ปราสาททราย

ลูกเป็ดขี้เหร่

สายลมโปรยไอหนาวมาสู่ผิวกาย  พัดผ่านร่างที่แสนบอบบางของเด็กน้อยที่ยังคงวิ่งเล่นอย่างสนุกสนานที่ชายหาด ใบหน้าของเธอเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่แสนบริสุทธิ์ยิ่งนัก นี่ก็เย็นมากแล้ว แต่หนูน้อยยังคงไม่ยอมหันหลังกลับเข้าบ้านเสียที
                   แม่ให้เวลาอีกแค่ 1 ชั่วโมงนะลูก  อย่าไปไหนไกลนะ  ทรายแก้ว!
	ทรายแก้วหันมายิ้มอย่างน่าเอ็นดูต่อเจ้าของเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใย หนูน้อยวิ่งออกสู่พื้นที่เต็มไปด้วยน้ำทะเล แม้จะลึกเพียงแค่ข้อเท้าของเธอเท่านั้น เธอเหยียบย่ำมันเล่น และพอใจกับน้ำทะเลซึ่งกระเซ็นขั้นตามแรงของเธอ
                                เล่นด้วยคนได้ไหม?
      	ทรายแก้วพยักหน้ารับ เด็กผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกับเธอยิ้ม แล้วชวนทรายแก้วพูดคุยด้วย
                          เธอเป็นลูกของคนบ้านนั้นเหรอ?
                           อืม.. ฉันชื่อ ทรายแก้ว เธอล่ะ
                           เรา ชื่อ วิน  ภาษาอังกฤษที่แปลว่าลมน่ะ  
	วิน หันมายิ้มให้ทรายแก้ว แล้วคว้ามือของเธอไปนั่งกองกับพื้นทรายที่ขาวและนุ่ม ซึ่งดูเหมาะสมต่อผิวที่บอบบางของเธอยิ่งนัก
                           ทรายแก้ว..  มาก่อปราสาททรายกันเถอะ
	วินใช้สองมือตักทรายมาก่อเป็นรูปเป็นร่าง ทำให้ทรายแก้วอดที่จะเล่นด้วยไม่ได้ เธอลังเลอยู่เล็กน้อยก่อนที่จะประคองมือที่อ่อนนุ่มตักทรายขึ้นมาก่อบ้าง
                           ก่อปราสาททรายทำไมเหรอวิน  ทำไมไม่ก่ออย่างอื่นล่ะ
             ปราสาททรายแหละดีแล้ว ถ้าก่อเสร็จนะ  เราจะให้ทรายแก้วเป็นเจ้าหญิง แล้วเราก็จะเป็นองครักษ์อยู่นอกกำแพง คอยป้องกันไม่ให้ศัตรูมาลอบทำร้ายเจ้าหญิงของเราตลอดไป
	วินลุกขึ้นยืน ตะโกนอย่างภาคภูมิใจ ทรายแก้วเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ  
            วิน   แล้วทำไม องครักษ์ต้องอยู่นอกกำแพงด้วยล่ะ อยู่กับเจ้าหญิงในกำแพงไม่ได้เหรอ
	   ได้ไงล่ะ   องครักษ์ไม่กล้าอาจเอื้อมหรอก ที่สำคัญนะ อยู่นอกกำแพง เราจะได้เห็นศัตรูง่ายและก็เร็วขึ้น  เราจะได้จัดการกับมัน ก่อนที่มันจะทำอะไรเธอไง
	ปราสาททรายที่ทั้งสองคนร่วมแรงร่วมใจกันสร้าง เริ่มประคองเป็นรูปเป็นร่าง เสียงคลื่นซัดสาดอยู่เป็นระยะ ตะวันค่อยๆเคลื่อนลงต่ำจนเกือบจะพ้นโขดหิน
                            เสร็จแล้ว  สวยมั้ยเจ้าหญิง   
        	วินยกแขนขึ้นปาดเหงื่อและเม็ดทรายที่เปื้อนหน้า  ทรายแก้วยิ้มอย่างมีความสุข
                        ไปหาเปลือกหอยมาประดับดีกว่า มีเจ้าหญิงสวยๆ ก็ต้องมีปราสาทที่สวยด้วย 
	วินวิ่งนำทรายแก้วไปข้างหน้า ทรายแก้วค่อยๆพยุงด้วยเองลุกขึ้นแล้ววิ่งตามไป บนโขดหิน วินเก็บเปลือกหอยได้มากมาย ทรายแก้วค่อยๆปีนป่ายเพื่อไปยืนข้างๆวิน แต่แล้วก็เสียหลักทำทีท่าว่าจะล้ม วินคว้ามือทรายแก้วไว้ ประคองขึ้นอย่างนิ่มนวล
                 ระวังหน่อยสิ เจ้าหญิง
                ไม่เห็นต้องระวังเลย ถ้าเราล้ม เจ้าก็ต้องช่วยเราให้ได้ทุกครั้ง เจ้าสัญญาได้หรือไม่
	ทรายแก้วเล่นบทเจ้าหญิงได้คล่องแคล่ว วินยิ้มรับ
                 ข้าขอสัญญาว่า ข้าจะคอยคุ้มครองและจงรักภักดีต่อเจ้าหญิงของข้าตลอดไป!!
	ทรายแก้วหัวเราะชอบใจ  เด็กน้อยทั้งสองวิ่งเล่นจนลืมเวลา ขณะนี้ทรายแก้วได้ลืมไปแล้วว่า เธอได้รับปากกับแม่ของเธอไว้ว่าอย่างไร บทเจ้าหญิงที่วินหยิบยื่นให้ ทำให้ทรายแก้วรู้สึกมีความสุขและพอใจมาก คงไม่มีใครคาดคิดหรอกว่ามิตรภาพที่ก่อตัวขึ้นในเวลากว่าชั่วโมงนี้ทำให้ทั้งสองยากที่จะลืมได้
                  ทรายแก้ว  มาเล่นอยู่นี่เอง แม่ตามหาตั้งนาน 
	ผู้หญิงคนหนึ่งท่าทางเหนื่อยหอบ สีหน้าค่อยคลายกังวลขึ้น
                  คุณแม่คะ  ทรายแก้วขอโทษค่ะ  นี่เพื่อนใหม่ของทรายแก้วค่ะ ชื่อวิน
	เด็กหนุ่มตัวน้อยๆพยักหน้ารับ พร้อมยกมือไหว้อย่างสุภาพ แม่ของทรายแก้วยิ้มให้เขาอย่างเอ็นดู แล้วหันมาหาลูกสาวที่แสนทะนุถนอม
                  กลับเข้าบ้านเถอะทรายแก้ว มืดค่ำแล้วนะ เดี๋ยวคุณพ่อจะเอ็ดเอา รีบเข้านอนจะได้ตื่นแต่เช้าเตรียมตัวกลับบ้านกัน
                  กลับพรุ่งนี้แล้วหรือฮะ คุณน้า?
     	วินสีหน้าผิดหวัง เธอเพิ่งจะได้รู้จักทรายแก้ววันนี้แท้ๆ ทรายแก้วเองก็มีสีหน้าไม่อยากกลับเท่าไรนัก เด็กน้อยวิ่งไปที่ปราสาททรายแล้วหยิบเปลือกหอยที่ประดับอยู่มาให้วิน
                   เก็บไว้นะองครักษ์ผู้ซื่อสัตย์ เราให้เจ้าเป็นรางวัล
	ทรายแก้วยิ้มให้ ทั้งที่สีหน้ายังกังวลใจยิ่งนัก
                   พรุ่งนี้ก่อนกลับ  ข้าจะมารอเจ้าหญิงอยู่ที่นี่ ที่ปราสาททรายของเรา เรามาอำลามันเป็นครั้งสุดท้ายด้วยกันนะ  สัญญากับข้านะเจ้าหญิง
	วินกล่าวก่อนที่แม่ของทรายแก้วจะจูงมือทรายแก้วหายไปในความเงียบ
                              
	ตะวันทอแสงอ่อนๆ วินนั่งซึมอยู่ข้างกองทรายที่ไม่เป็นรูปเป็นร่าง สีหน้าของเขาดูหดหู่ยิ่งนัก เขามารอทรายแก้วตั้งแต่ดวงจันทร์ยังไม่ลับฟ้าและป่านนี้ เจ้าหญิงของเขาก็ยังไม่มา และเขากำลังจะกลับ
                   เจ้าไม่อยากรอเราแล้วรึไง หรือเราไม่สำคัญกับเจ้าแลัว
	วินหันกลับด้วยรอยยิ้ม เจ้าหญิงของเขายังไม่ทิ้งเขาไป เขาวิ่งมาหาเธอด้วยความดีใจ
                  ทำไมปราสาททรายถึงเป็นเช่นนี้ล่ะ  
        ทรายแก้วทรุดตัวลงกับพื้นทราย น้ำตาคลออย่างไร้สาเหตุ วินเองก็ไม่นึกว่าทรายแก้วจะเสียใจเพราะเรื่องนี้  
                  มันเป็นธรรมดาน่ะเจ้าหญิง อย่าเสียน้ำตาให้กับมันเลย
                  ทำไมมันถึงพังแบบนี้ล่ะ ใครเป็นคนทำ
        ทรายแก้วโกยเม็ดทรายขึ้นด้วยสองมือ หยดน้ำตาของเธอร่วงลงบนเม็ดทราย 
                  เจ้าหญิง เราอยากจะบอกท่านว่า เราทั้งสองคนก็เหมือนปราสาททรายที่เราร่วมกันสร้างขึ้นนั่นแหละ ท่านอย่าร้องไห้ไปเลย
	วิน เดินมานั่งข้างๆทรายแก้ว ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
                  เจ้าหญิงจะเสียใจทำไม ในเมื่อเม็ดทรายพวกนี้ แต่แรกแล้ว มันก็มาจากทะเล แม้ว่าเราสองคนจะสร้างมันให้กลายเป็นปราสาทที่ดูแข็งแรงเพียงใด ไม่นาน มันก็จะต้องกลับคืนสู่ผืนทะเลที่เดิมของมัน เราว่าเจ้าหญิงควรจะทำใจรับมันให้ได้จะดีกว่า อีกไม่กี่นาทีนี้ เราก็ต้องจากกันแล้ว
	ทรายแก้วยังคงทำสีหน้าไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็พอรับรู้ได้ถึงเจตนาที่วินกำลังจะสื่อถึง สาวน้อยเช็ดน้ำตาด้วยสองมือของเธอ แล้วยิ้มขึ้นอีกครั้ง
                  ไม่เป็นไรนิ่  มันพัง เราก็สร้างมันขึ้นมาใหม่ได้
	ทรายแก้วรีบก่อกองทรายขึ้น วินเองก็ช่วยเธอสุดแรง ปราสาททรายถูกสร้างขึ้นใหม่อีกครั้ง พร้อมกับเสียงเดิมที่มาพรากเธอไปจากเขา
                   ได้เวลาแล้วลูก คุณพ่อรออยู่นะ
        ทรายแก้วมองวินแล้วยิ้มอย่างอาลัย ก่อนที่แม่จะจูงเธอจากไป  วินเองวิ่งตามไปที่รถ พร้อมกับตะโกนในวินาทีสุดท้าย
                จำคำของเราไว้นะเจ้าหญิง เราจะคอยคุ้มครองและจงรักภักดีต่อเจ้าหญิงตลอดไป
	รถแล่นออกไปช้าๆ แล้วหายลับไปสุดขอบของถนน วินมองตามราวกับหัวใจของเขาอยู่บนรถนั้น
                       .
	18 ปีแล้วที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ทรายแก้วเรียกสติกลับมาได้หลังจากที่คิดถึงองครักษ์ของเขา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทรายแก้วหวนกลับไปคิด หลังจากวันนั้น ทรายแก้วไม่เคยลืมเลย ว่ามีคนหนึ่งคนที่ยิบยื่นมิตรภาพที่แสนบริสุทธิ์ให้กับเธอ และบัดนี้ เธอได้เติบโตขึ้น กระจกที่อยู่เบื้องหน้าของเธอทำให้เธอกลับเศร้าลง เธอสวมชุดสีขาว ราวกับเจ้าหญิงในหนังสือนิทาน เธอได้แต่นึกถึงองครักษ์ของเธอวันนั้น เขาจะรู้บ้างไหม ว่าวินาทีนี้ เจ้าหญิงของเขางดงามขนาดไหน
                             แต่งตัวเสร็จรึยังจ๊ะ ทรายแก้ว
                แม่ของเธอเปิดประตูเข้ามา และแสดงอาการตกตะลึงในความงามของเธอ
                             ลูกสวยมากนะรู้ไหม ทรายแก้ว ยิ่งถ้าลูกยิ้มอีกซักนิดนะ ลูกจะสวยมากเลยล่ะ
                            คุณแม่ค่ะ  หากแม่ได้แต่งงานกับคนที่คุณแม่ไม่ได้รักและไม่เคยเห็นหน้า คุณแม่ยังจะยิ้มออกหรือคะ
	ทรายแก้วเบือนหน้าหนีออกจากกระจกที่กำลังสะท้อนภาพที่เธอร้องไห้ให้แม่ของเธอเห็น เธอมองออกไปที่หน้าต่าง
                                   คุณพ่อท่านรักลูกมากนะ ท่านอยากให้ลูกสบาย
                             แม่คะ ทรายแก้วอยากเจอเขาอีกครั้งค่ะ
	               แม่รู้ว่าที่ลูกกลับมาที่นี่อีกครั้งก็เพื่อจะมาพบเขา แต่มันเป็นแค่ความฝันนะลูก ความจริงคือลูกต้องแต่งงานนะจ๊ะ
     	ทรายแก้วทรุดตัวลงพิงกับกำแพง ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา แม่ของเธอก้มหน้าอย่างเจ็บปวด
                             ที่นี่วันนั้น หนูมีความสุขที่สุดค่ะ
	ท่ามกลางความเงียบ  ทรายแก้วครุ่นคิดแต่ความทรงจำเดิมๆ 
	               แม่คะ?  ถ้าหนูเจอเขาอีกครั้ง เขาจะจำหนูได้ไหมคะ
	ประตูปิดลงช้าๆ  ทรายแก้วเดินลงบันไดพร้อมกับแม่ของเธอซึ่งเดินอยู่ข้างๆ ภาพที่เธอปรากฏต่อแขกทุกคนที่มาร่วมงาน บางคนก็ทักว่าเธอสวยราวกับนางฟ้า บางคนก็ทักว่าเธอสวยราวกับเจ้าหญิง  เธอได้แต่ยิ้ม ทั้งที่ใจเธอแทบจะขาด
	พิธีกรประกาศให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวเริ่มพิธี ทรายแก้วปวดร้าวเป็นที่สุด  เธอค่อยๆก้าวขึ้นเวทีอย่างช้าๆ ใบหน้าของเธอยังคงก้มอยู่ตลอดเวลา
                         เราจะคุ้มครองและจงรักภักดีต่อเจ้าหญิงของเราตลอดไป
	เสียงนั้นทำให้ทุกคนหยุดชะงัก ทรายแก้วยังจำได้ดี เธอหันไปตามเสียง  บัดนี้วินได้ยืนอยู่เบื้องหน้าของเธอ  เขายิ้มให้ทรายแก้วแล้วหยิบเปลือกหอยอันเก่าที่ทรายแก้วให้เขาไว้วันนั้นยื่นให้ทรายแก้ว พร้อมกับทวนคำพูดเดิม
                        เราจะคุ้มครองและจงรักภักดีต่อเจ้าหญิงของเราตลอดไป
	ทรายแก้วโผเข้าไปหาวินด้วยความดีใจ เธอร้องไห้ ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไป เธอยิ้มอย่างมีความสุข       
                       เจ้ายังไม่ลืมเราจริงๆ      ทรายแก้วยิ้ม
                      เจ้าหญิง..  เราดีใจที่ท่านยังไม่ทิ้งเราไว้ในความทรงจำ  เราขอสัญญาว่าเราจะไม่ห่างจากเจ้าหญิงอีก
	จริงอยู่ที่ปราสาททรายได้พังลง และไหลคืนสู่ท้องทะเล แต่บัดนี้ คนทั้งสองได้ก่อปราสาทขึ้นใหม่แล้วในหัวใจของเขาและเธอ ปราสาทที่เต็มไปด้วยความรัก และไม่มีวันทลายลง ด้วยความเชื่อมั่นและความซื่อสัตย์ คงอีกไม่นาน ที่พวกเขาจะสามารถพิสูจน์รักแท้ต่อทุกคน.				
พิมพ์เองค่ะ				
comments powered by Disqus
  • ลูกเป็ดขี้เหร่

    16 มีนาคม 2546 17:44 น. - comment id 67701

    ทำไม วันนี้ ดูเงียบๆจัง
    
  • jake

    16 มีนาคม 2546 20:49 น. - comment id 67704

    จินตนาการดี แต่ไม่ค่อยจะมีเหตุผลสักเท่าไร ในตอนจบไม่ค่อยจะสมจริงในตอนที่ว่าทรายแก้วแต่งงานแล้วอยู่ดีๆวินก็โผล่มาและผมก็ไม่เข้าใจว่าเจ้าชายในงานนั้นน่ะเป็นนายวินหรือเปล่า ส่วนตอนเด็กน่ารักดีแต่เด็กแก่แดดไปหน่อย ผมคิดว่าคุณมีจินตนาการที่ดีแต่เนื้อเรื่องไม่ค่อยสมจริง และขอขอบพระคุณที่กรุณาส่งมาให้อ่านและจะติดตามผลงานต่อไป........
  • jake

    16 มีนาคม 2546 20:49 น. - comment id 67705

    จินตนาการดี แต่ไม่ค่อยจะมีเหตุผลสักเท่าไร ในตอนจบไม่ค่อยจะสมจริงในตอนที่ว่าทรายแก้วแต่งงานแล้วอยู่ดีๆวินก็โผล่มาและผมก็ไม่เข้าใจว่าเจ้าชายในงานนั้นน่ะเป็นนายวินหรือเปล่า ส่วนตอนเด็กน่ารักดีแต่เด็กแก่แดดไปหน่อย ผมคิดว่าคุณมีจินตนาการที่ดีแต่เนื้อเรื่องไม่ค่อยสมจริง และขอขอบพระคุณที่กรุณาส่งมาให้อ่านและจะติดตามผลงานต่อไป........
  • กระดานโต้คลื่น

    18 มีนาคม 2546 00:15 น. - comment id 67714

    พิมพ์   น่ารักจังนะค่ะ......
           อยากเป็นเจ้าหญิงจัง.............เฮ้ย....คนใฝ่ฝันของเด็กน้อยก็อย่างเนี้ย...........
  • ดาวเหงา

    18 มีนาคม 2546 16:25 น. - comment id 67718

    แล้วจ้าวบ่าวคือใครอ่ะคะ
  • ลูกเป็ดขี้เหร่

    18 มีนาคม 2546 16:25 น. - comment id 67719

    ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนะคะ  คุณพูดได้เยี่ยมมากค่ะ  jake   
    
      กระดานโต้คลื่นคะ  ไม่ว่าใครก็เป็นเจ้าหญิงได้ทั้งนั้นแหละค่ะ   หลับตาแล้วจินตนาการเอาได้เลย
  • ลูกเป็ดขี้เหร่

    18 มีนาคม 2546 17:07 น. - comment id 67723

    จ้าวบ่าวก็.....ไม่มีไง  อิอิ
  • โจรพันหน้า 555

    21 มีนาคม 2546 18:09 น. - comment id 67750

    ใช้ได้...เอาเรื่องอื่นมาลงอีกเดะ จะวิจานให้^_^
  • แม่มดน้อยค่ะ

    24 มีนาคม 2546 01:47 น. - comment id 67799

    น่ารักมากเลยจ๊ะ
    เก่งจังเลยนะ. . .
    ชักอยากก่อปราสาททรายบ้างแล้วซิ
    
    =^____^=
  • windsaint

    25 มีนาคม 2546 17:09 น. - comment id 67822

    อะแฮ่ม มาอีกแล้วคนแก่หน้าเดิม อิอิ
    (แอบย่องมาตอนเขาไม่อยู่จะได้วิจารณ์ตรงๆ)
    
    เก่งขึ้นในเรื่องของสำนวน สงสัยจะเป็นเพราะกลอน
    ช่วยได้มากจริงๆแฮะ ภาษากับลำดับเรื่องดี
    แต่ว่าตัวอักษรเล็กไป คนแก่มองไม่เห็น แหะๆๆ
    
    ในด้านของหลักตรรกะ ยังหาเหตุผลไม่ครอบคลุม เหตุผลที่อยู่ๆวินโผล่มา(ทำไมต้องชื่อวินด้วยอะ มัน... เติมsaint ลงไปมิเป็นฉันรึนี่ โอ้ไม่)มันไม่เข้ากับที่แม่บังคับให้แต่งงาน อย่ารวบรัดเรื่องจนเกินพอดี เพราะคนอ่านงงมาก
    
    ปล. รูปสวยดี ถึงจะไม่เข้ากับเรื่องก็เหอะ อิอิ
  • windsaint

    27 มีนาคม 2546 21:56 น. - comment id 67885

    หลังจากดูเรื่อง สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย 
    แหะๆๆ พี่ว่ามันชักคล้ายเกินไปหน่อยมั๊ยพิม โดยเฉพาะช่วงแรก
    ใกล้เคียงมาก อิอิ 
    แค่สังเกตนะ ลองมาเปรียบเทียบดู
  • ลูกเป็ดขี้เหร่

    2 เมษายน 2546 20:51 น. - comment id 67968

    อ่ะนะ  พี่ลม จอมวิจารณ์  แอบมาตอนพิมพ์เผลอซะนี่ ขอบอกอ่ะนะ  เรื่องนี้แต่งกลอนเรื่องสุภาพบุรุษลูกผู้ชายจะฉายซะอีก  ออกมาตรงกันตอนแรกก็งงอ่ะนะ  แต่ก็โอเค  ที่ตั้งชื่อวินอ่ะ  ก็ไม่รู้จะตั้งอะไรดี  เกิดที่ทะเล น่าจะคู่กะสายลมอ่ะนะ ก็เลยลองๆใช้ชื่อนี้ดู  ลืมไปว่าพี่ปุ๊กกี้ก็มีชื่อว่าวิน...   เหมือนกัน   แต่ก็ขอบคุณนะคะที่ยังชมกันอยู่ ดีใจนะคะที่ยังแวะเข้ามาอ่าน  ขอบคุณจากใจค่ะ
  • Lovely_boy

    12 เมษายน 2546 22:32 น. - comment id 68163

    อิอิ เปิดเรื่องแรกเจอเลย 
    สนุกมากๆๆๆๆๆ
  • มีแค่ 4 ดาวอ่ะ

    29 พฤษภาคม 2546 15:25 น. - comment id 68855

    จิงด้วยนิ สำนวนเยี่ยม...
    แต่ไม่ค่อยสมเหตุผล...
    โดยรวมเอาไป 4 ดาววว อิอิ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน