รุ้งทอฝัน#5

ฝากรักฟากฟ้า

ว่าไงพ่อเลี้ยงปราชญ์   ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ  น้ำเสียงกันเองทักทายมาทันทีที่ทั้งสามนั่งลงที่โต๊ะอาหาร
            วันนี้ออกมากินข้าวที่นี่ได้  โอ๊ะ!  สาวน้อยของลุงก้อมาด้วย  
            เขาหันไปทักทายเด็กน้อยพลางมองมาที่ทอรุ้งแวบหนึ่ง  ก่อนจะมองไปทางอื่นอย่างมีมารยาท  
             มีอะไรอร่อยๆ เอาออกมาเสิร์ฟเลย  หิวว่ะ  ปราชญ์สั่งโดยไม่สนใจเมนูที่เด็กบริการในร้านส่งมาให้  
             คร๊าบบบ  พ่อเลี้ยง  เสิร์ฟไวน์ก่อนก้อแล้วกัน  ผู้เป็นเพื่อนสรุปก่อนที่จะให้เด็กบริกรจดชื่อไวน์ลงในใบรายการ  
              "นึกยังไงออกสวนมากินข้าวเวียง"
               "  อ่อ  พอดีได้ลูกหมามาตัวนึง   เลยต้องมาซื้อของแล้วก้ออาหารเม็ดสำหรับเลี้ยงมันน่ะ"
               ผู้เป็นเพื่อนรับแก้วไวน์จากเด็กบริกร  มาวางเรียง   ไม่วายเหลือบมองดูอีกคนที่กำลังง่วนอยู่กับเด็กน้อย  เพิ่งเคยเห็นหน้า  เขาเดาไม่ถูกว่าควรจะทักว่าอย่างไร   พอดีปราชญ์เอ่ยขึ้นอย่างรู้ทัน  
             ลืมแนะนำไป  นี่ครูทอรุ้ง  เป็นครูสอนน้องฝันโดยเฉพาะเลย  
              ทอรุ้งเงยหน้าขึ้นมองพร้อมรอยยิ้มที่ปราชญ์อยากจะบอกว่าไม่ต้องยิ้มทักทายแบบนี้ก็ได้  
             ครูรุ้ง  นี่บดินทร์  เพื่อนผม  เป็นเจ้าของร้านอาหารที่นี่  
             หวัดดีครับ  ยินดีที่ได้รู้จักครับ  บดินทร์เอ่ยทักทายก่อน  
              ทอรุ้งกระพุ่มมือไหว้  
             สวัสดีค่ะ 
              ด้วยกิริยานี่พลอยทำให้น้องฝันยกมือขึ้นมือไหว้ตาม  
             จ้า  
              หนุ่มใหญ่ทั้งสองหัวเราะอย่างเอ็นดู  
             โอ้โห  เก่งจังเลย  ทักลุงก้อเป็นแล้ว  
             ตั้งแต่มีครูรุ้งมาดูแล  น้องฝันรู้จักความขึ้นเยอะล่ะ  
             ดีใจด้วยจริงๆ  พูดชัดขึ้นเยอะแล้วมั้ง  เรียกลุงดินได้ยังครับ  
              ประโยคหลังผู้พูดโน้มตัวลงไปพูดด้วยอย่างอ่อนโยน  น้องฝันยิ้มอายๆ  เบียดตัวไปแอบอยู่ข้างคุณครู  
              เรียกลุงดินให้ชื่นใจหน่อยเถ๊อะ  
              ลุงลิง!  น้องฝันเอ่ยเบาๆ  ผู้เป็นลุงหัวเราะชอบใจลั่นร้าน  
              ฮ่าๆๆๆๆๆๆ  ชัดมากเลยจ้าน้องฝัน  
              ปราชญ์เองก็อดหัวเราะไม่ได้  
             อ่ะ  ตามสบายก่อนนะ  เดี๋ยวจะมาคุยด้วย  
              บดินทร์ลุกจากโต๊ะไป  สักพักอาหารชุดแรกก็ถูกยกมาวาง  เด็กบริกรเสิร์ฟไวน์ให้เขาอย่างรู้หน้าที่  เป็นเพราะเขามาที่บ่อยๆ  ทั้งบดินทร์ก็ยังเป็นเพื่อนที่สนิทคุ้นเคยกันเป็นส่วนตัว  ทอรุ้งปฎิเสธไวน์ขอเพียงน้ำเปล่า  
             ท่าดื่มไวน์ด้วย  เดี๋ยวน้องฝันจะต้องขอดื่มด้วยแน่ค่ะ  
             เหตุผลของเธอทำให้เขานึกถึงครั้งสุดท้ายที่พาน้องฝันมานั่งที่ร้านอาหารนี้  คราวนั้นแทบจะกลายเป็นชนวนที่ทำให้หญิงสาวอีกคนหมางใจกับเขา 
  
             อ๊ะ!  อ๊ะ!  
             มือน้อยๆ ปัดป่ายมาสะกิดเมื่อเห็นแก้วไวน์ถูกเลื่อนมาวางบนโต๊ะ  
            ไม่ได้ลูก  ดื่มไม่ได้ครับ  
             หากเด็กน้อยไม่ฟังเสียงพยายามจะลุกขึ้นยืนบนเก้าอี้  เอื้อมคว้าให้ได้  จนปราชญ์ต้องย้ายไปวางให้ห่างมือ  สายตาอีกคู่ที่มองมาบอกความรู้สึกอย่างหนึ่งที่ทำให้เขารู้สึกอึดอัด  
            น้องฝันนั่งดีๆ   ครับ  เดี๋ยวเก้าอี้จะล้ม  
            ซนจังเลยนะคะ  พี่ปราชญ์  เสียงหวานๆ เอ่ยออกมาคล้ายจะเอ็นดู  หากเขาสังเกตว่าเธอไม่เคยเอื้อมมาแตะน้องฝันสักนิดแม้แต่จะให้นั่งใกล้  
            น้องฝันไม่ค่อยรู้อะไร  ต้องขอโทษด้วยนะ  
            แหม  ไม่เป็นไรค่ะ  เธอชม้ายตาตอบเขา  เด็กเล็กๆ ก้อแบบนี้ค่ะ         
             ระหว่างที่พูดไปเขาก็ต้องคอยจับวางของจากมือลูกสาว  ที่จะมักคว้าสิ่งนั้นสิ่งนี้ขึ้นมาดูอย่างสนใจ  
             น้องฝันขาดแม่นะ  เลยไม่มีใครคอยอบรม  
             ก้อหาเสียสิคะ  พี่ปราชญ์  
             เธอทอดเสียงพลางมองเขาอย่างเชิญชวน  จนปราชญ์แทบจะคว้าตัวมากอดเสียให้ได้   
             อ๊ะ!  
              เสียงเล็กแหลมดังแทรกขึ้นราวกับเรียกจะเอาสิ่งใด  ปราชญ์ต้องละสายตาจากหญิงสาว  ยังไม่ทันจะหันมองเต็มตา  ร่างน้อยที่กำลังจะยืนบนเก้าอี้ก็เซล้มลงจากเก้าอี้  มือน้อยน้อยๆ เอื้อมได้ผ้าปูโต๊ะที่วางอาหารเต็ม  พลันทุกอย่างก็ล้มกระจายพร้อมกับเสียงโครมประสานเสียงหวีดร้องอย่างตกใจ  
              ตายแล้วๆๆ  อะไรยังงี้นี่!!!  
              กว่าปราชญ์จะเข้าใจก็มารู้ตัวเมื่อเห็นภาพโต๊ะที่ล้มคว่ำ  จานชามอาหารบางใบแตก  เศษอาหารหกเลอะเทอะไปทั่ว  
               เขาอุ้มลูกสาวที่กำลังตกใจ  ร้องไห้จ้ากอดคอเขาแน่น   
               ไม่เป็นไรลูก  โอ๋ๆๆๆ  อย่าร้องนะ  
               ปราชญ์ปลอบโยนลูกสาวเบาๆ  
              พี่ปราชญ์  
               เสียงเรียกนั้นทำให้เขานึกขึ้นได้จึงเหลียวไป  ชุดกระโปรงสวยเก๋ไก๋สีชมพูต้องเปรอะด้วยน้ำจิ้ม  น้ำปลา  เธอกัดริมฝีปากแน่น  บ่งบอกถึงความพยายามที่จะไม่โกรธ  
               พี่ขอโทษแทนน้องฝันครับ  คุณส้ม  
                เขาขอโทษขอโพยขณะที่บดินทร์รีบบอกให้เด็กบริกรมาเก็บข้าวของและทำความสะอาด  
                น้องฝันไม่ได้ตั้งใจ  โทษด้วยว่ะ  ดิน  
                เขาหันไปพูดกับเพื่อนรัก  
                เออๆ  ไม่เป็นไร  อุบัติเหตุ  น้องฝันคงตกใจมากเลย  บดินทร์พูดอย่างไม่เอาความ  
                แบบนี้ส้มจะกลับบ้านล่ะ  
                พี่จะไปส่งครับ  
                ไม่เป็นไรค่ะ  ส้มกลับเองได้  หญิงสาวพูดไม่มองหน้าเขาสักนิด  แต่คราวหลังท่าจะพาน้องฝันมาด้วยก้อบอกนะคะ  ส้มจะได้ไม่มา!  
                
                ลุงลิงๆๆๆ  น้องฝันเรียก ลุงลิง  พลางปรบมืออย่างชอบใจ  ปราชญ์ตื่นจากความคิดของตัวเอง  
                อ้าว  เพลงแรกนี้  ลุงลิงก้อขอมอบให้สาวน้อยสุดที่รักของลุงลิงนะครับ  
                บดินทร์ที่นั่งอยู่หลังเปียโนขนาดเล็ก  เอียงออกมาพูดกับแฟนเพลงตัวน้อยก่อนจะเล่นเพลงเปียโนของเด็กๆ   มอบให้  
               มื้อนี้ช่างแตกต่างกับมื้อวันนั้นเหลือเกิน  น้องฝันเรียนรู้จากการทำตามครูทอรุ้ง  เขาลอบสังเกตการที่เธอค่อยสอนลูกสาวไปอย่างใจเย็น  เป็นธรรมชาติราวกับสอน...ลูกสาวของตนเอง...  เขารู้สึกใจหายเมื่อมาคิดถึงผู้เป็นแม่ที่ไม่มีโอกาสจะได้เลี้ยงดูสายเลือดของตน  
               คุณปราชญ์คะ  จะให้ตักข้าวรึยังคะ  ทอรุ้งถามขึ้นเบาๆ  เมื่อเห็นว่าเขายังไม่ได้แตะต้องอาหารนอกจากจิบไวน์  
               สักหน่อยก้อดีครับ  เขาเลื่อนจานข้าวตรงหน้าให้เธอ
               "พอครูทัก  เลยหิวแหละ  
               ตั้งแต่ครูทอรุ้งมาเป็นครูพิเศษ  ดูเหมือนครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาพาเธอออกมารับประทานอาหารนอกบ้าน  
               ครูอิ่มรึยังล่ะครับ  
               อ่อ  กินไปเรื่อยๆ  กับน้องฝันค่ะ  
                ตอนนี้ผู้ถูกกล่าวถึงกำลังยืนมองนักร้องด้วยความสนใจอยู่หน้าเวที  
               อ้าว  ไปยืนโน่นแล้ว  ซนจัง 
                เขาเปรยอย่างกังวลกลัวจะเกิดเหตุการณ์วุ่นวายอีก  แต่คนเป็นครูกลับไม่แสดงท่าทีอะไรนอกจากหันไปมองยิ้มๆ  
               น้องฝันชอบดนตรี  ชอบเสียงเพลง  แบบนี้ดีแล้วค่ะ  ครูทอรุ้งอธิบาย  ช่วยให้น้องมีสมาธิ  เรียนรู้ได้ง่าย  เขาเรียกวิธีนี้ว่า  ดนตรีบำบัดค่ะ  
                ปราชญ์ทอดตามองดูผู้บรรยาย  
               เหนื่อยมั๊ยครับ  มาสอนน้องฝัน  
                เธอยิ้ม  
               ตอนแรกๆ  ยอมรับค่ะว่าเหนื่อย  แต่พอรู้จักน้องมากขึ้น  ก้อไม่เหนื่อยค่ะ  ค่อยๆ  ปรับไปทีละน้อย  
               ผมว่าไม่น้อยนะ  ช่วงแค่ไม่ถึงสองเดือนลูกสาวผมเปลี่ยนไปเยอะ  
               ค่ะ  
               ผมเองก้อไม่ค่อยได้อยู่บ้าน  ตอนนี้ต้องเข้าไปในสวนบ่อยขึ้น  เราจะให้มีส้มนอกฤดูส่งเข้าตลาด  
               ค่ะ  
               พอพูดถึงเรื่องงานที่เขาชอบ  ทอรุ้งก็ทำหน้าที่เป็นผู้ฟังที่ดี  สลับกับการแสดงความคิดเห็นเล็กๆ น้อยๆ  และชวนเขารับประทานอาหารไปด้วย  ซึ่งนอกจากสวนส้มแล้วเขายังเริ่มปลูกองุ่นอีกด้วย  
               ครูเคยไปเที่ยวในสวนรึยังครับ  
               ยังค่ะ  ไม่มีเวลาเลยค่ะ  อยู่กับน้องฝันทั้งวัน    
               เดี๋ยววันไหนว่างๆ  เราไปปิกนิกในสวนกันดีกว่า  
                ปราชญ์ผนวกเธอเข้าไปในคำว่า  เรา  หน้าตาเฉย  
               ผมก้อไม่ได้พาน้องฝันเข้าไปเที่ยวสวนด้านในนานแหละ  กลัวเรื่องสารเคมี  กลิ่นมันแรง  
                ดีแล้วค่ะ  น้องร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง  
                แต่ผมว่าลูก..น้องฝัน  ดูดีขึ้นเยอะ  เข้าใจอะไรมากขึ้นเพราะครูรุ้งเอาใจใส่แท้ๆ  
                ก้อไม่ใช่ทั้งหมดหรอกค่ะ  ทอรุ้งกล่าว  มาจากทุกคนที่ช่วยกัน  แล้วก้อน้องฝัน  
                หันไปมองทางลูกศิษย์ตัวน้อยซึ่งตอนนี้ขึ้นไปนั่งบนตัก ลุงลิง  เล่นเปียโนเสียแล้ว  อาการกลัวคนแปลกหน้าลดน้อยลง  หรืออาจเป็นเพราะหนูน้อยมีความสนใจด้านดนตรีก็อาจเป็นได้  
                ครูคิดว่า  น้องฝันจะเล่นดนตรีได้มั๊ยครับ  
                ได้สิคะ   รุ้ง...เอ่อ  ครู....  ทอรุ้งสะดุดคำพูดตนเอง  
                เรียกว่า  รุ้ง  ก้อดีครับ  เป็นกันเองดี  
                 ปราชญ์แก้เก้อให้เพราะเธอมักจะเว้นการเรียกชื่อตนเองเสมอเมื่อคุยกับเขา  
                 งั้นสักวันคงต้องเข็นเอาเปียโนหลังเก่าออกมาสอนลูกสาวดีกว่า   
                 เขาพูด  ทอรุ้งมองด้วยความประหลาดใจไม่คิดว่า  ผู้ชายหน้าตารุงรังแบบนี้จะเล่นเปียโนได้  
                 ผมเล่นเป็นครับ  เขาบอกยิ้มๆ  ราวกับรู้ความหมายในสายตาคู่นั้น
                 ทันทีที่รถจอดนิ่งสนิท  เด็กหญิงแสงจิ่งก้อวิ่งปราดออกมาจากเรือนเล็กด้านหลังบ้านราวกับคอยฟังเสียงรถตลอดเวลาอยู่แล้ว  
                เอาของหลังรถลงให้หน่อย  จิ่ง  พ่อเลี้ยง  สั่งเบาๆ  ก่อนที่จะเดินอ้อมมาเปิดประตูรถอีกด้านหนึ่ง  ทอรุ้งค่อยอุ้มประคองร่างน้อยๆ แบบบางลงจากรถ   น้องฝันหลับมาตลอดทางตั้งแต่ออกจากร้านอาหาร  
                 ส่งให้ผมอุ้มมั๊ยครับ  
                 ไม่เป็นไรค่ะ  เดี๋ยวน้องตื่น  จะช่วยพาขึ้นไปที่ห้องค่ะ  
                 ปราชญ์จึงต้องเป็นคนหอบกระเป๋าของเธอไปแทน  ป้าพรรณแม่บ้านร่างท้วมออกมาจากเรือนพักด้วยใบหน้าที่ประแป้งลายพร้อย  มาช่วยรับกระเป๋าถือของครูรุ้งจากเขา   
                  เจ้าพูห์หลับไปแล้ว  
                  ใครเหรอ  
                   อ้าว  ก้อลูกหมาที่คุณปราชญ์เอามาไง  
                   เหรอ  ชื่อ  พู  เหรอ  ไม่ยักรู้ 
                    เจ้าตั้งหื้อล่ะ  บ่ฮู้จะฮ้องมันจะใด แสงจิ่งเป็นคนเฉลย   
                   อ่อ!  นึกว่ามันเป็นคนบอก  
                   เขาพยักหน้าหงึกหงัก  พลางจะขยับตามครูขึ้นไปที่ห้อง  
                   คุณปราชญ์ช่วยดูของให้จิ่งมันแยกก่อนดีกว่า  
                   ป้าพรรณบอกเรียบๆ  
                  เดี๋ยวป้าไปส่งครูรุ้งเอง  
                   ดังนั้นเมื่อทอรุ้งเดินกลับลงมาพร้อมป้าพรรณจึงเห็นผู้เป็นนายจ้างกำลังนั่งอยู่กับตะกร้าหวายใบย่อมที่แสงจิ่งอุตส่าห์หามาสำหรับเป็นที่นอนของ เจ้าพูห์  
                   คงไม่เป็นภาระของครูรุ้งนะครับ  
                   ในเมื่อเขาตีขลุมลงมาแบบนี้  ทอรุ้งก้อไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร  
                   ค่ะ  จะช่วยดูแลให้ได้ค่ะ  
                   งั้นเอาไปที่บ้านพักของครูเลยดีกว่า  
                   ไม่พูดเปล่า  ปราชญ์ลุกขึ้นคว้าตะกร้าหวายทันที  จิ่ง  แกช่วยหิ้วถุงของนี่ไปด้วยละกัน
                   ป้าพรรณสั่งเด็กหญิงทันควัน  ทอรุ้งได้แต่เดินตามเป็นขบวนไป				
comments powered by Disqus
  • กันเกรา

    30 พฤศจิกายน 2550 11:27 น. - comment id 98469

    นิยาเรื่องนี้ยังไม่จบนะครับติดตามอีกในตอนต่อไปนะครับสนุก สนาน มีสาระ
  • ริน-ฝากรักฟากฟ้า

    30 พฤศจิกายน 2550 12:35 น. - comment id 98472

    รับรองค่ะ  คุณกันเกรา....  เรื่องนี้ไม่เน่า  เพราะเอาไปชุบเกลือทุกวันค่ะ
  • แพะ ตัวอ้วน

    30 พฤศจิกายน 2550 12:47 น. - comment id 98473

    โปรดติดตามตอนต่อไป อีกแล้วคร้าบท่าน
  • ญดา

    30 พฤศจิกายน 2550 13:48 น. - comment id 98474

    ถ้าเอามาสร้างเป็นลครก็ดีค่ะจะให้เด็กๆดูกันบ้าง   เพราะว่าในทีวีมีแต่ลครน้ำเน่า
  • กชมนวรรณ

    1 ธันวาคม 2550 23:02 น. - comment id 98508

    11.gif น่ารักจังพี่ อิอิ8.gif11.gif36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน