23 เมษายน 2553 11:12 น.

แด่เธอ.....เจ้าทอฝัน

สุรศรี

จากเด็กหญิงบ้านนาในป่าร้าง
จากดอกไม้ข้างทางตามสร้างฝัน
จากบ้านโน้นมาเมืองนี้ผ่านปีวัน
เธอวาดมันในใจไม่เคยเว้น
          จากทุ่งนามาสู่เมืองที่เรืองรุ่ง
ด้วยใจมุ่งวาดฝันอันงามเด่น
ฉันต้องมีฉันต้องได้ฉันต้องเป็น
ไม่ไหวเอนแม้ลมแรงแสงแดดร้อน
          ถึงยากไร้เงินทองของมีค่า
แต่ใช่ว่าจะสิ้นแรงแม้โรยอ่อน
ยังมีดินให้ปั้นดวงดารากร
มิอาทรมีเวิ้งฟ้าให้วาดรุ้ง
         ถึงจะไร้วิชาศึกษาน้อย
แต่ก็ค่อยเรียนไปด้วยใจมุ่ง
ต้องสำเร็จให้ได้หมายผดุง
คอยจรุงรักษาเป็นยาใจ
          เธอวาดฝันเขียนฝันด้วยชอล์กขาว
เป็นเรื่องราวความฝันอันสวยใส
ปั้นก้อนดินเป็นดวงดาวพราววิไล
ให้ยิ่งใหญ่ดังฝันห่อนเว้นวาย
         ร้อยดาราเป็นมาลัยคล้องใจเจ้า
ร้อยกวียามเหงาเคล้าเดือนฉาย
ร้อยสายรุ้งทอรักถักประกาย
ด้วยใจหมายเป็นของขวัญ.....กำนัลเธอ...ฯ
.....................................
  ขอเป็นกำลังใจ ทุกแรงใจให้กับคนที่ใฝ่ฝันจะเป็นแม่พิมพ์ของชาติครับ				
23 เมษายน 2553 10:35 น.

อีเมล์ถึงนางฟ้า ... คำสัญญาหลังสงกรานต์

สุรศรี

รถผ้าป่าแล่นเข้า.............จอดเซาอยู่เดิ่นวัด
อ้ายฟ้าวลงจากเฮือน...............โดดคันไดไปหาน้อง
ภาพอ้ายเห็นนางฟ้า.................ยางลงมาจากรถใหญ่
ดีใจหลายเห็นหน้าเจ้า.............อ้ายเลยเข้าแล่นไปหา
ซาใจอยากไปกอด...................หอมแก้มนางเบิ่งจักเทื่อ
แต่กะอายเฮ็ดบ่ได้...................ย่านไทบ้านเพิ่นสิหยัน
น้องจกเอาของฝาก.................เสื้อสีลายออกให้พี่
ดีใจหลายแท้แท้.....................นางฟ้าเจ้าห่วงหลาย
อ้ายบ่มีหยังให้........................ตอบแทนดอกเนื้ออุ่น
แก้มจู่นพู่นอย่าเคียด...............นางฟ้าอย่าว่าหยัง
อ้ายเอาใจต่อตั้ง.......................คิดนำอยู่หน่ำหน่ำ
ตั้งแต่ปีใหม่พุ้น......................คอยให้เจ้าต่าวมา
ได้เงินหลายอยู่บ่หล่า.............เหลือฮอดเฮือนหลายอยู่บ่
ให้พ่อให้แม่ไว้......................ยามใซ้เทื่อจำเป็น
เฮ็ดงานหนักอยู่บ่น้อง...........เฮ็ดโอนำเขาอยู่ไป่
อ้ายเป็นห่วงเจ้าแท้แท้..........ย้านเจ็บไข้บ่อยู่ดี
บ่อยากให้ไปดอก..................เมืองกรุงหลอกแต่หมู่
เฮาเฮ็ดกินอยู่บ้าน................ไผบ่ค้านบ่อึดกิน
อ้ายเป็นห่วงพ่แม่น้อง.............ยามเจ้าไกลไผสิเบิ่ง
เฒ่าแก่หลายกะด้อ.................เฮียงข้างกะบ่มี
อ้ายว่าเอาจั่งซี้.......................ปีสิมาให้เนื้ออุ่น
กลับคืนมาอยู่บ้าน.................เฮ็ดนาให้พ่อแม่เฮา
อ้ายสิไปขอเจ้า......................เอาเงินคำไปขอแต่ง
เงินใบแดงอ้ายนี่พร้อม.........ยอมเอาเจ้าเข้าฮ่วมเฮียง
จ้างเครื่องเสียงหมอลำซิ่ง.......เอามางันให้มันม่วน
จัดขบวนแห่ฟ้อน..................อวยพรให้ได้สู่ขวัญ
ของหวานคาวบ่ให้ขาด..........ลาบงัวเทิงคั่วไก่
ก้อยขมขมต้มแซบแซบ.........คันนางหล่าบ่ว่าหยัง
อ้ายสิคอยอยู่ยั้ง....................ตอบเมล์มาฟ้าวฟ้าวแหน่
อย่าหัวใจอ้าย......................คอยท่าแต่พะนาง.....น้องเอย.........

อธิบายศัพท์
เดิ่นวัด........ลานวัด
หัวคันได....กระได   บันได
ซาใจ..........ถ้าเป็นดั่งใจคิด  ใจต้องการ
แก้มจู่นพู่น.....แก้มใส ๆ ขาว ๆ
เคียด.....ขุ่นเคือง โกรธ
พุ้น.....โพ้น  โน้น
ต่าวมา...กลับมา
เทื่อ.......บางที
เฮ็ด.......ทำ  ทำงาน
โอ.......ทำงานโอเวอร์ไทม์  งานนอกเวลา
เฮียง.....เคียงข้าง
ฮ่วมเฮียง......ขอเป็นคู่เคียง
งัน..........คบงัน  ฉลอง
ม่วน......สนุกสนาน
คั่วไก่.....แกงคั่วไก่
เทิง.........ทั้ง 
พ้อม......พร้อมทั้ง...
กะด้อ....มาก   เกินไป
บ่ว่าหยัง....ไม่ว่าอะไร
นางหล่า  น้องหล่า  เนื้ออุ่น.....คำเรียกผู้หญิงที่เป็นที่รัก
....................
สงกรานต์บ้านเรายังเป็นมนต์เสน่ห์ของทุกคนครับ   อยากสืบสานให้เป็นตำนานแห่งท้องทุ่ง ที่เป็นกลิ่นอายของความเป็นคนไทยในชนบทครับ
               ด้วยรัก
                สุรศรี				
20 เมษายน 2553 08:34 น.

เมื่อพ่อลั่นกลองรบ

สุรศรี

พ่อฉันนั้นยังแกร่ง	ยังแข็งแรงและมีไฟ
ข่าวคราวในเมืองใหญ่	พ่อสนใจและติดตาม
เขาบอกมีการรบ	พ่ออยากพบไม่เกรงขาม
ประเทศมีสงคราม	ลูกอย่าห้ามพ่อจะไป
สงครามในเมืองหลวง	มันหนักหน่วงกว่าศึกไหน
ผุ้คนจากบ้านไกล	เข้าเมืองใหญ่ไปประท้วง
พ่อจ๋าจงอย่าไป	ลูกห่วงใยแม่เป็นห่วง
อันตรายในเมืองหลวง	ภัยทั้งปวงมันมากมี
ลูกเอ๋ยจงอย่าห้าม	แม่อย่าปรามเลยครั้งนี้
พ่อไปปราบไพรี	จงอยู่ดีอย่าห่วงใย
สังคมมีชนชั้น		เอาเปรียบกันอยู่ร่ำไป
ยุติธรรมอยู่ที่ไหน	ประชาธิปไตยจะต้องมี
สังคมมีเอาเปรียบ	ถูกย่ำเหยียบถูกขยี้
อ่อนแอถูกย่ำยี	ถูกกดขี่ถูกบีทา
สังคมต้องแยกแตก	ถูกแบ่งแยกเพราะปัญหา
เบื้องหลังใครบัญชา	ใครชักนำใครบงการ
แม่หยิบกระติบข้าว	กล่องสีขาวที่พ่อสาน
น้ำพริกปลาทอดจาน	เอาไว้ทานระหว่างทาง
หยิบสร้อยมาห้อยคอ	เชิญหลวงพ่อประทับวาง
ตะกรุดเป็นเครื่องราง	ให้แคล้วคลาดปราศโพยภัย
หยิบบัตรประชาชน	ไว้ติดตนต้องนำไป
โทรศัพท์ที่ต้องใช้	จดเบอร์ไว้โทรหากัน
ไม่มีมีดดาบดอก	ไม่มีหอกไปโรมรัน
พร้าขวานจะฟาดฟัน	โล่เขนดั้งนั้นไม่มี
ไร้ม้าช้างกรำศึก	ที่โลดคึกฝึกมาดี
สมรภูมิเข้าราวี	ในครั้งนี้ต้องเปลี่ยนไป
ลมทุ่งฝากแม่ด้วย	ชีพไม่ม้วยจะนำชัย
ลมฝนฝากทรายวัย	ลูกของข้าเจ้าจงคอย
ฝากดินดูแลด้วย	ทั้งสวนกล้วยแลไร่อ้อย
ฝากฟ้าเมตตาหน่อย	ช่วยโปรยฝนพรมไร่มัน
พลรบจะไปศึก	 ต่างคักคึกพร้อมประจัน
เสียงแตรดังสนั่น	ลั่นกลองรบจะยกทัพ.....
...........................................................................................
....ดอกเอ๋ยดอกราตรี	ค่ำนี้ทีวีออกข่าว
รัฐบาลมีหลายเรื่องราว	เรื่องเศร้าเรื่องร้าวโปรดฟัง
เนื่องจากมีการชุมนุม	ของกลุ่มเสื้อแดงแข็งขัง
ก่อความเดือดร้อนเสียงดัง	บ้านเมืองต้องพังวุ่นวาย
กองทัพจำเป็นต้องรุก	ต้องบุกให้แยกแตกสลาย
เมื่อมีบาดเจ็บล้มตาย	เลวร้ายแต่ก็จำเป็น
มีมือที่สามแอบแฝง	ปะปนเสื้อแดงดั่งเห็น
ซุ่มยิงทำร้ายซ่อนเร้น	นี่คือประเด็นความจริง
รัฐบาลมีความเสียใจ	ต้องขออภัยทุกสิ่ง
ขอเสียสละไม่ทิ้ง	ไม่นิ่งทำงานต่อไป
.............................................................................................
....ลมเอยเจ้าลมร้อน	ละลิ่วปลิวว่อนไฉน
หรือนำข่าวคราวเมืองไกล	บอกว่าพ่อไม่กลับมา
หรือสงครามยังไม่จบ	พันธกิจนักรบแกร่งกล้า
เมื่อไม่มีชัยคืนนา	ตัวข้าจะไม่หวนคืน.......				
18 เมษายน 2553 10:13 น.

เพียงคำเดียว.....

สุรศรี

เพียงคำเดียว
        ....... เมื่อทำการสิ่งใดลงไปแล้ว
       ย่อมไม่แคล้วส่งผลที่ตนก่อ
       จะดีร้ายอย่างไรในต้นตอ
       เหตุย่อมส่งผลต่อที่ก่อนั้น
      ...... เมื่อทำการสิ่งใดแล้วได้ผล
      ที่ผู้คนได้คุณประโยชน์นั่น
      ความดีย่อมส่งผลต่อตนพลัน
      เขาพากันสรรเสริญเจริญคุณ
       ....... เมื่อทำการสิ่งใดแล้วไร้ผล
      เสียงผู้คนวอนหยุดไม่อุดหนุน
      ความชั่วย่อมปรากฏหมดใบบุญ
      ว่าโง่เง่าเต่าตุ่นเขาด่าทอ
      .......จะทำการสิ่งใดทำไปเถิด
      ขอเพียงเกิดผลดีที่ตนก่อ
      ถ้าเกิดผลเสียหายร้ายแรงพอ
      เพียงแต่ขอหยุดทำกรรมไม่ดี
      ....... เพียงเอ่ยคำคำหนึ่งซึ่งปรากฏ
      ได้ประโยชน์มากมายหลายวิถี
       ผมขอโทษ ที่ทำไปไร้ปรานี
        เผื่อบางทีเขาอาจให้อภัยคุณ....				
12 เมษายน 2553 18:39 น.

สงกรานต์บ้านเฮา

สุรศรี

สงกรานต์บ้านเฮา
ฮอดสงกรานต์ยามเดือนห้า........เถิงเวลาเล่นสาดน้ำ
ซุมหมู่เจ้าพี่น้อง.........................โฮฮ้องม่วนแซว
ลูกหลานมาเยี่ยมบ้าน.................ไปทำงานอยู่บางกอก
เก็บกำเอาเงินคำ..........................สิ่งของมาต้อน
ผ้าป่าพ้อม...................................เงินทองมาสร้างวัด
คนละเล็กละน้อย........................พอได้ตื่มกัน
สู่ขวัญซุมผู้เฒ่า...........................ฝ้ายผูกแขนพ้อมไข่หน่วย
ต้มไก่น้อย..................................เทิงซั่วตื่มนำ
ยามกลางคืนลงเล่น....................ฟ้อนรำวงเล่นลัดด่าน
พากันเล่นลักลี้...........................มอญซ่อนผ้าม่วนหลาย
หดน้ำตายายเฒ่า........................ขอขมาอย่าให้บาป
ให้อยู่สุขลื่นล้น.........................ยาวหมั่นหมื่นปี
พากันเด็ดดอกไม้......................ไหว้พระยามมื้อแลง
พากันตบพระทราย...................ใต้ห่มโพธิ์จั่งดีล้น
ซ่อยกันรักษาไว้.........................ประเพณีไทยให้คงอยู่
ซ่อยกันสานสืบสร้าง.................แปลงบ้านให้ฮุ่งเฮือง....พี่น้องเอย
.
ซุม.......หมู่  พวก
ต้อน......ของฝาก
พ้อม.......ด้วย  พร้อม
ตื่ม.........แถม   ด้วย
ซั่ว........อาหารชนิดหนึ่ง นำเนื้อไก่ที่ต้มสุก ฉีกเอาเนื้อมาปรุงด้วยข้าวคั่ว หอม พริกป่น   คั่ว   น้ำปลา
ลัดด่าน.....การเล่นชนิดหนึ่ง  คล้ายตีจับของภาคกลาง
ลักลี้......การเล่นซ่อนหา
หดน้ำ....รดน้ำ
แปลงบ้านให้ฮุ่งเฮือง....สร้างบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรือง
...............
ขอพี่น้องมีความสุขในวันสงกรานต์ปีใหม่ไทยครับ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุรศรี
Lovings  สุรศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุรศรี
Lovings  สุรศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุรศรี
Lovings  สุรศรี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสุรศรี