19 เมษายน 2548 00:09 น.

สารคดี : ทางออกที่ได้จากดอกไม้

สุชาดา โมรา

และในที่สุดฉันก็ได้คำตอบ เมื่อฉันมาพบกับ ป้าชะอ้อน เสืองาม หญิงชราวัย ๕๕ ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ ๑๗ หมู่ ๑๓ ตำบลบางคู้ อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ที่บ้านของป้าชะอ้อน นั้นมีอาชีพหลักคือการเลี้ยงไก่พันธ์เนื้อ และเลี้ยงปลาน้ำจืดซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นปลาสวาย แต่ที่ฉันสนใจคือป้าชะอ้อน ได้ปลูกต้นดอกไม้ไว้ตัดขายให้กับชาวบ้านที่ร้อยมาลัยขาย ป้าชะอ้อนได้ปลูกกุหลาบพวงไว้ประมาณ ๑,๐๐๐ ต้น โดยใช้เนื้อที่ประมาณ ๒ งาน และดอกดาวเรือง โดยใช้พื้นที่ประมาณ ๑ งาน ซึ่งตัวป้าชะอ้อนก็บอกว่าปลูกไม่มากนักเพราะอยู่กันแค่สองตายาย ป้าชะอ้อนยังเล่าให้ฟังอีกว่า ปลูกกุหลาบมาได้เกือบ ๓ ปีแล้ว ปลูกเพราะเห็นชาวบ้านเขาปลูกกัน และเมื่อถามว่าขายอย่างไร ป้าชะอ้อนก็บอกว่า ถ้าเป็นกุหลาบจะขายประมาณร้อยละ ๒๐ บาท แต่ถ้าเป็นดาวเรืองก็จะขายประมาณร้อยละ ๓๐ ถึง ๕๐ บาท แล้วแต่ว่าขนาดของดอกจะใหญ่และสวยหรือไม่ ส่วนขายให้ใครนั้น ป้าชะอ้อนบอกว่าจะนำไปส่งให้กับชาวบ้านหมู่ ๑๔ ที่อยู่กันคนละฝั่งแม่น้ำ เพราะว่า  ชาวบ้านแถวนั้นจะมีการร้อยมาลัยขายกัน
และเมื่อฉันถามอีกว่าป้าชะอ้อนดูแลต้นดอกไม้อย่างไร คำตอบที่ได้ก็คือ ฉีดยากันแมลง  รบกวนอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง รดน้ำสองวันรดหนึ่งครั้ง แมลงก็จะไม่ค่อยมีมากวน เมื่อฉันถามอีกว่าเก็บดอกไม้ได้ทุกวันเลยหรือแล้วได้จ้างคนมาตัดบ้างไหม คำตอบของป้าชะอ้อนตรงนี้นี่เองที่ทำให้ฉันได้รู้ว่า ยังมีคนอีกคนหนึ่งที่ตื่นเช้าขึ้นมา เพื่อที่จะมาทำเรื่องซ้ำซากได้โดยที่ไม่รู้สึกเบื่อ ป้าชะอ้อน บอกว่า ตัดดอกไม้คนเดียว บางครั้งตาก็ช่วยบ้าง (ถ้าว่างจากการดูแลไก่และปลา) ฉันก็ย้ำคำถามว่าตัดทุกวันเลยหรือ (ใจจริงแล้วอยากถามว่าไม่เบื่อบ้างหรือ) ป้าชะอ้อนบอกว่าตัดเกือบทุกวัน ยิ่งถ้าเป็นปลายฝนต้นหนาว ต้องตื่นมาตัดทุกวัน เพราะดอกจะออกมากทุกวัน ดอกกุหลาบนั้นต้องรอให้แย้มก่อนถึงจะตัด และต้องรีบตัดก่อนที่มันจะบาน เพราะถ้าบานแล้วจะนำไปร้อยมาลัยได้ไม่สวย
ในขณะที่ฉันฟังป้าชะอ้อนเล่า ฉันก็มีความรู้สึกว่าสีหน้าของป้าชะอ้อนบอกว่าเพลิดเพลินและสนุกมากกว่าเบื่อหน่ายกับการที่ต้องตื่นขึ้นมาตัดดอกไม้ เพราะฉันคิดว่า ในขณะที่ป้าชะอ้อนตัดดอกไม้อยู่ ใจของป้าชะอ้อนก็คงจะคิดไปว่า วันนี้ต้นนี้ ดอกจะออกเยอะไหม เดี๋ยวต้องรีบตัดเจ้าดอกกุหลาบเพราะว่ามันจะบานซะก่อน ต้องรีบแข่งกับมัน ถ้าฉันมีความคิดได้กว้าง ๆ อย่างป้าชะอ้อนก็คงจะไม่รู้สึกเบื่ออย่างนี้ คือนอกจากที่ฉันจะตื่นขึ้นมาเพื่ออาบน้ำ ทานบะหมี่สำเร็จรูป และเตรียมตัวไปเรียน ฉันก็ต้องคิดต่อไปว่าวันนี้อาจารย์จะสอนอะไร วันนี้อาจารย์จะอารมณ์ดีไหม และเพื่อน ๆ จะมีอะไรมาเล่าให้ฟังบ้างวันนี้ เช่นเดียวกันรถวน บ.ข.ส.สระแก้ว ถึงแม้ว่ามันจะวิ่งวนอยู่ในเส้นทางเดียวตลอดทั้งวัน แต่ผู้โดยสารก็จะมีหลากหลายผู้คน บรรยากาศภายในรถก็คงจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ หากฉันคิดได้อย่างนี้ชีวิตฉันคงจะมีทางออกจากความรู้สึกที่เบื่อหน่ายกับชีวิตที่มีแต่เรื่องที่ซ้ำซาก และรู้สึกสนุกขึ้นมาเยอะ เหมือนกับป้าชะอ้อนที่ตื่นขึ้นมาเพื่อที่จะตัดดอกไม้ได้เกือบทุกวันโดยที่ไม่รู้สึกเบื่อ				
19 เมษายน 2548 00:06 น.

สารคดี : คุ้มร่วมใจ......ในบ้านหม้อ

สุชาดา โมรา

ปัจจุบันการร่วมตัวแบบในอดีตที่ผ่านมาเริ่มลดน้อยลง ชาวบ้านจะอยู่กันแบบตัวใครตัวมัน  ไม่สนใจว่าบ้านใครจะทำอะไรกันและก็จะรู้กันแต่ในบ้านของตัวเอง  ด้วยเหตุนี้คน ต.บางคู้  หมู่ ๑๓ จึงคิดหาวิธีที่จะช่วยสร้างความสามัคคีให้แก่คนในหมู่บ้าน จึงได้มีการจัดตั้งคุ้มบ้านขึ้นมา  เพื่อให้เป็นที่ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน  เป็นศูนย์รวมของคนในคุ้มนั้น เช่น ใช้ในการประชุมเรื่องต่าง ๆ  เมื่อมีปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในหมู่บ้าน  โดยทุกคนมีสิทธ์มีเสียงเท่าเทียมกันเพื่อร่วมกันแก้ปัญหา  เช่น  ลูกหลานบ้านใครมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องติดยาเสพติด  ก็จะมีการประชุมเพื่อหาทางแก้ไขในทางที่ถูกต้อง และที่สำคัญคุ้มก็ยังเป็นที่ผักผ่อน หย่อนใจของคนชุมชนด้วย  คือ  จะมีหนังสือพิมพ์ให้อ่าน  มีการเล่นหมากรุก  และเป็นที่ชุมนุมคนแก่ในหมู่บ้าน ที่จะมาพบปะพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน  ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าในปัจจุบันนั้นคุ้มได้เข้ามามีบทบาทสำคัญของคน  ต.บางคู้ หมู่ที่  ๑๓  เป็นอย่างมาก
	ลักษณะของคุ้มที่มีในชุมชน ต.บางคู้  หมู่ที่๑๓  นั้นจะมีรูปแบบเป็นศาลาและใช้เสาทั้งหมดสี่เสา มีที่นั่งและมุ่งหลังคาด้วยใบจาก  และจะมีความแตกต่างจากในอดีตคือ  ในคุ้มจะมีการแบ่งสมาชิกว่าแต่ละครอบครัวว่าอยู่ในคุ้มไหน  โดยสมาชิกของแต่ละคุ้มนั้นจะเป็นผู้อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกัน ในแต่ละคุ้มจะมีหัวหน้าที่สมาชิกจะเรียกว่า        หัวหน้าคุ้ม     หัวหน้าจะเป็นผู้ที่ถูกสมาชิกเลือกขึ้นมาเพื่อเป็นตัวแทนของตนเองและคุ้ม ซึ่งการเลือกนั้นหัวหน้าคุ้มจะต้องเลือกจากผู้ผู้ที่มีความสามารถ  เป็นที่เคารพของคนในคุ้มและหมู่บ้าน  เพราะหัวหน้าคุ้มจะเป็นผู้เข้าประชุมเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับสมาชิก  หรือในบริเวณคุ้มของตัวเอง  เช่น ในวันพ่อ ก็จะร่วมตัวกันพัฒนาบริเวณคุ้มของตนเองหรือเมื่อมีการประชุมที่ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ของหมู่บ้านก็จะนำมาแจ้งผู้ใหญ่บ้านอีกทีหนึ่งทราบหาวิธีการแก้ไขต่อไป
ในขณะเดียวกันการจัดตั้งคุ้มก็ถือว่าเป็นกลไกลในการทำงานของผู้ใหญ่บ้านอีกทางหนึ่งคือเวลาประชุมประจำเดือนก็จะนำปัญหาที่เกิดขึ้นมาแก้ปัญหาร่วมกันหรือเมื่อมีเรื่องมาจากทางอำเภอก็จะแจ้งกับหัวหน้าคุ้มเพื่อไปบอกให้แก่สมาชิกทุกคนให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง
	การจัดตั้งคุ้มของคนในหมู่  ๑๓  ยังมีลักษณะพิเศษอีกประการหนึ่งคือ  ได้มีการนำชื่อของสมุนไพรไทยมาตั้งเป็นชื่อคุ้ม  โดยมีทั้งหมด  ๕  ชื่อด้วยกัน คือ ม้ากระทืบโรง หนุมานผสานกาย ฟ้าทะลายโจร โด่ไม่รู้ล้ม ประคำดีควาย ซึ่งทำให้เห็นว่าคนในหมู่  ๑๓  นั้นมีความคิดที่สร้างสรรค์อย่างมาก และจากการที่ได้พูดคุยกับผู้ที่ตั้งชื่อคุ้มแล้วทำให้ทราบถึงสาเหตุและที่มาของชื่อคุ้มที่เป็นสมุนไพรได้ดังนี้
	๑.  เพื่อเป็นเอกลักษณ์ในการจดจำชื่อคุ้มได้โดยง่ายของคนในหมู่บ้าน
	๒. ชื่อทุกชื่อล้วนเป็นชื่อของสมุนไพรไทยที่มีความหมายถึงเรื่องของการผสานบาทแผล  หรือบำรุงกำลัง  และเพื่อต้องการสื่อให้เห็นว่าทุกคนความมีความร่วมมือร่วมใจกันแก้ไขปัญหาและต้องสามัคคีกันในหมู่บ้าน	
๓. เพื่อให้ลูกหลานที่กำลังจะลืมคุณค่าของสมุนไพรได้ทราบถึงประโยชน์และเพื่อเป็นการอนุรักษ์
แนวทางในการพัฒนาคุ้มบ้านนั้นจากการพูดคุยกับผู้ใหญ่บ้านทำให้ทราบว่ามีความพอใจอยู่ในระดับหนึ่งแต่อีกสิ่งที่ต้องการให้คนในหมู่บ้านทำคือหากิจกรรมต่างๆมาทำกันเช่นมีกิจกรรมในทุกวันหยุด โดยให้แต่ละคุ้มพาลูกหลานมาพูดคุยกันมีการฝึกเล่นดนตรีหรือมีหนังสือให้เยาวชนอ่านเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์
จะเห็นได้ว่าการจัดตั้งคุ้มบ้านนั้นสร้างประโยชน์ให้แก่คนในหมู่  ๑๓  เป็นอย่างมากเพราะทำให้ทุกคนมีความเข้าใจกันมากขึ้น  และภาพการแบ่งปันและพึ่งพาอาศัยกันของคนในหมู่  ๑๓  กำลังจะกลับมาอีกครั้งดังที่เคยเกิดขึ้นมาในอดีตมาแล้ว				
19 เมษายน 2548 00:05 น.

สารคดี : ศาลพระภูมิในตำบลบางคู้

สุชาดา โมรา

ชุมชนตำบลบางคู้ก็เช่น ชาวบ้านในตำบลบางคู้เชื่อกันว่าในบริเวณบ้านของตนมีวิญญาณของเทพซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า  พระภูมิ  อาศัยอยู่ หากได้จัดหาที่อยู่ที่เหมาะสม และให้ความเคารพนับถือ  บวงสรวงบูชาเป็นประจำแล้วจะทำให้เจ้าของบ้านและคนในครอบครัวมีความสุข ปลอดภัยและมีความเจริญรุ่งเรือง
 	ลักษณะของศาลพระภูมิของชาวบ้านในตำบางคู้ จะมีลักษณะเป็นเรือนไม้หรือปราสาทเล็ก ๆ วางอยู่บนเสาต้นเดียวและมีส่วนประกอบ คือ เจว็ด ตุ๊กตาชายหญิง ช้าง ม้า กระถางธูป เชิงเทียน แจกันดอกไม้ เป็นต้น มีการกำหนดวัน เวลา ฤกษ์ยาม ตำแหน่งในการตั้งศาลพระภูมิ ซึ่งจะต้องอยู่ภายในรั้วหรือบริเวณบ้าน การทำพิธีตั้งศาลและเชิญพระภูมิขึ้นประทับบนศาลต้องให้หมอเจ้าพิธีเป็นผู้ดำเนินการ ในวันทำพิธีเจ้าของบ้านต้องจัดหาเครื่องสังเวย มีอาหารคาว เช่น หัวหมู ไก่ เป็ด เป็นต้น อาหารหวาน เช่น ขนมต้มแดง ขนมต้มขาว เป็นต้น ผลไม้ เช่น กล้วยน้ำว้าสุก และ มะพร้าวอ่อน พร้อมเครื่องบูชาต่าง ๆ  เช่น  บายศรีปากชาม พวงมาลัย ดอกไม้ ธูปเทียน ผ้าแพร ๓ สี ด้ายสายสิญจน์ ขันน้ำมนต์ พานครูของหมอเจ้าพิธี เป็นต้น  เมื่อทุกอย่างพร้อม หมอเจ้าพิธีจะทำพิธีตามลำดับ เริ่มจากหมอเจ้าพิธีซึ่งนุ่งห่มชุดขาวอย่างพราหมณ์ทำพิธีบูชาครู ทำน้ำมนต์พรมที่หลุมสำหรับวางฐานเสาศาล วางสิ่งของมงคลที่ก้นหลุม เช่น เหรียญเงินใบเงิน ใบทอง ใบมะยม ดอกพุทธรักษา เป็นต้น ยกเสาตั้งในหลุม ตั้งเครื่องสังเวยตรงหน้าศาล พรมน้ำมนต์เครื่องสังเวย เชิญเทพ เจิมแป้งที่ศาล เจิมเจว็ดและบริวาร ปิดทองคำเปลวที่เจว็ดและตัวศาลผูกสายสิญจน์โยงตัวศาลกับเครื่องสังเวย จุดธูปปักที่เครื่องสังเวยทุกอย่าง หมอเจ้าพิธีกล่าวนำถวายและเซ่นเครื่องสังเวยลาเครื่องสังเวย เชิญพระภูมิขึ้นศาล  ลาเครื่องสังเวยอีกครั้ง ตักเครื่องสังเวยทุกชนิดใส่ในกระทงใบตองเล็ก ๆ ๔ ใบ วางไว้ที่มุมศาลทั้ง ๔ มุม ปลดสายสิญจน์ ยกเครื่องสังเวยออก เป็นเสร็จพิธี
 	ในการตั้งศาลพระภูมิ  สิ่งที่ต้องคำนึงคือ สถานที่ตั้ง ทิศทาง ความสูงของศาลพระภูมิและผู้ประกอบพิธีกรรม เพราะการตั้งศาลพระภูมิ สถานที่ที่ตั้งศาล วันเวลาและฤกษ์ยาม มีความสำคัญมาก ควรเลือกวันที่ดีและมีความเป็นสิริมงคลเพื่อให้ประสิทธิ์ผลในทางมงคลแก่ผู้อยู่อาศัยในบ้านเรือนนั้นสืบต่อไปเพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ผู้อยู่อาศัย  
 	การเซ่นสังเวยและการตั้งศาลพระภูมิ  ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมาแต่โบราณ  โดยจะกระทำเมื่อปลูกบ้านใหม่  เพราะเชื่อว่าขั้นตอนการตั้งศาลพระภูมิจะเป็นการขับไล่สิ่งอัปมงคลทั้งหลายให้ออกจากบ้านไป แล้วอัญเชิญพระภูมิมาสิงสถิตเพื่อปกป้องคุ้มครองเจ้าของบ้านและบริวารให้อยู่เย็นเป็นสุข  มีความเจริญรุ่งเรือง  มีโชคลาภ  เพื่อให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข				
18 เมษายน 2548 23:39 น.

ปาฏิหาริย์รักข้ามมิติ ตอน Connector ( ตอนที่ 3 )

สุชาดา โมรา

แหมถึงเขาจะเป็นตำรวจแต่เขาก็เชี่ยวชาญด้านนี้เป็นกรณีพิเศษนะ  เพราะเขาเองก็ศึกษาด้านนี้มาโดยตรงและทางกรมตำรวจและศูนย์วิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อมทั่วประเทศก็ให้การยอมรับนับถือเขามากนะอีกอย่าง  คดีสืบสวนสอบสวนบางอย่างที่แปลก ๆ ผู้กองคนนี้ก็มักจะทำได้เสมอ  โดยเฉพาะเรื่องที่เกินหรือนอกเหนือจากธรรมชาติ  แต่เขากลับสรุปคดีได้ดีมากเลยละจริง ๆ นะชาติ  ขอร้องละอย่าทำหน้างง ๆ แบบนั้นสิ  ถ้าชาติได้เจอคน ๆ นี้แล้วชาติจะต้องรู้ว่าสิ่งที่ชาติคิดและสิ่งที่ชาติกำลังค้นหามันอยู่แค่เอื้อมเท่านั้นเอง
	มื้อนี้ชาติเลี้ยงริซ่าแล้วกันนะ แล้วถ้าได้เรื่องอะไรขึ้นมาถือว่าคราวหน้าชาติติดข้าวริซ่าอีกหนึ่งมื้อก็แล้วกัน ชาตินักรบเอ่ยริซ่ายิ้มอีกครั้งหนึ่งหลังพูดจบ
	ทั้งสองคนนั่งทานอาหารอยู่ครู่หนึ่งชาตินักรบก็เริ่มรู้สึกเหมือนกับมีใครกำลังจ้องมองและร่วมทานอาหารด้วย  เหมือนมีบุคคลที่สามนั่งขัดจังหวะและคอยแอบฟังในสิ่งที่ตัวเองพูดคุยอยู่ตลอดเวลาเขาจึงลุกขึ้นและเดินไปจับเก้าอี้ตัวที่ว่างอยู่ตะแคงข้างทันที
	ชาติจะทำอะไรคะ  อาริซ่าถามอย่างงง ๆ
	ผมรู้สึกเหมือนมีบุคคลที่สามที่เราไม่อยากจะให้ร่วมวงสนทนาด้วย
	คุณคิดมากไปหรือเปล่าคะกลับมาทานอาหารเถอะค่ะ
	ร่างของแคนดี้กระแทกลงไปกองกับพื้นทันที  หล่อนรู้สึกเจ็บจนพูดไม่ออก  ไหนจะโดนชาตินักรบเหยียบมือเข้าไปเต็ม ๆ อีก
	วันนี้ซวยอะไรนะเนี่ยกำลังนั่งอยู่เพลิน ๆ เลย  อุตส่าห์หยิบอาหารมาทานได้แล้วนะเนี่ย  อีตาบ้านี่ก็ระแวงอะไรนักหนานะ  จู่ ๆ ก็เทเก้าอี้ทิ้งทำให้เราต้องหล่นลงมากองกับพื้นเลยเจ็บนะอีตาบ้า  แคนดี้ตะโกนสุดเสียงแต่ไม่มีใครได้ยินเลย  มีเพียงชาตินักรบเท่านั้นที่หันมาและคล้ายกับว่ากำลังจ้องหาเสียงคนที่พูดคนนั้นอยู่



โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ...ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ติดตามผลงานมาโดยตลอดค่ะ				
18 เมษายน 2548 23:35 น.

ปาฏิหาริย์รักข้ามมิติ ตอน Connector ( ตอนที่ 2 )

สุชาดา โมรา

อาริซ่าเริ่มให้สมมติฐานเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ชายคนนั้นให้เขาฟังมากขึ้น เธอคิดว่าการที่เขาเดินเข้าไปทำท่าเหมือนสำรวจตรวจค้นอะไรบางอย่างจากผู้เคราะห์ร้ายในขณะที่เกิดเหตุนั้น เขาอาจจะกำลังหาจุดเชื่อมต่อระหว่างเขากับคนเจ็บคนนั้นเพื่อให้มีการถ่ายโอนความเจ็บปวดนั้น ในกรณีดังกล่าวการที่จะถ่ายโอนความเจ็บปวดจากจุดต่าง ๆ มาไว้ที่เขาเพียงจุดเดียวได้นั้น หมายความว่าเขาจะต้องมีความสามารถในการเหนี่ยวนำหรือดูดความรู้สึกเข้ามาเก็บไว้ในตัวเขาด้วย และจากพฤติกรรมช่วงหลังที่สวนสาธารณะนั้นสะท้อนให้เห็นว่าตัวเขาเองก็มีศักยภาพที่จำกัดในการรองรับความเจ็บปวดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เขาจึงจำเป็นต้องสะท้อนหรือคายความเจ็บปวดนั้นออกมาสู่สิ่งแวดล้อมภายนอก ซึ่งสิ่งที่เขาเลือกก็คือต้นไม้ในสวนสาธารณะ และท้ายที่สุดเมื่อต้นไม้รองรับความเจ็บปวดนั้นไม่ไหว ต้นไม้จึงสะท้อนความรู้สึกนั้นออกมาให้กับอากาศโดยรอบ 
สิ่งมีชีวิตทุกชนิด จะพยายามรักษาสมดุลให้กับตัวเองเสมอ อาริซ่าบอกกับเขาในตอนท้าย
ชาตินักรบนิ่งไป แม้จะได้รายละเอียดและความเป็นไปได้เกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นมากขึ้น แต่เขาก็ยังจนความคิดอยู่ว่า สุดท้ายแล้วเขาจะเริ่มเสาะหาผู้ชายคนนั้นจากที่ไหนก่อน 
อาริซ่าสังเกตอาการนี้ได้ ในระหว่างที่ทานอาหาร เธอจึงเริ่มเป็นฝ่ายเอ่ยถามเขาก่อนบ้าง
ชาติ  มีคำถามอะไรอยู่ในใจอีกเหรอ ดูเหมือนชาติยังกังวลอะไรบางอย่างอยู่นะ
สุดท้ายแล้วเราก็ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มหาผู้ชายคนนั้นจากที่ไหนก่อนอยู่ดี 
อาริซ่ายิ้ม เมื่อรับรู้ถึงข้อกังวลของเขา
ริซ่าไม่รู้ว่า จริง ๆ แล้วชาติจำเป็นต้องค้นหาผู้ชายคนนั้นให้เจอหรือเปล่านะ  แต่ถ้าชาติอยากจะหาผู้ชายคนนั้นให้เจอจริง ๆ ชาติลองไปเริ่มที่นี่ดูก็แล้วกัน เธอพูดพร้อมหยิบกระดาษขนาดเท่านามบัตรส่งมาให้เขา  เมื่อรับมาแล้วจึงรู้ว่าสิ่งที่อาริซ่าส่งให้เป็นนามบัตรจริง ๆ ในนั้นมีข้อความระบุว่า
ร.ต.อ.สิทธิกร  ต้นเกด ( ผู้อำนวยการ )
สมาคมส่งเสริมศักยภาพจิตเพื่อชีวิตเป็นสุข
แขวง ลาดกระบัง เขต ลาดกระบัง 
กรุงเทพมหานคร
โทร.02-XXX-XXXX มือถือ 09-XXX-XXXX
	เขาเป็นตำรวจนี่  แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ล่ะ  ไม่เห็นจะเข้าท่าเลย				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุชาดา โมรา
Lovings  สุชาดา โมรา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุชาดา โมรา
Lovings  สุชาดา โมรา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุชาดา โมรา
Lovings  สุชาดา โมรา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสุชาดา โมรา