ศิษย์โง่

สะพั่งสะท้านไมภพ

วันหนึ่ง ผมมองเห็นคนที่เห็นแต่รูปลักษณ์ภายนอกเป็นที่ประจักษ์ว่า มากกว่าสี่สลึง
หลายๆคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
ผมนึกย้อนไปในอดีต
แต่ทว่าที่พบล้วนแต่ว่าไม่ธรรมดา
เรื่องราวของคนบ้าที่ผมพบมีหลากหลาย
แต่ทว่าวันหนึ่งในการร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกลางวันกับเพื่อนๆ
ผมนั่งฟังเขาอย่างเดียวจนกระทั่งปากอ้าตาค้าง
และในบทท้ายๆของการสนธนา ผมบอกกับเพื่อนผมว่า
ผมได้ยินพวกเขาพูดกันแล้วทำให้ผมสบายใจ
เพราะสิ่งที่พวกเพื่อนผมพูดกันทำให้ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมทำลงไปชั่วน้อยกว่าเพื่อนหลายสิบเท่า
เสียงเฮของเพื่อนๆก็ทำให้ยิ้มแย้มได้
ผมมันเป็นคนแบบนี้เอง
ขณะที่เพื่อนสนิทของผมคนหนึ่งกำลังน้ำลายแตกฟองโม้ในเรื่องหนึ่ง
ผมจะค่อยๆยกมือขึ้น
และเมื่อเขาหยุดแล้ว ผมก็จะพูดด้วยน้ำเสียงเนือยๆนุ่มๆว่า ผมไม่เชื่อ
แล้วก็หันตูดให้เพื่อนผม หลายคนก็ง้างท่อนขาของเขาด้วยความหมั่นขา
ผมยิ้มแย้มอีก
อายุก็ไปราวจะห้าสิบกันแล้ว
แต่ก็ไม่วายหยอกล้อเหมือนเด็กๆ
มาวันหนึ่งผมก็พบกับพี่คนหนึ่ง
แกก็พล่ามคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ บางเรื่องถึงสามเที่ยว
ผมไม่ได้เชื่อใครง่ายๆ
แต่ทว่าเมื่อถึงเวทีสัมมนาโต๊ะกลม
รีค๊อกไน้ ทำให้ผมได้พูดสิ่งที่ผมได้ยินมาเพียงมีปริมาณแค่หนึ่งในสิบให้คนในโตีะกลมนั้นฟัง
คนในโต๊ะแต่ล้วนค๊ากเต้อ
จากผู้ร่วมได้กลับกลายเป็นวิทยากรในค่ำคืนเดียว
และเมื่อวันสัมมนาในวันรุ่งขึ้นมาถึง
เจ้าภาพก็พยายามพูดจายั่วยุให้ผมได้พูดแสดงวิสัยทัศน์
ผมก็ใจเย็น
ผมอยากจะให้โอกาสเขาที่เกี่ยวข้องต่างๆได้พูดกันก่อน
และในที่สุดเมื่อจะหมดเวลา
ผมได้ยกมือและขอพูด
ทุกคนมองมาที่ผมเป็นตาเดียว
ก่อนเข้าร่วมสัมมนาโต๊ะกลมเมื่อวานนั้น
ผมมองสารรูปตัวเองแล้วผมเผ้ายาวสับสน
แต่พอเข้าไปตัดผมแล้ว
หน้าตาพอใช้ได้ดีแล้ว
จึงมีความมั่นใจ
ก่อนพูดผมนึกถึงคุณครูบาอาจารย์ที่ได้ประสิทธิ์ประสาทวิทยาให้หลายเที่ยวนั้น
และก็พูดออกไป
ไม่ต้องคิด
ราบรื่น
นุ่มนวลด้วยน้ำเสียง
ใช้เวลาสี่ห้านาที
และเป็นคนสุดท้ายที่พูด
ผู้จัดหันกลับมาติดต่อกับผมเพื่อขอใช้บริการอีก
ผมกลับแย้มยิ้ม
และตอบเขาว่า
สำหรับผมแล้ว ผมเป็นเพียงแค่  ชนชั้นหางแถวเท่านั้น
วันนั้น หลายๆคนที่ออกมาแล้วรี่เข้ามาทำความรู้จักกับผม
ผมแย้มยิ้มให้
หัวใจของผมแย้มยิ้มให้
ด้วยหัวใจที่มีความตั้งใจจริงไม่ปั้นแต่งหลอกลวงแม้แต่ตนเอง
ผมทำงานด้วยหัวใจที่ต้องการทำงานให้เกิดประโยชน์
และมีแต่หัวใจเท่านั้นที่จะเข้าใจหัวใจแบบเดียวกัน
ผมแย้มยิ้ม
แต่ผมไม่ได้หวังอะไรมากไปกว่า
สิ่งที่พูดไปใส่ไปด้วยหัวใจ
ย่อมจะทำให้คนได้ฉุกใจคิดได้บ้างไม่มากก็น้อย
คนฟังเป็นร้อยแต่รับได้เพียงหนึ่งหรือสองคน ก็สุขใจแล้ว
ผมกลับมาเรียนอาจารย์ของผมได้ทราบ
อาจารย์ผมยิ้มแย้ม
ผมก็ยิ้มแย้ม
ปล.เรื่องนี้ไม่ได้เสกสรรค์ปั้นแต่งเพื่อโปรโมทตนเองแต่ประการใด ด้วยหวังว่าเหล่าบุคคลที่ทำงานเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ที่เริ่มจะเสียกำลังใจ ได้หันกลับมา มีกำลังแรงใจทำงานกันต่อไป มันคงไม่มีใครเอาไปออกทีวีว่าหน้าตาอย่างงี้มีจิตสาธารณะ แต่ทว่าเมื่อเจอกันบ่อยๆครั้งขึ้น ก็จะรู้ว่ามันแยกแยะออกได้เอง มิใช่เพียงแค่ตาจมูกหู แต่รับรู้ได้ทางใจ				
comments powered by Disqus
  • ตั ว้ เ ล็ ก

    1 กุมภาพันธ์ 2553 12:08 น. - comment id 114050

    คุณคะ  เหมือนเราจะเคยเจอกันมาก่อนเลยนะ
    ที่สำนักพิมพ์ thaipocketbookcafe
    
    คุณเขียนเรื่องสั่นไว้ใช่หรือเปล่าคะ
  • สะพั่ง

    2 กุมภาพันธ์ 2553 10:23 น. - comment id 114096

    39.gifจำไม่ได้ครับ แต่ยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติที่ระลึกได้ ขอให้มีความสุขสดชื่นครับ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน