26 พฤศจิกายน 2555 09:00 น.

ลมหนาว..ลานดอยเสมอดาว

อินสวน

   กลางห้วงหาวดาวดวงร่วงจากฟ้า
บนยอดหญ้าน้ำค้างพร่างพรายฝัน
หลับหรือตื่นคืนพ้อรอตะวัน
ยังยืนยันบากบั่นไม่ปันใจ

	   ลมภูเขาจู่โจมโถมทายทัก
แม้หน่วงหนักทนต่อพอหลับใหล
รัตติกาลร้าวรานคงผ่านไป
อาจหลงเหลือพิษไข้ผ่าวในทรวง

	   สิ้นแสงดาวราวฟ้าบูรพา
เป็นสัญญาไถ่ถามความเป็นห่วง
เพียงพร่างพรายเคลื่อนคล้ายสายลมลวง
มีคนทวงหนี้ค้างที่ร้างเลือน

	   อุษาสางกลางไพรที่ดายเดียว
หมดเวลาท่องเทียวคนไร้เพื่อน
เขาไม่เคยฝากคำมาย้ำเตือน
จึงดูเหมือนไร้ค่าประสาจน
				
30 กันยายน 2555 15:08 น.

เที่ยวเกาะนางยวน

อินสวน

   อยู่อยู่ก็จู่โจมเข้าจับใจ
		กรูเกรียวใส่ทักทายจนไหวหวาม
		พร่างพรูคำจำจดแสนงดงาม
		ยากปล่อยข้ามผ่านเลยแล้วเฉยชา

		   เก็บความรู้สึกดีที่มากมาย
		แทนที่ความเดียวดายและโหยหา
		ความอ่อนโยนจริงใจในแววตา
		ปรารถนาเสมอมาและรอคอย

		   แม้ไม่อาจตีความนิยามรัก
		เพียงรู้จักเกินค่ากว่าท้อถอย
		ลมทะเลเห่รับประทับรอย
		คลี่คลายความเหงาหงอยลอยล่องไกล

		   อยู่อยู่ก็จู่โจมพรมจูบลา
		ไม่ทันเอ่ยวาจาวิงวอนไว้
		ลมบกโบกกรรโชกโบยหัวใจ
		โถทำไม...ใจร้ายจัง...ที่นางยวน
				
4 กันยายน 2555 09:38 น.

เหมือนเดิม

อินสวน

   มีเรื่องเล่ามากมายจากเพื่อนเก่า
ทั้งเรื่องเศร้าและสุขสนุกสนาน
ระหว่างการรอข่าวที่ยาวนาน
ความน้อยใจไหลผ่านกาลเวลา

	   มาเยี่ยมยามถามไถ่ห่วงใยอยู่
ได้ยินคำพร่างพรูคิดฮอดหา
ความปวดเจ็บเก็บกดตลอดมา
ระบายเป็นน้ำตาออกจากใจ

	   เป็นอย่างไรทางบ้านการค้าขาย
เรื่องการเรียนน้องชายไปถึงไหน
ยังอยากเรียนต่อโทที่เมืองไทย
หรือพากันเปลี่ยนใจไปเวียดนาม

	   กราบพระบางบูชาสารภาพ
ลูกทำบาปบิดเบือนเหมือนมองข้าม
ทางชีวีแต่นี้จะดีงาม
เพราะทุกยามมั่นคงองค์ปฏิมา

	   เช้าวันนี้สายหมอกทักหยอกเย้า
ร้านกาแฟครั้งเก่าเราหวนหา
ริมน้ำโขงถึงตอนย้อนเวลา
มองสบตาใจสั่นหวั่นหวิวทรวง

	   มีคำถามมากมายในครานี้
คงจะมีเพื่อนใหม่คนเมืองหลวงฯ
น้ำคานใสไหลลงแม่โขงลวง
ยังเป็นห่วงกลัวใครทำให้ตรม

				
29 สิงหาคม 2555 07:47 น.

เก็บไว้ในความจำ

อินสวน

   เช้าวันนี้ฝนมาซัดห่าใหญ่
หนาวหรือไม่ห่วงใยใจฝากถาม
อย่าหลับใหลละหลงลืมโมงยาม
ส่งใจข้ามฟากฝั่งคนนั่งคอย

      ฟ้าด้านโน้นมัวหม่นม่านฝนกั้น
แลไม่เห็นฝั่งฝันเงียบงันหงอย
ละอองไอวูบไหวใจล่องลอย
ฝนตกบ่อยหรือไรห่วงใยกัน

	   วันฟ้าฉ่ำฝนพรำใจฉ่ำชื่น
เคยเริงรื่นเคียงคู่ดูสุขสันต์
เหตุไฉนใจดำลืมจำนรรจ์
ความผูกพันหายห่างเป็นร้างรา

	   ทอดแววเหงาสายตากรำห่าฝน
ความคิดถึงท่วมท้นอยากไปหา
กล้ำกลืนเก็บในกล่องของเวลา
เป็นความจำล้ำค่ากว่าการเจอ
				
24 กรกฎาคม 2555 07:02 น.

สามหนุ่มเนื้อทองปั่นท่องสปป.ลาว(3)

อินสวน

	หลังหลับใหลเมืองหลวงลุล่วงเช้า
กระปรี้กระเปร่ารีบเร่งเกรงจะสาย
ร้านประซานิยมคนมากมาย
ทั้งหญิงชายจิบกาแฟแลชื่นตา

	เจ้าของร้านบริการด้วยรอยยิ้ม
เชิญชวนชิมอิ่มกันสุขหรรษา
ร่วมแลกเปลี่ยนข่าวสารสนทนา
เป็นสภาไทยลาวมายาวนาน

	ไถ่ถามทางไปยังตาดกวางสี
แล้วรีบรุดจรลีผ่านถิ่นฐาน
เอิ้นทักทายรายทางช่างเบิกบาน
มีเด็กเด็กยิ้มหวานสบายดี

	ผ่านท้องทุ่งคุ้งน้ำแสนฉ่ำชื่น
สองข้างทางร่มรื่นทั่วพื้นที่
ตะวันสาดแสงทอเพียงพอดี
ถึงน้ำตกตาดกวางสีที่หมายปอง

	น้ำเย็นใสละอองไอชื่นใจเสือ
ไม่น่าเชื่องามเหลือเมื่อแสงส่อง
กระทบทาบฉาบฉายประกายทอง
ใครเห็นต้องมนตรึงดูดดึงใจ

	เสือเปลื้องผ้าวางกองล่องลอยว่าย
มีฝรั่งหญิงชายผุดดำไล่
ทั้งกอดรัดกัดจูบวูบวาบไว
เสือหวั่นไหวเบือนหน้าเริ่มตาลาย

	ปีนป่ายโหนกระโจนจมดิ่งลึก
จนรู้สึกหนาวสั่นตะวันสาย
ผิงแดดอุ่นอาบไล้ทั้งใจกาย
โบกมือบายบ่ายหน้ามุ่งหาเมือง

	วัดเชียงทองงามล้ำเกินคำกล่าว
บอกเรื่องราวอดีตกาลอันฟูเฟื่อง
มรดกวัฒนธรรมงามรุ่งเรือง
ศักดิ์ศรีเมืองพระบางดังเลื่องลือ

	กราบพระธาตุพูสีที่ศักดิ์สิทธิ์
สงบจิตอธิษฐานบันดาลสื่อ
สารจากใจแจ้งไปว่าใครคือ
คนไม่ซื่อลืมค่าสัญญาใจ
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอินสวน
Lovings  อินสวน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอินสวน
Lovings  อินสวน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอินสวน
Lovings  อินสวน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอินสวน