::วงรุ้งเลือนไปแล้ว ตอนจบ::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

(ตอนที่ 3 ตอนจบ)
	เสียงหมู่นกเรียกกันกินหมากไม้สุกบนต้นไม้ที่น้ำตกคงติดหูจี๊ดและวงรุ้ง  สองสาวพูดคุยกันว่าน่าจะได้มาที่นี่นานแล้ว  และกลับไปสำนักงานจะเล่าให้พรรคพวกที่นั่นฟัง
	จะไปบ้านพี่ชิดกันหรือยังครับ  ผมไม่ได้บอกพี่เขาไว้เลย   เราน่าจะได้แวะไปที่นั่นช่วงบ่ายโมงเศษ   เขาจะได้ไม่ยากลำบากเรื่องอะไรต่าง ๆ เกี่ยวกับพวกเราจนเกินไป
	ก็ดีค่ะ   ไปเหอะจี๊ด    
	สองสาวปีนขึ้นซ้อนท้ายเจ้ายามาฮ่าดีทีคู่ชีพของผมอย่างคุ้นเคย  เราออกมาจากผาน้ำตกด้วยความรู้สึกอิ่มเอม
	รุ้งเคยพักบ้านพี่ชิดแล้วนี่ใช่ไหม
	ช่าย   ก็ตอนมาคราวก่อนไง  แฟนพี่ชิดใจดีมากสอนเราทำกับข้าวตั้งหลายอย่าง   น้ำพริกงี้เราก็เป็นแล้วนะ  แต่คงไม่เก่งอย่างคนข้างหน้ามั้ง
	เออจริงสินะ  ยังจำรสชาติน้ำพริกของเขากับไข่ขมของเธอได้
	นี่ ๆ อย่าพูดถึงมันอีกนะ  อาย.....อายเจ้าของบ้านเขา
	คนขับรถเครื่องฟังไปยิ้มไป   ครู่เดียวเราก็มาถึงบ้านชาวบ้านที่หญิงสาวสนิทสนมด้วยมากที่สุด  เจ้าของบ้านทั้งสองคนนั่งอยู่ที่แคร่ไม้ไผ่ใต้ถุนบ้าน
	ผมชะลอรถและจอดที่ ใต้ร่มขนุนข้างเรือน  หญิงสาวปีนลงแล้วเข้าไปไหว้เจ้าบ้านอย่างคุ้นเคย
	สวัสดีค่ะพี่ชิด พี่บัวเผื่อน   นี่จี๊ดเพื่อนของรุ้งเองค่ะ  เขาได้ยินที่รุ้งเล่าให้ฟังแล้วอยากมา   รบเร้าให้พามาเยี่ยมหมู่บ้านหลายวันแล้ว   เพิ่งสบโอกาสค่ะ   
	อ๋อ  คุณรุ้งนั่นเอง   จ้า  หวัดดีจ้า..เจ้าของบ้านรับไหว้ผู้มาใหม่  เมื่อกี๊พี่ชิดก็กำลังพูดถึงอยู่พอดี    มาก็ดีแล้วจะได้พาไปดูปลาและปูที่บ่อ  กำลังโตเชียว
	สายฟ้า  เอาข้าวของขึ้นเก็บให้เพื่อนก่อนนะ  แล้วเราออกไปที่บ่อปลากัน   พี่ชิดบอกผมอย่างคุ้นเคยแบบน้องนุ่ง เดี๋ยวเย็นนี้จะทำปูภูเขาให้กิน  คุณรุ้งยังจำรสชาติของปูภูเขาได้ไหม  คนถามหันไปทางเพื่อนของจี๊ดที่ตอนนี้สีหน้าแช่มชื่นมาก
	เยี่ยมยอดมากเลยค่ะพี่ชิด  หวาน ๆ เค็ม ๆ กินที่น้ำตกด้วยแหม  บรรยากาศส่งให้รสชาติดีเหลือเกิน   ผมเชื่อว่าคนได้ยินก็คงเป็นปลื้ม      
	งั้นเราออกไปที่นั่นกันเถอะ
	วงรุ้งเดินตามพี่ชิดออกไปกลางนา  จี๊ดตามวงรุ้ง  ส่วนผมเดินปิดท้าย   เสียงทั้งสามคนสนทนากันออกรส  หัวเราะร่วน  โดยเฉพาะเมื่อมีเจตนาจะแซวคนที่เดินรั้งท้ายสุด
	คร๊าบ  เชิญท่านหลังหลายเผาข้าพเจ้าเถิด  ท่านหารู้ไม่ว่าข้าพเจ้านั้นมีสุขยิ่ง ๆ แล้ว ในถ้อยนินทานั้น ๆ ฮ่า ๆ
	ภูมิทัศน์รอบบ่อปลาและบ่อเลี้ยงปู  ผมพูดถึงไปแล้วในตอนก่อน ๆ   วงรุ้งชี้ให้เพื่อนชมพืชผักและปูกับปลาอย่างกับเป็นเจ้าของพื้นที่นี้เอง   เจ้าภาพกล่าวเสริมคำอธิบายของวงรุ้งสอดรับอย่างกับเป็นคู่วิทยากร   ไม่น่าเชื่อว่าฝ่ายการเงินที่แต่ละวันยุ่งอยู่กับบัญชีและตัวเลขจะทำหน้าที่อย่างผู้ประสานงานสนามด้วยก็ได้   รู้อย่างนี้ผมชวนมาช่วยผมจัดประชุมผู้นำชุมชนตั้งนานแล้ว
	พี่ชิดหยิบเอาคันเบ็ดไม้ไผ่ที่ยาวราววาเศษ ๆ มาใส่มือวงรุ้งและว่า
	หนก่อนผมทึ่งฝีมือตกปลาของคุณรุ้งนะ  วันนี้ต้องแสดงฝีมืออีก
	วงรุ้งยิ้มยินดีรับเบ็ดและถุงเหยื่อไปถือไว้
	คุณจี๊ดกลัวไส้เดือนหรือเปล่า  พี่ชิดหันมาถามสาวอีกคนที่คงทึ่งในความสามารถของเพื่อนร่วมงานที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน
	นี่เธอไปหัดมาตั้งแต่เมื่อไหร่จ๊ะรุ้ง   ฉันไม่ยักรู้เลยว่าเธอตกปลาได้
	ก็เคยตกปลากะเตี่ย   พี่สาวรู้เข้า  เขาไม่ยอมให้กินข้าวด้วย  เราต้องปลาที่ตกได้มาคลุกเกลือเผากินกันสองพ่อลูก  นึกถึงตอนเป็นเด็ก ๆ แล้วก็ขำพี่สาว  ป่านนี้ไปแต่งงานกับเสี่ยที่บ้านนอก  เขาคงพากินปลิงแล้วมั้ง
	เนี่ยแหละเขาถึงว่า  คนเราถ้าไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันก็ไม่รู้จักกัน   นั่นเป็นถ้อยคำของจี๊ดครับ
	ปลา  ๆ   ปลาฮุบเหยื่อ  สงสัยโตมาก   พี่ชิดช่วยด้วยค่ะ  ปลาดึงแรงมาก   อุ๊ย  ๆ  ลื่น  จัง
	โครม....   
	มือเบ็ดสาวของเราพลาดลื่นลงน้ำครับ  แต่ความลาดเทของบ่อปลาไม่มากนัก   เธอจึงประคองตัวไม่ให้ลื่นลึกไปมากกว่านั้น
	ไม่เป็นไรนะครับ   ทั้งเจ้าของบ่อและคนขับรถเครื่องขยับเข้าไปจะยื่นมือช่วย   แต่คนเก่งของเราเก่งกว่า  เธอกลับขึ้นมายืนที่ตลิ่งได้อีกครั้ง   เพียงแต่เปียกและมอมแมมบ้างเท่านั้น
	โอ๊ะโอ๋...เหมือนหมาน้อยตกน้ำเลยเพื่อนเรา  จี๊ดทั้งปลอบแซวเพื่อน
	เหมือนกันเลย   เมื่อพี่สาวที่บ้านเลย  แทนที่จะปลอบให้กำลังใจก็ว่าเราเป็นหมาน้อยตกน้ำ  เดี๋ยวเถอะจะผลักลงน้ำให้สายฟ้าไปช่วยขึ้นมาบ้าง
	อย่าพูดเล่น ๆ  นารุ่ง   เป็นจริงขึ้นมาจะทำใจยังไงน่ะเธอ   เพื่อนของจี๊ดค้อนแขว็บ   ( ไม่ถึงกับขวับ   แว้บเดียว   ไม่ช่างสังเกต ไม่เห็น)
	วงรุ้งได้ปลาหลายตัว  พอสำหรับมื้อเย็น   พี่ชิดกับผมช่วยกันจับปู  ที่บ่อเลี้ยงปูข้าง ๆ  บ่อปลา   เราเด็ดเอายอดบวบ  ฟัก และผักอื่น ๆ อีกเพื่อเตรียมทำมื้อเย็น  สีหน้าของทุกคนเปี่ยมไปด้วยความสุขและสดชื่น   ผมหยิบกล้องมาเก็บภาพเหล่านั้นไว้   อืม..สองสาวช่างสดใสและสดสวยเป็นธรรมชาติเหลือเกิน   วี่แววแบบสาวออฟฟิสผู้หยิ่งยะโสแทบไม่ปรากฏให้เห็นบนวงหน้ากับเสื้อผ้าที่มอมแมมของหญิงสาวคู่นั้นเลย
	วันนี้สายฟ้าแสดงฝีมือทำกับข้าวนะ  พี่ชิดยักคิ้วหลิ่วตา  ผมรู้ความหมายว่าพี่เขาอยากให้ผมคำคะแนน ตีตื้น  ผมนึกขำในใจ   ในความปรารถนาดีนั้น   แต่ผมก็ได้บอกพี่บัวเผื่อนไว้แล้วว่า  ขอให้ดึงลูกมือสองสาวช่วยทำกับข้าวมื้อเย็นนี้ให้ได้   เหอะน่าพี่ชิด   อนาคตจะเป็นอย่างไร   ผมไม่ได้คาดหวังมากหรอก   ขอมีความสุขกับปัจจุบันก็พอ  ผมนึกบอกพี่ชิดอยู่ในใจ
	เย็นนั้นคนทำกับข้าวมื้อเย็นคือพี่บัวเผื่อนกับสองสาวตามที่ผมแอบแพลน     จนเช้าวันใหม่ที่เราออกจากหมู่บ้าน ผมจึงได้รับรู้ว่า  สองสาวทั้งอายทั้งเขินที่ไม่ประสีประสาเรื่องชนิดและขนาดของเครื่องปรุงเอาเสียเลย  เธอว่า  คอยดูเถอะ  ถ้าสายฟ้าเข้าเมืองไปเมื่อไหร่จะคิดบัญชีแค้นให้สาสม  ผมได้แต่หัวเราะฮา
	คืนนั้นเราคุยกันอยู่จนดึก  พี่ชิดเล่าให้วงรุ้งและจี๊ดฟังว่า  ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านเป็นอย่างไรบ้าง   สังคมหมู่บ้านเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง   พี่บัวเผื่อนก็นั่งฟังอยู่ด้วย   จนดึก   สองสาวบอกเจ้าของบ้านว่าดีใจมาก ๆ  ที่ได้แวะเข้ามาในหมู่บ้านในหุบเขา  ประทับใจเกือบทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่  วันข้างหน้าถ้ามีโอกาสจะกลับมาเยี่ยมอีก
	เราออกจากหมู่บ้านตอนสาย ๆ เมื่อธนาเอารถมารับ
	เป็นไงจ๊ะสองสาว    นอนที่บ้านชาวบ้านสบายใจไหม
	สบายมากจ้ะ   คุยกันอยู่จนดึก   พอล้มตัวลงนอนก็หลับเป็นตาย
	เออนี่  พี่ได้ทราบจากรองผู้อำนวยการนะว่าเธอทั้งสองคนได้งานใหม่ที่สถานทูตอเมริกันประจำประเทศไทย   ไม่เห็นบอกกันเลย
	หญิงสาวทั้งคู่อึ้ง พยายามจะอธิบาย แต่คนมารับก็ชิงตัดบท
	ไม่เป็นไรหรอก  น้อง ๆ ได้งานที่ดีกว่าพวกพี่ก็ดีใจด้วย
	ผมอึ้ง ..ต่อสิ่งที่ได้ยินชัดเต็มสองหู    ขับรถเครื่องไปหัวใจก็แทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
	สายฟ้าคงไม่โกรธนะคะ  ที่เหมือนเราปกปิดอะไรบางอย่าง   แต่อยากจะบอกให้รู้ว่า  รุ้งชอบคุณมาก   ประทับใจ  ประทับใจชาวบ้าน  ประทับใจงานของคุณ  วันข้างหน้ารุ้งหวังว่าจะได้กลับมาเยี่ยมคุณและหมู่บ้านอีก
	3 ปีที่ผมทำงานในหมู่บ้าน  ไม่เคยมีเช้าไหนที่เหงาหงอยอย่างเช้านี้อีกเลย     เมื่อกลับไปถึงสำนักงานสนาม   รถโฟร์วีลล์จากสำนักงานใหญ่ก็จอดรอยู่ตรงนั้นแล้ว   พนักงานขับรถบอกว่า   ผู้อำนวยการสั่งเขาให้มารับสองสาว
	ขอบคุณครับ    วงรุ้งที่มาวาดฟ้าให้ผมฝัน   ผมจะจดจำยิ้ม น้ำเสียงและถ้อยคำของคุณไว้ตราบเท่าที่หัวใจของผมยังคิดฝัน				
comments powered by Disqus
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    2 พฤษภาคม 2550 12:49 น. - comment id 96045

    สวัสดีครับมิตรของผม
    ผมติดธุระต่างจังหวัด
    ไม่ได้เข้ามาเขียนหลายวันนะครับ
  • ฉางน้อย

    2 พฤษภาคม 2550 13:13 น. - comment id 96046

    46.gif....สวัสดีค่ะ คุณก่อพงษ์
    
    แวะมายิ้มยามสายๆค่ะ อ่านแรกๆก็อมยิ้มหรอกคะ  
    
    ยิ่งตอนที่ตกเบ็ดในบ่อ แล้วขำ
    
     คิดถึงตัวเองสมัยเด็กๆ ที่ไปจับไส้เดือนมาเป็นเหยื่อ จนพี่สาวด่าไม่ให้กินข้าวด้วย 
    
    อ่านแล้วขำ หัวเราะออกมาเลยคะ 
    
    
    10.gif.....แต่สุดท้ายก็เศร้าค่ะ 
    
     วงร้งไม่น่าจากชนบทไปเลย เสียดาย 
    
    ถ้าฉางน้อยเป็นวงรุ้งคนนั้นจริงๆคงไม่ไปไหนหรอก อยู่กับชาวบ้าน อยู่กับคนที่เขามีความรู้สึกดีๆให้กับเรา
    
    แต่ก็ทราบคะ คนเราต่างก็มีเหตุผลการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันไป......
    
    ........ชอบ คำพูดของสายฟ้าจังค่ะ ที่บอกว่า...
    
    ..อนาคตนั้นจะเป็นอย่างไร ช่างเถอะ ขอมีความสุขกับสิ่งที่เป็นปัจจุบัน...
    
    อ่านแล้วคิดตามคะ เฮ้ออออออ..สงสารคุณสายฟ้า อิอิ 46.gif
    
    .....41.gif41.gif....ขอบคุณมากๆกับเรื่องราวที่ดีๆที่นำมาเขียนให้อ่านค่ะ
    
    ประทับใจมากไม่ว่าบท ฉาก ภูเขา ลำธาร 
    
     ตัวละครต่างๆที่สื่อคำพูดออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ
    
    ..........ก็คาดคิดอยู่แล้วคะ ว่าคุณต้องผ่านประสบาการณ์จริงมาบ้างพอสมควร 
    
    เขียนได้เป็นธรรมชาติมากๆ ....ขอบคุณๆๆค่ะ
    
    41.gif41.gif41.gif29.gif29.gif29.gif
  • ฉางน้อย

    2 พฤษภาคม 2550 13:22 น. - comment id 96047

    10.gif....อ่านแล้วน้ำตาซึมนิดๆ 
    
    สงสารคุณสายฟ้า กับคำพูดที่เขาพูดว่า...
    
    "..ขอบคุณ คุณวงรุ้งที่ วาดฟ้ามาให้ผมฝัน.."
    
    ........ประโยคนี้ น่าคิดนะคะที่คุณสายฟ้าพูด..
    
    ....................................................................
    
    เหมือนใครสักคน ที่เขาหยิบยื่นไมตรี 
    
    เขาหยิบยื่นความรู้สึกดีๆมาให้เรา
    
    เราก็ยอมรับไว้ด้วยความเต็มใจ
    
    แต่ในสุดท้าย เขาก็ห่างหายไป
    
    อ้างเหตุผลต่างๆนาๆเพื่อจากเราไป.....
    
    เหมือนเขาให้เรารอ  เราก็รออย่างมีความหวัง
    
    แม้ว่า ..เป็นแค่ความหลังแบบลมๆแล้งๆก็ตาม ก็เต็มใจรอ เนอะ
    
    .........อ๊าวววววว พูดเรื่องไรเนี่ยะ ผ่านๆๆๆ...
    
    555555555546.gif46.gif46.gif
  • ตุ๊กตาไล่ฝน

    2 พฤษภาคม 2550 18:16 น. - comment id 96049

    สวัสดีค่ะ คุณก่อพงษ์
    
    อยากอ่านต่ออีกอ่ะ ทำไมจบซะงั้น
    ตอนแรกก่อนที่คุณจะเขียนน่ะ จำได้ว่า
    คุณบอกว่าให้นางเอกพระเอกได้สมหวัง
    มารักกันตอน 70 ดีมั้ย...
    งั้นแสดงว่ามีภาคสอง (ไม่ได้บังคับแต่อยากอ่านค่ะอิอิ)
    
    ชอบอะค่ะ อ่านจบแล้วรู้สึกว่ามันมีชีวิตชีวา
    ในตัวหนังสือที่คุณเขียนออกมา
    อยากไปสัมผัสบรรยากาศแบบนั้น
    ไม่เคยเห็น ไม่เคยพบ...ไม่เคยเจอ
    อยากได้รับความรู้สึกแบบนั้นบ้างจัง :-(
    
    อิ่มกับความรู้สึก ความฝัน ความทรงจำ ที่เกิดขึ้นค่ะ^____^
    
    ...
    
    คห.3 สวัสดีค่ะ คุณฉางน้อย
    คุณก่อพงษ์ไม่อยู่หลายวัน 
    ขออนุญาตมาคุยด้วยได้มั้ยคะ ^^
    ได้ไม่ได้ไม่รู้ล่ะ...จะคุย555(ด้านเข้าไว้ เอิ๊กกก)
    
    รอ...นานตราบหัวใจอยากจะรอ
    รู้สึก...นานตราบหัวใจอยากจะรู้สึก
    หวัง...นานตราบหัวใจอยากจะหวัง
    รัก...นานตราบหัวใจอยากจะรัก
    
    จำติดหัวใจอยู่ข้างใน
    มันบอกว่า...ให้เฝ้ารอ...อยู่ที่เดิม
    ถึงจะเป็นความหลังลมๆ แล้งๆ 
    แต่ครั้งนึงมันก็เคยชุ่มชื่นหัวใจ
    ถึงสุดท้ายจะเหลือเพียงความว่างเปล่า
    แต่บางทีการเต็มใจตามหาบางสิ่ง...ทั้งที่รู้ว่า
    จะอย่างไร...ก็ไม่มีวันเหมือนเดิม
    มันก็ทำให้เราได้เรียนรู้นะคะว่า
    บางสิ่งบางอย่าง "ไม่หวานชื่น...แต่สวยงาม"
    บางสิ่งบางอย่าง "ไม่จบที่ความสุข...แต่เป็นทุกความทรงจำอันล้ำค่า"
    
    บางที..ไม่ได้เป็นคนรัก แต่ก็เป็คนที่เคยรัก..และอาจยังรัก
    
    ((นั่นสิ เราพูดเรื่องอะไรกันเนี่ย555))
  • ฉางน้อย

    2 พฤษภาคม 2550 18:32 น. - comment id 96050

    4.....สวัสดีค่ะ คุณตุ๊กตาไล่ฝนคะ 
    
    .....ด้วยความยินดี และ ดีใจ อย่างมากมายค่ะ ที่คุณบอกว่า แม้ว่าคุณก่อพงษ์จะไม่อยู่แต่คุณก็ยังอยากมาคุยกับฉางน้อย
    
    ดีใจนะคะที่คุณมีมิตรภาพดีๆให้กัน 
    
    ดีใจที่คุณพูดแบบนี้ ( แสดงว่าคุณยังเห็นฉางน้อยยังน่ารักน่าคบ 555555555)
    
    อ้าวววววว.......เพื่อนมาหาที่บ้านคะ 
    
    เดี๋ยวๆมาคุยต่อนะคะ....46.gif
  • จิตรำพัน

    7 พฤษภาคม 2550 11:31 น. - comment id 96079

    สวัสดีค่ะคุณก่อพงษ์  
        ติดตามทั้งเรื่องแล้วประทับใจมากค่ะ  จิตรำพัน  มีความฝันอยากแต่งเรื่องสั้นแล้วสามารถเขียนบรรยายให้เห็นภาพได้แบบนี้บ้างค่ะ  (กำลังพยายามอยู่ค่ะ) 
        ตอนจบ  เป็นเรื่องราวของความรู้สึกที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงของหลาย ๆ คน  รวมทั้ง  จิตรำพัน  ด้วย 
        ขอบคุณนะคะที่แต่งเรื่องดี ๆ มาให้อ่านค่ะ
        ถ้าหากมีโครงการบริจาคหนังสือให้ห้องสมุดของโรงเรียนในต่างจังหวัด  จิตรำพันขอความอนุเคราะห์ด้วยได้ไหมคะ
    
        29.gif29.gif
    
       สวัสดีคุณฉางน้อย  และคุณตุ๊กตาไล่ฝนด้วยนะคะ  
        เห็นติดตามผลงานของคุณก่อพงษ์  ตลอดเลย  เป็นแฟนผลงานที่ดีมากเลยค่ะ11.gif11.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    7 พฤษภาคม 2550 15:20 น. - comment id 96080

    สวัสดีครับมิตรของผม
    
       ผมเพิ่งกลับจากต่างจังหวัดเมื่อวานครับ
    วันนี้ตอนเช้าได้ไปถวายสังฆทานกับน้องและครอบครัว  สายๆได้ไปไหว้พระธาตุพนมที่อ.ธาตุพนม จ.นครพนม  ตอนบ่ายๆ ไปส่งน้องสาวที่มาแวะเยี่ยม
    
       รำลึกถึงทุกท่านนะครับ ทั้งคุณฉางน้อย คุณตุ๊กตาไล่ฝน  มิตรใหม่คุณจิตรำพัน  และมิตรนักอ่านนักเขียนทุกท่านด้วย
    
       วานซืนคงมีฝนแถวๆ สกลนคร  ผมกลับมาบ้านเห็นดินเปียกชุ่มก็ดีใจ  จะได้ปลูกพืชผักหมากไว้เก็บกินสบายอกสบายใจ
    
         พูดคุยทักทายกับคุณจิตรำพันอีกนิดนึงครับ   ผมเป็นเพียงนักเรียนรู้นะครับ   ค้นหาแนวทางของตัวเอง   ยังไม่แก่กล้าอันดอกดอกนะครับ   เขียนเหมือนพูดคุยให้เพื่อนฟัง สรรพนามก็ยังเป็นบุรุษที่ 1 เกือบทุกเรื่อง
    อาศัยว่าเขียนง่าย   เพราะถ้าพูดในมุมของเรา  มันสะดวกที่จะอ้างว่าเรารู้  เราอยู่ในเหตุการณ์   อาจไม่สะดวกบ้างในเรื่องความคิดของคนอื่น ๆ แต่ผมก็ใช้วิธีบอกไปตรง ๆ ว่าผมเดาว่าเขาหรือเธอน่าจะคิดแบบนั้น คิดอย่างนั้น    
    
        ยินดีมากครับที่ได้พูดคุยด้วยกับคุณจิตรำพัน 
    
        คงได้ทักทายกันอีกครับผม

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน