เทพเท้าทมิฬ

สะพั่งสะท้านไมภพ

ณ เขาซมซาน บนเขานั้นยังมีวัดเก่าแก่วัดหนึ่ง ชื่อวัดเสียวลิ้ม วันนี้ เสียงระฆังดังออกมาจากบริเวณเขตหวงห้ามของวัด ศิษย์ทุกผู้ตกอกตกใจ รวมถึงเจ้าอาวาสด้วย ระฆังดังกล่าวดังขึ้นแสดงว่ามีปรมาจารย์ท่านใดต้องการแจ้งเรื่อง
   หลวงจีนเดียวดาย พลิ้วกายออกมาจากประตูเขตหวงห้ามห้ามเข้าของวัด เหล่าศิษย์ทั้งหลายเมื่อเห็นผู้มาเป็นใครต่างก็ประนมมือกล่าว อมิตพุทธ
   หลวงจีนเดียวดายมีคิ้วขาวขาว พร้อมใบหน้าที่เมตตากรุณาและกล่าวอมิตพุทธตอบต่อศิษย์รุ่นน้อง และกล่าวต่อศิษย์ร่วมสำนักทั้งหลายว่า
   ศิษย์น้องทั้งหลาย ในวันนี้อาตมาต้องขอพระอภัยมณีเป็นอย่างสูง ที่ต้องเคาะระฆังขึ้น เพราะอาตมามีเรื่องที่จะขอร้องเหล่าศิษย์น้องศิษย์หลานโหลนเหลนทั้งหลาย 
   ศิษย์ทั้งหลายต่างก็มองมาและท่าทางก็บ่งบอกว่ากำลังล้างหูรอรับฟังอยู่
   อาตมามีเรื่องจะขอต่อศิษย์น้องทั้งหลายเรื่องหนึ่ง
   คือ อาตมาจะขอชีวิตของประสกเทพเท้าทมิฬเอาไว้เพื่อขัดเกลานิสัย
   เหล่าศิษย์ทั้งหลายต่างก็เริ่มจ๊อกแจ๊กวิจารณ์กันดังกระหึ่ม
   ดังนั้นเจ้าอาวาสวัดเสียวลิ้มรุ่นปัจจุบัน รุ่นเลิกแล้วรวย ก้าวออกมาข้างหน้าแล้วยกมือประนม อมิตพุทธ และกล่าวว่า ประสก สะพั่งสะท้านไมภพ หรือเทพเท้าทมิฬได้ก่อกรรมทำเข็ญไว้มาก เพื่อตัดวงจรอุบาทว์บัดซบของมันเห็นควรกำจัดมันซะเพื่อจะได้ไม่เป็นภัยต่อยุทธภพ
   โยมเจ้าอาวาส ...อาตมาเห็นว่า ประสกพั่งยังเป็นบุคคลที่เลิศในรอบร้อยปียากพบพาน ดังนั้นหากประสกพั่งกลับใจได้ก็จะเกิดเป็นประโยชน์ต่อยุทธภพอย่างมหาศาล
   เหล่าศิษย์ทั้งหลายต่างก็ไม่เห็นด้วย 
   หลวงจีนเดียวดายเลยเริ่มจะกลายเป็นหลวงจีนดุด่าแล้ว ทุกคนเริ่มรู้สึกได้ถึงพลังความร้อนแกร่งกร้าวขุมหนึ่ง 
   เหล่าหลวงจีนเท็กลื้อต่างก็รู้ดีว่า หากปล่อยให้หลวงจีนเดียวดายผู้มีมาดสงบขรึมสำรวม หากกลับกลายเป็นหลวงจีนดุด่าเมื่อไรหละก็ ความอยู่ไม่สุขในวัดอาจเกิดขึ้น เนื่องจากตามกฏของวัด ผู้อาวุโสสูงสุดจะสามารถสั่งได้ ทั้งนี้เหล่าศิษย์ต่างรู้ดี จึงเริ่มมองตากัน และเริ่มพยักหน้าแล้ว
   หลวงจีนดุด่าเมื่อเห็นทุกๆคนพยักหน้าแล้วก็เริ่มอารมณ์ดีกลับกลายเป็นหลวงจีนเดียวดายเหมือนเดิม เมื่อที่ประชุมหลวงจีนโอเคแล้ว หลวงจีนชราอาวุโสสูงสุดคิ้วขาวจึงกล่าวอมิตพุทธและเรียกตัวประสกพั่งหรือ ที่ชาวยุทธเรียกว่าเทพเท้าทมิฬออกมา
   สะพั่งสะท้านไมภพถูกลากจูงออกมาจากในห้องขังและมายืนต่อหน้าหมู่หลวงจีน
   เทพเท้าทมิฬยืนแน่วนิ่งสายตาแดงราวประกายไฟด้วยความโกรธแค้น และเริ่มแผดด่าเหล่าหลวงจีนทั้งหลายที่จับมันมามัดไว้
   เทพเท้าทมิฬ มองหน้าหลวงจีนเดียวดาย แล้วตะโกนว่า
   หากข้าออกไปได้เมื่อไร รับรองว่าจะต้องล้างแค้นให้ท่านได้เจอกับแปดท่าเท้าของข้าแน่นอน  
   หลวงจีนเดียวดายยิ้ม และกล่าวว่าประสกฟังอาตมาก่อน
   ไม่ฟัง
    ประสกต้องฟัง
    ไม่ฟังโว้ย
    ประสก
    ไม่
    ในขณะนั้นเองบรรดาศิษย์เสียวลิ้มก็เริ่มชักเสียวๆแล้วเพราะต่างรู้กันแล้วว่าหลวงจีนเดียวดายตบะแตกเสียแล้วและอาถรรพ์การโกรธได้แพร่กระจายอย่างเห็นได้ชัด
    แต่เทพเท้าทมิฬยังไม่หยุดแหกปากตะโกนด่าพวกเท็กลื้อ
    ทันใดนั้นเอง หลวงจีนดุด่าก็ถีบ เทพเท้าทมิฬ ออกมากลางลาน
    และตะโกนสั่งศิษย์น้อง กระทืบมัน
    บรรดาเหล่าศิษย์เสียวลิ้มทั้งหลายก็กรูกันมาใช้บาทาพิชิตมารกระทืบอย่างสนุกสนาน
   เมื่อฝุ่นควันเบาบางลงก็เห็นเทพเท้าทมิฬนอนหงายยับเยินอยู่ แต่ทว่าเนื่องจากได้รับประสบการณ์ปาฏิหารย์มาหลายครั้งจึงทำให้ยังคงรักษาพลังชีวิตไว้ได้
   เทพเท้าทมิฬฝืนลืมตาขึ้นมาและมองหน้าเหล่าเท็กลื้อทั้งหลายและตั้งใจจะแผดด่าอีก เพราะความถือดี แต่ทว่าต้องหมดสติไปเสียก่อน
   หลวงจีนดุด่าตอนนี้ได้กลับเป็นหลวงจีนเดียวดายแล้วมองประสกพั่งด้วยความเมตตาปราณี และหันมาสั่งกับศิษย์น้องว่า หากมันยังปากหมาอยู่ก็กระทืบสั่งสอนไปเรื่อยๆ
   หนึ่งปีผ่านไป
   สะพั่งสะท้านไมภพ หรือเทพเท้าทมิฬ ได้ก้าวออกมาจากวัดเสียวลิ้ม
   บางคนเห็นแล้วก็ต้องตกใจแต่ทว่าก็ต้องแปลกใจ เพราะอาการเดิมๆของเทพเท้าทมิฬที่ใจร้อนก้าวร้าวดุร้ายได้หมดไปแล้ว
   เทพเท้าทมิฬก็รู้ตัวว่า หลังจากที่ได้ผ่านการผ่าตัดเอาหมาออกจากปากแล้วตั้งแต่นั้นมาก็มีความสงบสุข
   เทพเท้าทมิฬ หรือสะพั่งสะท้านไมภพ หัวเราะก้อง เมื่อไม่มีหมาในปากแล้วอนาคตทางยุทธภพของข้าคงจะสดใส
   .....
   ปล...คำเตือน แม้ว่าท่านจะได้ผ่าเอาหมาออกจากไปแล้วก็ตาม แต่สักวันหนึ่งหากลืมตัวตน วันไหนวันนั้นก็อาจจะมีหมาตัวใหญ่กว่าเดิมในปากก็ได้				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน