ความจนวัดใจ

ป พิชามญชุ์

ขอบคุณความจน ที่ช่วยคัดคนจริงใจ
อ้ายคนเดียวบ่ทิ้งไป ยามที่ใจน้องพ่ายชะตา
เมื่อตอนได้ดี น้องเคยมีหลายคนเกี้ยวพา
แต่พอความจนเข้ามา โทรหาก็บ่รับสาย
 
หมอกดำคลุมใจ พึ่งใครบ่ได้จริงๆ
ญาติบ่ยอมให้พักพิง เพื่อนทิ้งน้องสิ้นทางไป
อยู่ในห้องเช่า รอวันเขาตัดน้ำตัดไฟ
 โชคดีที่ยังมีอ้าย มาช่วยไว้ทันเวลา
    
 ถึงยามขาดแคลน ชีวิตแขวนบนเส้นด้าย
ฟางเส้นสุดท้าย คืออ้ายที่ยื่นมือมา
 ทุกนาทีเจ็บ อ้ายร่วมจมบ่เคยร้างรา
 อยู่ใกล้ให้คำปรึกษา นำพายามน้องสับสน
 ขอบคุณความจน ที่ช่วยคัดคนจริงใจ
หนึ่งเดียวก็คืออ้าย บ่มีใครทำใจวกวน
  ข้อสอบวัดใจ คู่ชีวิตก็คือความจน
  วันนี้น้องประกาศผล คนสอบได้คืออ้ายคนเดียว
             ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่เวลาฟังเพลง แล้วชอบนำตัวเองเข้าไปแทนที่ตัวละครในบทเพลงนั้นๆ ครั้งแรกที่ได้ฟังเพลง ความจนวัดใจ ของคุณศิริพร อำไพพงศ์  ดิฉันก็รู้สึกว่าเนื้อหาในเพลงช่างใกล้เคียงกับชีวิตของตัวเองเหลือเกิน รวมทั้งน้ำเสียงของคุณศิริพร ที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างซาบซึ้งกินใจ ก็ทำให้ดิฉันน้ำตาซึมได้อย่างไม่ยากเย็น ดิฉันเห็นด้วยอย่างยิ่งกับเนื้อหาในบทเพลงนี้โดยเฉพาะประโยคเริ่มต้นที่ว่า ขอบคุณความจน ที่ช่วยคัดคนจริงใจ  
            ใครไม่เคยประสบก็คงไม่รู้ แต่สำหรับดิฉัน ความจนเปรียบเหมือนมาตรวัดความจริงใจ ความรัก ความเห็นอกเห็นใจได้ดีที่สุด ดังที่เราได้ยินอยู่เสมอว่า เราจะรู้ว่าใครเป็นเพื่อนแท้ก็แต่ในยามที่เราตกต่ำ ไร้เงินทองนี่แหละ ในยามปกติที่มีเงินและอำนาจวาสนา ก็จะมีแต่ผู้คนมาแสดงตัวเป็นมิตรสนิทสนมกับเรานับไม่ถ้วน พอตกต่ำขึ้นมามิตรที่เคยมีมากก็จะค่อยๆหายไปหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น แต่คนในไม่กี่คนนี่แหละให้เราสำเหนียกไว้เลยว่า เขาเป็นมิตรแท้ของเรา  ดิฉันเองก็เป็นคนจนและเคยประสบปัญหาเหมือนดังบทเพลงนี้มาก่อน แต่ต่างตรงที่คนที่ยื่นมือมาช่วยเหลือไม่ใช่ อ้าย อย่างในบทเพลงก็เท่านั้น
             
             ดิฉันต้องขอชื่นชมกลวิธีการวางเพลงและการใช้ภาษาของครูสลา คุณวุฒิเป็นอย่างยิ่ง อย่างเช่นในบทเพลงนี้ครูสลาถ่ายทอดบทเพลงออกมาเป็นถ้อยคำไพเราะ เหมาะกับเนื้อหาเพลง เป็นคำที่ฟังง่ายๆ กระชับแต่ความหมายลึกซึ้ง เข้าถึงใจคนฟัง เช่นท่อนหนึ่งที่กล่าว หมอกดำคลุมใจ พึ่งใครบ่ได้จริงๆ ท่อนนี้แสดงให้เห็นความทุกข์ใจ อึดอัดใจ เสมือนหมอกดำที่มาครอบคลุมหัวใจเรา ซึ่งก็ทำให้ผู้ฟังรู้สึกคล้อยตาม และรู้สึกอึดอัดมากตามไปด้วย ก็จะไม่ให้อึดอัดได้อย่างไรเล่า ถ้าคิดถึงความเป็นจริง แค่เราอยู่ท่ามกลางฝุ่นหรือควันดำมากๆเราก็รู้สึกอึดอัดจนรู้สึกไม่สบายมากพอแล้วแต่นี่หมอกดำถึงขั้นมาคลุมในใจเราจะรู้สึกอึดอัดขนาดไหนกัน
            
              ในส่วนของกลวิธีการวางเพลงจะเห็นว่าครูสลา ขึ้นต้นประโยคแรกด้วยประโยคที่น่าสนใจ ทำให้ผู้ฟังอยากติดตามเรื่องราวต่อไปว่าจะดำเนินอย่างไร และเมื่อเข้าสู่เนื้อหาของเพลงครูสลา ก็ใช้วิธีการเล่าเรื่องทำให้ผู้ฟังเห็นภาพชัดเจน มีการดำเนินเรื่องคล้ายกับละครเรื่องหนึ่ง ที่เรื่องราวดำเนินไปจนถึงจุดสูงสุดของเรื่องแล้วดำเนินลงมาจนกระทั่งจบเรื่อง อย่างเช่นในเพลงนี้ก็เหมือนว่าหญิงสาวคนหนึ่งกำลังเล่าชีวิตของเธอให้เราฟัง และเราก็ฟังเรื่องราวของเธอไปกระทั่งถึงจุดสูงสุดของเรื่องคือ เธอได้พบกับอ้าย ที่คอยเป็นกำลังใจ คอยแนะนำช่วยเหลืออยู่เสมอ จนทำให้เธอสามารถยืนหยัดผ่านพ้นวิกฤติของชีวิต หลังจากนั้นเรื่องก็ดำเนินในแนวดิ่งลงมาเรื่อยๆจนกระทั่งท้ายสุดก็จบเรื่องราวแบบสุขนาฏกรรมคือ เธอให้รางวัลอ้ายโดยการตกลงคบหากัน
             
                ในฐานะที่ดิฉันเป็นผู้ฟังคนหนึ่ง ฉันสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า เพลงความจนวัดใจ เป็นเพลงที่นอกจากจะมีความไพเราะตามคุณค่าวรรณศิลป์แล้ว ก็ยังมีเนื้อหาที่สะท้อนความเป็นจริงของชีวิต และให้ข้อคิดที่ดีอย่างยิ่ง โดยเฉพาะข้อคิดในเรื่อง ข้อดีของความจน เพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้ดิฉันและคนหาเช้ากินค่ำอีกหลายๆคน มองความจนในแง่บวกมากยิ่งขึ้น				
comments powered by Disqus
  • ฉางน้อย

    20 กันยายน 2552 00:48 น. - comment id 108021

    11.gif36.gif6.gif
  • นิรนาม

    28 กันยายน 2552 19:30 น. - comment id 108542

    จริงของหญิงปรอย สู้สู้

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน