21 เมษายน 2551 21:51 น.

กัดก้อนเกลือกิน

ภันเต

มดหลงทางหิวกระหายใกล้วายชีพ    
หมดแรงถีบเท้าขาข้างหน้า
หวังบ่อน้ำอาหารต่อเวลา                  
ร่มพักรักษาเยี่ยวยาให้มีแรง

มองไกลไกลริบริบเห็นก้อนขาว        
เกร็ดแพรวพราววาววับสะท้อนแสง
ดีใจจังดังฝันให้มีแรง                       
ให้ต่อแรงแข็งขันก้าวต่อไป

หิวกระหายคราวนี้คงได้สม                 
สุขอารมณ์ได้อิ่มหายกระหาย
กัดเต็มแรงรสแปลกมันเปลี่ยนไป     
 มันไม่ใช่น้ำตาลที่เคยกิน

นี่คือเกลือเบือใจให้เจ็บปวด               
เอามาอวดล่อลองหมดสูญสิ้น
มดตัวนี้คงตายวายชีวิน                     
เพราะกินเกลือใช่น้ำตาลที่ต้องการ

เหมือนกับรักที่ผ่านแสนเจ็บปวด     
ใจร้าวรวดปวดใจกับคำหวาน
หลงชื่นชมขมทีหลังเหมือนทรมาน    
โดนประหารใจเจ็บเก็บให้จำ

คงไม่รอดจอดใจเจ็บเก็บเลิกฝัน      
อยู่วันวันกันฉันกับความช้ำ
เหมือนกับมดอดมาโดนเกลือทำ       
ตรอมตรมช้ำด้วยคำคนหลอกลวง				
21 เมษายน 2551 10:38 น.

รัก...ที่เปล่าประโยชน์

ภันเต

มองความรักที่ให้ไปไร้ความหมาย  
มันกลืนหายลงทะเลเหมือนโยนหิน

ทำอะไรให้ไปอย่างหมดสิ้น            
ถูกกลืนกินเงียบหายลงทะเล

มีเพียงคลื่นบางบางสะท้อนกลับ     
เอื้อมมือจับว่างเปล่าให้หว้าเหว่

ไม่ได้คืนอะไรกลับจากทะเล           
ใจไขว่เขว่เหหักรักลอยลม

จะหวังอะไรกับรักในแบบนี้           
ทำหน้าที่ในนามให้เหมาะสม

เป็นตุ๊กตาจอมปลอมให้เชยชม      
หลงอารมณ์ชมชื่นคิดว่าจริง

อยู่อย่างอยู่นี้ไปรอวันจบ                 
คงไม่คบรักที่ให้แล้วทอดทิ้ง

เก็บหัวใจไว้กับตัวอยู่นิ่งนิ่ง            
 ไว้พักพิงหัวใจให้ตัวเอง				
19 เมษายน 2551 19:32 น.

ฉันมันแย่...สินะ

ภันเต

โดนดุด่าว่ามาน่าเสียหาย        
ก็น้อยใจที่ฉันเป็นแบบนี้
ไม่ได้ดีมีอะไรอย่างเขามี         
แค่ศักดิ์ศรีที่ถูก ๆ ให้เธอมอง

เธอจะหวังอะไรได้ในตัวฉัน    
แค่วันวันไม่เคยมีที่ถูกต้อง
ดูรำคาญส่วนเกินไม่น่ามอง     
ใจมันฟ้องภาพที่เห็นสายตาเธอ

เธอคงมีหน้าที่แค่คนรัก          
ไม่ได้อยากรักจริงดังพร่ำเพ้อ
อยู่เพราะอยู่ไม่มีใจอยากเจอ   
ไม่ใช่เบอร์ที่เธอเลือกอยากต้องการ

แต่จะมีฉันอยู่ไว้ทำไม             
เมื่อฉันไม่ใช่คนที่เธอหวาน
หยุดใช้คำว่ารักทรมาน           
เพื่อเป็นการใช้มีฉันไปวันวัน

ฉันก็เจ็บมีหัวใจรับรู้สึก         
มันลงลึกปักใจในตัวฉัน
ฉันมันแย่เลิกตอแยหยุดประจาร   
เลิกป่วยการกับฉันหยุดเสียที

ไปมองหาคนใหม่ทีดีพร้อม          
คงจะหอมหวานมันมากกว่านี้
สิ้นสุดรักเมื่อใจไม่เคยมี           
ฉันไม่มีค่าแล้วในใจเธอ				
19 เมษายน 2551 19:00 น.

กลอน อกหัก

ภันเต

กลอนนี้ไม่เพราะไพเราะหวาน     ใครได้อ่านอาจฟังรำคาญหู
ไม่ได้แต่งแข่งขันประชันสู้            แค่แต่งดูเพียงเพื่อบอกบรรยาย

ถึงความเศร้าร้าวรนในดวงจิต      รักเป็นพิษขื่นข่มระทมไห้
ใจมันปวดปวดที่ตรงเป็นหัวใจ      บอกบรรยายอย่าไงไม่เท่าลอง

รักเอ๋ยรักยากนักมากนักหรือ       อะไรคือความรักที่ถูกต้อง
รักคือความบริสุทธิ์ใจในครอบครอง   แต่มัวหมองหมางเมินเกินทนใจ

รักคือรักปรารถนาให้ต่อกัน            แต่ตัวฉันกลับให้ไม่เคยได้
ให้ความรักห่วงหาอาทรใจ              ความห่วงใยไมตรีตลอดมา

ให้รักไปได้น้ำตาเป็นค่ากลับ         ฉันได้รับคืนมาเสียเต็มหน้า
คำทุกคำฟังเธอพูดมันออกมา         ฉันมันบ้าคิดไปเองว่ารักกัน

เมื่อไหร่ใจจะหยุดหลุดเลิกรัก         ต้องลำบากยากใจความดื้นรั้น
ห้ามไม่รักยากกว่าบอกรักกัน        คิดวันนั้นไม่น่ารักเลือกเลยเรา

ถ้าไม่มีวันที่รักคงไม่เจ็บ            ไม่ต้องเก็บความทุกข์ความโศกเศร้า
ไม่ต้องมีน้ำตาเพื่อนแก้เหงา      ไม่ต้องเอาตัวเองไปยอมใคร

แต่รู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว            ออกนอกแถวเปลี่ยนแนวอีกไม่ได้     
เลือกไปแล้วมีแต่ต้องทำใจ        ประคองไปถึงที่สุดเท่าที่ทน

จะรองรับความเจ็บเก็บฝั่งไว้        จนกว่าใจเกินทานจะต้านท้น
ยอมรับช้ำความระกำให้ทับถม      ให้ใจจมน้ำตาตายจากใจ				
11 เมษายน 2551 23:03 น.

นิทานก่อนนอน ตอน เก็บเศษฝันเอามาแต่งนิทาน

ภันเต

เพียงเวลาพามาให้รู้จัก       
เข้ามาทักทายใจให้หวั่นไหว
เสี้ยววูบหนึ่งสั่นรั่วไปทั้งใจ  
เหมือนคนใช่ตามหามาแสนนาน

เก็บเศษฝันมาต่อเป็นเรื่องยาว   
เป็นเรื่องเล่านิทานก่อนหลับฝัน
สร้างเรื่องเสริมเติมแต่งแห่งตำนาน   
รสความหวานเพิ่มใส่ให้ดั่งใจ

กาลเวลาครั้งหนึ่งมีเจ้าหญิง   
ถูกทอดทิ้งกลางป่าในดงใหญ่
หลงทางลึกทึมมืดไม่ปลอดภัย    
อันตรายมากมายไม่รู้ตัว

เหตุน้องสาวกลั่นแกล้งแย่งสมบัติ  
เพื่อขจัดตัวกั้นวางแผนชั่ว
ใส่ยาพิษฤทธิ์หลับไม่รู้ตัว            
แต่ยังกลัวไม่ยอมฆ่าให้ดับไป

ใส่เรือลอยปล่อยว้างกลางทะเล   
ลมพัดลมเพมาถึงฝั่งนี้จนได้
เมื่อตื่นมาหลงป่านี่แห่งใด          
มองไหนไปไม่เห็นเป็นผู้คน

คิดถึงบ้านเมืองวังปรางค์ปราสาท  
ที่วิลาศวิไลใจหมองหม่น
ต้องมาพักพลัดถิ่นภัยผจญ           
 หญิงหนึ่งคนจะต้านได้อย่างไร

ขอกล่าวถึงบุรุษหนึ่งออกล่าสัตว์     
 ถูกขืนขัดมัดหมั่นวิวาห์ใหญ่
หวังยิงนกให้หายกลุ้มชุ่มฤทัย 
เพียงเพราะไม่อยากทำคำต้องการ

จังหวะเหมาะนกเกาะบนกิ่งไม้       
เห็นร่ำไรนั่นใช่นกไม่รอนาน
ตั้งคันศรจองเนตรด้วยเก่งงาน     
ชำนาญหาญคันธนูแผลงออกไป

แต่หาไม่ใช่นกวิหกเหิน            
กลับบังเอินเป็นหญิงหลงป่าใหญ่
ถูกลูกศรปักลงล้มร้องว้าย           
เสียงจากไหนใจระทึกอะไรกัน

เราว่านกอะไรหว้าเสียผู้หญิง      
เอะ แปลกจริงหรือหญิงเปล่งเสียงนั่น
ถูกศรปักแน่แท้อยู่ไหนกัน        
เข้าไปพลั่นหวั่นใจคงไม่ตาย

.....โปรดติดตามตอนต่อไป (ช่วยแต่งต่อก็ได้ครับ)				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟภันเต
Lovings  ภันเต เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟภันเต
Lovings  ภันเต เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟภันเต
Lovings  ภันเต เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงภันเต