@ ถึงเธอ..ผู้หญิงที่ดีเกินไป…ผู้อยู่ในใจตลอดกาล @

วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์

ถึงเธอ..ผู้หญิงที่ดีเกินไปผู้อยู่ในใจตลอดกาล 
Oh my too good lady

ผมดูหนังมาหลายเรื่องแล้ว ผมไม่รังเกียจประเภทของหนังนะ ผมแยกแยะออกว่าอะไรคืออะไร ผมเข้าใจอะไรๆได้ดี แต่ทุกครั้งที่ผมดูหนัง ผมมักจะร้องไห้สะอื้นฮักๆจนหายใจไม่ออก หัวเราะก๊าก ร้องหวีด ขวัญผวา นอนไม่หลับร่วมสัปดาห์ เกลียดตัวร้ายในหนังเข้ากระดูก ถ้าเดินผ่านกันที่ห้าง ผมจะเตะแล้วกระทืบไม่เลี้ยงเลย ฯลฯ
	หนังน้ำเน่าผมก็ดูนะ สนุกดี ได้เจอความรักที่ซ้ำๆกันกับอีกหลายๆเรื่องดี และคำที่ได้ยินซ้ำบ่อยๆก็คือ คำว่าดีเกินไป ผมเคยได้ยินแต่ในหนังนะ ความรู้สึกของผม ผมไม่เคยนึกเลยว่านี้คำนี้มันจะมีในโลกนี้จริงๆ
	แต่ก่อนผมคิดว่า คำว่าดีเกินไปมันจะมีแค่ในนิยาย คือมันเป็นคำที่ฟังดูหรูมาก ไพเราะนิดๆ กินใจหน่อยๆ เวลาจะเลิกกัน ใครที่ใช้คำนี้จะดูมีคลาสมาก เป็นการบอกเลิกแบบผู้ดี๊ผู้ดี คือไม่ใช่การบอกเลิกแบบแจกถ้วยแจกถัง ขว้างเขียงเขวี้ยงกะละมังใส่หัวกัน
	วันนี้ คำว่าดีเกินไป มันได้เกิดขึ้นจริงๆกับชีวิตผม ประสบการณ์ที่ยากแก่การจดจำ เอ๊ย ลืมเลือน อารมณ์นี้เกิดขึ้นโดยตรงกับผมเมื่อไม่นานมานี้
อดีตอันหวานชื่น สี่ปีที่ผ่านมา
	ผมได้มีโอกาสพบเจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง เราเห็นกันครั้งแรกในวันรับน้องที่มหาวิทยาลัย เธอเกิดก่อนผมหนึ่งปี แต่ปีกลายเธอสอบเอนทรานซ์ไม่ติด ปีนั้นก็เลยมาสอบใหม่ ก็ไม่รู้นะครับว่าเราเคยทำบาปร่วมชาติ คว่ำบาตรร่วมกันมาแต่ชาติปางไหน ถึงได้บังเอิญมาพบและมาพาลกัน
	เธอเรียนอยู่อีกคณะหนึ่ง ส่วนผมเรียนอยู่อีกคณะหนึ่ง ขอสงวนสิทธิ์ในการที่จะไม่บอกชื่อคณะและสถาบัน เพราะเกรงว่าจะเป็นการทำลายชื่อเสียงอย่างยิ่งยวด
	หน้าตาเธอไม่ใช่ขี้เหร่ๆเลยนะ จัดว่าเป็นผู้หญิงที่สวย เพียงแต่เสียชาติเกิดตรงที่เธอไม่หมวยเท่านั้นเอง เธอรู้จักกับผม เพราะผมมีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่เรียนอยู่กับเธอ เรารู้จักกันเพราะเพื่อนแนะนำ
	ตอนนั้นผมเล่นเน็ตนะ ความใฝ่ฝันคือ อยากเจอผู้หญิงหมวยๆสักคนที่มีบุพเพสันนิวาสร่วมกัน แต่แล้วก็สุดความพยายาม ผมจีบสาวหมวยทางเน็ตไม่ติด 
	แต่ก่อน เวลาเจอกัน เธอจะเข้ามาทักทาย(หาเรื่องตอแยกับ)ผมก่อนตลอด ผมก็ไม่ได้หลบ แต่ก็รำคาญ ไม่ได้ชอบเธอเลย.. แต่เธอก็ไม่ลดละความพยายาม เพราะพิษความหล่อของผมแท้ๆ 
ผมมาคิดไปคิดมา เธอก็ขาวเหมือนกันแฮะ แค่ไม่หมวย ก็เลย ปรับเปลี่ยนความคิด พฤติกรรมและทัศนคติของตน จนลวงตัวเองสำเร็จ ว่าเธอขาวสวยหมวยเซ็กส์ สุดท้าย ก็ลงเอยด้วยดี
ผมจีบเธอครั้งเดียว เธอตามผมแจไม่ยอมรามือ เธอตามไปที่หอผมบ่อยๆ เราฟังเพลงอยู่ด้วยกันสองต่อสองในห้องนอนผม (เอ๊ะ บรรยายเหมือนหนังสือเพลย์บอยไปมั้ยเนี่ย) วันนั้นฝนตก ฟ้าร้อง (เอาเลย หนังไทยย้อนยุค ชัวร์ๆ) สุดท้าย ผมก็เลยรวบหัวรวบหาง ตัดริบบิ้น เปิดซิงซะเลย (อิอิ) มาตื๊อบ่อยดีนักสม 
ปรากฏว่าสมใจเธอสิครับ
เราตกลงเป็นแฟนกัน และคบกันมาเรื่อย ๆ เพราะผมขี้เกียจเล่นเน็ต กะว่านานๆค่อยไปเล่นหาขาจรสักครั้ง ส่วนเธอ ผมยอมให้เป็นตำแหน่งขาประจำ เธอเซ่อมากครับ ตามใจผมตลอด และก็ทะเลาะเบาะแว้งกันด้วยดีมาโดยตลอด เธอชอบเรียกร้องความรัก ซึ่งผมรำคาญ ผมต้องการเซ็กส์อย่างเดียว เธอเป็นแค่เครื่องยึดเหนี่ยวทางกาย ผมอยากจะบอก แต่กลัวเธอพล่าม ถามทวงลำเลิกบุญคุณ
ผมไม่ได้แคร์หรือห่วงใยอะไรนักหรอก ก็แค่ลูกเป็ดขี้เหร่ในกำมือ จะบีบก็ตาย จะคลายก็ไม่ยอมหนีไปไหน
 	เธอย้ายมาอยู่กับผมที่หอครับ มหันตภัยร้ายมาเยือนแล้ว
	แต่ก็ดี ผมจะได้โขกสับใช้งานเธอสารพัด เงินที่จ้างร้านซักรีดก็จะได้เอาไปเล่นเน็ต อิอิ ฉลาดล้ำลึก ช่วงนั้นเธอมาอยู่ที่หอกับผม หลังเลิกเรียนเธอกลับบ้านตรงเวลา (นี่แหละ ที่เรียกว่าดีเกินไป ห้องนอนผมไม่ว่างเลย ผมต้องเสียค่าโรงแรมบ่อยๆเวลานัดเจอสาวทางอินเตอร์เน็ต) ทำงานบ้าน ซักผ้า ล้างจาน ทำกับข้าว และ(เสร่อ)เป็นอย่างนี้เสมอต้นเสมอปลาย
  	ผมทนไม่ไหวก็หาสาวใหม่ไปพัวพัน ไปนอนค้างบ้านสาวบ่อยๆ ปล่อยเธอไว้คนเดียว ผมไม่รู้จริงๆนะครับ ว่าเวลาอยู่คนเดียว เธอร้องไห้ด้วย (ก็ใครจะไปรู้ล่ะ หน้าตาเธอไร้อารมณ์และความรู้สึกนึกคิดมาก เหมือนตุ๊กตาบาร์บี้ยังไงยังงั้นเลย) 
ผมสงสารเธอจับใจอย่างสุดซึ้ง และแล้วผมก็กลับมาคืนดีกับเธอและอยู่ด้วยกัน (ตอนนั้นสาวใหม่ของผมไปนอนกับหนุ่มทางเน็ตคนใหม่)
วันหนึ่ง ผมมีปัญหากับทางบ้าน พ่อผมไล่ผมออกจากบ้าน เพราะเรื่องไม่เป้นเรื่องหรอก ช่างมันเหอะ ในความรู้สึกของผมตอนนั้นคือผมไม่มีที่พึ่งแล้ว อยากเริ่มชีวิตใหม่ข้างนอกโดยไม่ง้อทางบ้าน เฮ่อผู้ดีตีนแดงอย่างผมจะไปทำมาหากินอะไรเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเองรอดล่ะครับท่าน แต่ลูกผู้ชายชาติทหารอย่างผมต้องอดทนจนถึงที่สุด จนสุดท้ายผมร้องไห้คร้าบ..บ..บ
 	และแล้ว ผมก็เริ่มรักเธออย่างจริงจัง(แม้ว่าจะไม่จริงใจอิอิ) ตอนที่ผมหมดหนทาง เหมือนหมาจนตรอกเลยง่ะ ผมกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นขี้มูกพองแวบ พองแวบอยู่ดีๆ เธอก็ยื่นยาดมมาให้ผมดม ตกใจหมดเลย โผล่มาเงียบๆไม่ให้สุ้มให้เสียง ผมอยากจะตะคอกใส่หน้าเธอว่าผมไม่ได้จะเป็นลม พ่อแม่ผมไม่ได้ตาย ผมไม่ใช่เจ้าคุณย่าในหนังที่ลมจับสลบไสลลงทันทีที่รู้ว่าหลานชายรถคว่ำ แต่ผมก็ตื้นตันใจ เธอคงอยากจะปลอบใจ แต่ด้วยความไม่มีมันสมองของเธอ เธอจึงทำได้แค่นั้น ถ้าเป็นผู้หญิงมารยาสาไถจัดแบบคนอื่น คงจะปลอบขวัญ ช่วยเช็ดน้ำตาและกดหน้าผมซบอกไปแล้ว แต่นี่เธอ เธอโง่มาก ซื่อมาก ผมรักในความโง่ซื่อของเธอวันนั้นเอง ผมนั่ง เอาน้ำตาเช็ดหัวเข่า เธอมาโอบผมข้างหลังเพราะไม่มีปัญญาจะหาคำสบายๆใจมาปลอบ ผมรู้สึกว่าน้ำตาอุ่นๆของเธอหยดลงกลางหลังผม เธอร้องไห้กับผมครับ เธอหมดปัญญา เธอสิ้นคิดอย่างรุนแรง ว่างมาก ไม่รู้จะทำอะไรแล้ว ก็เลยร้องไห้กับผมซะเลย (ไม่รู้จะร้องทำไม ถอดทองในคอให้ผมซะก็น่าจะเวิร์คกว่า)
	และแล้ว เราสองคนก็ส่ายสะโพกโยกย้ายออกจากหอเก่า มาเช่าอยู่หอถูกๆด้วยกัน เพราะเธอได้เงินจากทางบ้านแค่เดือนละสี่พัน ส่วนผม แม่แอบโอนมาให้เดือนละสองพัน ก็รวมกัน ใช้ด้วยกันได้อย่างพอเพียง.. ถ้าไม่มีเธอ ผมคงไม่มีที่ซุกหัวนอน ผมไม่เคยชินกับการนอนห้องพัดลม ห้องน้ำเป็นส้วมซึม แต่ก่อนนอนห้องแอร์อย่างดี ห้องน้ำก็งามราวสวรรค์ แต่ไม่เป็นไรครับ ส่วนเธอ จะห้องแอร์ห้องพัดลม พื้นปูพรมหรือปูเสื่อน้ำมัน ก็ยังซักผ้าล้างจาน ทำความสะอาดบ้านคนเดียวและ(เสร่อ)กลับบ้านตรงเวลา ดังเดิม
   	ช่วงนั้นผมก็ไปรับจ๊อบ ไปเฝ้าร้านอินเตอร์เน็ตให้รุ่นพี่ ผมรับกะดึกจากห้าโมงเย็นถึงตีสอง ถูกใจผมสิครับทีเนี้ย หลังจากที่เริ่มอยู่ตัวมีงานมีการทำ มีรายได้พอประทังลำไส้ ผมก็ไปติดสาวอีก... 
 	ผมกลัวว่าเธอจะทะเลาะเบาะแว้งกับผมอีก ผมรำคาญ เธอชอบบ่น 	แต่ด้วยอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ฟ้าก็บันดาลให้เพื่อนของเธอมาปลอบใจและให้คติเตือนใจเธอไว้ว่า 
	จงปล่อยเขามีชีวิตอิสระ		
และควรจะชนะใจด้วยไม่หวง
	หากวันใดเขาเจ็บช้ำระกำทรวง	
น้ำตาร่วง มันต้องกลับมาตายรัง - ชัวร์ๆ	
	ด้วยอำนาจอภินิหารของคำสอนอันศักดิ์สิทธิ์ของเพื่อนเธอ เธอจึงยอมปลดแอก ปล่อยผมให้เป็นอิสระ แล้วก็ทำตัวเป็นแม่พระเพื่อชนะใจผม 
เข้าล็อกผมพอดีละสิครับท่านผู้ชม อิอิ
ผมยอมรับว่าผมเลวมากขึ้นเล็กน้อยถึงปานกลาง ถึงมากและมากที่สุด ตามลำดับ ยิ่งเห็นเธอเป็นแม่พระ นางฟ้า แม่ชีมากขึ้นเท่าไหร่  ผมก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเลวมากขึ้นเท่านั้น
ผมใช้ความรุนแรงกับเธอด้วยนะ ทุบตีเป็นประจำไม่ได้วางมือวางตีน ใกล้กันหน่อยเป็นได้เลือด เก็บบาดแผลไปลูบไล้สูดปากโอยๆในห้องเล็คเช่อร์ อาจเป็นเพราะเธอชอบความรุนแรงเป็นทุนเดิมด้วยมั้ง (อันนี้ผมเดานะ ผมก็ไม่แน่ใจ) อิอิ แต่ที่แน่ใจ เวลาเธอโดนผมตบ เธอจะลอยคว้างและยิ้มนิดๆ เหมือนกับว่า โอยกูมีความสุขอย่างรุนแรงว่ะพรรคพวก อารมณ์นี้เลย แล้วก็บรรจงร่วงลงไปนอนกองบนพื้นเหมือนขยะมูลฝอย เอามือค้ำพื้น ยันตัวเองขึ้นนั่ง หอบหายใจฮืดๆ เลือดซึมเล็กน้อยพอให้ชีวิตมีสีสัน (หมายเหตุ : ผมกัดฟันทำหรอกนะ ที่ทำก็เพราะว่าจำเป็นจริงๆ คือ อยากเห็นเธอมีความสุข) เวลาที่เห็นเธอยิ้มนิดๆ สายตามองลงที่พื้น น้ำตาซึมคลอเบ้า ผมมีความรู้สึกว่าเธอกำลังซึมซับและจดจำช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ไว้ในความทรงจำตราบนานเท่านาน ผมก็พลอยอิ่มใจและมีความสุขไปด้วย ที่มีโอกาสเติมรสชาติให้แก่ชีวิตเธอ (ไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้จะเลวได้ขนาดนี้ ภูมิใจ๊ ภูมิใจ) 
เธอทนผมได้ทุกอย่าง ยินยอม ไม่ตอบโต้ เธอโง่ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ผมก็เพิ่มพลังกระทืบเธอให้แรงขึ้นอีกอย่างไม่ขัดศรัทธา  จนผมเหนื่อยล้า หมดแรง ผมชักจะอ่อนใจแล้วนะ ทำยังไงเธอก็ไม่เจ็บปวดสาสมใจผมสักที มาตรการสุดท้าย ผมบอกเธอว่าผมจะลากคอเธอ เดลิเวอรี่ไปส่งถึงบ้าน เคาะประตู แล้วประจานต่อหน้าญาติโกโหติกาของเธอว่าเธอเป็นเมียผม เธอแรดร่านมาหาผม มายั่วยวนผม เท่านั้นแหละเธอก็เลยแสดงความเจ็บปวดออกมา เพราะไม่อยากให้ผมไปที่บ้าน เธอคงกลัวว่าพ่อเธอจะอกแตกตายทันทีที่ผมแฉ (หมายเหตุ : ที่บ้านของเธอเป็นค่ายมวย) ฮ่าๆๆๆ ผมสะใจมาก สาสมใจที่เห็นเธอเป็นทุกข์  
สุดท้าย ผมทนพฤติกรรมของเธอไม่ไหว 
 	ผมตัดสินใจพาผู้หญิงทางเน็ตคนใหม่มานอนที่ห้อง.. โดยที่ระวังเป็นพิเศษ ผมกลัวเธอไม่รู้ เธอก็เลยรู้ คืนนั้นผมเฉดหัว เอาตีนถีบส่ง ไล่เธอไปนอนที่หอเพื่อน เธอก็ไปแต่โดยดี (พร้อมเลือดที่ไหลซึมเลอะขอบปาก) ผมดูไม่ออกว่าเธอเป็นทุกข์ทรมานใจบ้างหรือเปล่า สีหน้าเธอเฉยมากเลย แค่หน้าหงิกน้ำตาไหลเป็นทางเฉยๆ แบบว่า ผมอ่านความรู้สึกไม่ออก
เช้าวันใหม่ เธอก็ต้องมาเก็บกวาดวัสดุที่เหลือจากกิจกามเมื่อคืน (คงไม่ต้องบอก) เธอสะอึกเมื่อเห็นผมเอารูปผมกับสาวคนใหม่ใส่ในกรอบรูปที่เธอซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด เธออาจจะเจ็บปวดทรมานใจขึ้นมาบ้าง แต่มันก็ไม่ได้ทำให้มีอะไรผุดมาโผล่ในมโนสำนึกของผม เพราะเธอก็ดูเฉย เหมือนเดิม ผมอ่านความรู้สึกไม่ออก
 	
ผมทนไม่ไหว หาเรื่องทะเลาะกับเธอเล่นๆ แบบว่าไม่มีอะไรทำอะ ผมไล่เธอหนี แต่เธอก็ยังอ้อนวอน และขอให้เราเหมือนเดิม เธอให้อภัยเสมอเพราะเธอรักผม  ผมเลี่ยน
 	เฮ่อ... ผมก็ผู้ชายใจอ่อนไหวคนหนึ่ง (ในใจผม ผมรักเธอนะ แต่ผมขอใช้ชีวิตเลวๆให้สุดขั้วก่อน) 
 	ประมาณก่อนที่จะเรียนจบ เราทะเลาะกันหนักเพราะเธอลืมจูบเท้าผมก่อนนอน เกือบเลิกกันแน่ะ ถึงขั้นที่เธอบอกว่าเธอทนไม่ไหวแล้ว ผมก็บ้าอำนาจ ฟาดโทรศัพท์มือถือไปใส่จอโทรทัศน์จนวินาศสันตะโรทั้งสอง ฉิบหายวายป่วง ยังผ่อนไม่หมดทั้งโทรศัพท์ทั้งโทรทัศน์เลย ( ไม่น่าเล้ย จริงๆผมรู้อยู่เต็มอกนะว่า ยังไง ๆ เธอก็ไม่เลิกกับผมหร้อก แต่อดไม่ไหว อารมณ์มันเป็นใหญ่ บรรยากาศเป็นใจ ชวนบ้าคลั่งทำลาย) 
	คืนวันพระจันทร์เป็นใจ ณ ราตรีกาลของสยามประเทศ มหันตภัยล้างแผ่นดินกำลังมาเยือน คราวนี้เธอเอามั่งครับ เพราะคงทนไม่ไหว และเหลืออดอย่างสาหัส เธอเพิ่งผ่อนทีวีและมือถือ(มาเอาใจผม)ได้สองเดือน แล้วต้องผ่อนไปอีกสองปีเศษเพื่อเศษทีวีและมือถือ เธอถลกแขนเสื้อ ทำท่าโหดมั่ง หลังจากที่ผมลงไม้ลงมือกระหน่ำทุบตีเธอตามหน้าที่ที่เป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว 
เธอฮึด ลุกขึ้นสู้ เอาคืนมั่ง ต้องสู้ ต้องสู้จึงจะชนะ
 	เธอวิ่งเข้ามากระโดดถีบผมลอยติดข้างฝาผนังแล้วค่อยๆทรุดกายลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลก กระหน่ำแจกหมัด เข่า ศอก ส้นตีนเป็นของชำร่วยแก่ชีวิตผม ทั้งเตะ ถีบ คาราเต้ หยิก บิด หมุนหนังผมเป็นจ้ำ ขากถุยน้ำลายและเสมหะใส่ผมจนหัวเปียก ส้นเท้ากระทืบนิ้วมือ เหยียบเนื้อชิ้นน้อยบี้ใส่พื้น จนผมร้องไม่เป็นจังหวะจะโคน บีบคอ เค้นขยำ ขย้ำ เขมือบ ตบซ้าย ตบขวา ถุยน้ำลายใส่หน้า แจกมะเหงก เขกมะกอก ดึงผม เอาไม้บรรทัดตีมือ เอาหนังสือมาทุบหัว จับหัวกดน้ำ เอาแป้งเย็นทาซ้ำ เปิดพัดลมเบอร์สามใส่ จนผมปวดเนื้อเจ็บหนัง หนาวเข้ากระดูก ระบม บอบช้ำไปทั้งตัว ท่านผู้ชมครับ ผมเพิ่งรู้ว่า เวลาโดนตบ แล้วหูมันได้ยินเสียง วิ้ง ๆ ๆ ๆ มันเป็นไง วันนี้นี่เอง 
ผมไม่ถือโทษโกรธเธอ (หมดแรงจะเอาโทษแล้วอะเดะ) ถือว่าชดเชยภาพวันวานอันหวานซึ้งระหว่างผมกับเธอก็แล้วกัน ถึงจะโกรธแค้นเธอมากแค่ไหน ยังไง ๆ ผมก็ทำอะไรเธอไม่ได้ โอย
วันพรุ่งนี้เป็นวันซ้อมใหญ่รับใบปริญญา แต่วันนี้เป็นวันซ้อมใหญ่ รับหมัดภรรยา
เมื่อเธอซ้อมผมจนพอใจ(ถึงขั้นเลือดกระฉูดเลยน้า) เธอก็เริ่มสงสาร ยืนจ้องหน้าผม ทำหน้าเป็นตุ๊กตาบาร์บี้ไร้อารมณ์อยู่ประมาณ 5 นาทีก็วิ่งออกไปจากห้อง ผมนึกว่าเธอคงได้สติ สำนึกผิด สงสารผมและงงว่าทำอะไรลงเนี่ย สักพักเธอก็เดินกลับเข้ามา หน้าตาเฉิ่มเฉย(หน้านี้แหละต้นฉบับ) 
เธอเห็นผมปุ๊บ หน้าตาก็สลด แล้ววิ่งเข้ามาถามผมว่า เป็นอะไร เจ็บไหม ใครทำ เจ็บไหม ๆ ๆ ๆ แล้วก็กอดผมไว้ ผมไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
เธอร้องไห้ กอดผม... ส่วนผมเหรอ เสียน้ำตาตั้งแต่โดนส้นตีนยีแต่ยกแรกแล้วก๊าบ ผมไม่นึกมาก่อนเลยว่าเธอจะโหดร้ายได้อย่างนี้ เหมือนความปลอดภัยแห่งชีวิตค่อยๆเลือนหายไปพร้อมกับเครื่องในทีวีและมือถือ ผมร้องไห้ในใจ น้ำตาคลอเบ้า เธอยื่นยาดมมาให้ผมอีกครั้ง 
เมื่อมรสุมอารมณ์สงบลง ฉากรักโรแมนติค ก็ถูกสร้างขึ้นโดยอิงชีวิตจริง เธอทำ(บาด)แผลให้ผม สองเราต่างก็พิศมองดูกันและกัน (สำรวจรอยบอบช้ำซึ่งกันและกันล่ะสิ) หน้าผมไม่มีเลือดหรอกครับ แต่มันเป็นรอยช้ำเลือดช้ำหนองอยู่ข้างใน หน้าผมเนี่ย ทั้งเหลือง ทั้งแดง ทั้งเขียว ทั้งม่วง หลากสีสันเต็มไปหมดราวกับจานสีของจิตรกร แต่นี่มันคือจานสีของฆาตกร ส่วนเธอมือบวม..(ที่บวมเพราะเขกหัวผมน่ะ) 
  ที่เล่ามานั้นมันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของฉากชีวิตรัก(รันทด)ของเรา และตอนนี้ผมรู้สึกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ดี(เกินไป)เพียงคนเดียวที่ครองดวงใจของผมตลอดกาล เธอไม่น่าจะมาอยู่กับผมเล้ย เธอน่าจะเจอผู้ชายที่ดีและจริงใจซะตั้งแต่แรก ผมอยากจะขอโทษเธอที่ไม่มีเวลาให้ ไม่ห่วงใย ไม่รัก ไม่สงสาร และทำกับเธอเหมือนเธอไม่มีหัวจิตหัวใจ ไม่มีความรู้สึกนึกคิด (อ๊ะ ก็หน้าเธอให้อารมณ์นี้มากๆเลยอะ) 
คำว่า"ดีเกินไป"มันยังผุดอยู่ในสมองของผมเสมอ ผมสำนึกเสมอว่าเธอดีกับผมมาก(เกินไปรึเปล่า) ให้อภัย ตามใจผมเสมอมา... ส่วนผมก็ทุบตีร่างกายและทำลายจิตใจเธอด้วยดีมาตลอด ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนแบบนี้ให้ผมซึ้งกับคำว่า "ดีเกินไป " 
ทุกวันนี้ ผมบริหารธุรกิจส่วนตัวอยู่ รูปเราสองคนถือช่อดอกไม้ยืนยิ้มแฉ่งหน้าป้ายคอนเกรททูเลชั่นประจานใบหน้าที่บอบบวมช้ำเลือดช้ำหนองอย่างสดชื่นแจ่มใสยังคงแขวนอยู่ข้างฝาห้องทำงาน ชีวิตผมอุทิศแก่งาน หมกอยู่ในห้องทำงานตลอด เธอยังเป็นหญิงเดียวในดวงใจผมตลอดกาล เธอให้อภัยผมเสมอ ผมไม่มีเวลาให้เธอแต่เธอก็ไม่เคยเรียกร้องอะไรเลย จนลมหายใจเฮือกสุดท้าย
เธอจบชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งในสมอง (มิน่าล่ะถึงชอบทำหน้าเอ๋อๆ พูดจาไม่รู้เรื่อง ชอบบ่นและปัญญาทึ่มมาก โดยเฉพาะใบหน้าเธอนะ หาอารมณ์ก็ไม่เจอ) ผมคอยเฝ้าดูอาการตลอด เธอพูดเพ้อเจ้อและบ่นให้ผมฟัง ผมไม่ทิ้งเธอไปเล่นเน็ตหาผู้หญิงหมวยๆเลย ผมนั่งจับมือฟังเธอบ่นอยู่ข้างเตียงตลอด วันนั้นเธอเพ้อ หยิบยาดมมาส่งให้ผม หน้าตาเธอเอ๋อ ไร้อารมณ์มาก ผมร้องไห้สะอื้นในห้องผู้ป่วยพิเศษนั้น จนพยาบาลโผล่หน้ามาดู นึกว่าเธอตายไปแล้ว เธอเรียกชื่อผมตลอด  
หลังจากที่เธอเข้าห้องไอซียู ผมก็ไม่ได้ยินเสียงเธออีกเลย
วันนี้คำว่าดีเกินไปทำให้ผมคิดได้ ทำให้ผม ปรับปรุงตัว และรู้สึกดีกับเธอให้มากกว่าที่เคย ผู้ชายเลวๆคนนี้ อยากจะตอบแทนเธอด้วยการบริการและเอาใจใส่ดูแลเธออย่างดีไปจนแก่จนเฒ่า แต่มันก็สายเกินไป แต่ผมก็ยังอิ่มใจบ้าง ที่อย่างน้อย ผมก็ยังมีโอกาสได้ดูแล เอาใจใส่และตามใจเธอจนถึงลมหายใจเฮือกสุดท้าย มันเป็นสิ่งแรก สิ่งเดียวและสิ่งสุดท้ายที่ผู้ชายเลวๆอย่างผมตอบแทนผู้หญิงที่ดีเกินไปอย่างเธอ
ผมจะไม่บอกเลิกเธอด้วยคำว่าดีเกินไปเด็ดขาด เพราะรู้ว่ายังไง ๆ เธอก็ไม่ยอมเลิกกับผม
				
Based on the True Story from Website
Written By
Whisky Le FongBeer

หล่อทุกอิริยาบถ 				
ความรัก
เธอไม่เคยรู้หรอก
ว่าเธอมีมัน

จนกระทั่ง
ในวันหนึ่ง
ซึ่งมันได้
หลุดลอยไปแล้ว


วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์				
ดีใจจังเลย มีคนมาอ่านด้วย
คอมเมนต์ได้ตามอัธยาศัยนะคร้าบบบบบบ
ขอเรียนแจ้งให้ทราบ ว่า โครงเรื่อง เป็นเรื่องที่กี้อ่านเจอในกระทู้เว็บไซต์นะครับ 
วิสกี้นำมาดัดแปลง เพิ่มเติมรายละเอียด ใส่สีตีไข่ และใส่พล็อตที่เป็นข้อคิดอื่นๆครับผม
ขอบคุณที่เป็นมิตรนะครับ				
				
comments powered by Disqus
  • ยัยแว่นน้ำเงิน

    30 มิถุนายน 2548 17:36 น. - comment id 76974

    ซึ้งดีนะค่ะ 6.gif
  • 4895_tiki unlogged_in

    23 เมษายน 2548 19:49 น. - comment id 84420

    มิบังอาจวิจารณ์
    
    ทิกิ
  • วงเวียนเจ้าค่ะ

    23 เมษายน 2548 21:50 น. - comment id 84426

    ขอยาดมด่วนเจ้าค่ะ  ร้องไห้แล้ว
    
    แง...แง...
  • ละอองทราย

    23 เมษายน 2548 23:01 น. - comment id 84428

    ชอบค่ะ...ดูแรงๆในตอนแรกนะ...แต่มาซึ้งในตอนสุดท้าย
    ความรัก..เธอไม่เคยรู้หรอกว่าเธอมีมัน
    จนกระทั่งในวันหนึ่ง
    ซึ่งมันได้...หลุดลอยไปแล้ว
  • 88345

    24 เมษายน 2548 20:57 น. - comment id 84453

    ดีไม่เกินไป...comment  แล้ว
  • พรพระจันทร์

    24 เมษายน 2548 21:13 น. - comment id 84455

    รูปน่ารักมากๆๆ คะ เป้ฯกำลังใจให้จ๊ะ
  • ..

    24 เมษายน 2548 23:32 น. - comment id 84480

    อ่านแล้วซะใจดีนะ
    
    แต่น่าสงสาร
    
    ตอนหลังๆๆ
    
    ความรักก็ยิ่งไหญ่อย่างนี้แหละ
  • ช็อกโกแล็ต

    25 เมษายน 2548 12:45 น. - comment id 84491

    โอยยย ลุงดี้คะ นัสตาลายง่าส์ @_@
    
    อ่านจนตาลาย หัวกลับตีลังกาเร๊ยยย
    
    อ่านไปโมโหไป.. ..
    
        มีคนแบบนี้อยู่จิงๆปล๊าวววน๊ออออ.. .
    
    ม่ายไหวๆ นะคะ.. ..
    
            เป็นเอดส์ตายพอดี เหอๆ
    
    .. ..ง่ะ 
    
      เขียนได้รุนแรง ฉะใจผู้อ่าน
    
           แถมฟามหมั่นไส้ให้อีกตั้งนะเอ๊า.. .งิงิ..^__^
    
    
  • **พาฝัน**

    25 เมษายน 2548 17:34 น. - comment id 84508

    ลุงกี้ . .
    
    เรื่องนี้มันแรงๆ
    
    และซึ้งๆ
    
    ตอนแรกอ่านแล้วอึ้งๆ
    
    แต่พออ่านขบแล้วก็ซึ้งดี
    
    
    หุหุ
    
    ลุงๆฝันไม่ฟังดูมดูม
    เพลงนั้นมันของพี่โยเค้า
    
    ของฝันอ้ะ
    
    เจ้าขุนทองนะ ^^
  • วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์

    25 เมษายน 2548 17:43 น. - comment id 84510

    สวัสดีครับ คุณ ทิกิ
    
    ขอบคุณครับพี่ทิกิ ที่แวะอ่าน
    วิจารณ์ก็ได้นะครับ 
    ข้าน้อยยังอ่อนหัด
    ในเรื่องร้อยแก้ว
    
  • วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์

    25 เมษายน 2548 17:45 น. - comment id 84511

    สวัสดีครับ คุณ วงเวียน
    
    ม่ายมียาดมอะครับ มีแต่ยาหม่อง
    อิอิ
  • วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์

    25 เมษายน 2548 17:54 น. - comment id 84514

    สวัสดีครับ คุณ พรพระจันทร์ 
    
    ขอบคุณครับ น้องรัน
    น่ารักระดับเดียวกับคนชมแหละครับ
    อิอิ
  • วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์

    25 เมษายน 2548 17:57 น. - comment id 84516

    สวัสดีครับ คุณ..
    
    ขอบคุณครับ
    แสดงว่าชอบซาดิสม์ล่ะสิ
    อิอิ
    ความรักยิ่งใหญ่เสมอครับ
    ยิ่งใหญ่กว่าการแกล้งรัก การหลอกลวง และการเกลียดชัง
    ขอบคุณครับ
  • สมทรงค่ะ

    25 เมษายน 2548 19:32 น. - comment id 84525

    ทำไมโหด เลว ดี ได้เช่นนี้
    
  • พี่วิสกี้ บุรุษแห่งเมรัย

    26 เมษายน 2548 13:10 น. - comment id 84543

    สวัสดี ครับ คุณ สมทรงค่ะ 
    
    อันนั้นมันเป็นนิสัยส่วนลึก ภายใต้ใบหน้าอันอ่อนโยนและอ่อนเยาว์ของพี่จ้ะ น้องติ๊ก
    
    เหอะๆๆๆๆ
    คอยดูเถอะ
    เจ้าพ่อวิสกี้ หล่อทุกกระบวนท่า
    อายุจริง 22 อายุสมอง 25 อายุใบหน้า 17-18
    จะมาลงโทษเจ้าเอง
    
    ปล.
    แล้วเจ้าจะสำนึก!
  • ว่าน

    26 เมษายน 2548 16:21 น. - comment id 84552

    อ่านไปขำไปค่ะ  คนอารัยจะเลวได้ขนาดน้าน....
    พอมาท้าย ๆ เรื่องก้อซึ้งดีค่ะ
  • ปลา-ทอง

    4 พฤษภาคม 2548 09:10 น. - comment id 84572

    โห...ใจร้ายมั่ก มาก
    
    อ่านเพลินเลยค่ะ...แต่จบซึ้งดีนะ
  • ถึงเธอ...ผู้ชายที่เลวเกินไป

    18 มีนาคม 2550 14:46 น. - comment id 95404

    นี่ก็เป็นเรื่องสั้นอีกเรื่องหนึ่งที่ให้แง่คิดคติสอนใจแก่ผู้หญิงเรา ใช่แล้วการทำดีกับคนที่เรารักเป็นสิ่งที่โง่  ก็อย่างว่านั่นแหละความรักมันบังตา ทำให้หัวใจมันมืดบอดมองไม่เห็น อะไร แต่แท้จริงแล้วคนที่มืดบอดมองไม่เห็นจริงๆ กลับไม่ใช่ฝ่ายหญิงหรอก แต่เป็นฝ่ายชายนั่นแหละที่มองไม่เห็นคุณงามความดีที่ผู้หญิงทำ ถึงตอนนี้คงรู้แล้วสิว่าใครโง่กันแน่  สุดท้ายนี้ก็อยากขอบคุณที่ทำให้เราสว่างกระจ่างแจ้ง
  • ......ดาน

    18 มีนาคม 2550 14:53 น. - comment id 95405

    นิสัยจริงๆของกี้เหรอครับเนี่ย  ชอบจัง

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน