::สมหวัง::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

ก่อพงษ์  พงษพรชาญวิชช์
              22  เมษายน 2550
      	ฤดูกาลหย่อนบัตรเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้ว     หลายปีก่อนสมหวังเคยเก็บเอาเศษกระดาษและแผ่นป้ายหาเสียงมาก่อไฟหุงข้าวได้หลายวัน   คราวใดมีการหาเสียงเข้มข้นชิงไหวชิงพริบ  เขาจะมีรายได้จากการขายเศษแผ่นป้ายหาเสียงไว้ซื้อปลาทู กะปิ น้ำปลากินได้หลายวัน  ปีนี้เขาป่วยด้วยโรคแข้งขาไม่มีแรง จึงหาเงินหาทองไม่คล่องนัก
	สมหวังเคยทำนาไร่แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ  รถไถนาเดินตาม รถเครื่องและเครื่องอำนวยความสะดวกอีกหลายอย่าง รวมทั้งที่ดินต้องขายเทเพื่อใช้หนี้และรักษาชีวิต   ชีวิตของเขาพลิกจากหลังมือเป็นหลังเท้ากลายเป็นคนเก็บขวดขายในเขตชานเมือง  อาศัยอยู่ในเพิงข้างสวนสาธารณะ  ลูกและเมียของเขาพากันขึ้นสวรรค์ไปจนหมดแล้วด้วยโรคเดียวกับที่เขากำลังเผชิญอยู่
	สมหวังทำเพิงหลบแดดพักพิงอิงกายอยู่กับเพื่อนต่างถิ่นแต่ไม่ต่างจุดกำเนิด  พวกเขามาจากนาทั้งนั้น   นาที่พาให้คนพลัดหลงเข้าไปในเมือง
	แต่ก่อนโน้นนะ  บ้านข้าไม่อดไม่อยาก    กบเขียดนี่เปิดเอาตามกอหญ้าตามคันนา   สมหวังโอ่กับเพื่อนจากภาคเหนือ
	
	แต่ตอนนี้หาฟังเสียงได้บ้างหรือเปล่าเวลาฝนฟ้าตกฝนลง
	เอ้อ..มันก็ดับแนว คือตายไปบ้างหละ  เพราะคนหาไปขาย  ไม่ใช่แค่หากิน
	ข้าว่ามันสูญพันธุ์เพราะยาฆ่าแมลงม้าง ทุกวันนี้คนใช้ยาอย่างกับน้ำ   
	สมหวัง อึ้ง  กับคำของเพื่อนชาวเหนือ   ตอนที่ยังหนุ่มแน่นเขาเห็นชาวบ้านใช้ยาปราบศัตรูพืชอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ราวมันไม่มีพิษต่อคน    เกษตรตำบล  อำเภอ จังหวัดสนับสนุนให้ชาวบ้านใช้กันทั้งนั้น เขาจึงเอาอย่างบ้าง
	เออ.. ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน  ลูกเมียข้าที่ป่วยตายไปหลายปีก่อน  กำนันก็ว่ามันเป็นเพราะยาฆ่าแมลงที่ข้าใช้
	นั่นไง  ข้าว่าแล้ว ..  แต่ว่า...ที่บ้านข้าก็เหมือนกันแหละ..ปลูกอะไรก็พ่นยาทั้งนั้น   
	เพื่อนใหม่ของสมหวัง เคยเป็นเจ้าของที่ดินกว้างใหญ่ ปลูกพืชผักส่งมาขายกรุงเทพฯ   แต่เมื่อลูกเมียล้มป่วย  เงินทองที่เก็บสะสมเอาไว้ก็ต้องจ่ายออกจนหมดเพื่อยื้อชีวิตพวกเขา  กับใช้หนี้ที่ทบดอกทบต้น
	เออ  วันก่อนข้าดูข่าวทีวีในร้านข้างโรงหนัง  นายกคนใหม่เขาบอกจะพัฒนาประเทศโดยทำให้ประชาธิปไตยกินได้นะ  แกได้ดูหรือเปล่า เพื่อนบ้านของสมชายถาม
	
	ข้ามัวแต่เก็บขวดเพลินไม่ได้ดูข่าวอะไร  เขาว่าไงล่ะ
	ก็ว่าทำนองว่า  ประชาธิปไตยต้องให้คนมีกินด้วย ไม่ใช่แค่ไปลงคะแนนเลือกตั้ง
	เข้าท่าแฮะ   แต่มันจะทำได้หรือ  ขนาดคนก่อน ว่ามีเงินเยอะ ๆ นึกว่าจะแจกพวกเรา ก็ไม่ได้แจก   หลายคนยังว่าท่านโกงบ้านโกงเมืองบ้าง  ไม่เสียภาษีบ้าง
	ก็ไม่รู้แล๊ว      เลือกผู้แทนมาก็หลายหน  พวกเขาก็ว่าคล้าย ๆ อย่างนี้กันทั้งนั้นนี่  เรื่องโกงหรือไม่โกงข้าไม่รูด้วย   คนทำเขาคงรู้เองแหละ
	เออ  เขาก็คงรู้ตัวหรอก  ไม่ใช่ละเมอเก็บขวดขายแบบเรา ๆ   นักสู้ต่างภาคต่างหัวเราะแล้วก็แยกแบกถุงเก็บขวดพลาสติกและขยะอื่นเพื่อแยกขาย
	การเลือกตั้งยุคก่อน ๆ ผู้หาเสียงจะติดป้ายโฆษณาไว้ตรงไหนก็ได้ตามใจที่จะเห็นว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมด้วยตนเอง    แต่เมื่อมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นระหว่างพรรคการเมืองเงินหนากับพรรคการเมืองที่ไม่ค่อยมีทุน ก็เกิดกฎเกณฑ์ที่จะช่วยให้การแข่งขันมีความยุติธรรมบ้างโดยมีการกำหนดอาณาบริเวณที่จะติดแปะแผ่นหรือป้ายหาเสียงอย่างเป็นที่เป็นทาง   แต่กระนั้นก็ตามก็ยังมีต้นไม้หลายตนในหลายที่ที่ผู้หาเสียงนิยมเอาโปสเตอร์ขนาดไม่กว้างยาวมากนักไปติดไว้   นัยว่าเพื่อเป็นศิริมงคลตามชื่อของต้นไม้และเพื่อเสริมบารมีในการแข่งขันชิงชัย    ป้ายตามต้นไม้นี่เองที่คนหาเสียงมักไม่ค่อยเก็บคืน ในยุคที่เพิ่งเลือกตั้งไปหยก ๆ ก็ยังพอมีให้เห็น
	เฮ้ย   ป้ายนี้ของกู  กูจองไว้ตั้งแต่เมื่อวาน  คนเก็บของผมหยิกผิวคล้ำ คงเป็นหน้าใหม่ที่เข้าสู่อาชีพนี้  แสดงความเป็นเจ้าของ   แต่ไม่เป็นไรว่ะ   กูมีน้ำใจ   ถ้ามึงปีนขึ้นเอาได้กูยกไหม้มึงเลย   เขาพูดแล้วก็นั่งลงพักเหนื่อย  ปาดเหงื่อที่ย้อยระคาง
	แกพูดจริงนะ   ข้ายังพอปีนได้
	เอาเลย  คนหัวหยิกว่า  ทั้งเชิดหน้าและหลิ่วตา
	สมหวังคนแข้งขาไม่ค่อยมีแรงวางถุงเก็บขยะพิงไว้กับต้นคูณที่กำลังจะปีน   ราชพฤกษ์ต้นนี้เคยออกดอกสะพรั่งทุกปี  แต่ปีที่มีการเลือกตั้งปีนี้กลับไม่ยอมออกดอก   แถมมีทีท่าว่าจะทิ้งใบโดยไม่สนใจฤดูกาล   เขาออกแรงดึงกายขยับขึ้นไปใช้แข้งขาที่บังคับได้บ้างไม่ได้บ้างยันช่วย   แค่เอื้อมือคว้าเขาก็จะได้แผ่นกระดาษแข็งกว้างไม่กี่คืบนั้นลงมาสะสมเพื่อรวมขาย ณ เสี้ยวอึดใจนั้นคนหัวหยิกที่อยู่ข้างล่างก็คิดไม่ซื่อ  มันฉวยเอาของที่ตนเองไม่ได้ออกแรงเก็บได้ก็กะเผลกออกไปโดยเร็ว  สมหวังเหนื่อยอ่อนจะหมดแรงแต่ก็กัดฟันค่อยไถลลงมาตามลำต้นคูน  แต่กระนั้นเปลือกคูนก็ก่อริ้วรอยปริ่มเลือดเป็นสัญลักษณ์ตอบแทนความพยายาม   คนสู้ผู้ซื่อนั่งถอนหายใจเหน็ดเหนื่อยอยู่ใต้ร่มคูนใบน้อยนึกย้อนไปถึงวันที่เขาสูญเสียที่นาให้กับนายทุนเงินกู้  น้ำตาของเขารินไหลออกจากขอบตาโดยไม่รู้ตัว
	ข้าโดนอ้ายดำ  จากไหมไม่รู้มันแย่งเอาถุงขวดไป  สมหวังปรับทุกข์กับเพื่อนหน้าเพิงพัก
	อ้ายดำเดินกระเผลก หัวหยิก หน้าตาเจ้าเล่ห์ใช่ไหม 
	 นั่นแหละ   มันวิ่งไปทางนู้น สมหวังชี้ไปทางซ้ายของเพิงที่พักที่หันไปทางทิศตะวันตก
	อ้ายนี่ท่าทางมันไม่น่าไว้ใจ  แกเก็บเงินของแกไว้ดีนะ  เดี๋ยวมันอาจมารือข้าวของเอา
	ไม่มีทางดอก   เงินของข้าอยู่ในธนาคาร
	แหม  ทันสมัยจังวะแก   มีบัตรเครดิตด้วยหรือเปล่า
	ดิดเดิดอะไรกัน   มอซออย่างเราใครเขาจะทำให้
	มันก็ไม่แน่ร๊อก   ใครมีเงิน คนก็นับเป็นน้อง ใครมีทองคนก็นับเป็นพี่  เก็บของขายอย่างพวกเรา  บางทีนายกอาจเชิญไปออกทีวีด้วยก็ได้
	ไปออกทีวีเรื่องอะไรล่ะ  สมหวังถาม
	อ้าว  ก็เก็บขยะจนรวยไง   หนุ่มใหญ่จากสองภาคต่างหัวเราะขึ้นพร้อมกัน
	ตอนหนุ่มแน่น  สมหวังได้ชื่อว่าเป็นคนที่ปีนต้นไม้เก่งยังกะลิง  มะพร้าว ตาล  หมาก ในสวนของคนข้างบ้าน หรือแม้แต่คนละคุ้ม   สมหวังก็ถูกเรียกไปพิชิตมาแล้ว  เขาใช้วิธีเอายางคล้องตีน เอาแขนโอบไม้ค่อยไต่ขึ้นสูง  ต้นหมากลำเท่าเข้าก็ขึ้นได้   ต้นตาลลำเท่าครกก็ขึ้นได้  ลงจากต้นไม้ก็รับเงินหรือไม่ก็รับหมาก รับตาลเป็นสินจ้างรางวัล    แต่ต้นประชาธิปไตยที่เขาปีนเมื่อเช้า ไม่เล็กไม่ใหญ่  ไม่สูงมากนั้นแต่เขาปีนเกือบไม่ถึงเป้าหมาย   ป้ายหาเสียงอีกสี่ห้าป้ายที่หมายตาเอาไว้บนต้นคูนต้นอื่น ๆ  เป็นความหวังที่ไม่ไกลเกินคว้าที่จะเติมตัวเลขในบัญชีคนจน  แต่แข้งขาและเรี่ยวแรงที่มีอยู่มันจะมากพอล่ะหรือที่จะป่ายปีนเอาป้ายหาเสียงที่เหลือ
	ไปเก็บป้ายทางโน้นด้วยกันไหม  ตรงสวนพักผ่อนชานเมือง  ขวด กับกระป๋อง เยอะน่าดู  ตรงนั้นมีอะโหลเสียงตามสายฟังข่าวคราวด้วยในตอนเที่ยงวัน   สมหวังชี้มือไปทางขวาของเพิงที่พัก ที่เป็นที่สวนพักผ่อนที่ค่อนข้างโทรม   ที่นั่นมีแผ่นป้ายหลายอันที่ถ้าเก็บลงมาขายได้ก็ได้หลายตังค์  เราแบ่งกัน
	ข้าไม่แย่งแกหรอก   จะไปด้วย  เป็นเพื่อน   แต่แกเก็บเอาเถอะ   ถ้าแกรวยข้าก็ได้เพื่อนเป็นคนรวย เท่านี้ก็ดีใจแล้ว   
	เอาน่า   ของที่ควรแบ่งก็ต้องแบ่ง
	แล้วอะไรที่ไม่ควรแบ่ง   คนเหนือมีอารมณ์ขัน
	เมียสิ  เหอ เหอ  เหอ  คนแข้งขาไม่ค่อยมีแรงมีอารมณ์ขันมากว่าอีก
	เอ้า..ไปก็ไป  พรุ่งนี้เราออกแต่เช้าเนอะ 
	สมหวัง ตอนที่ยังมีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง  ทำนาขยันขันแข็ง   เขาได้ทำหน้าที่สำคัญให้นักการเมืองด้วย  นั่นคือช่วยหาเสียง   เขาเดินแจกบัตรแนะนำตัวไปทั่วบ้าน   แต่คนที่เขาหาเสียงช่วยไม่รับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎร์  ยุคนั้นโรคร้อยเอ็ดเป็นโรคระบาดที่รุนแรงกว่าไข้หวัดนกและโรคซาร์  ใครไม่แจกเงินซื้อเสียงไม่มีโอกาสได้เป็น ส.ส.   ชาวบ้านทั่วไปไม่ได้คาดหวังว่า ส.ส.จะเข้าไปร่างกฎหมายที่จะทำให้ชาวบ้านชนบทมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น  และกฎหมายก็เป็นเรื่องที่ชาวบ้านต้องเกี่ยวข้องด้วยเฉพาะยามเดือดร้อนและได้รับภัยจากโจรทั้งในและนอกเครื่องแบบ  ส่วนใครจะเป็น ส.ส.ของใคร  รับเงินเพื่อจะยกมือให้ใคร หรือหุบปากที่จะไม่พูดถึงความฉ้อฉลของใคร ชาวบ้านไม่ได้สนใจ    คนที่สนใจก็คงพอจะมี คือคนที่พอมีจะกิน  ที่มีเวลาฟังวิทยุ  ดูทีวี  หรืออ่านข่าวตามที่อ่านหนังสือประจำคุ้ม    การเลือกตั้งหนต่อ ๆ มาสมหวังไม่ได้ช่วยอะไร เพราะมีคนที่ทำหน้าที่นั้นเป็นเครือข่ายเข้มแข็งกว่า  บางคนรวยขึ้นในพริบตา  บางคนก็จมอยู่ในวังวนของนักหาเสียงไม่มีวันจบสิ้น ทั้งระดับหมู่บ้าน ตำบล  วนๆ เวียน ๆ แบบนักประชาธิปไตยใหญ่ทั้งคำพูดและท่าทาง  เมื่อสมหวังสูญเสียที่ดินแปลงสุดท้ายเขาก็หันหลังให้กับการรับใช้การเมืองทุกระดับ  
	เช้าใหม่สดใสนัก   หมอกและควันกรุ่น เบาบางแลเห็นได้ทั่วเพิงของคนเก็บขยะอย่างกับฉากในหนังดัง   สมหวังกินข้าวต้มกับปลาเค็ม  เขาแบ่งปลาเค็มให้เพื่อนที่ชวนกันไว้เมื่อวาน  วันนี้เขามีความหวังที่จะเพิ่มเงินในบัญชีของเขาอีกหลายสิบ   กินมื้อเช้าเสร็จเขาก็เตรียมถุงรอเพื่อน  ฮัมเพลงลูกทุ่งจังหวะโจ๊ะ ๆ  
	สดใสจังแกนี่   อารมณ์ดีตลอดปีตลอดชาติเลยว่ะ
	จะให้ต้องทุกข์ใจอะไรนักหนา   ความสุขนี่ไม่เกี่ยวกับเงินกับทอง
	เออ  พูดเป็นปรัชญาเข้าไป   จะไปกันได้หรือยังล่ะวุ้ยท่านสมหวัง
	ไป ไปกัน
	
	นักสู้ทั้งสองเก็บขวดพลาสติกที่คนทิ้งตามข้างทางไปจนถึงที่ที่เป็นเป้าหมาย  ราชพฤษ์สองข้างทางทิ้งดอกไปนานมากแล้ว   ใบของไม้ดอกเหลืองเหี่ยวเฉาเพราะขาดคนใส่ใจ   ไม่น่าเชื่อว่าไม้นามมงคลนี้จะเหี่ยวและเฉาลงมากมายขนาดนี้   แต่ก่อนออกดอกเหลืองอร่ามใครแลเห็นก็ชื่นเย็นสบายตา   บัดนี้เป็นเพียงที่ติดประกาศของนักเลือกตั้งโดยนักหาเสียงมักง่ายเท่านั้น
	แกจะขึ้นไหวหรือสมหวัง
	คงพอได้  เมื่อวานข้าก็ปีนเอาลงมาหลายอัน
	ต้นนั้นใช่ไหม คนเหนือชี้ไปที่ต้นลำต้นไม่ใหญ่นัก
	ใช่ๆ   ต้นนั้นนั่นแหละ
	แต่พวกนี้มันมีมดเยอะนะ   เดี๋ยวมดก็รุมกัดตกตายหรอก
	ไม่เห็นยาก  ใช้แป้งทาตัวมดก็ไม่ตอมแล้ว
	แต่ไหนล่ะแป้ง
	ข้าไม่ได้เอามาว่ะ   นึกว่าจะไม่มีมด
		อย่าปีนเลยนะ ตกลงมาแล้วมันไม่คุ้ม   แข้งขาหักข้าไม่มีเงินช่วยหรอกนะ
		ไม่เป็นไร   รับรองข้าไม่ตก
		สมหวังยังดื้อดึง   เหมือนกับตอนที่ยังทำนาได้  ตอนนั้นผู้เฒ่าในหมู่บ้านหลายคนเตือนเขาเรื่องปุ๋ยและยาฆ่าแมลง เขาก็ไม่ฟังเพราะได้ไปดูงานการปลูกผักแบบใช้ฮอร์โมนและปุ๋ยเคมีแบบเข้มข้นที่ภาคเหนือกับเกษตรอำเภอและเจ้าของร้ายขายเคมีเกษตร  เขาเชื่อมั่นมากที่จะลืมตาอ้าปากจากการปลูกข้าวและพืชผักขาย   แต่เมื่อรู้สึกตัวก็สาย  เงินที่ได้ไม่พอค่ายารักษาโรคภัยอาการพิลึกที่คร่าชีวิตคนในครอบครัวเขาลงทีละคน
		งั้นก็ตามใจว่ะ   ถ้าเนื่อยก็บอกข้านะ  จะช่วย  แต่คงช่วยได้ไม่มาก  ข้าก็ไม่ค่อยมีแรง
		สมหวังปีนต้นประชาธิปไตยต้นแรกสำเร็จ  เขาได้กระดาษแข็งแผ่นโตพอที่จะสะสมไว้รวมขายได้ในไม่กี่นาที  มดตอมเขาพอดู   แต่พอทนได้
		ไม่ไหวก็หยุดนะ  รักษาชีวิตไว้ดีกว่า
		เหอะน่า  ข้ายังไหว  ปีนต้นไม้แค่นี้ไม่ถึงแก่ชีวิตหรอกน่า   ถ้าเหนื่อยข้าก็จะหยุด
		เออ  มันก็ต้องอย่างนั้น   ดูต้นคูนต้นนั้นซีวะ  ไม่ยักกะมีมด   ท่าทางจะปีนง่ายด้วย ต้นก็เอน ๆ  กิ่งใหญ่ทางด้านขวาดูเหมือนจะเป็นโพรงด้วย  เฮ้ยต้องระวังงูนะ 
		 เคาะต้นไม้ดูก็รู้ว่ามีงูไหม  ถ้ามีมันต้องออกมา 
		มันคงมีงูขี้เซาบ้างหรอกน่า
		แมวเซา
		ม่ายช่าย   งูนอนน่ะ
		สมหวังเอาไม้เคาะที่โคนต้นคูนหลายครั้ง แต่ก็มองไม่เห็นว่ามีสิ่งใดไต่ออกมาจากโพรงตรงนั้น
		ข้าจะปีนล่ะนะ  แกช่วยดันนิดหนึ่ง
		อ้าวเฮ้ย   ไหนบอกว่ามีแรงไง
		ก็มี    ถ้าดันมันก็ปีนขึ้นง่าย
		เออ  งั้นก็จะช่วยดัน
		ขอบใจ  ขอบใจเพื่อน   ถ้าขายได้ข้าแบ่งให้ครึ่งนึง ดีไหม
		ก็ตามใจแกเถอะ
		สมหวังปีนต่อด้วยแรงของตัวเอง  ก่อนที่จะถึงกิ่งใหญ่ที่ชี้ไปทางขวา  เขาสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง  ใช่แล้วมันคือหางของงูชนิดใดชนิดหนึ่ง   เพื่อของสมหวังของก็มองเห็น  งูโผล่หางออกมาให้เห็นยาวขึ้นก่อนที่คนปีนต้นไม้จะเอื้อไปถึงคาคบ  อารามตกใจทำให้มือไม้เขาป่ายคว้าไปถูกแผ่นป้ายหาเสียงและจับหมับเข้าที่ปลายหางงูแทนกิ่งไม้ใหญ่  งูตกใจ และคนก็ตกใจ   ชั่วเศษวินาทีที่งูกระโจนพรวดและไต่เร็วไปตามกิ่งไม้ก็เป็นวินาทีที่มือของสมหวังพลัดหลุดจากกิ่งก้านและลำต้นของไม้   คนแข้งขาไม่ค่อยมีแรงพลาดท่าตกลงมาเอาแขนยันพื้น   เพื่อนของสมหวังร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ  แต่ก็ช่วยอะไรไม่ทัน   สมหวังร่วมมากองอยู่กับพื้น มือซ้ายของเขากุมข้อมือขวา สีหน้าเจ็บปวดสาหัส  ป้ายหาเสียงของนักเลือกตั้งยังห้อยต่องแต่งจะหลุดไม่หลุดแหล่อยู่ตรงนั้น  
		แกเจ็บมากหรือเปล่าสมหวัง  คนเหนือเข้าไปพยายามพยุงให้เขานั่ง
		โอ๊ย   เจ็บ  เจ็บซี่โครงและแขน
		ขณะที่คนเจ็บและเพื่อนของเขากำลังดิ้นรนช่วยเหลือกันอยู่ตามลำพัง   ก็เป็นเวลาที่เสียงตามสายของสวนพักผ่อนชานเมืองเปิดถ่ายทอดเสียงรายการนายกฯพูดกับพลเมือง
		..ผมจะทำให้ประชาธิปไตยเป็นประชาธิปไตยที่กินได้    คือประชาชนต้องมีอยู่มีกินจากประชาธิปไตย   ไม่ใช่แค่เลือกตั้งแล้วก็จบแบบที่ผ่านมา..จะไม่มีคนไม่มีกินอีกต่อไป
		ณ วินาทีนั้น ทั้งคู่นิ่งสนิท จดจ่อ เงี่ยหูฟัง  คนที่ร่วงลงมาจากต้นประชาธิปไตยเหมือนหลุดพ้นไปชั่วขณะจากความทุกขที่กำลังทำให้ข้อมือบวมเป่งและซี่โครงขยับแกรก ๆ				
comments powered by Disqus
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    23 เมษายน 2550 16:49 น. - comment id 95779

    ขออภัยหากชื่อตัวละครและคำพูดของเขา
    พ้องกับท่าน
    
    ผมไม่มีเจตนาครับ
  • ฉางน้อย

    23 เมษายน 2550 16:56 น. - comment id 95785

    46.gif46.gif
    
    ... แวะมาอ่าน ผ่านมากวน อีกแระ อิอิ 
    
    46.gif46.gif74.gif74.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    23 เมษายน 2550 16:59 น. - comment id 95786

    ดีจังครับ
    มีคนมากวน
    
    แล้ว
    
    อารมณ์ดี
    
    
    
    คุณฉางน้อยเขียนเรื่องสั้นกี่เรื่องครับวันนี้
  • ฉางน้อย

    23 เมษายน 2550 17:05 น. - comment id 95787

    46.gif
    
    ... วันนี้เขียนไม่ได้สักเรื่องคะ 
    
    มัวแต่ไปกวน ป่วนคนอื่น  55555
    
    ฉางน้อยต้องเขียนเวลาดึกๆ คะ 
    
    เงียบๆดี ชอบ46.gif74.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    23 เมษายน 2550 17:12 น. - comment id 95788

    อืม..
    
    เวลาที่คนอื่นนอน
    เราตื่นมาเขียน
    
    ผมก็มักเลือกโอกาสแบบนั้น
    
    
    
    เดี๋ยวจะออกจากเน็ตไปขว้างแหจับปลามาทำมื้อเย็นก่อนนะครับ
    
    
    เดี๋ยวผมทำต้มย้ำปลาและจะกินเผื่อครับ
    
    แฟนผมทำน้ำพริกอร่อยมาก
    
    
    คงได้คุยกันอีกครับ
  • ฉางน้อย

    23 เมษายน 2550 18:49 น. - comment id 95791

    ...ขอบคุณสำหรับต้มยำปลา  กับ น้ำพริกนะคะ 
    
    เสียดายจัง ฉางน้อยเพิ่งอิ่มมาค่ะ 
    
    ทานง่ายๆค่ะ  ข้าวไข่เจียว 5555
    
    จานเดียวอิ่มแระ ออกมานั่งอ่านไปเรื่อย
    
    ปล. บ้านคุณก่อพงษ์แหว่งแหดักปลาได้จริงๆเหรอคะ หรือเพียงล้อเล่น
    
    .....คุณก่อพงษ์เขียนเรื่องแบบนี้น่าอ่านคะ  อ่านง่าย ไม่น่าเบื่อ   
    
    ชอบอ่านอะไรทีง่ายๆ เข้าใจง่าย 
    
    ไม่ต้องมีปรัชญาให้มากนัก  5555
    
        .... ฉางน้อยชอบอ่านเรื่องสั้นแนววรรณกรรมแบบเด็กๆ ค่ะ  แบบแนวท้องทุ่งชนบท
    
    ถ้าได้คลุกคลีกับท้องทุ่งชนบทคงมีข้อมูลดิบมากกว่านี้คะ
    
    .....ชอบอ่าน อยากเขียน แต่เขียนไม่เก่งคะ 
    
    ต้องอาศัยการฝึกฝนไปเรื่อยๆ แต่ไม่ค่อยว่างหรอกคะ 41.gif41.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    23 เมษายน 2550 21:56 น. - comment id 95801

    เข้ามาทักทายตอนเย็นย่ำ  ค่ำแล้ว
    
    ม้อเย็นผ่านไปแล้วครับ
    เมนู  ก็  ต้มยำปลา  กะน้ำพริก
    กินกะข้าวเหนียว
    ปิดท้ายด้วยมะม่วงสุกคนละลูกสองลูก
    เป็นมะม่วงพื้นบ้านนะครับ
    ลูกเล็ก ๆ กลิ่นห้อมหอม
    
    เจริญอาหารดีเหลือเกิน
    
    
    อากาศนอกบ้านเย็นนะ
    แต่พอเข้ามาในตัวบ้านก็ร้อน ๆ อุ่น ๆ
    
    แต่ว่าก็พอทนครับ
    อาศัยแป้งเย็นตรางูช่วย
    
    
    ที่เล่าว่าออกไปเขวี้ยงแหจับปลา
    ผมมีบ่ปลาจริง ๆ นะครับ
    
    เป็นพวกตะเพียน ยี่สก และปลานิลเป็นหลัก
    ถ้าอยากกินปลานี่ ผมฉวยแห  หรือไม่ก็ข่ายดักปลา
    
    ลงน้ำหน่อยเดียวก็เอาขึ้นมาให้แม่บ้านทำกับข้าวได้หลากเมนู
    
    พืชผักเครื่องแกงก็อยู่ในสวนครัวข้างบ้าน
    สะดวกดีครับ ประหยัดด้วย
    ที่สำคัญกินด้วยความสบายใจล่ะ
    ไม่ต้องกลัวยาฆ่าแมลง
    จากนักปลูกผักมืออาชีพที่ไม่กลัวสารพิษ
    
    
    คุณฉางน้อย ดูเหมือรนจะเป็นคนแรกที่เขียนวิจารณ์งานของผม
    
    ต้องขอบคุณมากครับ
    
    ผมไม่ค่อยรู้จักตัวเอง
    
    มีแต่ใจอยากเขียนแต่ไม่เคยรู้ว่าเขียนแล้ว
    เข้าท่าหรือเปล่า
    
    
    ผมสะสมหนังสือไว้เยอะมากครับ
    ด้วยความที่อยากเป็นนักเขียนนั่นแหละ
    
    
    นึกถึงตอนที่เป็นเด็กติดนิตยสารรายสัปดาห์ครับ   แย่งกันอ่านทั้งบ้าน 
    แต่ไม่ได้ซื้อเองดอกครับ
    มีคนหอบมาให้ทีละสิบยี่สิบเล่ม
    
    คงอันนี้ด้วยแหละที่ทำให้อยากเป็นนักเขียน
    
    
    ผมพูดประชดประจันตัวเองครับว่า
    เป็นวิญญาณเร่ร่อนในโลกวรรณกรรม
    เพราะหาที่เกิดยังไม่ได้กะใครเขา
    
    เพื่อนหลายคนเป็นนักเขียนมีชื่อ(ดัง)ไปแล้ว
    แต่ผมยัง เร่ร่อนอยู่ในไซเบอร์สเปซเท่านั้น
    
    ยังไม่มีที่อยู่ที่ยืนเลย โนเนมก็ว่า
    
    
    
    อ่านที่คุณฉางน้อยเขียนทำให้ผมนึกถึงเพื่อน
    บางคน
    
    ตอนนี้ยังเขียนหนังสืออยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้
    ลีลาการใช้คำแบบเจืออารมณ์ขันคล้ายคุณฉางน้อยยังไงยังงั้น
    
    
    เขียนต่อไปนะครับผมจะติดตามที่คุณเขียน
  • ฉางน้อย

    24 เมษายน 2550 06:37 น. - comment id 95804

    .....อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณพงษ์
    
    ขอโทษด้วยนะคะเมื่อคืนไม่ได้มาคุยด้วย
    
         ทักทายยามเช้าดีกว่าอากาศแจ่มใสดีเนาะ
    
    .... คุณก่อพงษ์อย่าคิดว่าที่ฉางน้อยพูดมานั้นเป็นการวิจารณ์งานเขียนเลยค่ะ 
    
    ฉางน้อยยังไม่รู้จักคำนั้นดีพอ
    
    เอาเป็นแค่ว่า ฉางน้อยพูดถึงงานเขียนของคุณเฉยๆแล้วกันค่ะ
    
        ก็พูดตามใจคิดไงคะ ว่างานของคุณเขียนแนวนี้น่ะ น่าอ่านจัง
    
     คงเป็นเพราะฉางน้อยชอบอ่านแนวง่ายๆด้วยมั้งคะ ไม่สลับซับซ้อม ไม่ต้องมีปรัชญาคิดให้เปลืองหัวสมอง  ฮี่ ฮี่
    
           คุณก่อพงษ์เองก็อยู่ที่ต่างจังหวัด ได้เปรียบตรงที่มีข้อมูลดิบดีกว่าคนในเมือง
    
    (ไม่ทราบว่า ฉางน้อยเข้าใจถูกต้องหรือเปล่านะคะ)
    
           คนเขียนหนังสือ ความฝันอยากเป็นนักเขียนชื่อดัง 
    
    ฉางน้อยก็เคยคิดค่ะ แค่คิดเล่นๆ เพราะเป็นงานที่ชอบ 
    
    แต่ไม่ได้หมายความว่า ต้องดิ้นรน ไขว่คว้า ทุรนทุราย ทำไงดีน๊า เราจะได้เป็นนักเขียนมีชื่อเสียงกะเขาบ้าง
    
    ฉางน้อยไม่อยากคิดแบบนั้นหรอกคะ  
    
    มันเหมือนทำให้เราลำบากใจ
    
    ฉางน้อยแค่เขียนๆ ขีดๆตามใจ ตามที่ตัวเองชอบ
    
    อยากเขียนอะไร เขียน   อยากจดอะไร จด บันทึก 
    
    ทราบดีค่ะ บางคนอยากเป็นนักเขียน อยากเป็นโน่น อยากเป็นนี่ 
    
    อย่างวัยรุ่นเดี๋ยวนี้  อยากเป็นนักเขียนแต่คำพูดในการใช้ภาษาไทยยังไม่ถูกต้อง
    
    อย่างเช่น คำว่า เธอ กลายเป็น เทอ 
    
    มีอีกหลายคำคะ ไม่อยากจดจำ
    
          คุณก่อพงษ์คงพอเข้าใจนะคะ
    
    ........ พูดถึงเรื่องหนังสือ ที่ห้องฉางน้อยก็มีเยอะพอสมควรค่ะ 
    
    แต่ส่วนมากเป็นแนววรรณกรรมของเด็กๆ
    
    ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมชอบอ่านแบบเด็กๆ 555555
    
    หนังสือที่เป็นหลักปรัชญาดีๆไม่ค่อยมีติดห้องกะเขาหรอกคะ  5555
    
           หนังสือที่ฉางน้อยอ่าน  ไม่จำเป็นต้องเป็นของนักเขียนชื่อดังๆ 
    
    แค่เห็นชื่อเรื่อง หน้าปก น่าสนใจ น่าอ่าน ก็ซื้อคะ 
    
    ฉางน้อยว่านะ อ่านไปเถอะคะ หนังสืออะไรก็ได้ อ่านแล้วให้แง่คิดหลากหลายมุมมองค่ะ 
    
           พี่สาวแกล้งบอกว่า สักวันหนึ่ง จะเอาหนังสือมาทำต้มยำให้กินซะ เพราะหนังสือมีเยอะไงคะในห้อง ไม่มีใครอ่านด้วยคะ 
    
    หวงคะ 5555 หวงหนังสือ
    
     กลัวเขายืมไปแล้วไม่ถนอมเหมือนเจ้าของ 5555
    
    ฉางน้อยไม่อยากคิดเหมือนคุณก่อพงษ์คะ 
    
    ที่คุณบอกว่า ตัวคุณเองเร่ร่อนแค่ในโลกไซเบอร์สเปซแห่งนี้  พูดเหมือนคุณก่อพงษ์ไม่มีจุดยืนของตัวเอง
    
     คุณอย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นซิคะ 
    
    ยิ่งคุณคิดแบบนี้ จะทำให้ยิ่งไม่สบายใจนะคะ   จริงๆนะ
    
           อย่าเอาตัวเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่น
    
    สำหรับฉางน้อยคิดว่า ตัวเองอาจจะยังไม่มีโอกาสแค่นั้นเอง
    
    สักวันหนึ่ง คงต้องมีสักวันที่เป็นของเรา
    
       ฮี่ ฮี่ ...ปลอบใจตัวเองไง เนอะ อิอิ
    
    ........... ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้ฉางน้อยนะคะ
    
    บางที บางครั้งอยากเขียนค่ะ  แต่สมองตื้อตันไปหมด 
    
    บางที อยู่ดีๆก็แว่บๆมาในสมอง คิดเรื่องราวได้รวดเร็วทันใจ
    
    เพื่อนๆเขาก็พูดคะว่า ฉางน้อยเขียนอะไรทีเหมือนง่ายๆดี  อ่านแล้วไม่คิดมาก 5555555
    
    ........ฟังที่คุณก่อพงษ์ดเล่าชีวิตความเป็นอยู่แบบชีวิตอย่างเพียงพอแล้วน่าอิจฉาคะ 
    
    อยากมีชีวิตแบบนั้นบ้างจัง 
    
    แต่บอกแล้ว ตอนนี้โอกาสยังไม่เป็นของเรา
    
    รอๆๆ รอไปก่อง 55555
    
    ....... แล้วจะแอบมาทักทายใหม่นะคะ
    
    ขอบคุณที่พูดคุยด้วยนะคะ
    
     และคุณก่อพงษ์ก็ดูเหมือนเป็นคนแรกเช่นกันคะ  ที่เข้ามาพูดคุยกะฉางน้อยได้ยาวๆแบบนี้
    
    ........ขอให้คุณก่อพงษ์มีความหวังนะคะ อย่าเพิ่งท้อแท้ หวังดีกว่าไม่หวังอะไรเลยค่ะ 
    
    ( แล้วจะรออุดหนุนผลงานนักเขียนชื่อดังในอนาคตนะเจ้าคะ )
    
    ....สู้เขาต่อไป เทเคชิ เพื่อนักอ่านทั่วแผ่นฟ้าเมืองไทย อิอิ ....
    
    55555555
    
    ....... ฉางน้อยโม้เยอะจัง คุณก่อพงษ์อย่าเพิ่งหลับนะคะ  
    
    เพราะเพื่อนๆมักแซวว่ายัยนี่มันโม้จนลิงหลับ
    
    เลยไม่อยากให้คุณพงษ์หลับ
    
     .....ฮี่ ฮี่ คิดเองน๊า ..กิ๊วๆๆๆๆ
    
    46.gif46.gif74.gif74.gif
  • กุ้งหนามแดง

    24 เมษายน 2550 07:51 น. - comment id 95806

    ...อ่านแล้วอิ่มใจค่ะ...
    
    :)
  • หน้าแหลม ศพอ.

    24 เมษายน 2550 09:46 น. - comment id 95809

    อ่านแล้วทำให้ผมคิดถึงเพื่อนที่มุ่งมั่น
    กับสิ่งที่ตนเองต้องการ (เพีย  คำปัน)
    ฝึกฝน หาหนทาง มุ่งมั่น ตามทางเดิน
    ในความคิดของผม
    อุดมการณ์ เป็นเหมือนอะไรที่มีอายุสั้นๆ
    เปรียบเหมือน ลูกเต๋า ที่โอบลอมด้วย ลูกหินกลมๆ ในสังคม ตาบใดที่ ลูกหินกลิ่งมากระทบลูกเต๋า ไม่นาน ลูกเต๋า ก็จะกลมเป็นลูกหิน
    แต่ ลูกเต๋า ลูกนี้ แม้หินจะกระทบสักเท่าใด
    เหลี่ยม ก็ยังเป็น เหลี่ยม 
    ขอให้มุ่งมั่นต่อไป เป็นกำลังใจเสมอมา
  • ก่อพ

    24 เมษายน 2550 11:25 น. - comment id 95810

    อรุณสวัสดิ์ครับคุณฉางน้อย
    คุณกุ้งหนามแดง
    และจิ๊บ ศพอ. เพื่อนรัก
    
    
    
    ขอบคุณสำหรับถ้อยคำให้กำลังใจนะครับ
    
    ผมจำคำที่เคยพูดกันกับจิ๊บเรื่องลูกเต๋ากับกรวดครับ
    
    
    
    
    กรวดที่เดินทางมากับสายน้ำ
    ยิ่งยาวนานยิ่งกลมมน เพราะถูกกระเทาะ
    เสียดสี และกัด - กร่อนจากทั้งหินด้วยกันที่แกร่งกว่า จากผาและโตรกที่คมแข็งตลอดเส้นทางที่เคลื่อนผ่าน  และแม้แต่สายน้ำที่อ่อนโยนก็ยังมีส่วนทำให้หินเหลี่ยม  มนขึ้น
    
    
    
    หินเหลี่ยม  คม แข็ง  สร้างรอยแผลเหวอะแก่ผู้เดินทางที่ไม่ระวัง
    
    
    ผู้คนเกลียดหินเหลี่ยมมากกว่าที่จะพิศมัยหรือไว้ใจ
    
    
    ผมคล้ายหินเหลี่ยม
    
    แต่ความจริง
    
    กาลเวลาได้ขัดสี หัวใจของผมให้กลมมน
    และเปลี่ยนไปมาก
    
    
    ยอมได้มากขึ้น
    
    
    อดทนได้มากขึ้น
    
    
    ยิ้มรับการรอคอยที่สูญเปล่าได้
    
    
    เหลี่ยมที่ผมอาจจะมีอยู่  คงเป็นความเกลียดชังความอยุติธรรมทั้งมวล
    
    
    
    
    หลายปีมานี้ผมศึกษาธรรมะ
    แม้จะเป็นเงาธรรมจากหนังสือหรือนิยาย
    ก็ทำให้ผมนำข้อสรุปนั้นมาใช้ทำใจ
    ในสิ่งที่ไม่อยู่ในอำนาจของเรา
    
    
    ทำให้ผมสบายใจขึ้น
    
    ไม่ทุรนทุรายเกินไปกับชีวิต
    
    
    
    ประสบการณ์สมัยอยู่ ใน ศพอ.มข.
    เป็นประสบการณ์ที่งดงามสำหรับผมมาก
    
    จนทำให้ผมเลือกที่จะทำงานด้านพัฒนาชนบทต่ออีกช่วงหนึ่งหลังเรียนจบ
    
    
    และผมก็ได้ใช้วัตถุดิบหลายชิ้นจากประสบการณ์ช่วงนั้นมาเป็นเชื้อเขียนหนังสือ
    
    
    ผมยังรำลึกถึงจิ๊บและเพื่อน ไท ศพอ.เสมอ
    ได้เจอโย่งบ้าง   เฒ่าเหมือนบ้าง   พี่หน่อยบ้าง    ที่ไม่ได้เห็นหน้ากันอีกเลยคือเจี๊ยบครับ  น้องวันก็ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์บ้าง     ผมได้ไปเยี่ยมพี่หน่อยที่มหาสารคาม  ด้วยครับ   ชอบบ้านพี่หน่อยมาก   เป็นบ้านที่ผมวาดไว้ในอุดมคติ  น่าอยู่จริง  ๆ  ลูกชายของผมทั้งสองคนบอกว่าบ้านน่าอยู่มาก อยู่ติดลำน้ำชี
    
    
    ดีใจมากที่ได้พูดคุยกับจิ๊บ
    
    
    --------------------
    
    สำหรับคุณฉางน้อย
    ผมขออวยพรวันเกิดด้วยนะครับ
    
    happy  birthday ครับผม
    
    ถ้อยคำมีค่าของคุณ ผมจะเก็บไว้เป็น
    พลังเติมหัวใจ
    
    ขอมิตรภาพของเรา
    ปลุกปลอบใจในวันเหนื่อยล้าด้วยครับ
    
    ขอบคุณครับผม
    
    -----------
    
    
    สำหรับคุณกุ้งหนามแดง
    
    ขอบคุณยิ่งอีกครั้งครับ
  • ฉางน้อย

    24 เมษายน 2550 17:44 น. - comment id 95819

    11.....คุณก่อพงษ์คะ 
    
    ขอบคุณ.....สำหรับ...คำอวยพรที่มีให้ฉางน้อยนะคะ
    
    ขอบคุณ.....สำหรับ...มิตรภาพที่ดีๆที่มีให้แก่กันค่ะ
    
    ขอโทษ.....คุณก่อพงษ์ด้วยนะคะที่เข้ามาขอบคุณช้าไป
    
    ... อิอิ มัวแต่เดินสายหาเสียง เอ๊ย เดินสายขอบคุณเพื่อนๆอยู่น่ะค่ะ 
    
    5555555  ( พูดเหมือนนักร้องที่มีแม่ยก เนาะ)
    
    ขอโทษ.....คุณก่อพงษ์ด้วย หากว่าที่ผ่านๆมา ฉางน้อยอาจคุยเล่นกับคุณมากเกินไป
    
    ฮี่ ฮี่ ก็คุณเป็น..ผู้ใหญ่..ฉางน้อยเยอะเลยคะ 
    
    ( ฉางน้อย เป็นแค่ลูกสาวกำนัน 5555 )
    
    ว้าๆๆ... เห็นไหมล่ะนั่น ในที่สุดก็ลืมตัวอีกแระเรา 555
    
    ...... คุณก่อพงษ์ทราบไหมคะว่า ....
    
    วันนี้  ฉางน้อยดีใจ สบายใจที่สุด
    
    ดีใจกับคำอวยพรที่เพื่อนๆยังไม่ลืม เพื่อนติงต๊องส์ คนนี้ 
    
    อ่านแล้วรู้สึกหัวใจพองโต 
    
    ปลาบปลื้มใจในความมีน้ำใจของเพื่อนที่มีต่อมิตรในโลกไซเบอร์แห่งนี้
    
     ..... ฉางน้อย อุตส่าห์ทำเฉยๆว่าไม่มีใครรู้แล้วนะคะว่า วันนี้ วันเกิดฉางน้อย
    
        พอรุ่งเช้า เปิดเน๊ต เข้ามาที่บ้านกลอนไทยเป็นที่แรก
    
     ตกใจ ยิ้มปากกว้างไปถึงใบหู อิอิ 
    
    ไม่คาดคิดว่า เพื่อนคนหนึ่งที่เพิ่งได้พูดคุยกัน
    
    จะเขียนกลอนอวยพรให้ 
    
         บางคนอาจเห็นเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ 
    
    บางคนอาจมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไป
    
    แต่ ฉางน้อย ดีใจนะคะ ที่เพื่อนคนนี้ เขายังไปเปิดดูประวัติฉางน้อย
    
    555555 ( อยากรู้เรื่องราวของฉางน้อยว่างั้นเหอะ 555 )
    
    .....ไปก่อนนะคะ ว่างๆจะมาแอบคุยคนเดียวให้ฟังอีก 5555
    
    ...ฟิ้วววววววว.....46.gif46.gif74.gif74.gif
  • ตุ๊กตาไล่ฝน

    24 เมษายน 2550 21:17 น. - comment id 95821

    สวัสดีค่ะ คุณก่อพงษ์
    
    แวะมาอ่านและแอบดูคุณและเพื่อนคุยกันนะคะ
    ห่างหาย ไม่ได้อ่านงานของคุณก่อพงษ์นานมาก
    แล้วก็แทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย
    แต่หายไปยังไง กลับมาที่เดิม...ยังรู้สึกอุ่นทุกครั้ง
    ถ้อยคำที่เข้าใจง่ายและดูซื่อของคุณ
    เป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น...เหมือนเดิม :-)
    
    ขอบคุณสำหรับงานเขียนแนวนี้นะคะ
    
    คุณก่อพงษ์สบายดีเปล่าคะ
    ลมตะวัน ปานตะเว็น ปิดเทอมอยู่ใช่มั้ยคะตอนนี้
    แล้วคุณแม่ของสองหนุ่มสบายดีนะคะ?
    
    หอบความคิดถึงมาเยี่ยมเยียนค่ะ
    
    มิตรของคุณ
  • ฉางน้อย

    24 เมษายน 2550 21:31 น. - comment id 95822

    13.....ว๊ายๆๆ  เขินจังค่ะ 
    
    มีคนแอบดูเราด้วย ฮี่ ฮี่  
    
    ห้ามแอบดูนานๆน๊า ระวังตาเป็นกุ้งยิง คิก คิก
    
    ..... เจ้าของบ้าน คุณก่อพงษ์ หายไปไหนแล้วไม่ทราบคะ หายเงียบเลย สงสัยไปก่อไฟ ฮี่ ฮี่
    
    ......แซวกันเล่น อย่างอนนะคะ คุณตุ๊กตาไล่ฝน  
    46.gif46.gif74.gif
  • วันสุข

    24 เมษายน 2550 21:39 น. - comment id 95823

    กำลังจัยเยอะนะคะ
    
    ป้อนขอเปงกำลังใจให้อีกคนนะ
    
    สู้ๆๆ
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    24 เมษายน 2550 22:08 น. - comment id 95825

    สวัสดีครับมิตรของผมคุณตุ๊กตาไล่ฝนและคุณฉางน้อยด้วย
    
    
    คุณตุ๊กตาไล่ฝนหายไปนานมากจริง ๆครับ
    ผมยังรำลึกถึงเสมอนะ
    
    ปีนี้ผมส่งกวีนิพนธ์กล่อมขอบแคว้นเข้าประกวดซีไรต์และ 7book awards ด้วยนะครับ
    ผมเขียนในคำนำถึงคุณตุ๊กตาไล่ฝนด้วย
    หนังสือยังไม่วางขายครับ   เพราะตั้งใจมอบให้ห้องสมุดมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ  เมื่อครบตามที่ตั้งใจคงมอบให้สายส่งขายให้  
    
    ผมตั้งใจจะออกเรื่องสั้นต่ออีก 1 เล่มครับ
    เอางานที่เคยโพสต์ในthaipoem.com ไปเกลาใหม่ หาเพื่อนeditให้และเขียนภาพประกอบ อาจจ้างโรงพิมพ์ในกรุงเทพฯทำเล่มสวยๆให้ เป็นโครงการต่อเนื่อง  จะวานคุณตุ๊กตาไล่ฝนเขียนคำนิยมให้ได้หรือเปล่าครับ
    
    ชื่อเรื่องอาจเป็น
    เจ้ายาชและคนอื่น
    หรือไม่ก็
    สมหวัง
    
    
    เมื่อเกลาต้นฉบับเสร็จผมจะmailให้อ่านเพื่อเขียนคำนิยมนะครับ
    
    
    ลมตะวันปีนี้เข้า ม.1 ครับ
    ปานตะเว็นขึ้น ป.5
    ตอนนี้ทั้งคู่อยู่บ้านปู่ย่า
    ปิดเทอมก็ไปบ้านปู่ทุกปี
    เห็นบอกว่าอาจะพาไปเที่ยวกรุงเทพฯด้วยสองสามวัน
    อาเขาเรียนอยู่ที่ มศว.ประสานมิตรครับ
    
    แม่ของสองหนุ่มสบายดีครับ
    เปิดร้านขายเสื้อผ้านักเรียน  เช่าห้องเล็กๆในตลาดค้าขาย ก็ทำมาค้าขึ้นดีครับ
    
    ถ้าเข้าเมืองผมก็ขับรถพาไปเอาเสื้อผ้าและของขายครับ
    
    
    ผมเองได้พักเยอะหน่อย
    อยู่บ้าน ขุดดินดายหญ้า ปลูกผัก
    แดดร้อนก็เข้าร่ม อ่านหนังสือบ้างเขียนหนังสือบ้าง
    
    หมู่นี้อากาศร้อนจังครับ
    
    คุณตุ๊กตาไล่ฝนเป็นไงบ้าง
    การเรียนการงาน
    
    เขียนหนังสือไหมครับช่วงนี้
    
    ผมไม่ได้เข้าไปที่yingthai-mag.comนานมาก
    เพื่อนเก่า ๆ มีใครเขียนอยู่ที่นั่นบ้างไหม
    
    
    
    ดีใจมากจริงๆครับที่ได้พูดคุยกับเพื่อนเก่าอย่างคุณตุ๊กตาไล่ฝนอีก
    
    แหมผมก็คิดถึงจังครับ
    
    ขอบคุณมากๆที่หอบความคิดถึงมาเยี่ยมเยียนกัน
    
    โปรดรับดอกไม้ไมตรีจากผมด้วย
    
    ก่อพงษ์
    
    มิตรของคุณ
    
    -----
    
    
    
    ทักทายคุณฉางน้อยด้วยนะครับ
    
             ออกจากเน็ตผมไปตัดไม้  เป็นต้นยูคาที่ลมพัดโค่นลงมาขวางทาง  ต้นใหญ่ครับขนาดต้นขาของคนหนุ่ม   ดีที่ผมลับมีดเล่มโตไว้คมกริบดิบดี  เลยได้ทดสอบประสิทธิภาพของมีดที่เพิ่งได้มาจากพ่อค้าเร่   ก็โอเคครับ  มีดไม่บิ่น    ยูคาต้นนั้นยาวมากครับ  เลาะกิ่งก้านออกแล้วกะจะเอาไว้ทำรั้วครับกันวัว
    
    
            คุณฉางน้อยเป็นลูกสาวกำนัน?   แหมเท่ห์นะ  คงเอาแต่ใจน่าดู   และใคร ๆ ก็คงไม่กล้าแหย่ให้โกรธด้วยมั้ง  แต่ว่าคุณฉางน้อยก็คงไม่ค่อยโกรธใครง่ายๆ  เพราะเป็นคนมีอารมณ์ขัน
    
           ผมได้รู้จักคุณตุ๊กตาไล่ฝนตอนที่เข้าไปอ่านกระทู้ในyingthai-mag.com ครับ ช่วงนั้นผมฝึกเขียนกลอนแปด  นำไปโฑสต์เพื่อขอคำแนะนำจากคุณเวทย์ ซึ่งก็ได้รับคำแนะนำที่มีค่าที่ผมใช้ประโยชน์เวลาเขียนร้อยกรองเสมอ   ๆ   ตอนหลัง ๆมา ก็ไม่ได้เข้าไปครับ
    
    
          ผมคงมีอารมณ์ขันด้วยเพราะคุณฉางน้อยพามีอารมณ์ขัน   
    
    
          คงได้คุยกันเรื่อยนะครับ
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    24 เมษายน 2550 22:13 น. - comment id 95826

    แหมคลาดกันกับคุณวันสุข หน่อยเดียว
    ขอบคุณมากนะครับสำหรับกำลังใจ
  • ฉางน้อย

    24 เมษายน 2550 22:20 น. - comment id 95827

    สวัสดีค่ะคุณก่อพงษ์
    
    แหมๆๆ ฉางน้อยแค่แซวคุณก่อพงษ์เล่นต่างหากคะ 
    
    เรื่อง ผู้ใหญ่กะลูกสาวกำนันน่ะค่ะ อิอิ
    
    คอมเม้นท์ ที่ 12 แค่จะแหย่ว่า คุณก่อพงษ์เป็นผู้ใหญ่เกินกว่าที่เด็กๆอย่าง ฉางน้อยจะล้อเล่นเกินไปไงคะ เพราะฉางน้อยเป็นแค่ลูกสาวกำนัน 
     46.gif46.gif74.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    24 เมษายน 2550 22:26 น. - comment id 95828

    ฮ่า  ๆ มีมุข
    และหักมุมอีก
    
    ผมต้องตีลังกาสองรอบจึงคิดออก
    
    ก๊ากๆ
    
    เอิ๊ก ๆ ซิเนาะ
    เพราะเป็นผู้ใหญ่นี่
  • ฉางน้อย

    24 เมษายน 2550 22:41 น. - comment id 95829

    19.... อิอิ มาแอบขำ คุณก่อพงษ์คะ 
    
    แอบขำในใจหรอกคะ 
    
    ไม่กล้าขำนอกใจ อิอิ เดี๋ยวโดนเขกกะโหลก อิอิ
    
    ....แหมๆ ฉางน้อยไม่ได้เป็นกล้วยนะคะ
    
    ที่จะได้หักมุม หรือ (กล้วย)หักมุข
    
    ฮี่ ฮี่ 
    
    ....... เฮ้ออออ ...ช่วงนี้ ฉางน้อยเขียนเรื่องสั้นไม่ออกคะ 
    
    คงเป็นเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย
    
    ร้อนมากมาย ไม่อยากทำอะไรคะ
    
    ... ฟังเรื่องราวชีวิตของคุณพงษ์ที่ต่างจังหวัด น่าจะสุข สบายนะคะ 
    
    มีชีวิตที่พอเพียง เพียงพอ น่าอิจฉาค่ะ 46.gif46.gif74.gif74.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    24 เมษายน 2550 22:52 น. - comment id 95830

    ชีวิตเรียบๆครับ
    
    ตัวละครในเรื่องสั้นของผมคุยกันว่า
    
    ความจนไม่ใช่ความทุกข์
    
    
    ผมก็จำเอามาสอนใจตัวเอง
    
    
    ผมคงราตรีสวัสดิ์ล่ะนะครับ
    เหน็ดเหนื่อยจากการงานใช้แรงมากหน่อยวันนี้
    
    
    คงได้พูดคุยกันเรื่อยๆ
    
    ถ้าได้คุยกับคุณฉางน้อยเรื่อยๆ
    ผมคงรวยมุขขึ้นบ้าง
    
    
    :) x 2
  • ตุ๊กตาไล่ฝน

    25 เมษายน 2550 11:37 น. - comment id 95834

    ความคิดเห็นที่ 14 
    
    สวัสดีค่ะคุณฉางน้อย
    เพิ่งมาแอบดูเอง...แป๊บเดียว จริงๆนะ
    คงยังไม่ถึงกับเป็นตากุ้งยิงหรอกค่ะ 55555
    
    แซวได้ค่ะ ไม่งอนด้วย อิอิ
    ไม่เชื่อลองถามคุณก.พ.สิคะ 
    ว่าเมื่อก่อนเราก็ใช่ย่อย ก๊ากกกกกกกก 20.gif
    
    แซววันละนิด จิตแจ่มใส คิดไปใย ให้หนักหมอง คริคริ ^^
    ....
    
    ความคิดเห็นที่ 16 
    
    สวัสดีค่ะคุณ ก.พ.
    เพิ่งทราบข่าว "กล่อมขอบแคว้น" ไม่นานนี่ละค่ะ
    ดีใจด้วยและเป็นกำลังใจให้ด้วยอย่างที่ตอบไว้ในกระทู้โน้นนนน นะคะ
    ขอบคุณสำหรับคำนำนะคะ แหะๆ 
    ว่าแล้วก็เปิดหนังสือดูอีกรอบ
    สองปีก่อนก็มีคำนำกับคำอุทิศถึงตุ๊กตาไล่ฝน
    เห็นชื่อตัวเองแล้วรู้สึกอ๊าย อายค่ะ เอิ๊กกก
    ไม่เคยได้อยู่ในคำนำหรือคำอุทิศของหนังสือเล่มไหนค่ะ
    11.gif
    
    เรื่องสั้นเล่มใหม่ที่จะออก?
    เอ่อ ในกล่อมขอบแคว้นคุณก.พ.เขียนไว้ว่า
    ติดตามกวีนิพนธ์ลำดับที่ 4 "กล่อมแคว้น" อะค่ะ
    ไม่ใช่เล่มนี้ใช่มั้ยคะ? แต่เป็นเรื่องสั้นอีกเล่ม?
    จะวานคุณตุ๊กตาไล่ฝนเขียนคำนิยมให้ได้หรือเปล่าครับ 
  • ฉางน้อย

    25 เมษายน 2550 11:44 น. - comment id 95836

    21.รับทราบค่ะ ความจนไม่ใช่ความทุกข์  
    
    เหมือนเตี่ยเคยพูดบ่อยๆว่า ชีวิตเราถ้าอยู่แบบเรียบง่าย เพียงพอ 
    
    พอเพียง ไม่ไขว่คว้าหาอะไรมาให้ลำบากตัวเองก็ดี
    
    บางคนที่ทุกข์ เพราะไม่รู้จักพอ มีแต่สร้างทุกข์
    
    มีแต่สร้างหนี้สินเพิ่ม
    
    ..... เตี่ยบอกว่า ชีวิตเรา ถ้าอยู่ได้จะมีความสุขที่สุด ก็คือการไม่มีหนี้สินติดค้างใครเลย
    
    ฉางน้อยคิดว่า การไม่มีทุกข์ คือการที่คนเราไม่มีหนี้ อิอิ 
    
    แต่ถ้าเป็นหนี้รัก เราไม่ว่ากัน แฮ่ แฮ่
    
    ไม่รู้เนอะ นี่เป็นความคิดของแต่ละบุคคล โปรดอย่าลอกเลียนแบบ อิอิ
    
    ... โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ฮี่ ฮี่46.gif46.gif74.gif74.gif
  • ตุ๊กตาไล่ฝน

    25 เมษายน 2550 12:05 น. - comment id 95837

    อยากจะกรี๊ดดดดดดดดดดด
    ทำไมความเห็นของข้าพเจ้าเหลือแค่นั้น???
    พิมพ์ไปยาวมากกกกกกกกกกกกก
    ไมหดเหลือแค่นั้นล่ะเจ้าคะ กระซิกๆ 15.gif
    
    งั้นพิมพ์ใหม่ละกัน(แล้วจะได้เหมือนเดิมมั้ยเนี่ย)
    
    เรื่องสั้นเล่มใหม่ที่จะออก?
    เอ่อ ในกล่อมขอบแคว้นคุณก.พ.เขียนไว้ว่า
    ติดตามกวีนิพนธ์ลำดับที่ 4 "กล่อมแคว้น" อะค่ะ
    ไม่ใช่เล่มนี้ใช่มั้ยคะ? แต่เป็นเรื่องสั้นอีกเล่ม?
    จะวานคุณตุ๊กตาไล่ฝนเขียนคำนิยมให้ได้หรือเปล่าครับ 
    ^
    ^
    เอ่อ บัวจะเขียนได้เหรอคะ O_o
    รู้สึกเป็นเกียรติมากๆ เลยค่ะ แต่กลัวว่าจะเขียนไม่เป็นค่ะ
    เอาว่าไหนๆ คุณก.พ.ก็ให้เกียรติขนาดนี้แล้ว
    บัวจะลองดูนะคะ ^^
    
    ว้าว ลมตะวันปานตะเว็นโตขนาดนั้นแล้วเหรอคะ
    ปิดเทอมน้องๆ คงมีความสุขนะคะ
    ไปอยู่กับปู่ย่า ดีค่ะ...ท่านจะได้ไม่เหงาด้วย
    ขอให้กิจการแม่ของสองหนุ่มขายดิบขายดีนะคะ^^
    ชีวิตคุณก.พ.เรียบๆ ง่ายๆ แต่รู้สึกเลยว่า
    ไอของความสุขมันแผ่มาสู่คนอ่านด้วยเลยค่ะ
    มีน้องคนรู้จักอยู่สกลคนนึง
    บอกว่าร้อนเหมือนกันค่ะแต่น้อยกว่ากรุงเทพฯ
    คือน้องเค้าไปๆ มาๆ สองที่น่ะค่ะ
    
    บัวสบายดีนะคะ เรื่อยๆ ค่ะ ยิ่งช่วงนี้..
    เรื่อยๆ จนจะเปื่อยแล้วค่ะ 555 ก๊ากก
    บัวเรียนจบแล้วนะคะ เพิ่งไปรับทรานสคริปต์
    มาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว และรอรับปริญญากลางปีนี้ค่ะ ^____^
    ยังไม่ได้ทำงานอะค่ะ ว่างงาน อิอิ
    จริงๆ คืออยากพักสักครู่ มันรู้สึกงงๆ สับสน ว่าจะเอาไงดีกะชีวิต 
    แค่ตั้งหลักไม่ถูก...เลยขอหยุดสักพักก่อนละกัน ตั้งหลักก่อนค่ะ
    แล้วค่อยลุกขึ้นเดินต่อ ^^
    
    เขียนหนังสือไหมช่วงนี้...ไม่ค่อยได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันค่ะ
    ก่อนหน้านี้ก็เรียน ไม่ค่อยได้เขียนสักเท่าไหร่
    ความเรียงสักเรื่อง ก็นานๆ ทีค่ะ
    บัวก็ยังไม่ได้พัฒนาไปเป็นอย่างอื่นนะคะ
    รู้สึกชอบความเรียง เลยเขียนเรื่อยๆ 
    เรื่องสั้นหรือนิยาย เคยคิด...แต่ยังไม่ลงมือทำค่ะ
    ก็ยังรู้สึกอยู่ตลอดว่าตัวเองถนัดอ่านมากกว่าเขียนนะคะ
    อ้อ...มีข่าวดีอีกอย่างบอกคุณก.พ.ด้วยละค่ะ
    บัวเริ่มเขียนกลอน(บ้าง) แล้วนะคะ^^
    จากที่ไม่คิดจะเขียน คิดว่าเราคงทำไม่ได้
    และไม่ลงมือทำ ปีกว่าๆ มานี้ บัวได้ลองในสิ่งที่บัวไม่คิดนั่นละค่ะ
    ถือว่าเป็นก้าวเล็กๆ ก้าวแรก 
    รู้สึกดีนะคะ ดีใจ...ที่ตัวเองได้เริ่ม 555
    แต่เป็นกลอนที่เด็กวัยรุ่นเขียนๆ กันอะค่ะ
    เค้าเรียกกลอนเปล่าหรือกลอนอะไรไม่รู้
    รักเหงาเศร้าซึ้ง ไม่ค่อยมีสาระอะไร
    เป็นไปตามอารมณ์ซะส่วนใหญ่
    คำก็ไม่สละสลวย ใช้คำธรรมดาๆ 
    แผนผังบังคับถูกบ้างไม่ถูกบ้าง ตามใจฉัน
    มันจะเรียกว่าเป็น "กลอน" ได้รึเปล่ายังไม่รู้เลย อิอิ
    ยังดีที่ได้เขียนออกมา ตอบโต้กับเพื่อนๆ คนอื่น
    ต้องขอบคุณเค้าด้วย ที่ทำให้บัวกล้าที่จะเขียน
    ได้เท่านี้ ตอนนี้บัวก็พอใจแล้วค่ะ
    อนาคตก็ว่ากันต่อไป ถ้าอยากเขียนจริงจัง
    คงต้องศึกษาอีกมากกกกก(โข) เอิ๊กกกๆ
    นี่ละค่ะ การเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งในเรื่องการเขียนหนังสือของบัว^^
    
    บัวเข้าหญิงไทยสม่ำเสมอนะคะ
    ไม่มีพี่ๆ คนไหนเขียนที่นั้นแล้วค่ะ 
    เข้าไปก็ตะโกนโหวกเหวกอยู่คนเดียว...เงียบเหมือนป่าช้า 555
    แต่พี่ๆ คนอื่น ก็ได้คุยได้ทักทายกันบ้างนะคะ
    เพราะไปรวมตัวกันที่บ้านคุณก้อน บ้านพี่วัตตราน่ะค่ะ
    จะมีธรรมเนียมปาร์ตี้(คุย) ออกอากาศกันสดๆ
    ทุกวันศุกร์หลังเที่ยงคืน ที่บ้านคุณก้อนค่ะ
    พี่ว่างๆ ก็แวะไปตั้งกระทู้ไปแจมได้นะคะ^^
    ยังอบอุ่นเหมือนเดิมแหละค่ะ 
    คุณก้อน พี่วัตตรา คุณบุญเติม พี่นีรดารา พี่จูนิ พี่ออร่า ฯลฯ ก็ยังไปมาได้เห็นกันบ้างค่ะ
    
    พล่ามเยอะเชียววันนี้ อิอิ เท่านี้ก่อนละกันค่ะ
    ดีใจที่ได้คุยกับคุณ ก.พ.อีกครั้ง
    เคยจะแวะไปทูซิท แต่ก็หาทางเข้าไม่เจอ
    เลยลองมาดูที่นี่นี่ละค่ะ เลยได้เจอกันอีกครั้ง
    
    บัวคิดถึงและระลึกถึงพี่ๆ ทุกคนเสมอนะคะ
    ยังเป็นน้องน้อยคนเดิมที่แหย่ๆ แซวเล่น
    พี่ๆ (บางคนบอกว่าเป็นลุงเป็นป้าได้แล้วนะ 555)
    ให้ขำๆ กันได้บ้าง ไม่เครียด
    กลอนก็ไม่แต่ง อะไรก็ไม่แต่ง
    ได้แต่อ่าน และแซวอย่างเดียว 555 เอิ๊กกก
    
    รับดอกไม้ไมตรีจากคุณก่อพงษ์ค่ะ
    
    ด้วยมิตรภาพ
  • ฉางน้อย

    25 เมษายน 2550 12:27 น. - comment id 95838

    ....ตั๊บแก......ทีนี้เป็นตาฉางน้อยบ้างล่ะน๊า แอบดูๆ 
    
     อิอิ แอบดูบ้างน๊า  เค้าคุยไรกัน อิอิ
    
    ...... สวัสดีค่ะคุณตุ๊กตาไล่ฝน 
    
    ฉางน้อยอยากเขียนเรื่องสั้นคะ มีคำแนะนำที่ดีๆให้ได้บ้างไหมคะ 
    
    เหมือนที่คุณตุ๊กตาไล่ฝนพูดคะ ถ้าเรายังไม่เริ่มลงมือ แล้วเมื่อไหร่จะมีผลงานออกมาซะที
    
    ตอนแรกๆที่ฉางน้อยเขียนกลอน หรือ เรื่องสั้นลงในเวปนี้ ฉางน้อยอายตัวเอง  55555
    
    อายผลงานของตัวเอง ว่าจะมีคนอ่านหรือ(ฟ่ะ) อิอิ
    
    แต่เขียนๆไปนานๆเข้าก็เริ่มจะมีเพื่อนเข้ามาทัก มาคุยค่ะ
    
    กลอนที่คุณตุ๊กตาไล่ฝนพูด คงเป็นประเภทกลอนเปล่ามั้งคะ เอ ใช่ไหมหว่า เอ๊ย ใช่ไหมน๊า อิอิ
    
    ฉางน้อยชอบที่จะเขียนเรื่องสั้น แม้ว่าไร้สาระก็ตาม อิอิ  เขียนกลอนไม่ถนัดสักเท่าไหร่ค่ะ
    
      ฉางน้อยคิดว่าตัวเองเป็นนักอ่าน ดีกว่าเป็นนักเขียนน่ะค่ะ  
    
    เป็นคนที่ชอบอ่าน ไม่จำกัดแนว 
    
    ทุกวันนี้ บัตรสมาชิกร้านหนังสือมีเกือบทุกร้านแล้วค่ะ  555555
    
    เข้าไปแอบอ่าน บ้าง ซื้อบ้าง 555
    
    .......... โห ลืมเลยคะ ลืมสวัสดีคุณก่อพงษ์ยามสายๆ 
    
     อิอิ วันนี้เหนื่อยจังคะ นอนมาก เหนื่อยจัง อิอิ
    
    อยากมีชิวิตที่เรียบง่ายเหมือนคุณก่อพงษ์ค่ะ 
    
    ไม่ยุ่งยากเหมือนในเมืองหลวง
    
    ไม่ต้องดิ้นรนทำมาหากินให้มากนัก
    
    ใน กทม.เนี๊ยะ แก่งแย่งกันทุกอย่าง 
    
    ไม่ว่าอาหารการกิน การทำงาน ความเป็นอยู่ของคนเมือง น่าเบื่อๆๆๆ
    
         พอแระ บ่นมากไป เมื่อยปากค่ะ 
    
    ไปหาไรกินก่อน 5555 
    
    ( ว่างๆจะแวะมาบ่นใหม่นะคะ )
    
    ฟิ้ววววววววววว.......
    
    (ลูกสาวกำนัน..ตัวปลอม) 5555555) 
    46.gif46.gif74.gif74.gif
  • ฉางน้อย

    25 เมษายน 2550 12:33 น. - comment id 95839

    00313_12.jpg 
    
    เอาภาพน่ารักๆมาฝากค่ะ
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    25 เมษายน 2550 17:24 น. - comment id 95842

    สวัสดีครับคุณตุ๊กตาไล่ฝนและคุณฉางน้อย
    
       วันนี้อากาศดีมาก เย็นแต่เช้า  ฟ้าครางอย่างกับช่วงปลายฝน ครางแบบฝนสั่งฟ้า   เขาคงไม่รีบสั่งหรอกนะเพราะยังไม่เข้าหน้าฝนเลย   เมฆดำไหลเป็นวง แต่ฝนก็ไม่ตก  ผมเลยขุดดินสบายเลย   จะปลูกแตงกวาครับ   ชอบแตงกวาเวลากินแนมลาบลู่  กินกะน้ำพริกก็อร่อย   แต่ก็ไม่อยากซื้อกินนะ  เพราะแตงพวกนั้นเคลือบยาฆ่าแมลงชนิดที่คนปลูกไม่ยอมกินเองน่ะครับ   ปลูกไม่มาก  ยี่สิบหลุม  กินไม่หมดก็แบ่งเพื่อนบ้าน  ถั่วฝักยาวอีก ห้าหกหลุม  ผักบุ้ง 2 แปลง   ผักบุ้งนี่ปลูกง่ายมากครับ  เก็บกินไม่ทันต้องเอาไปให้ปลาบ้าง
    
    
    ไม่ค่อยเหน่อยครับเพราะอากาศไม่ร้อนมาก
    แต่เมื่อวานเหนื่อยจริง แดดร้อนทั้งวัน
    
    
    คุณตุ๊กตาไล่ฝนครับ
    ขชอบคุณมากนะครับที่รับปากจะเขียนคำนิยมให้ในเรื่องสั้นที่จะออกเล่มต่อไป
    
    เรื่องสั้นไม่ชื่อ เจ้ายาชและคนอื่น ก็ ชื่อสมหวัง นะครับ
    
    ส่วนกวีนิพนธ์  กล่อมแคว้น
    ผมกะจะออกทีหลัง ตอก
    ซึ่งไม่เน้นฉันทลักษณ์ เป็นงานแนวทดลอง
    ตามความคิดของผม
    
    
    ช่วงนี้มีงานใหม่ที่ผมรับปากคนที่ผมเคารพนับถือเอาไว้คือศึกษาอักษรธรรมและแปลใบลาน  เป็นงานใหญ่ ใช้เวลา 1 ปี   ผมจะต้องทำให้ได้ครับ  
    
    ส่วนงานเรื่องสั้นและร้อยกรองนี่ ใจรักอยู่แล้ว  ทำไปเรื่อย ๆ ถึงเวลาก็โป๊ะ   ได้เหมือนกัน
    
    
    ผมเชียนให้คุณตุ๊กตาไล่ฝนเขียนนะครับ
    แนวที่ตัวเราเองถนัดนั่นแหละ เห็นผลงานได้ง่ายดี
    
    ก็จริงอยู่ที่เราอาจมีสไตล์ที่เราชอบ
    
    แต่งานเลียนแบบมันไม่ใช่ตัวเราเองทำได้ซักหน่อยก็คงเบื่อ
    
    
    ผมเองอาจเริ่มดีหน่อยตรงที่เอาแบบมากางแล้วเขียน
    
    เช่นกลอนแปดก็เขียนตามแบบ
    โคลงก็เขียนตามแบบ
    
    ทำไปทำมามันกลายเป็นอัตโนมัติ
    หาคำมาลงได้ตามแบบเป๊ะ  เชื่อมั่น
    และไม่ยาก
    
    
    ผมก็ยังต้องศึกษาอีกเยอะครับ
    ไม่ได้ผยอง
    ผมนับถือคนอื่นเสมอ
    ผมมีครู
    
    อย่างน้อยคนที่ผมอ่านงานของเขาก็คือครูของผม
    
    
    ขอบคุณสำหรับคำอวยพรที่มอบให้ผมนะครับ
    ขอให้คุณตุ๊กตาไล่ฝนได้รับสิ่งที่ดี ๆ นั้นเช่นเดียวกัน
    
    --------------
    
    
    ทักทายคุณฉางน้อยด้วย
    ขอบคุณสำหรับรูปแมวครับ
    
    ผมอยากได้แมวซักตัวจัง
    หนูมันยกขบวนมาจากท้องนาขึ้นไปกินข้าวเปลือกบนยุ้งของผม ปรายก็ไม่หวาดไม่ไหว
    
    
    
    กรุงเทพฯนี่ผมเคยไปอยู่ทำงานนะครับ
    ผมก็เห็นว่าไม่ไหวต่อสุขภาพกายและจิตใจ
    
    อยู่แถว ๆ ซอยประดู่ 1 บ้าง , สะพานใหม่บ้าง , ปากเกร็ดบ้าง  ตื่นตีสามกลับบ้านสามทุ่ม   ซีด เหลือง  เพราะอากาศและน้ำเสีย
    
    ไม่เอาดีกว่า
    
    กลับมาอยู่บ้านผมแข็งแรงมาก
    แทบไม่ป่วยไข้
    
    สบายกว่ากันเยอะ
    
    กรุงเทพฯเหมาะสำหรับหาเงินตั้งตัว
    แต่ไม่เหมาะที่จะใช้ชีวิตสำหรับผมนะครับ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน