...บทเพลงที่ท่านเขียน ล้วน จำลอง มาจาก ชีวิตท่าน..
  แม่ เป็นคำที่ฟังแล้ว ยิ่งใหญ่เหลือเกิน..มีคำที่นำเอาไปเขียนนำ หรือชี้บ่งความหมายที่ยิ่งใหญ่มากมาย..
แม่น้ำ
แม่ธรณี 
แม่พระ
แผ่นดินแม่
.........ในฐานะเราเป็นลูก จึงควรกตัญญู ต่อแม่...ต่อ ผืนแผ่นแม่..แผ่นดินไทย แผ่นดินมาตุภูมิ ที่มิควร อกตัญญู ..
li32.gif
http://www.fungdham.com/download/song/sec2/2buddhapower/15.wma
				
comments powered by Disqus
  • แก้วประภัสสร

    28 มกราคม 2553 13:27 น. - comment id 26871

    มาฟังเพลง ค่าน้ำนม
    เพลงนี้แม้ว่าจะผ่านไป กี่ยุค กี่สมัย
    แม้คนร้องจะปรับ เปลี่ยนไป
    แต่ความหมายของเนื้อร้องยังคงมีค่าอยู่เสมอ
    รวมทั้งอีกหลายๆ ที่ฟังแล้วทำให้คิดถึง
    พระคุณของแม่ค่ะ
    ขอบคุณที่นำเสนอสิ่งดีๆค่ะคุณกิ่ง
    รอฟังเพลงต่อไปค่ะ
    36.gif36.gif36.gif16.gif
  • ห้าเจ้าจอม

    28 มกราคม 2553 15:06 น. - comment id 26872

    เคยฟังแล้วร้องไห้ด้วยนะคะ
    ครูป.3ร้องเพราะมากค่ะ
    
    
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • กิ่งโศก

    28 มกราคม 2553 11:40 น. - comment id 27140

    ไหนๆ  ก็ไหน ๆ ว่ากันด้วยเพลงนี้ ผมเลย นำสิ่งที่..มีคนกล่าวถึง ครูไพบูลย์ บุตรขันในห้วงที่ชีวิตตกต่ำ ขนาดแม่เสีย ยังไม่มีเงินค่าทำศพ....ลองมาฟังการกล่าวถึง..จาก http://www.oknation.net/blog/print.php?id=482315
    
    
    อาจินต์ ปัญจพรรค์ - ศิลปินแห่งชาติ
    
    เพลงนั้นชื่อว่า "ค่าน้ำนม" เพลงที่เหมาะสมที่สุดในวันแม่ ซึ่งเป็นผลงานที่บันทึกเสียงครั้งแรกในชุดค่าน้ำนม ผมเชื่อว่าทุกๆคนต้องเคยได้ยินเพลงนี้ อย่างน้อยก็คนละหลายครั้ง แต่อาจจะมีน้อยคนที่รู้จักครูเพลงที่แต่งเพลงนี้ 
    ผมเองไม่สนิทกับแม่เท่าไร บอกตรงๆ ส่วนหนึ่งเป็นลูกจีนที่ป๋าเป็นคนตัดสินใจทุกๆอย่างในบ้านเสียหมด (แต่ถ้าป๋าพลาดไปก็มีแม่นั้นแหละตามแก้ไขปัญหา) แม่จึงได้แต่ให้กำลังใจห่างๆ ประกอบกับผมเป็นคนเกเรหน่อยๆตอนวัยรุ่น ป๋าจึงต้องให้ออกไปอยู่ที่อื่นเรื่อยๆ (อยู่โรงเรียนประจำสลับกับบ้านตั้งแต่ ม.ต้น) 
    แต่แม่ก็โทรหาเป็นประจำ และเมื่อกลับบ้านก็จะหาอะไรอร่อยๆที่ชอบให้กินอยู่เสมอมาและเสมอไป... 
    ครูไพบูลย์ บุตรขัน เสียชีวิตในวันอังคารที่ 29 สิงหาคม 2515 ก็เดือนนี้พอดี เรียกว่าเสียชีวิตไปก่อนผมเกิดเสียอีก แต่หลายๆเพลงของครูก็ยังเป็นอมตะจนผมร้องได้หลายๆเพลง 
    ชีวิตของครูไพบูลย์ บุตรขัน แม้ว่าเขาจะมีชื่อเสียงด้านการประพันธ์เพลง แต่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ เล่าว่าครูเป็นโรคร้ายอันเป็นที่รังเกียจ (เห็นว่าเป็นโรคเรื้อน) ต้องเอาผ้ามาพันมือหรือต้องใส่เสื้อแขนยาวและเอามือกอดอกอยู่ตลอดเวลา ทำให้ชีวิตครอบครัวล้มเหลวถึง 3 ครั้ง จนในปี 2512 ได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่งชื่อดวงเดือนซึ่งเคยเป็นพยาบาล ได้อยู่กินแต่งงานกัน ได้เปลี่ยนชื่อจากดวงเดือนเป็นจันทิมาให้เธอด้วย แต่ก็มีความสุขได้เพียง 3 ปี ครูก็ต้องจากโลกนี้ไปด้วยโรคกระเพาะและลำไส้อักเสบอย่างรุนแรง 
    ผมเชื่อว่า เพลงที่ครูแต่งในรายชื่อที่ผมยกมาเป็นตัวอย่างนี้ เพื่อนๆคงรู้จักกันดีเกือบทุกคน..... 
    มนต์เมืองเหนือ , สามหัวใจ , กลิ่นโคลนสาบควาย , มนต์รักอสูร , เดือนต่ำดาวตก , น้ำตาเทียน ,คืนนั้นสวรรค์ล่ม , น้ำค้างเดือนหก , แม่แตงร่มใบ , มนต์รักลูกทุ่ง , มนต์รักแม่กลอง ฯลฯ 
    แต่ก็นั่นแหละ ไม่มีเพลงถึงแม่เพลงไหนที่ผมจะเห็นว่ายิ่งใหญ่ไปกว่าเพลง"ค่าน้ำนม" 
    แน่นอนว่าชีวิตการเป็นนักแต่งเพลงในสมัยนั้นคงไม่ได้ร่ำรวย ทำเงินได้เหมือนสมัยนี้ ครูเคยเล่าว่า  
    "อย่างไรก็ตามผมขอยืนยันว่า ชีวิตและอาชีพศิลปิน ในเมืองไทยยังไม่มีหลักประกันอันน่าพึงพอใจ เรายังขาดสถาบันอันเป็นแหล่งเผยแพร่วิชาชีพเพียงพอแก่ความต้องการ เรายังขาดองค์การที่เชิดชูสนับสนุนศิลปินอย่างกว้างขวาง เพราะฉะนั้นเราจึงเป็นได้เพียงนักแต่ง นักแสดงที่เสี่ยงต่อความอดตาย อย่าเพิ่งนำชีวิตของคุณเสี่ยงต่อการล้มลุกคลุกคลานเลย ผมปรามไว้ก่อนด้วยความหวังดีและจริงใจ ไม่ใช่กีดกันหรือทอดทิ้งหามิได้ เพราะตัวผมเองก็กำลัง ล้มลุกคลุกคลาน อยู่ในขณะนี้ 
    
    คุณคนใดก็ตามที่กำลังเล่าเรียนหนังสืออยู่ จงอย่าละทิ้งการเรียนนั้นเสีย เพราะรากฐานแห่งการศึกษาเมื่อใด เมื่อนั้นแหละคุณควรคิด เริ่มต้น ถากถางทางอาชีพได้ ไม่ว่าคุณจะคิดเป็นอะไร ความสำเร็จย่อมเป็นของคุณอย่างง่ายดาย เพราะคุณมีอาวุธ คือวิชาเป็นคู่มืออยู่แล้ว 
    
    หากคุณคิด จะร้องเพลง แต่งเพลง เป็นงานอาชีพ ผมก็ได้แต่รำพึงรำพันกับตัวเองว่า อนิจจา เพราะผมเองอยู่ได้ทุกวันนี้ด้วยการเป็น กรรมกร -ไพบูลย์ บุตรขัน 
    ชีวิตของครูไพบูลย์ บุตรขัน เป็นชีวิตที่น่าศึกษา ท่านลำบากมาตลอดชีวิตสำหรับการใช้ชีวิตการเป็นนักแต่งเพลงในยุคสมัยนั้น ชนิดที่เคยถึงขั้นไม่มีเงินทำศพแม่ที่เสียชีวิต 
    มงคล อมาตยกุล - เพื่อนรักของครูไพบูลย์ เล่าให้ฟังใน หนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ ไพบูลย์ บุตรขัน เมื่อปี 2515 ว่าหลังปี พ.ศ.2500 - โชคชะตาได้เล่นกลกับชีวิตไพบูลย์ พูดตามภาษาชาวบ้านว่าดวงตก เพลงที่ไพบูลย์ผลิตออกมาไม่ได้รับความสนใจ ผู้ที่เคยตอมห้อมล้อมก็ทยอยหายไป โรคภัยไข้เจ็บก็ประดังเข้ามาห้อมล้อมแทน ไม่มีใครเหลียวแล เมื่อมารดาบังเกิดเกล้าของไพบูลย์สิ้นชีวิตลง ราวๆ พ.ศ.2504-2505 จำไม่ได้แน่นอน มีผมและเพื่อนฝูงอีก 2-3 คน ได้ไปที่บ้านปทุมธานี พบไพบูลย์นั่งซึมทำอะไรไม่ถูก เขาจะเผาศพมารดาของเขาในวันนั้น ผมไม่ยอม ไพบูลย์ บอกว่า ผมทำอะไรไม่ถูก ไม่มีเงิน ก็อยากจะทำให้เสร็จสิ้นไป ผมจึงให้เก็บศพไว้ก่อน เรื่องเงินไม่ต้องห่วง ผมจะหาให้เอง เพื่อนฝูงยังอยู่ อย่ากังวล ผมจึงนำวงดนตรีไปแสดงที่โรงภาพยนตร์ศรีย่าน พูดคุยกับประเสริฐเจ้าของโรงว่า ผมขอเงิน 8,000 บาท เพื่อไปช่วยเพื่อน คุณประเสริฐตอบตกลงทันที ผมจึงนำเงินทั้งหมดไปให้ไพบูลย์..... 
    เป็นน้ำใจของมิตรสหายที่ล้ำค่า (เงิน 8000 สมัยนั้นไม่ใช่น้อยๆนะครับ เทียบกับสมัยนี้ก็คงหลักแสน) และผมอยากจะนำมาเล่าต่อให้ทุกๆคนได้รู้  
    เพราะผมคิดว่าคนที่แต่งเพลงอย่าง"ค่าน้ำนม"ออกมาได้ ต้องรักแม่มาก การที่ท่านนั่งซึมเพราะไม่มีเงินทำศพคุณแม่ของท่าน เป็นความเจ็บปวดขั้นไหนก็สุดจะคาดคะเนได้จริงๆ น่ายินดีที่ครูท่านยังมีเพื่อนเข้ามาช่วยเหลือในยามยาก   
    ผมขอยืมคำพูดของเพื่อนทอมของผมคนหนึ่งที่เคยบอกผมถึงเพลงนี้ว่า "ฉันร้องเพลงนี้ไม่จบว่ะแก มันจะต้องร้องให้ออกมาก่อนจะจบเพลงเสียทุกที" 
    ก็รำลึกพระคุณแม่ และยกย่องครูเพลงท่านนี้ไว้พร้อมกันตรงนี้เลยครับ.... 
    
  • ฉางน้อย

    28 มกราคม 2553 12:22 น. - comment id 27141

    17.gif17.gif46.gif........พี่กิ่งเล่นไร   อิอิ
  • กิ่งโศก คนยาก

    28 มกราคม 2553 20:21 น. - comment id 27146

    ฉาง
    ..หุหุ พิ่กิ่งคงเริ่มบ๊องๆ แล้วกระมัง..เขียนกระทู้มันไม่ต้องประดิษฐ์ ถ้อยคำนักนะ
    
    อีกอย่าง คิดถึงแม่ อะจ้า อิอิ
    
    
    ไปเวปไหน เจอแต่การเมืองเซ็งมาก..หนีไม่ค่อยออก ทุกลมหายใจ เจอแต่การเมือง ตั้งแต่ยังไม่ลืมตาเสียด้วยซ้ำ
    
    หาเรื่องอันที่เราชอบและบรรเทิงใจเล่นดีกว่า..( เอ พี่กิ่งพูดมากไปเปล่านี่ )
  • กิ่งโศก

    28 มกราคม 2553 20:23 น. - comment id 27147

    คุณแบม  
    
    แค่ฟังดนตรีบรรเลงก็เพราะแล้วจ้า
    
    เพลงเก่าๆ มักจะมีที่มา แบบ..น่าติดตาม  เด๋ว ช่วงนี้ หันมาทางกระทู้ดีกว่า..เพราะ กระทู้ ดูจะเหงา ๆ  กลัวคนเขาเหงา อิอิ
  • กิ่งโศก

    28 มกราคม 2553 20:24 น. - comment id 27148

    gเจ้าจอมฯ
    
    ว่าแต่ที่บ้าน มีเขยคนไหนหลงมาบ้างรึยัง  อิอิ...แต่ละคน ดุๆ ท้างน้านอะ..
    
    ขอบคุณมากที่แวะเข้ามานะครับ..
  • เฌอมาลย์

    29 มกราคม 2553 14:31 น. - comment id 27175

    จำได้ค่ะ
    
    รู้สึกเพลงจะดังซ้อนกันสองเพลงนะคะ
  • .

    3 กุมภาพันธ์ 2553 13:19 น. - comment id 27264

    นึกว่าเพลงหนี้เสน่หา ...ขึ้นต้นว่า
    แม่จ๋า เหมือนกันนะ  
    46.gif21.gif20.gif
  • br

    4 กุมภาพันธ์ 2553 19:44 น. - comment id 27314

    อย่าอ่านนะขอร้อง
    ความลับมาบอก เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น
    เคยมีเด็กถูกฆ่าตายที่ห้องนำของภารโรง
    แต่ไม่สามารถหาต้นเหตุของคดีได้
    จึงได้ปล่อยร่างไร้วิญญานของเด็กน้อยทิ้งไว้ ณ ที่เดิม
    ไม่มีการทำพิธีอะไรทั้งสิ้น วิญยาณของเด็กจึงล่องลอยวนเวียนอยู่ในรร.
    เป็นเวลาหลาย10ปี
    จนวันหนึ่งได้มีกลุ่มน.ร. หญิงเข้าไปในห้องนำนั้นเพื่อหวังจะแกล้งภารโรง
    จึงได้พบวิญยาณของเด็กน้อยกำลังไต่ไปตามเพดาน พร้อมแสยะยิ้มให้
    พวกเทอกลัวมากรีบวิ่งออกจากห้องน้ำ
    แต่เพื่อนคนหนึ่งพลันไปเหยียบแอ่งน้ำที่พื้นเข้า
    จึงได้ล้มและไปสะดุดขาของเพื่อนอีกคนหนึ่งเข้า
    เพื่อนคนนั้นได้จับแขนของอีกคนไว้จึงล้มกันมาเป็นทอดๆและหัวฟาดพื้นตายหมด
    วิญยาณของพวกเขาจึงวนเวียน ณ ที่แห่งนั้นตลอดไป
    จงส่งต่อไปอีก20 กระทู้ ภายใน 7ชม.
    ต่อแรกเราก็ไม่เชื่อหรอกแต่เพื่อนเราประสบอุบัติเหตุไปแล้ว 5ค
  • กิ่งโศก

    30 พฤษภาคม 2553 21:16 น. - comment id 30647

    Test ..

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน