จุดประกายแห่งความฝันเมื่อฉันมีเธอ ตอนที่ 4(เป็นคุณคุณจะตัดสินใจอย่างเธอไหม วิจารณ์ได้นะ)

เก่งกาจ

ตอนที่ 4
		หลังจากทั้งคู่คุยกันพักหนึ่งก็แยกย้ายกันกลับ ทั้งสามกล่าวลาแล้วแยกไปอีกทาง โดยจินเซไปส่งชิเน่
เยียร์ร่าห์ยังไม่อยากกลับบ้านเธอจึงไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะที่ครั้งหนึ่งเธอไปเดินปล่อยอารมณ์วันที่เธอตัดสินใจสละสิทธิ์เต้นรำในวันนั้น
	แล้วเธอก็ทำไม่ได้อยู่ดี ทำไม่ได้ที่จะไม่ยอมเสียสละความสุขของตนเองเพื่อชิเน่ จะทำลงได้อย่างไรก็ชิเน่เป็นเพื่อนที่เธอรักที่สุด
	
		เธอนั่งอยู่ที่สวนสาธารณะจนค่ำ แต่ไม่คิดจะลุกไปไหน เธอรู้อยากอยู่คนเดียวเงียบ ๆ แต่ถาหากเขาอยู่กับเธอในตอนนี้ก็คงจะดี
	หลับตาสิ ถ้าลืมตาเธอก็คงเห็นเขา แต่เขาไปกับชิเน่นี่ พรวิเศษใด ๆก็คงไม่ส่งเขามาให้เธอในยามนี้ ยามที่เธอหดหู่ในการตัดสินใจของเธออีกครั้ง 
	นี่เธอเป็นเพื่อนที่ดีจริงหรือเปล่า ทำไมตัดสินใจทำเพื่อความสุขของเพื่อน ควรจะยินดี แต่ทำไมถึงมานั่งเศร้าที่นี่
		เธอหลับตาลงอย่างอยากลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเย็นรวมทั้งเรื่องวันนั้น วันที่เธอสละสิทธิ์
		ถ้าฉันลืมตาฉันจะเจอเขาไหมน้า ในใจบัดนี้เต็มไปด้วยใบหน้าของชายหนุ่มผู้นั้น ฝนเริ่มจะโปรยลงมาแต่เยียร์ร่าห์ยังไม่อยากลืมตา 
	เพราะกลัวที่จะลืมมาแล้วไม่เจอใคร มันคงรู้สึกแย่ 
		สักครู่ได้ไหมรอให้เธอทำใจได้ก่อน ไม่นานนักหรอก
		เมื่อฝนเริ่มร่วงโรยลงมา เยียร์ร่าห์รู้สึกได้เมื่อมันร่วงลงมาสัมผัสใบหน้าเธอ แต่ไม่นานฝนก็เหมือนหยุดตก หรือว่า เธอลืมตาขึ้นอย่างยินดี แล้วเธอก็ได้พบกับคนที่เธอต้องการจริง ๆ
		แต่ในยามนี้เขาไม่ยิ้มให้เธอเช่นเคย สายตาบ่งบอกถึงความเสียใจ และน้อยใจเธอ แต่เขาก็ยังมาเคียงข้างเธอในยามนี้
	ทำไม เธอไม่อยากเป็นคู่เต้นรำของฉันหรือชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าทั้งแววตา หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้าทั้งน้ำตา 
	ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันเป็นเพื่อนที่ดีของชิเน่จริง ๆหรือเปล่า ทั้ง ๆที่ตัดสินใจไปแล้ว กลับมานั่งเสียใจอย่างนี้ มันหมายความว่ายังไงหญิงสาวกล่าวเสียงสั่นน้ำตาไหลริน
อยากให้เขาเข้าใจเธอเหลือเกิน ไม่ใช่ว่าเขาไม่สำคัญ แต่เธอไม่สามารถทำให้ชิเน่เพื่อนรักเสียใจได้
	เธอเป็นเพื่อนที่แย่ที่สุดสำหรับฉันเสมอ ไม่ว่าเธอจะทำอะไร เธอไม่เคยสนใจความรู้สึกของฉันเลย แม้ฉันจะยิ้มให้เธอ แต่หัวใจของฉันเจ็บปวด เธอก็ไม่เคยรู้เลยใช่ไหม
ชายหนุ่มกล่าวพลางมองไปที่เธอด้วยสายตาบ่งบอกความเจ็บปวดที่ออกมาจากหัวใจ
	น้ำตาหญิงสาวได้แต่ไหลริน พร้อมคำขอโทษที่มีให้เขาในหัวใจร้อยล้านคำ แต่เธอพูดมันไม่ออกมาแม้แต่คำเดียว ทั้งคู่นั่งอยู่ด้วยกันเนิ่นนานอยู่อย่างนั้นโดยไม่กล่าวสิ่งใด
		วันต่อมาชิเน่ต้องไปซ้อมกับจินเซ โดยมีเยียร์ร่าห์ตามไปเป็นเพื่อน ในขณะที่ชิเน่ขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อ  ในขณะที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า ชิเน่ก็รู้สึกมีของเหลวไหลมาที่ปลายจมูกเธอเอามืบลูบมัน
 เมื่อเห็นว่าเป็นเลือดมือไม้เธอสั่น ไปหมด ด้วยความกลัว นี่เธอเป็นอะไรกัน เธอรีบเอาผ้าเช็ดหน้าอุดจมูกพลางเงยหน้าขึ้น อีกด้านจินเซพูดกับเยียร์ร่าห์ด้วยสีหน้าจริงจัง
	เย็นนี้ไปรอฉันที่สวนสาธารณะเค้าพูดพร้อมจะเดินไป ตอนนี้ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม 
	แต่หญิงสาวทำท่าจะปฏิเสธ แต่เมื่อเห็นใบหน้าเขาก็ไม่กล้าปฏิเสธ เมื่อชิเน่เดินเข้ามาเธอจึงขอตัวกลับก่อน ทันทีที่เธอจะเดินจากไป เพลงก็บรรเลงขึ้น 
เยียร์ร่าห์หันกลับมาเห็นจินเซกำลังเต้นกับชิเน่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย จนหญิงสาวคาดเดาอารมณ์เขาไม่ออก ผิดกับชิเน่ที่เต้นรำกับเขาอย่างมีความสุขโดยลืมเรื่องที่กังวลเกี่ยวกับสุขภาพเธอเสียสนิท 
เยียร์ร่าห์เห็นอย่างนั้นแล้วก็รู้สึกเศร้าไม่ได้ที่คนที่อยู่ตรงนั้นควรจะเป็นเธอ ได้แต่เดินออกไปเงียบ ๆ 
		แต่เธอไม่เห็นว่าจินเซมองตามเธออแวบหนึ่ง โดยชิเน่ไม่ทันสังเกต
		หลังจากฝึกซ้อมกันอยู่พักหนึ่ง  ทั้งคู่ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
		ม่นานจินเซก็ไปถึงที่นัดหมายระหว่างเขากับเยียร์ร่าห์ ตอนนี้ก็ค่ำแล้ว เขาวิ่งด้วยใจที่กลัวว่าหญิงสาวจะไม่มา แต่ในใจก็หวังไว้ว่าต้องมาตามที่เขาบังคับแกมขอร้อง 
เมื่อไปถึงที่เดิมแล้วเห็นเธอก็ยิ้มอย่างยินดี เยียร์ร่าห์ยิ้มให้เขา
	มีอะไรหรือ นัดฉันมาที่นี่หญิงสาวกล่าวตามที่ได้ตั้งใจไว้ ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงนัดมาที่นี่
	ฉันอยากมาซ้อมเต้นรำต่อกับเธอชายหนุ่มกล่าวพลางยิ้มให้เธอเช่นเคย
	กับฉันหญิงสาวเสียงสูงนิดหนึ่งด้วยความแปลกใจ
	ไม่ละ เธอคู่กับชิเน่ เธอก็ไปซ้อมกับเขาสิหญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆแต่ทำให้ใบหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนสีไปเลยทีเดียว
		เยียร์ร่าห์กล่าวจบพลางจะเดินผละไป ชายหนุ่มจึงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังเหมือนครั้งที่เขานัดหล่อนมาที่นี่ว่า	
	ถ้าเธอไม่ตามใจฉัน ฉันก็จะไม่ตามใจเธออีกต่อไปหญิงสาวหันหน้าไปเผชิญกับเขาที่ตอนนี้เต็มไปด้วยความเคร่งขรึม หญิงสาวได้แต่ถอนหายใจ หลีกเลี่ยงข้อเสนอของเค้าไม่ได้ 
ชายหนุ่มยื่นมือมาให้หญิงสาวหยุดมองเขานิดหนึ่ง เธอก็จับมือนั้นไว้เหมือนรับข้อเสนอ 
		ชายหนุ่มเห็นดังนั้นจึงยิ้มออกมาอย่างยินดี
	ซ้อมกันที่นี่นะหรือหญิงสาวกล่าวพลางมองรอบ  ๆ กลัวคนมาเห็น
	ใช่สิชายหนุ่มยิ้มพร้อมเข้าใจความรู้สึกของเธอจึงรีบบอก
	มาเถอะ ไม่มีใครแอบดูหรอก ฉันรอเวลานี้มานานแล้วรู้ไหมชายหนุ่มกล่าวพลางยิ้มให้เธอ เยียร์ร่าห์ยิ้มตอบ เธอก็รอเวลานี้มานานแล้วเหมือนกัน
		หลายวันต่อมาอาจารย์นัดให้นักศึกษาคณะศิลปกรรมมาซ้อมเต้น ซึ่งก็รวมทั้งเยียร์ร่าห์และชิเน่ ทั้งคู่จับคู่ซ้อมกัน ชิเน่ชวนเพื่อนคุยเช่นเคยในขณะที่ซ้อมเต้นรำ
		ในขณะที่กำลังเข้าเต้นท่าแบบดาว ทำสลับข้างกันนั้น
	ฉันว่า ฉันคงรักจินเซเข้าให้แล้วชิเน่กล่าวในระหว่างที่ซ้อม เยียร์ร่าห์ไม่คิดว่าเพื่อนจะชอบจินเซ เธอคิดว่าเพื่อนคงปลื้มในฐานะที่เขาเป็นนักเต้นรำที่เก่งคนหนึ่ง
	เหรอเธอยิ้มให้เพื่อน แต่เธอรู้สึกว่ามันเป็นยิ้มแหย ๆเหลือเกิน หากแต่ชิเน่ไม่รู้
	เริ่มรักเขาตั้งแต่เมื่อไหร่หรือเธอพูดเหมือนหาเรื่องคุย แต่ชิเน่อ่านใจคนได้เธอจะรู้ว่าเยียร์ร่าห์อยากรู้จริง ๆ
		ชิเน่ส่ายหน้าแทนคำตอบ พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุขเมื่อคิดถึงชายผู้นี้
	ความรู้สึกนี้มันก่อขึ้นเมื่อไรเราก็บอกไม่ได้ รู้แต่ว่าพออยู่ในอ้อมกอดของเขาเวลาเต้นรำ ก็ไม่อยากให้เพลงจบ อย่างนี้เรียกว่าตกหลุมรักได้หรือเปล่าละชิเน่กล่าวเหมือนจะขอความคิดเห็น
 แต่ไม่จำเป็นเธอแน่ใจในความรู้สึกของเธอนานแล้ว เยียร์ร่าห์ทำอะไรไม่ถูก จนถึงจังหวะเปลี่ยนคู่เพื่อนอีกคนจึงเดินชนเธอ เพราะเธอไม่เดินทำให้คนอื่นต้องเสียจังหวะ
	เยียร์ร่าห์ทำไมไม่เดินต่อละดูเหมือนเยียร์ร่าห์จะไม่ได้ยิน ชิเน่จึงเข้าไปสะกิด
		เท่านั้นเธอจึงรู้สึกตัว เธอหันไปยิ้มให้ครูแบบแหย ๆ
	ไม่สบายหรือเปล่าอาจารย์หันมาพูดด้วยเสียงแข็ง ๆ แต่แววตาก็บอกว่าห่วง
	นิด นิดหน่อยค่ะเยียร์ร่าห์หันไปพูดกับอาจารย์แหย ๆ ครูได้แต่ถอนหายใจ แล้วก็บอกเลิกการซ้อม เยียร์ร่าห์รู้ดีว่าอาจารย์เห็นว่าเธอคงซ้อมไม่ไหวจึงหยุดแค่นี้ก่อน
		หลังจากเปลี่ยนชุดแล้ว เยียร์ร่าห์กับชิเน่ก็ไปนั่งหาอะไรดื่มที่ร้านคอฟฟี่ช็อฟเช่นเคย
		เยียร์ร่าห์ยังคงครุ่นคิดถึงคำพูดของเพื่อนเธอในชั่วโมงเรียน และไม่เข้าใจตนเองเหมือนกันว่าทำไมต้องสนใจว่าชายผู้นั้นจะรู้สึกเช่นไรกับเพื่อนของเธอ
	จนไม่ได้ใส่ใจว่าตอนนี้เพื่อนเธอกำลังเรียกเพื่อที่จะคุยบางอย่าง 
	เยียร์ร่าห์ นี่..เธอเยียร์ร่าห์มารู้ตัวอีกทีเมื่อเพื่อนเอามือมาโบกไปมาเหมือนเรียกให้ตื่นจากภวังค์
	เป็นอะไรไป ฉันเห็นเธอเหม่อตั้งแต่ในห้องเรียนแล้วชิเน่พูดยิ้ม ๆไม่คิดสิ่งใดนอกจากเธอเห็นว่าอาการเหม่อลอยนี้คล้ายกับตอนที่เธอหลงรักจินเซ
		เธอจึงอดแซวไม่ได้
	หรือว่า ตอนนี้เธอกำลังตกหลุมรักใครหรือ ใช่ไหมชิเน่ยิ้มแบบแซว แวบแรกเยียร์ร่าห์ตกใจ ไม่เคยรู้มาก่อนว่าที่เป็นอย่างนี้เพราะอาจตกหลุมรักใคร 
	คนคนนั้นเธออยากจะปฏิเสธไม่ให้เป็นคนคนเดียวกับเพื่อน แต่พอรู้ตัวก็รีบปฏิเสธอย่างจริงจัง
	ไม่มี แล้วรีบเปลี่ยนน้ำเสียงให้เป็นปกติไม่ให้เพื่อนจับได้
	ยังหาที่ถูกใจอย่างเธอไม่ได้สักคน แล้วจะไปรักใครละ อย่าเหมารวมว่าคนเหม่อลอยทุกคนจะเป็นอย่างเธอสิเธอกล่าวล้อ ๆเพื่อนแบบไม่จริงจัง
	เหม่อลอยอย่างนี้ใคร ๆเค้าก็คิดว่าเราเหมือนคนบ้า นะ แต่เค้าไม่รู้หรอกว่าการที่เรานั่งคิดถึงแต่คนที่เรารักด้วยความรู้สึกที่อยากจะเจอเค้าตลอดเวลามันมีความสุขแค่ไหน
ชิเน่กล่าวพลางทำหน้าเคลิ้มคิดถึงจินเซขึ้นมาอีกแล้ว เยียร์ร่าห์ได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ ถ้าจินเซชอบชิเน่จริง ๆ เธอจะเสียใจไหมนะ ถ้าเสียใจมันก็ต้องหมายถึงเราตกหลุมรักเขาเป็นแน่ 
	ฉันว่าฉันไปสั่งของกินเพิ่มดีกว่าเยียร์ร่าห์หาข้ออ้าง เธอไม่อยากอยู่ตรงนี้นาน เพราะกลัวจะแสดงความรู้สึกออกมาจนชิเน่จับได้
	เธอจะสั่งมาอีกหรือ นี่เราก็สั่งมามากแล้วนะชิเน่บอกเพื่อนพลางมองเพื่อนอย่างแปลกใจ ดูวันนี้เยียร์ร่าห์แปลกไป ดูเหม่อลอย แล้วก็ทำอะไรแปลก ๆ ยกตัวอย่างเช่นจะสั่งอาหารเพิ่มตอนนี้
	เหรอ เธอทำหน้าเหรอ จากนั้นก็หาคำพูดมาได้ไม่อิ่ม ต้องสั่งอีก เธอพูดพลางยิ้มแบบเหรอ ๆ ยังพยายามไปน้ำขุ่น ๆ เยียร์ร่าห์ไม่รอช้าเธอรีบลุกออกไป
		 ชิเน่จะร้องห้ามเพราะเห็นพนักงานกำลังยกเครื่องดื่มเดินมาทางเยียร์ร่าห์ แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว
	อุ๊ยเยียร์ร่าห์ร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ พนักงานรีบขอโทษ เธอก็ขอโทษเขาเช่นกัน 
	ไม่เป็นไรคะ เดี๋ยวดิฉันจัดการล้างเองได้ ห้องน้ำอยู่ทางไหนคะเยียร์ร่าห์พูด ตอนนี้เธอหน้าเสียเต็มที่ พนักงานรีบบอกทาง ทันทีที่รู้ทางเธอก็ตรงไปที่ห้องน้ำหญิงทันที
 ชิเน่มองตามอย่างครุ่นคิดในอาการของเพื่อน ไม่นานก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเพื่อนดังขึ้น
	จินเซ เหรอชิเน่มองอย่างแปลกใจ เธอมองไปทางห้องน้ำอย่างชั่งใจว่าจะรับแทนให้ดีไหม และแล้วเธอก็ตัดสินใจรับแทนเยียร์ร่าห์
		ทันทีเธอกดปุ่มเพื่อรับสาย ยังไม่ทันที่เธอจะบอกว่าเยียร์ร่าห์ติดธุระไม่สะดวกรับสาย แต่ปลายสายก็ชิงรีบพูดก่อนอย่างร้อนรน
	เยียร์ร่าห์เหรอ วันนี้ฉันอาจไปช้านะ เธอรอฉันก่อนนะ แค่นี้นะ ฉันติดธุระว่าแล้วจินเซก็วางสายไปโดยไม่สนใจว่าคู่สนทนาจะพูดว่าอย่างไร
		ชิเน่เริ่มสงสัยว่าจินเซนัดเยียร์ร่าห์ทำอะไร  ดูท่าทั้งสองจะสนิทกันมาก จากการประเมินสถานการณ์รวมทั้งท่าทางของเยียร์ร่าห์ในวันนี้
เธอแทบไม่อยากจะเดาหรือว่าทั้งสองรักกัน แต่ทำไมเยียร์ร่าห์ถึงไม่บอกเธอ 
		ยังไม่ทันที่ชิเน่ได้คิดอะไรไปมาก เยียร์ร่าห์ก็เดินออกมาห้องน้ำแล้วตรงมาที่เธอ 
	เยียร์ร่าห์ เมื่อกี้จินเซเค้าโทรมาบอกว่าวันนี้เค้าจะไปช้า ให้เธอรอเค้าก่อนชิเน่บอกอย่างเรียบ ๆพลางยิ้มให้เพื่อน เยียร์ร่าห์ผงะเล็กน้อย ก่อนยิ้มให้เพื่อน
	เหรอ ขอบใจจ๊ะเธอกล่าวพลางรีบนั่ง ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี ในใจนึกกลัวชิเน่จะรู้เรื่องของเธอกับจินเซแอบซ้อมเต้นรำด้วยกัน แล้วก็อาจจะรู้ถึงความรู้สึกที่เธอมีต่อจินเซ
	ท่าทางเธอสองคนดูสนิทกันนะชิเน่กล่าวก่อนหยิบโดนัทมาทาน เหมือนไม่ได้ตั้งใจรอฟังคำตอบ เยียร์ร่าห์จึงรู้ว่าชิเน่ยังไม่รู้เรื่องที่เธอกับเขาแอบซ้อมเต้นรำด้วยกัน แล้วเธอก็รีบอธิบาย
	ก็ฉันเป็นเพื่อนกับเขาตั้งแต่ประถม มันก็ต้องสนิทกันเป็นธรรมดา แต่ก็ไม่มีอะไรมาหรอก
		ชิเน่เห็นอย่างนั้นก็รีบยิ้มกลบเกลื่อนในใจ พร้อมพูดเล่นอย่างเหมือนไม่มีอะไร
	ทำไมต้องจริงจังด้วย ฉันพูดไปอย่างนั้นเองนะเยียร์ร่าห์รีบยิ้ม แต่ก็เจื่อน ๆ จนชิเน่เริ่มแน่ใจว่าที่เธอกลัวมันคงเป็นความจริง
	เหรอ 
	รีบกินสิ เดี๋ยวเธอต้องไปเจอเค้าไม่ใช่หรือชิเน่รีบพูดพลางส่งของกินให้เพื่อน แล้วทั้งสองก็ตั้งหน้าตั้งตากินเหมือนไม่มีอะไร เพียงกลบเกลื่อนความรู้สึกของกันและกัน
		หลังจากที่กินอาหารเสร็จทั้งสองก็เดินแยกกันที่หน้าร้านไปคนละทาง เยียร์ร่าห์เดินพร้อมครุ่นคิดเช่นเดียวกับชิเน่แล้วทั้งสองก็ตัดสินใจหันกลับมาเรียกชื่อของอีกฝ่าน
	เยียร์ร่าห์/ชิเน่ทั้งคู่ต่างเรียกชื่อพร้อมกัน
	เธอพูดก่อนซิชิเน่บอกพลางยิ้มให้เพื่อน
	เยียร์ร่าห์ตั้งใจจะพูดเรื่องที่เธอแอบซ้อมเต้นรำกับจินเซ แต่เธอก็เปลี่ยนใจพร้อมยิ้มให้เพื่อน
	ไม่มีอะไร แค่จะบอกว่ากลับบ้านดี ๆ แล้วเธอละชิเน่
	ชิเน่ได้ยินอย่างนั้นก็ตัดสินใจไม่ถามเรื่องของจินเซและเยียร์ร่าห์แต่เธอพูดว่า
	ฉันก็เหมือนกันแล้วทั้งคู่ก็เดินจากไปคนละทางเหมือนไม่ได้บอกความรู้สึกของตนเอง
		หลังจากที่รอจินเซอยู่นาน เธอก็เห็นเขาขี่จักรยานมาทางเธอเมื่อมาถึงก็หยุดหอบ แต่สายตามองมาที่เธอไม่ว่างตา พร้อมรอยยิ้มที่ยิ้มให้เธอแบบนี้เป็นประจำ รอยยิ้มอันอบอุ่น
		หญิงสาวยิ้มตอบ อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมขี่จักรยานมา เธอควรจะทำอย่างไรระหว่างเขา เธอและชิเน่ เธอไม่อยากตัดสินใจด้วยตนเองอีกแล้ว 
ให้มันเป็นไปตามพรหมลิขิตแล้วกัน เธอไม่อยากทำอะไรอีกแล้ว ตอนนี้หัวใจของเธอถูกรัดด้วยความรักจนไม่อยากถูกถอนไป 
		ม่อยากจากใบหน้าที่มีรอยยิ้มอบอวลไปด้วยความอบอุ่น
	นึกว่าไม่รอแล้วชายหนุ่มกล่าวพลางยิ้มให้เธอ  วันนี้แหละเขาต้องบอกบางอย่างกับเธอให้ได้
	เธอบอกให้ฉันรอ ฉันก็ต้องรอสิเยียร์ร่าห์ยิ้มให้เขา ในวันนี้หัวใจเธอเต้นผิดจังหวะ ดูมันไม่เป็นปกติ แต่มันก็มีความสุข และความกังวลอย่างประหลาด 
	วันนี้เราไม่ซ้อมเต้นรำได้ไหมเขาบอก ตอนนี้ยังอยู่บนรถจักรยาน
	ไม่ซ้อม แล้วนัดฉันมาทำไมเยียร์ร่าห์เอ่ยอย่างแปลกใจ ยังไม่ทันจะได้ซักอะไรมาก
เขาก็ลงจากรถมาดึงเธอขึ้นจักรยานไปเฉยไม่ฟังคำทัดทานเธอสักคำ
	เพราะมีอีกที่ ที่ฉันอยากพาเธอไปนะสิชายหนุ่มกล่าวพลางชวนให้เพื่อนสาวขึ้นมาบนที่พักเท้าแล้วให้ยืนอยู่อย่างนั้นเนื่องจากไม่มีที่ซ้อนท้าย
	เกาะแน่น ๆนะ จะไปแล้วนะ หนึ่ง สองนับสามเขาก็ออกรถไปทันที เยียร์ร่าห์กลัวจะตกจึงกอดเขาไว้แน่น ในใจก็รู้สึกมีความสุขที่ได้ใกล้ชิดกับเขา ทั้งคู่ไม่ได้สังเกตว่าชิเน่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง
 เธอได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นพึ่งเข้าใจความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็วันนี้ ตอนนี้เธอเสียใจที่เพื่อนไม่ยอมบอกว่าชอบพอกับคนที่แอบชอบ อยากโกรธ แต่เธอมีสิทธิ์อะไรไปโกรธเขาละ เธอไม่มีสิทธิ์บังคับให้เขารักเธอนี่
	นึกแล้วก็ได้แต่เสียใจที่เธอไปหลงรักคนที่ไม่เคยเหลียวแลตน เธอไม่มีสิทธิ์โกรธเขา แต่เพื่อนของเธอนี่สิทั้งที่รู้แก่ใจว่าเธอรักเขา แต่ไม่บอกความรู้สึกของตนเองสักคำมันหมายความว่ายังไง
		ฟ คิดแล้วชิเน่ก็โกรธเพื่อนเธอทันที
	หลังจากที่ขี่มาตั้งนาน 
	ใกล้ถึงหรือยังจินเซ ขี่มาตั้งนานแล้วนะเยียร์ร่าห์กล่าวพลางมองทางรอบ ๆ เริ่มห่างไกลบ้านเธอไปทุกที
	ถึงแล้วชายหนุ่มตอบพลางหันมายิ้มให้หญิงสาว หญิงสาวลงจากรถจักรยาน พลางก้มทุบที่เขาที่ยืนเสียตั้งนาน พร้อมหันไปมองรอบ ๆ
	พาฉันมาที่ไหนกันนี่เธอมองไปรอบ ๆอย่างสนเท่ห์ แต่เพื่อนของเธอยังคงยิ้มแล้วเข้าจับมือเธอ 
แล้วพูดว่า
	เดี๋ยวก็รู้ แต่ว่าตอนนี้หลับตาก่อนได้ไหม
(ติดตามมาขนาดนี้แล้วก็ติดตามต่อไปนะ รับรองซึ้งและสนุก)				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน