นิยายรักเรื่องหนึ่ง

พระจันทร์สีชมพู

อย่าเพิ่งไปสิครับคุณ..คือเรื่องคืนนั้น..ผมขอโทษ..ผมไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ น้ำฝนเธอใจร้อนไปหน่อย..ผมขอโทษแทนเธอด้วย
ไม่เป็นไรหลอกค่ะก็แค่เจ็บตัวแล้วก็อายนิดหน่อย..สาวน้อยประชด
คุณเป้ย..เราสงบศึกกันก่อนได้มั๊ย..ให้โอกาสผมบ้าง..ผมอยากคุยกับคุณดีๆ แบบที่คุณคุยกับคนอื่นๆ 
สาวน้อยรู้สึกเขินอ้ายกับประโยคที่นายตำรวจหนุ่มพูดแม้ว่าเธอจะรู้ว่าเค้ามีแฟนอยู่แล้วแต่เธอก็ห้ามหัวใจของตัวเองไม่ได้...นายตำรวจหนุ่มก็เช่นกัน..เขาจับมือเธอไว้ไม่ปล่อยจนผู้หมวดศุภกรและแนนเข้ามาพอดี
 อะแหม่..ยัยเป้ย.ไปส่งฉันได้แล้วละเดี๋ยวฉันจะกลับไปเรียนไม่ทันนะยะ 
	
               สาวน้อยรู้สึกอายเป็นอย่างมากเธอดึงมือออกจากอุ้มมือของนายตำรวจหนุ่มเขาไม่ยอมปล่อยก่อนทวนคำขอร้องของเขาอีกครั้ง   นะครับคุณเป้ย....
สาวน้อยยิ้มรับไมตรีด้วยใบหน้าแดงกล่ำก่อนรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
	เป้ยไปส่งแนนเพื่อนสาวที่คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร  สนามจันทร์  ตลอดเวลา 1 ชั่วโมงของการเดินทางแนนพยายามถามถึงความรู้สึกในใจที่เป้ยมีให้กับนายตำรวจหนุ่ม เป้ยสารภาพและปรึกษา      แนน  เธอรู้ดีว่านายตำรวจหนุ่มมีแฟนอยู่แล้วแต่ก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้ แนนอาสาสืบความลับเรื่องหัวใจของนายตำรวจหนุ่มจากเพื่อนซื้ของเขาซึ่งก็คือผู้หมวดศุภกรหวานใจของเธอให้  ทำให้สาวน้อยรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
	ฝ่ายสองนายตำรวจหนุ่ม  ผู้หมวดศุภกรเห็นเพื่อนซี้ของเขาสนอกสนใจในตัวของสาวน้อยจึงถามเพื่อนในเชิงเตือนสติ
นายชอบน้องเป้ยเหรอ..ไอ้ดล..?
ไม่รู้ว่ะ...จะว่าชอบก็ไม่ใช่..แต่รู้สึกอยากคุยด้วยอยากเห็นหน้า..ก็เท่านั้น
อย่างนั้นน่ะเขาเรียกว่าชอบ...แล้วกับคุณฝนล่ะนายจะเอายังไง
เราว่าเรารักน้ำฝนนะ...
ถ้ารักทำไมนายถึงไม่หมั้นกับเธอจะต้องคิดมากอะไร..
ไม่รู้สิ..รู้สึกยังไม่แน่ใจอะไรบางอย่าง..
ถ้างั้นนายก็ควรจะถามใจตัวเองให้ดีว่ารักคุณฝนจริงๆ หรือแค่ชอบที่เธอสวย..ก่อนที่นายเองจะเสียใจ
จะเสียใจเรื่องไรวะ..?
ก็เรื่องน้องเป้ยไงล่ะ...
	นายตำรวจหนุ่มฟังคำจากเพื่อนแล้วก็นอนครุ่นคิดอยู่อย่างนั้น  เขายังคงไม่สามารถตัดสินใจจะเลือกคบใครหรือเลือกไม่คบใครได้ทั้งนั้น..เขาคิดในใจแต่เพียงว่าเขารักน้ำฝน..แต่ก็รู้สึกชอบสาวเป้ยอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
      น้ำฝนแฟนสาวของนายตำรวจหนุ่มมาหาที่โรงพักและได้ทราบข่าวว่าเขาถูกยิงเธอจึงรีบไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาลทันที
ดล..ฝนรู้ข่าวจากโรงพักก็รีบมาหาดลทันทีเลย..ดลเป็นอะไรมากรึเปล่าคะ..
ไม่เป็นไรมากแล้วล่ะ อีก 2-3 วันก็กลับบ้านได้แล้วครับ..
คุณไม่เป็นไรมากก็ดีแล้วล่ะ..คือ....ดลคะ...ฝนมาทวงคำตอบ...
ฝนครับตอนนี้ผมไม่สบายขอให้ผมได้พักผ่อนก่อนแล้วเราค่อยคุยเรื่องนี้กันวันหลังได้มั้ย..เขาบ่ายเบี่ยง
ก็ได้คะ..แต่อย่าให้ฝนจับได้นะว่าดลกำลังจะเปลี่ยนไปเพราะเด็กบ้านนอกคนนั้น..
ผมหิวข้าวแล้วล่ะ.. นายตำรวจหนุ่มเปลี่ยนประเด็นไปเรื่องอื่น
เดี๋ยวฝนป้อนให้นะคะ...
	ในขณะที่น้ำฝนมาเฝ้าดูแลผู้หมวดดลวัฒน์ อยู่นั้น  ผู้หมวดศุภกรได้ชวนสาวน้อยมาเยี่ยมเพื่อนของเขาพอดีและทันทีที่เปิดประตูเข้าไปทั้งคู่ก็ต้องอึ้งกับภาพที่เห็น สาวไฮโซกำลังป้อนข้าวนายตำรวจหนุ่มทั้งสองคนพะเน้าพะนอราวกับเป็นคู่สามีภรรยากัน..สาวน้อยเห็นภาพบาดตามแบบนี้ก็รู้สึกอึดอัดใจไม่น้อย  แต่เธอก็พยายามเก็บอาการเพราะไม่อยากเสียฟอร์มให้ใครรู้ว่าเธอกำลังแอบชอบนายตำรวจหนุ่มอยู่  สาวไฮโซเห็นสาวน้อยมาเยี่ยมนายตำรวจหนุ่มเธอจึงรีบแสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเอาอกเอาใจนายตำรวจหนุ่มจนออกนอกหน้า  ฝ่ายนายตำรวจหนุ่มแม้จะรู้สึกอึดอัดใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้..ได้แต่ปล่อยให้เป็นไปตามเกมส์ของสาวไฮโซ  ผู้หมวดหนุ่มเห็นสถานการณ์ไม่ค่อยดีจึงชวนคุยเพื่อลดความตึงเครียด
คุณฝนนั่นเอง..นึกว่าสาวสวยที่ไหน..พอดีผมชวนน้องเป้ยมาเยี่ยมไอ้ดลเป็นเพื่อนน่ะครับผู้หมวดออกตัว
ไม่ได้สิคะ..แฟนทั้งคนถ้าไม่มาเฝ้ากลัวว่าจะมีแมวขโมยมาคาบไปกินน่ะค่ะ สาวไฮโซตอบแล้วหันมามองสาวน้อยด้วยสายตาดุดัน
หมวดดลดูจะหายเร็วนะคะ..ได้พยาบาลพิเศษมาดูแลใกล้ชิดขนาดนี้ สาวน้อยพูดแกมประชด
นายตำรวจหนุ่มทำสีหน้าเบ้..เพราะรู้สึกไม่สบายใจที่อยู่รถไฟก็มาชนกัน
พี่กรคะเป้ยขอตัวกลับก่อนดีกว่า..เดี๋ยวต้องเขาไปที่สถานีน่ะค่ะ
เออ..งั้นพี่ขอไปด้วยคนนะครับ..เช้านี้พี่ว่าง.....เฮ้ยไอ้ดล..เราไปก่อนนะโว้ย..เอานี่ของเยี่ยม
ผู้หมวดศุภกรวางผลไม้ไว้ที่โต๊ะก่อนเดินตามสาวน้อยออกมาเพราะไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอใครและเพื่อตามมาปลอบใจสาวน้อยที่เขาสังเกตเห็นอาการของเธอที่เก็บไว้ไม่มิด
น้องเป้ย..เป็นอะไรครับดูหงุดหงิดจัง
ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่กร..เป้ยแค่จะรีบไปที่สถานี
แต่นี่เพิ่งจะแปดโมง..น้องเป้ยไปจัดรายการตอนเก้าโมงไม่ใช่หรือครับ
เออ..เอ...อ....อ สาวน้อยตอบไม่ถูกเธอถูกไล่จนมุมซะแล้ว
พี่ว่าไอ้ดลกับคุณฝนเขาเหมาะสมกันดีนะครับนายตำรวจหนุ่มแทงใจดำเพื่อสังเกตอาการของสาวน้อย
ค่ะ...เหมาะสมกันมาจนน่าจะแต่งงานกันไปไวๆ สาวน้อยพูดด้วยสีหน้าที่หงุดหงิดแล้วขับรถออกไปทำงาน
	ผู้หมวดศุภกรสังเกตสีหน้าท่าทางของสาวน้อยก็พอจะเดาออกว่าเธอเองก็แอบชอบนายตำรวจหนุ่มอยู่ไม่น้อย..นี่คงเป็นปัญหาใหญ่ที่เมื่อต่างฝ่ายต่างปากแข็งและยังโกหกตัวเอง...เขาคิดว่าคงจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ปัญหานี้มีทางออกที่ดีที่สุด     ผู้หมวดหนุ่มย้อนกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งในตอนเที่ยงหลังจากที่น้ำฝนกลับไปแล้ว
เฮ้ยไอ้กร...นายพายัยเป้ยมาทำไมวะ
แล้วเราจะไปรู้ได้ไงว่าคุณน้ำฝนมาอยู่กับนายที่นี่
หมดกันเลยงานนี้..มีหวังคุณฝนตามประกบเราแจ..แล้วยัยเป้ยคงไม่คุยกับเราอีก
แล้วนายจะเอายังไง..พูดแบบนี้มันเหมือนจับปลาสองมือนะโว้ย
ก็ไม่รู้ว่ะ...งงกับตัวเอง..ถ้าเราเลิกกับคุณฝนเพื่อไปจีบยัยเด็กนั่น..แล้วถ้าเขาไม่ได้ชอบเรา..เราก็แห้วหมดดิวะ
เออ..ก็จับปลาสองมือมันก็อย่างนี้แหละ..อดทั้งคู่...
ไม่รู้เว้ย..ไม่อยากคิดว่ะ..ช่างมันเถอะเดี๋ยวค่อยว่ากัน..
เราว่าถ้าช้า..ตาอยู่จะมาคว้าพุงปลาไปกินนะ..
หมายความว่ายังไงวะ
ก็นายทรงวุฒิลูกชายของส.จ.กิจจาไง   เห็นเทียวไปเทียวมาหาน้องเป้ยที่
บ้านอยู่บ่อยๆ.....อย่าฟอร์มจัดนักเดี๋ยวจะเสียของรักไม่รู้ตัว อีกอย่างเราคิดว่านายอาจจะไม่แห้วก็ได้เพราะน้องเป้ยก็ดูจะชอบนายเหมือนกันน้า...แต่ก็วางฟอร์มไปงั้นแหละเพื่อความเหมาะสม....นายลองคิดดูให้ดีว่าใครจะเหมาะมาเป็นคุณนายนายตำรวจจนๆอย่างเรากันแน่
	ผู้หมวดศุภกรเตือนสติเพื่อนที่ปล่อยให้ความสวยมาบังตา..ตัวเขาเองไม่ได้มีอัคติอะไรกับน้ำฝนแฟนสาวของเพื่อนหากแต่เขาคิดว่าฐานะความเป็นอยู่ที่ต่างกันและอุปนิสัยส่วนตัวของสาวไฮโซอย่างน้ำฝนอาจจะทำให้เพื่อนของเขาต้องทุกข์ถนัดก็ได้หากต้องใช้ชีวิตร่วมกันในวันหน้า
	แม้ว่าผู้หมวดดลวัฒน์จะโชคดีในเรื่องหน้าที่การงานมากกว่าผู้หมวดศุภกรแต่เรื่องความรักเขากลับแพ้เพื่อนซี้อย่างหมดรูป เพราะผู้หมวดศุภกรและแนนกำลังมีความรักที่หวานชื่นเมื่อสารวัตรสนอง พ่อของแนนเปิดไฟเขียวให้เขาทั้งคู่คบกันเพราะเห็นว่าผู้หมวดหนุ่มเป็นคนมีความรับผิดชอบดีแม้เรื่องผู้หญิงที่มาติดพันจะมีบ้างแต่เขาก็พยายามเคลียร์ตัวเองให้สะอาดเอี่ยมในสายตาของว่าที่พ่อตาปืนโหดอย่างสารวัตรสนองได้ ด้วยเหตุนี้ทำให้เขาและแนนมีเวลามากพอที่จะช่วยกันจัดการหัวใจของคนทั้งคู่ให้ออกมายอมรับความเป็นจริงเสียที
	นายตำรวจหนุ่มพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลได้ไม่กี่วันก็ต้องออกมาปฎิบัติหน้าที่และเตรียมการรับมือกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของจังหวัดที่กำลังจะมาถึง  กว่า 2  เดือนก่อนวันเลือกตั้งเป็นช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างหนักทั้งต้องคอยสอดส่องไม่ให้มีการซื้อเสียงแล้วยังต้องคอยระวังและให้ความคุ้มครองกับผู้ลงสมัครรับเลือกในครั้งนี้ให้ปลอดภัยจากมือปืนรับจ้างด้วย
	สาวน้อยก็กำลังวุ่นวายอยู่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่านายตำรวจหนุ่มจนไม่มีเวลาที่จะได้ฉลองวันเกิดอายุครบ 20 ปีของตัวเองเพราะคุณพ่อของเธอกำลังเตรียมการหาเสียงในการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ในครั้งนี้ด้วย  แม้ว่าจะมีดีกรีอดีต ส.จ.  4 สมัยซ้อนแต่ก็ไม่ได้ทำให้ทีมของคุณพ่อเธออุ่นใจเลยเพราะคู่แข่งคนสำคัญของคุณพ่อเธอนิยมวิธีการตุกติกและใช้กลโกงสารพัดซึ่งแม้แต่กฏหมายก็เอาผิดกับเขาได้ยาก   สาวน้อยและคุณพ่อจึงต้องคิดกลวิธีในการหาเสียงและป้องกันการเล่นสกปรกจากฝ่ายตรงข้ามอย่างหนัก    
	คุณพ่อไว้วางใจให้สาวน้อยออกรถหาเสียงเพราะรู้ดีว่าเธอเป็นที่รู้จักของชาวอำเภอนี้เป็นอย่างดีในฐานะของเยาวชนดีเด่นแห่งชาติและผู้ประกอบคุณประโยชน์แก่สังคม  สาวน้อยและคุณพ่อจึงขึ้นรถหาเสียงไปรอบๆ เขตการเลือกตั้ง  เป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ที่สาวน้อยได้รับบทบาทสำคัญของการเป็นลูกสาวนักการเมืองอย่างจริงจังเธอถึงกับบ่นอุบที่ทั้งเหนื่อยแสนเหนื่อยขนาดนี้ แต่เธอก็ดีใจที่จะมีส่วนช่วยในความสำเร็จของคุณพ่อที่จะมาถึงในวันข้างหน้า
	นายตำรวจหนุ่มได้เห็นบทบาทความสามารถที่มากมายของสาวน้อยจนเขาเองอดชื่นชมไม่ได้  สาวน้อยดูเป็นผู้ใหญ่  มีความคิดและความรับผิดชอบอย่างที่เขาไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน  แม้ว่าทั้งคู่จะไม่ได้มีโอกาสได้พูดคุยกันแต่นายตำรวจหนุ่มก็จะส่งยิ้มทักทายเธอทุกครั้งเมื่อได้พบเธอในขบวนหาเสียงยามที่เขาออกตรวจท้องที่
	การหาเสียงเริ่มขึ้นเพียง 2 สัปดาห์ คู่แข่งคนสำคัญคือนายประสิทธ์  ทรงอิทธิ  ก็เล่นงานนายชาญชัย  อุดมพัฒนกิจ  พ่อของสาวน้อยทั้งการทำลายป้ายหาเสียงและใบปลิวโจมตีและที่ร้ายแรงไปกว่านั้นคือการข่มขู่หัวคะแนนและลอบทำร้ายพ่อเธอ  สาวน้อยรู้สึกเป็นห่วงพ่อและแม่ของเธอเป็นอย่างมาก  เธอจึงนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับท่านผู้กำกับฯ  ทางโรงพักจึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่คอยผลัดเปลี่ยนดูแลความปลอดภัยให้กับครอบครัวของสาวน้อยเป็นพิเศษ  ซึ่งในบรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับคำสั่งก็มีนายตำรวจหนุ่มรวมอยู่ด้วย คุณพ่อของเป้ยแสดงความขอบคุณต่อท่านผู้กำกับฯ  และประทับใจในความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมาก
	สาวน้อยและนายตำรวจหนุ่มมีโอกาสได้พบปะกันมากขึ้นเพราะคุณพ่อของเธอสั่งให้เธออยู่บ้านไม่ต้องออกไปช่วยหาเสียงเพราะเกรงอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับลูกสาวเพียงคนเดียว   ในขณะที่นายตำรวจหนุ่มก็ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมาอย่างเคร่งครัด  เขาเทียวไปเทียวมาที่บ้านของสาวน้อยตลอดเวลา งานนี้นอกจากเขาจะได้ใกล้ชิดกับสาวน้อยมากขึ้นแล้วเขายังได้คะแนนนิยมจาก  นายชาญชัย  พ่อของสาวน้อยด้วย  ในฐานะของนายตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม
	1  เดือนก่อนการเลือกตั้งคุณพ่อและคุณแม่ของสาวน้อยได้จัดเตรียมการประชุมเพื่อปรับเปลี่ยนยุทธการในการหาเสียงและการป้องกันตัว  ทีมงานของคุณพ่อได้ไปประชุมกันที่ต่างจังหวัดเพื่อความปลอดภัย  ส่วนสาวน้อยต้องออกโรงหาเสียงอีกครั้งระหว่างที่คุณพ่อไม่อยู่ 1 สัปดาห์เพื่อกันการถูกโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม  โดยคุณพ่อของเธอได้ฝากฝั่งให้นายตำรวจหนุ่มช่วยดูแลเธอ 
เหนื่อยมั๊ยครับ..คนเก่ง  วันนี้ออกไปหาเสียงมาทั้งวันเลย.. นายตำรวจหนุ่มเข้ามาหาสาวน้อยที่บ้านในตอนเย็น
พอสมควรค่ะ....วันนี้ไม่ค่อยสบายตัว..ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ   สาวน้อยในท่าทางอิดโรยเธอไม่สนทนาอะไรให้ยืดยาวทั้งยังหมดแรงที่จะต่อล้อต่อเถียงกับนายตำรวจหนุ่มเหมือนวันก่อนๆ เธอจึงเดินขึ้นบันไดเพื่อไปยังห้องนอนชั้นบน  แต่ดูเหมือนว่างานนี้จะหนักเกินไปสำหรับสาวน้อย  เดินขึ้นบันได้ไปได้ไม่กี่ขั้นเธอก็เป็นลมหล่นบันไดลงมา...ทำให้นายตำรวจหนุ่มตกใจเป็นอย่างมาก..เขารีบเข้ามาอุ้มเธอแล้ววางเธอลงบนโซฟาในห้องรับแขกก่อนจะเรียกพี่นุจพี่เลี้ยงของเธอให้มาช่วยกันปฐมพยาบาล...
	นายตำรวจหนุ่มนั่งเฝ้าสาวน้อยทั้งคืนเธอมีอาการไข้สูงและสลบยังไม่ฟื้น..พี่นุจหลับไปนานแล้วเพราะก็ทำงานเหนื่อยไม่แพ้สาวน้อยเช่นกัน   นายตำรวจหนุ่มเฝ้าเช็ดตัวให้สาวน้อยทั้งคืนจนเขาเผลอหลับไป..กลางดึกคืนนั้น สาวน้อยฟื้นขึ้นมาเห็นนายตำรวจหนุ่มนอนหลับบนโซฟาข้างๆ เธอรู้สึกดีใจมากที่มีเขามาอยู่ใกล้และคอยดูแลเธอ...สาวน้อยอาการพอจะดีขึ้นบ้างเธอจึงลุกไปหายาทานเพราะกลัวว่าพรุ่งนี้จะไปหาเสียงไม่ไหวจะทำให้เสียงงานเสียการไปกันหมด  จากนั้นเธอก็หยิบผ้าห่มมาห่มให้พี่นุจ..และนายตำรวจหนุ่ม..แล้วเธอก็กลับมานอนพักผ่อนบนโซฟาตัวเดิม
	เช้าวันรุ่งขึ้นสาวน้อยลืมตาขึ้นมาเห็นใบหน้าของนายตำรวจหนุ่มอยู่ใกล้เขาเอามือลูบผมเธอเบาๆ เขามองหน้าสาวน้อยขณะกำลังหลับอย่างเอ็นดู จนสาวน้อยตื่นขึ้น
เอ้า..! ตื่นแล้วเหรอคนเก่ง..เป็นยังไงบ้างเจ็บตรงไหนบ้างรึเปล่า
ไม่เจ็บค่ะ...หายแล้ว...กี่โมงแล้วคะเนี่ย
แปดโมงเช้าแล้วล่ะ..คุณถามทำไมเหรอ..
แปดโมงแล้ว...ไม่ได้แล้วต้องไปหาเสียงแล้วละค่ะ...เดี๋ยวเสียงานกันหมด  สาวน้อยรีบลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อจะไปอาบน้ำแต่งตัว  แต่นายตำรวจหนุ่มฉุดมือเธอแล้วดึงเธอมานั่งบนตักในอ้อมแขนของเขา...
ผมให้พี่นุจโทรไปบอกคุณพ่อคุณแม่คุณแล้วว่าคุณป่วย.ท่านบอกว่าให้คุณพักจนกว่าจะหายแล้วค่อยไปทำงาน
สาวน้อยเขินอายกับท่าทีของนายตำรวจหนุ่มที่มีต่อเธอเช่นนี้ก่อนเอ่ยตอบเขาไปว่า
แต่เป้ยหายแล้วนี่คะ..ไปทำงานไหวแล้ว...
แต่ผมไม่ให้คุณไป... นายตำรวจหนุ่มกอดเธอไว้แน่น  ก่อนที่พี่นุจจะเดินยกข้าวต้มเข้ามาให้ในห้อง
อุ้ย...!!  ขอโทษทีค่ะ พี่วางข้าวต้มไว้ตรงนี้นะคะผู้หมวด..น้องเป้ย.พี่นุจวางถาดข้าวต้มแล้วรีบเดินออกจากห้องรับแขกไปด้วยความเป็นใจ
	สาวน้อยรู้สึกอายจึงต่อว่าต่อขานนายตำรวจหนุ่มยกใหญ่เพราะเธอเกรงว่าพี่นุจจะนำเรื่องนี้ไปบอกกับคุณพ่อและคุณแม่ของเธอ
 หมวด!! เมื่อไหร่หมวดจะปล่อยฉันซะที..เดี๋ยวพี่นุจก็เอาไปฟ้องพ่อจนได้ 
ผมกับพี่นุจเราตกลงกันแล้ว
อ๋อ...เดี๋ยวนี้ฮั๊วกันกระทั้งคนในบ้านฉันเลยเหรอสาวน้อยพูดพลางหยิบหมอนตีนายตำรวจหนุ่ม
	ทั้งสองหยอกล้อเล่นกันโดยต่างใช้หมอนตีกันไปตีกันมาจนบังเอิญเสียหลักล้มลงไปกันทั้งคู่ นายตำรวจหนุ่มรีบฉวยจังหวะบังเอิญจุมพิตเข้าไปที่แก้มของสาวน้อยและตาต่อตาก็มาประสานกันอีกรอบแต่ครั้งนี้ดูจะลึกซึ้งกว่าครั้งที่ผ่านมา.. ทั้งคู่เริ่มรู้ว่าต่างฝ่ายต่างมีความรู้สึกๆให้กัน..แต่แล้วก็มีอุปสรรคเข้ามาขวางเสียแล้วเมื่อเสียโทรศัพท์ของนายตำรวจหนุ่มดังขึ้น  เขาประครองสาวน้อยลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไปนอกห้องรับแขกเพื่อรับโทรศัพท์  
	น้ำฝนแฟนสาวของเขาโทรมาต่อว่าที่ยังคงไม่ได้คำตอบเรื่องการหมั้นกับเขา 
ดลคะ..คุณออกจากโรงพยาบาลมาเดือนหนึ่งแล้ว..แต่คุณยังไม่ได้ให้คำตอบฝนเลย
คือ...ฝนตอนนี้ผมงานยุ่งมากเพราะจะมีการเลือกตั้ง...เดี๋ยวเราค่อยคุยกันได้มั๊ย
คงเดี๋ยวไม่ได้แล้วละค่ะดล...คุณใจดำมา 1 เดือนเต็มๆ ที่คุณไม่ติดต่อฝนเลย..นังเด็กบ้านนอกทำคุณเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้..ฝนคงจะไม่มีค่าสำหรับคุณแล้วใช่มั๊ย
ไม่นะฝน..คุณเป็นคนที่ผมรักนะฝน
ฝนชักไม่แน่ใจแล้วว่าดลยังรู้สึกเหมือนกับที่พูดอยู่หรือเปล่า..ฝนจะรอคำตอบจากคุณอีก 1 เดือนเท่านั้นนะคะ  ดลควรจะเลือกได้แล้วระหว่างฝนกับนังเด็กบ้านนอกนั่น
แฟนสาวไฮโซพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือราวกับว่าเธอกำลังร้องไห้..ก่อนเธอจะวางสายไป   สาวน้อยซึ่งแอบฟังนายตำรวจหนุ่มคุยโทรศัพท์กับแฟนสาวแล้วก็อดช้ำใจไม่ได้ที่เธอยังคงไม่ได้เป็นคนที่เขารักอย่างที่น้ำฝนเป็น เธอรีบเช็ดน้ำตาแล้วเดินเข้าไปนั่งในห้องเหมือนกับไม่ได้รู้ได้เห็นอะไร   ในขณะที่นายตำรวจหนุ่มเดินกลับเข้ามาด้วยสีหน้าที่เศร้าผิดกับเมื่อสักครู่ที่ทั้งคู่ยังสนุกสนานหยอกล้อกันอยู่
 หมวดเป็นอะไรไปค่ะ..ดูสีหน้าไม่ค่อยดี อย่าเครียดสิคะยิ้มเขาไว้แล้วโลกจะสดใสเอง  สาวน้อยพูดพลางทำหน้าทะเล้นและยิ้มหวานให้กับนายตำรวจหนุ่ม  
ขอบคุณครับ...เขารู้สึกสดชื่นขึ้นมาได้จริงๆ สาวน้อยเป็นเสมือนยารักษาแผลใจให้กับเขาในตอนนี้   
คุณเป้ย...เรียกผมว่าพี่เหมือนกับที่เรียกไอ้กรได้มั้ย...ดูสนิทสนมกันมากกว่านะ
ได้ค่ะถ้าคุณสัญญาว่าจะไม่กวนประสาทเป้ยอีก..เราก็จะเป็นพันธมิตรกัน
ได้ครับ..ด้วยเกียรติของตำรวจไทยเลย... 
งั้นมาเกี่ยวก้อยสัญญากัน  
 ตกลง...
หมวดเกี่ยวก้อยสัญญาแล้วนะว่าเราจะเป็นพันธมิตรกัน
คุณเป้ยก็ต้องเรียกผมว่าพี่
ได้เลย....พี่หมวด  สาวน้อยตอบรับด้วยท่าทางทะเล้น..น่ารัก
	นายตำรวจหนุ่มสังเกตเห็นถึงตัวตนในหลายๆ แบบที่สาวน้อยแอบซ่อนไว้เธอเป็นทั้งเด็กน่ารักและผู้ใหญ่ที่รอบคอบในเวลาเดียวกัน นับได้ว่าเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ในตัวอยู่มาก  มันเป็นสิ่งดีๆ ที่เขาไม่เคยสัมผัสได้จากน้ำฝนแฟนสาวไฮโซมาก่อน  ซึ่งสาวน้อยกลายเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้เขาตัดสินใจให้คำตอบกับแฟนสาวได้ยากขึ้น
...........................................โปรดติดตามตอนต่อไป....................................
				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน