บ้านไม้ไผ่กับชายแปลกหน้า

ป.ยุทธ

บ้านไม้ไผ่กับชายแปลกหน้า 
 
                     บ้านไม้ไผ่ยกพื้นสูงหลังคามุงหญ้าแฝกหลังนี้ ยื่นระเบียงออกไปเหนือลำธารน้ำใสไหลเอื่อยๆ  บริเวณรอบบ้านห้อมล้อมไปด้วยผืนป่า     ต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านปกคลุมจนดูหนาทึบเสียจนมืดครึ้มเยียบเย็น
	หญิงสาวรู้สึกตัวขึ้นมาอย่างงงงันกับสถานที่ที่กำลังนอนอยู่    เธอค่อยๆ ยันกายลุกขึ้นนั่งจากที่นอนชั่วคราวที่มีเสื่อผืนหมอนใบอยู่ชิดฝาผนังไม้ไผ่สานใต้ชายคาหญ้าแฝก  และแล้ว..เธอก็ต้องตกใจเมื่อรู้ว่าขาข้างหนึ่งถูกโซ่เส้นเขื่องพันธนาการไว้กับเสาหลักของบ้าน  ไม่นานนักบ้านก็สั่นไหวเล็กน้อยก่อนปรากฏชายแปลกหน้าก้าวขึ้นบันไดมาบนบ้าน  
                      เธอพยายามระงับความตกใจมองเขาเดินไปยืนพิงราวระเบียงหันหน้ามามองเธออย่างยิ้มเยาะ แต่ไม่มีคำพูดใดๆ
	แกจับฉันมาทำไม  เธอตัดสินใจถามออกไป
	เขาไม่ตอบ
	ปล่อยฉันเถอะนะ...ขอร้องล่ะ  อยากได้อะไรบอกมาเลย  เธอเปลี่ยนจากถามมาเอ่ยอ้อนวอน
	นะ  นะ อย่าทำอะไรฉันเลย เธอกล่าวพลางเพ่งมองชายแปลกหน้าอย่างรอคำตอบ
	..เงียบ...
	นี่นายพูดไม่รู้เรื่องหรือไง...อ๋อหรือว่าเป็นใบ้ เธอชักหงุดหงิดเมื่อคู่สนทนาไม่โต้ตอบ
	เขาค่อยๆ หย่อนตัวลงนั่งกับม้านั่งริมระเบียงแล้วไขว่ห้างจ้องเธอเขม็ง
	เธอสบตานั้น...
	ใบหน้าที่คมเข้ม  หนวดเคราเรียวบางดูดุดัน    คาดคะเนอายุอานามคงใกล้เคียงกับเธอ
	ถามจริงๆ เถอะนายจับฉันมาทำไม เธอถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
	เรียกค่าไถ่  เขาตอบก่อนหันหน้าไปมองสายน้ำที่ไหลเอื่อยผ่านโขดหิน
                      เธอสะดุ้งนิดๆ   ก่อนแสยะที่มุมปาก 
หึ..พวกกระหายเงินนี่เอง หน้าตาก็ดูดี แต่ดันเป็นโจร...ไม่รู้จักทำมาหากิน  ช่างไม่ละอายใจเสียบ้างเลย เธอคิด 
                      แล้วที่นี่ที่ไหนล่ะ  เธอพยายามถามอย่างเป็นมิตร
                      ป่าลึก เขาตอบห้วนๆ  
                      ป่าลึก เธอทวนคำพูดเสียงดัง  พลางนึกประมวลเหตุการณ์ที่ถูกจับมา แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าตกเป็นเหยื่อโจรเรียกค่าไถ่นี้ได้ยังไงกัน
                      แล้วนายจับฉันมาตอนไหน ทำไมฉันจึงไม่รู้ตัวเลย 
                      หึๆ  น่าขัน ผู้ดีตีนแดงตะแคงตีนเดินอย่างเธอ  วันๆ ตื่นขึ้นมาก็มีเงินมีทองใช้อย่างเหลือเฟือจะรู้เรื่องรู้ราวอะไร กะอีแค่ถูกจับมาก็ยังไม่รู้ตัว เขาพูดอย่างใส่อารมณ์  แต่เธอก็โต้ตอบทันควัน
                       ใช่..ฉันมีเงิน แต่ก็เป็นเงินที่หามาด้วยธุรกิจอันสุจริต ไม่ได้จี้ปล้นหรือจับใครมาเรียกค่าไถ่เหมือนนาย
                       ฮ่าๆ ๆ  ดูช่างไร้เดียงสาจริงนะ คิดหรือว่าคนอย่างผมจะเชื่อ... คุณก็เหมือนพ่อของคุณนะแหละ    คดโกงชาวบ้านเสียจนร่ำรวย  เขาเว้นระยะก่อนพูดต่อ
                         มิหนำซ้ำยังตัดไม้ทำลายป่าจนฟ้าฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล  บางปีน้ำก็ท่วมเสียจนเดือดร้อนกันไปทั่ว เขาพูดพลางเดินเข้ามานั่งยองๆ ลงใกล้ๆ สบตาเธอ 
                         คดโกงอะไรฉันไม่เห็นจะรู้เรื่อง  อย่ามากล่าวหากันลอยๆ   ส่วนเรื่องตัดไม้ เราสัมปทาน ถูกต้องตามกฎหมาย  เธอจ้องหน้าชี้แจงอย่างไม่สบอารมณ์ 
                          เขาขบกรามพลางจับคางเธอเชิดขึ้น  แต่ก็ถูกเธอปัดมือออกเร็วไว
                         นี่คุณไม่รู้หรือแกล้งโง่กันแน่ว่าพ่อคุณน่ะ   ให้ชาวบ้านกู้ยืมเงินแล้วคิดดอกเบี้ยทบต้น ต้นทบดอก บางทีก็เขียนตัวเลขดอกเบี้ยเอาตามอำเภอใจ  เมื่อใครไม่มีให้ก็ยึดไร่ ยึดนาสิ้นเนื้อประดาตัวไปตามๆ กัน 
                         ไม่...ไม่จริง  นายโกหก เธอส่ายหน้าก่อนพูดต่อ
พ่อของฉันไม่ใช่คนอย่างนั้น  เรามีรายได้มากพอจากการทำไม้ไม่จำเป็นต้องคดโกงใคร
	ใช่ซี้...ก็เดี๋ยวนี้ร่ำรวยจากการทำไม้แล้วนี่ พูดจบเขาลุกขึ้นเดินไปที่ราวระเบียงหันหน้าไปทางทิวเขาชั่วครู่ก่อนหันกลับมาที่เธออีกครั้ง
	คงพอรู้แล้วซินะว่าผมจับคุณมาเพื่ออะไร
	รู้...นายเห็นฉันรวย  ก็เลยจับมาเรียกค่าไถ่  นายก็โจรดีๆ นี่เอง  
	เขาเพ่งมองเธอด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม
	บอกให้ก็ได้...ผมจับตัวคุณมาเพื่อขอแลกเอกสารกู้ยืมเงินกับโฉนดที่ดินทั้งหมดของชาวบ้านจากพ่อของคุณ ส่วนทรัพย์สินเงินทองอย่างอื่นผมไม่ต้องการ เขาเปล่งเสียงดังฟังชัด
	เธออึ้งในคำพูดของเขา   พลางมองหน้ารอฟังเขาพูดต่อ
	พ่อของคุณรวยอยู่แล้ว  กะอีแค่สัญญากู้เงินไม่กี่แสนขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก
	แล้วนายเป็นใคร ทำอย่างนี้เพื่ออะไร เธอถามทันควัน
	ผมก็เป็นลูกชาวบ้านคนหนึ่งที่ถูกพ่อคุณยึดที่นานะแหละ น้ำเสียงเขากระชาก
	ฉันไปเรียนเมืองนอกหลายปี  ไม่รู้เรื่องพวกนี้หรอก น้ำเสียงเธออ่อนลง   
อ้อ..  ขอถามหน่อย...นายจับฉันมาได้ยังไง  
	ได้..  บอกก็ได้...ผมเตรียมแผนการจับคุณมาหลายเดือนแล้ว   ผมสร้างบ้านหลังนี้ไว้กักขังคุณนี่แหละ   ผมสืบรู้ว่าคุณมาที่ปางไม้กับพ่อของคุณทุกวันอาทิตย์ ผมดักรอจังหวะมาหลายครั้งแล้ว   จนครั้งนี้สบโอกาสเมื่อคุณเดินแยกออกมาจากกลุ่ม  ผมจึงใช้ยาสลบปิดจมูกคุณ...แล้วอุ้มขึ้นม้าพามาที่นี่ เขาอธิบายเรียบๆ เมื่อเห็นว่าเธอไม่รู้เรื่องด้วยกับพ่อ
	เธอหลับตาถึงเหตุการณ์อย่างเข้าใจ  แต่แล้ว..เธอฉุกคิดขึ้นมาได้
 เอะนี่แสดงว่าเราถูกจับมาตั้งแต่เมื่อวานนี้หรือนี่ เธอพึมพำหันซ้ายหันขวามองบ้านพร้อมสำรวจเสื้อผ้าของตัวเอง
	ไม่ต้องตกใจผมไม่ได้ทำอะไรคุณหรอก เขารู้ทัน   ก่อนที่จะเปลี่ยนเรื่องพูด
	นี่ก็ยังเช้าอยู่..คงยังไม่หิว  อ้อ..ผมมีกาแฟ  รอเดี๋ยวจะจัดการให้ พูดจบเขาเดินไปที่มุมห้องก่อไฟตั้งกาน้ำร้อน
	ราวสิบห้านาทีแก้วกาแฟก็ถูกนำมาวางตรงหน้าเธอพร้อมขนมปังสาม-สี่ชิ้น  เธอกลืนน้ำลายเมื่อได้กลิ่นกาแฟมากระทบจมูก  แต่ยังแกล้งเมินเฉย
	ไม่..ฉันไม่กิน..ฉันไม่หิว เธอพูดพลางกลืนน้ำลายอีกครั้ง
	กินเถอะน่า  คุณอาจจะอยู่ที่นี่ทั้งวัน  มื้อเที่ยงจะหาอาหารมาให้ รองท้องไว้ก่อน
	นายจะไปไหน  เธอเงยหน้าขึ้นถามเพราะถ้าเขาไปแล้วเธอจะต้องอยู่ในป่าอันน่ากลัวนี้เพียงลำพัง
	ไปเอาสัญญากู้เงินกับพ่อคุณไง  เขียนจดหมายนัดเอาตอนสิบโมงเช้านี้  แต่ถ้าไม่ได้ล่ะก็..หึเขาพูดค้างไว้   เธอจึงถามสวนไป
	ถ้าไม่ได้นายจะทำไม 
	 ถ้าพ่อคุณไม่นำสัญญากับโฉนดที่ดินของชาวบ้านทั้งหมดมาให้หรือตุกติกละก็...เขาพูดทิ้งช่วงก่อนที่จะเปล่งเสียงดังฟังชัดด้วยสีหน้าอันเหี้ยมเกรียมใส่เธอ
	ผมจะฆ่าคุณ  
	เธอได้ยินแล้วสะดุ้งเย็นวูบไปถึงไขสันหลัง
	มะ..ไม่  ไม่นะ..ใจเย็นๆ  เอางี้นายปล่อยฉันไปรับรองว่าฉันจะขโมยสัญญากับโฉนดอะไรนั่นมาให้นายเอง  ฉันสัญญา ..อย่า อย่าทำอะไรฉันเลยนะ  เธอต่อรอง
	ฮ่าๆๆ  เห็นผมเป็นเด็กอมมือหรือไงถึงจะหลอกกันง่ายๆ ที่แท้ก็กลัวตายนี่เอง พูดจบเขาเดินไปหยุดที่หัวบันไดก่อนหันมาช้าๆ
	 ...อ้อ  ถ้าหิวน้ำก็อยู่ที่โอ่งดินนั่น ถ้าจะนอนพักก็ตามสบาย  ห้องน้ำก็ที่มุมห้องโซ่ยาวอยู่หรอก แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่าอย่าคิดหนีเป็นอันขาด เพราะที่นี่กลางป่าลึกสัตว์ร้ายชุกชุม  ไปไม่รอดหรอก  พูดจบเขาเดินลงจากบ้านไป
	เธอพยายามแกะโซ่ที่คล้องขาที่มีกุญแจใส่ไว้  แต่แกะยังไงก็แกะไม่ออกมันติดข้อเท้าแน่น เธอจึงเลิกแกะแล้วมองซ้ายมองขวาก่อนหยิบยกถ้วยกาแฟขึ้นมาจิบพร้อมเอาขนมปังมาเคี้ยวตาม
 
	เธอขยับตัวไปนั่งพิงฝาผนังใต้ชายคาเหม่อมองทิวเขาเบื้องหน้าสลับกับมองสายธารน้ำไหล   หากไม่ถูกโซ่พันธนาการไว้เธอจะลงไปอาบน้ำใสๆ ให้เย็นฉ่ำใจ  นี่ถ้าเป็นการมาเที่ยวกับสภาพธรรมชาติเช่นนี้คงมีความสุขไม่น้อย  แต่นี่... เฮ้อ...ไม่รู้ว่าจะมีใครมาช่วยเราบ้างหนอ..  เธอคิดไปคิดมาจนผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
	เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง   และแล้ว...เธอก็ต้องสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียง ฟู่ๆ อยู่บนระเบียงด้านหน้า  แต่..พอหันไปมองเท่านั้น...  เธอยิ่งตกใจหลายร้อยหลายพันเท่าเมื่อที่มาของเสียงนั่นยกคอแผ่แม่เบี้ยจังก้าอยู่ห่างไม่เกินเมตร
	ชะ..ช่วยด้วย  งะงู  งู  เธอร้องเสียงหลง  และเสียงร้องของเธอทำให้มันตกใจยกหัวขึ้นเตรียมฉก 
โอ..เธอรู้ตัวว่าไม่รอดแน่แล้ว
	เสี้ยววินาทีนั้น... 
	เสียงปืนก็คำรามก้องไปทั่วผืนป่า..  ลูกกระสุนพุ่งเจาะตรงลำคอแผ่แม่เบี้ยของงูเคราะห์ร้ายตัวนั้นอย่างแม่นยำ มันฟุบลงกองกับพื้นฟากระเบียงเลือดทะลัก
	ความตกใจเล่นเอาเธอสิ้นเรี่ยวแรงคอพับกับฝาผนัง
เขาใช้เท้าที่สวมรองเท้าแบบทหารเขี่ยงูที่แน่นิ่งลงไปใต้ถุน  จากนั้นเขาเดินเข้าไปหาเธอก่อนนั่งยองๆ ลงข้างๆ 
เขาวางปืนจุดสามแปดที่ใช้ยิงงูไปเมื่อครู่ลงไว้กับพื้นระเบียงอย่างลืมตัว แล้วจับไหล่ทั้งสองข้างของเธอ เขย่าเบาๆ
	คุณๆ เป็นไงบ้าง  เกือบไปแล้วไหมล่ะ  มันคงขึ้นมาตามเถาวัลย์  ถ้าผมมาช้ากว่านี้ล่ะก็ เขาพูดยังไม่ทันจบก็ต้องสะดุ้งเมื่อรู้ว่ามีปืนมาจ่อที่หน้าอก ใช่แล้ว มันเป็นปืนของเขาที่เผลอวางไว้นะเอง  แต่เวลานี้เธอยึดเอามาเล็งใส่เขาเสียแล้ว
	ไขกุญแจที่ขาฉันเดี๋ยวนี้ เธอสั่งเขาเสียงเฉียบขาด
	เร็วเข้า..ฉันยิงจริงๆ ด้วย เธอขึงขัง
	เขาค่อยๆ ไขกุญแจพลางชำเลืองดูเธอเพื่อรอจังหวะเผลอ
	อย่ามาลูกไม้นะ  ฉันยิงนายจริงๆ ด้วย หรือ คิดว่าไม่กล้าลองดูไหมล่ะ 	เธอกระชากเสียงขู่
	 เขาไม่ตอบ  เมื่อไขกุญแจออกจากขาเธอเสร็จแล้ว  ขณะที่เธอกำลังจะลุกขึ้นยืนเท่านั้น  เป็นจังหวะเดียวกับที่เขาคว้าข้อมือของเธอที่ถือปืนอย่างรวดเร็ว
	ทันใดนั้น... สิ่งที่ไม่คาดคิดก็บังเกิด 
	ปืนที่ถูกยื้อแย่งก็แผดเสียงคำรามขึ้น   ร่างของเขาหงายหลังไปตามจังหวะที่หน้าอกมีเลือดทะลักออกมาราวรูรั่ว  เขาเอาฝ่ามือกดมันไว้แน่น 
	เธอตะลึงงัน...
	มะไม่..ไม่ฉันไม่ได้ตั้งใจจะยิงนายนะ  นายมาแย่งปืนฉัน  ปืนมันลั่น  
	เขากัดฟัน  ค่อยๆ ยกหัวขึ้นมาอย่างเจ็บปวด   ก่อนที่จะพูดออกมาอย่างยากลำบาก
	พะพ่อของคุณยะยอมให้สัญญากับโฉนดผะผมแล้ว.. ผะผมกำลังจะพาคุณไปส่ง
                       เธอทิ้งปืนปรี่เข้าประคองหัวเขาไว้เพื่อให้เขาพูดต่อ
	ตะแต่คงไม่มีโอกาสแล้ว  คะคุณ..ขี่ม้าไปทะทางโน้นราวชั่วโมงก็ถึงปา..ปางไม้  อะ....
เขาค่อยๆ ยกมือชี้ไปตามแนวป่า ก่อนกระตุกสองสามที และเลือดก็ทะลักออกจากมุมปาก
	นาย ..นายอย่าเพิ่งตายนะฉันจะตามหมอมารักษา เธอพูดพร้อมเขย่าตัวเขาแล้วเอาฝ่ามือเช็ดเลือดที่มุมปากให้เขาอย่างตกใจ
	มะ..ไม่มีประโยชน์หรอก  ผะผมไม่ระรอด  ..แล้ว  พูดจบเขากระตุกอีกครั้งก่อนแน่นิ่ง
	ไม่มีเสียงกล่าวใดๆ อีก  ใช่..เขาจากเธอไปเสียแล้ว  
	เธอมองเขาด้วยความรู้สึกสงสารอย่างจับใจ.. ถึงยังไงเขาก็ได้ชื่อว่าเป็นคนช่วยชีวิตเธอไว้   
                  ...เวลานี้น้ำตาของเธอได้หลั่งออกมาให้กับชายแปลกหน้าที่ได้ตราหน้าว่าโจร..อย่างไม่รู้ตัว๐๐๐
*************************				
comments powered by Disqus
  • ป.ยุทธ

    22 พฤศจิกายน 2549 09:08 น. - comment id 93830

    เรื่องนี้ส่งเข้าประกวดในรายการหนึ่งแต่ตกรอบจึงเอามาให้เพื่อนๆ อ่านเล่น66.gif
  • โคลอน

    23 พฤศจิกายน 2549 07:57 น. - comment id 93870

    อย่างน้อยคุณก็ ชนะ ตั้งแต่ตัดสินใจส่งเข้าประกวดแล้วล่ะ...ต้องใช้ความกล้ามากเลยนะเนี่ย...36.gif
    
    ปล. จบแบบไม่แฮบปี้เอนดิ้งแบบนี้กรรมการคงไม่ปลื้มมั้ง... อิอิ
  • ยายแม่มด

    23 พฤศจิกายน 2549 07:58 น. - comment id 93871

    เอามาให้อ่านอีกนะคะ.....ให้ต่างจากที่มีอยู่เดิม  เป็นแรงใจในเรื่องสั้นต่อไป

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน