เรื่องรักใคร่ในธรรมบท 1...หลงเสียงนาง

ถนปายี

ว่ากันว่า		
		
"ไม่มีเสียงใดจะตรึงใจบุรุษ ได้เท่ากับเสียงของสตรี และไม่มีเสียงใดจะตรึงใจสตรี ได้เท่ากับเสียงของบุรุษ"		
		
หากยกสำนวนโบราณก็จะอ่านยากขึ้นไปอีกนิดหนึ่ง แต่ใจความเหมือนกัน ก็คือ		
		
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย เราไม่เห็นเสียงอื่นแม้สักอย่าง อันจะยึดจิตของบุรุษตั้งอยู่ เหมือนเสียงหญิง นะภิกษุทั้งหลาย"		
		
*************		

เสียงของหญิงนี่แหละก่อเหตุมาแล้วตั้งแต่สมัยพุทธกาล เพียงเพราะหลงในเสียงขับร้องของหญิงคนหนึ่งซึ่งได้ยินจากในป่า ทำให้สามเณรรูปหนึ่ง ซึ่งไม่ได้บวชด้วยศรัทธาในพระพุทธศาสนา แต่ถูกจับให้บวชเพื่อประโยชน์แก่การทำหน้าที่เดินทางไปรับ พระจักขุบาลเถระ ซึ่งตาบอด ออกจากป่า มาสู่เมือง		
		
เมื่อได้ยินเสียงขับร้องของหญิงชาวบ้าน ผู้ออกมาเก็บฟืนในป่า ก็หลงเสน่ห์ในน้ำเสียง จนอดไม่ได้ที่จะละทิ้งหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมา วางไม้เท้าที่ใช้จูงพระเถระ ทิ้งท่านไว้เพียงลำพัง แล้วเดินตามเสียงหญิงนั้นไป		
		
ขณะที่สามเณรเดินทางไปหาหญิงนั้น ระยะเวลาที่เขาหายไป ไม่มีบรรยายว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะไม่ใช่นิยายโรมานซ์ ฉากจึงตัดกลับมาสู่ห้วงคิดของพระเถระว่า ท่านเกิดทราบว่า ป่านนี้ สามเณรผู้นำทางของท่าน คงจะทำผิดศีลเสียแล้ว (พระเถระรูปนี้เป็นพระอรหันต์แล้ว) ความรู้สึกรังเกียจเกิดขึ้น		
		
ฉากต่อมา สามเณรนั้นกลับมาหาพระเถระหลังจากทำผิดศีลเรียบร้อยแล้ว พระเถระได้กล่าวปฏิเสธที่จะเดินทางต่อไปกับสามเณรผู้ประพฤติผิดศีล ไม่ฟังคำทัดทานของสามเณรที่อ้างว่า ท่านตาบอด จะเดินทางต่อไปได้อย่างไร ไม่ฟังข้ออ้างว่า ตัวเองบวชเพราะจำเป็น ไม่ได้ศรัทธา		
		
แม้สามเณรจะลงทุนลาสิกขาแล้ว พระเถระก็ยังไม่สิ้นรังเกียจที่จะเดินทางด้วย ท่านใช้คำว่า บรรพชิต ละเมิดศีล หรือคฤหัสถ์ ละเมิดศีล ก็ชื่อว่า ชั่ว เหมือนกัน		
		
คฤหัสถ์หนุ่มที่เพิ่งลาสิกขาจากสามเณรหมาด ๆ เพราะเผลอไป "หลงเสียงนาง" เข้า จึงหนีไปในป่า เหตุการณ์ต่อไป ไม่ได้กล่าวถึงเขาอีก		
		
เรื่อง "หลงเสียงนาง" จึงเป็นฉากเล็ก ๆ ในธรรมบทเรื่อง "พระจักขุบาลเถระ" ด้วยประการฉะนี้		
		
************************		
		
				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน