OUT OF ORDER

สะพั่งสะท้านไมภพ

ผม สะพั่ง สะท้านไมภพ ยืนบนเหวข้างลำน้ำใต้เขื่อน มองออกไป เห็นท้องฟ้า ขอบตลิ่งอีกด้าน และต้นไม้สูงที่อยู่ข้างล่าง มันเป็นความสงบในท่ามกลางความวุ่นวายของบริบทที่ไม่มีแม้แต่คำตอบ ผมรับพลังความนิ่งจากสิ่งที่มองอยู่ตรงหน้า ไม่มีใครรู้หรอกว่า ความเจ็บปวดรวดร้าวมันเป็นอย่างไร และไม่มีใครเลยหรือที่จะรู้จริง แม้แต่สักคน แต่พวกที่เอาแต่แหกปากพล่ามตำหนิติติงคนอื่นเนี่ยช่างมีเยอะเสียจริง
   อิ๊ฟ ด๊อกเตอร์ ถอดยกทรงและกระโปรงสั้นจิ๋วออก และเมื่อเปลือยหมดแล้วก็เอาผ้าขุนหนูสีขาวมาห่อตัวปิดนมกระเพื่อมและน้องสาวเอาไว้ และเดินเข้ามานั่งเบียดผมบนเตียง พร้อมกับเอามือมาบีบนวดต้นขา แต่ทว่าตามองจอทีวีหนังไทย ผมขอให้เธอหยิบเบียร์มาให้ เธอก็เดินไปเอาเบียร์และแก้วข้างตู้เย็น รินเสร็จก็ยื่นมาให้ผมจิบ และเอนตัวเธอมาเบียด ตาดูหนังกับน้ำในอ่างว่าเต็มหรือยัง
   ผมเห็นรูปร่างของเธอและความสาวสวย นึกไม่ออกเลยว่าเธอจะแพ้ใครในบรรดาสตรีที่ผมเจอมา ตอนนั้นยังไม่รู้แต่ตอนจบน่าจะเปอร์เฟ็คในทุกเรื่อง
   ชีวิตของคนเราที่ผ่านมามันผิดพลาดแล้วผิดพลาดเล่า จนกระทั่งชาชินกับความผิดพลาด
   ผม เคยอกหัก ชอกช้ำ ร่ำสุราจนกลายเป็นปีศาจสุรา แต่ทว่า ณ วันนี้คิดไปถึง เมื่อก่อนนี้มันบ้าบอคอแตกพิลึกพิลั่นเกินไปจริงๆ ไอ้ความที่คิดว่า โคตรฉลาดเนี่ยเองที่ทำให้ชีวิตมันผิดพลาดไปเรื่อยๆ 
   ผู้หญิงหรือผู้ชายเมื่อแก้ผ้าแล้วก็คือๆกัน ผมมองดูไอ้น้องชายของผม ณ ปัจจุบัน ในตอนนั้น น้องอิ๊ฟแกฟังผมพูดและต่อว่าว่าผมพูดเร็วจนฟังไม่ทัน ผมหัวเราะและก็สอนน้องเขาไปว่า รู้ไหมว่าชายที่พูดยานคางนั้นส่วนมากมักจะเป็นเกย์ แต่ทว่าพวกที่พูดเร็วนั้นส่วนมากจะเป็นช่างเย็บ
   น้องอิ๊ฟ หัวเราะคิกๆ ประสาไทยใหญ่ของเธอก็ไม่ค่อยชัดเหมือนกัน แต่ผมไม่ต่อว่า เพราะเบื่อหน่ายการต่อว่าคนซึ่งไม่รู้ว่าจะต่อว่าไปทำไม
   และเมื่อก่อนปฏิบัติการอันสุนทรบ่อย จนทำให้กระบอกยิงน้ำทั้งใหญ่และยาว แต่ทว่าปัจจุบัน ไม่ค่อยได้ใช้จึงทำให้มันหด
   น้องอิ๊ฟ หัวเราะคิกๆ
   เมื่อจบภารกิจ ไม่แม้แต่จะถามชื่อหรือถามเรื่องไร้สาระ ผมก็ออกมานั่งรอเพื่อนรุ่นพี่ข้างนอก ข้างนอกก็มีด๊อกเตอร์มากันเยอะแล้ว ผมก็มองชมความงามแบบแปลกๆละลานตาอย่างลืมตัว แม้ตอนนั้นแรงข้าวต้มจะหมดไปแล้วก็ตาม
   แป๊บเดียวเพื่อนรุ่นพี่ก็หน้าซีดเซียวยิ้มเผล่เดินมา ในสมองผมคิดปรู๊ดปร๊าดเร็วจี๋ นี่ก็แสดงว่า ฝีไม้ฝีมือพอๆกัน ไปกันได้ และคราวหน้าเป็นคราวของเพื่อนรุ่นพี่แล้ว และแกให้คำมั่นสัญญาว่า จะเรียกพวกไซน์ไลน์มาใช้บริการในคราวหน้า
   เราทั้งสองออกมาจากร้าน พี่เขาเดินเลยรถออกไป ผมจึงกระแอมเพื่อให้แกรู้ตัวว่าแกเดินเลยรถผมไปแล้ว แกก็นึกขึ้นได้ และยิ้มอย่างอายๆ แต่ผมคิดอย่างรวดเร็ว พี่แกคงเล่นซะเบลอเลยนะเนี่ย
   รถมาสด้าจีแอลเอ็กซ์ของผมส่งเสียงดังกระหึ่มและขับพุ่งโลดแล่นจากสถานบันเทิงแห่งนั้นออกไป
   ความผิดพลาด ที่เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งได้ทำให้ย้อนคิดไปในอดีตที่แสวงหาอย่างมีสาระ แต่สิ่งที่ได้กลับมีแต่ความมีสาระในขณะนั้นแต่ไร้สาระหนักในขณะนี้
   แม้ว่าสนามบินจะถูกยึด ประเทศจะเจ๊ง ประชาชนตาดำจะทำอะไรได้ นอกจากจะยังงงและเครียดว่ามันทำอะไรกัน กับความโง่ของผมยังไม่อาจจะออกคำตอบออกมาเป็นปรนัย ได้แม้แต่ผิดทุกข้อ
   ก็คงต้องปล่อยมันไป แม้ว่า ธนาคารทุกธนาคารจะเจ็งอย่างไม่เป็นท่า แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนระบอบการปกครองใหม่ ผมยักไหล่ช่างหัวมัน
  ชีวิตของผมแม้ว่าที่จะผ่านมาจะรู้ว่าโง่กระทำการโง่ๆ แต่ก็ช่างหัวมัน ก็จะขอโง่ๆแบบนี้ต่อไป 
   ผมได้คิดแล้วว่า ความผิดพลาดเป็นเรื่องที่ต้องเกิด และยังต้องเกิดอีกต่อไป ถ้าหากเรามัวแต่แก้ไขความผิดพลาดในปัจจุบัน สิ่งที่ต้องเกิดคือก็ต้องแก้ไขความผิดพลาดไปจนตาย
   สะพั่ง หัวเราะก้อง พออะไรมันเสร็จสมอารมณ์หมายแล้วมันก็ปลอดโปร่ง เพียงแต่ในยามนี้ก็เพียงพอแล้วมั้ง
   บริบทในตอนนี้ทำให้ทัศนคติแปรเปลี่ยนกลับกลายไป และเมื่อเราคิดว่าตนเองแปรเปลี่ยนกลับกลายแล้วก็อย่าได้พึงคิดเป็นอันขาดว่าคนอื่นเขาจะยังไม่แปรเปลี่ยน อันที่จริงแล้วเขาทั้งหลายแปรเปลี่ยนกันไปตั้งนมนานกาเลแล้วต่างหาก
  สะพั่ง หัวเราะเคี๊ยกๆ เมื่อมีความเครียดมาก็ต้องระบายความเครียดบ้าง
  ก็เป็นไปตามที่พระท่านว่าไว้ อย่าไปคิดไกลเกินไป จริงๆแล้วมันไม่ได้รุ่นแรงอย่างที่คิด
  สะพั่ง ชักบุหรี่ที่เมียห้ามออกมาดูดและคิดเหมือนเดิมว่า หมดซองนี้แล้วจะเลิกทุกครั้ง พอสูบๆไป คนที่เดินผ่านมองหน้าผม เดาได้เลยว่าเขาคงจะประนามการกระทำชั่วของผมยิ่งกว่าพวกยึดสนามบินเป็นแน่
  สะพั่ง ยักไหล่ และมองลึกเข้าไปในดวงตาของคนสูงอายุที่จ้องมา
   เรื่องราวของเพศก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นเรื่องความลับที่สูงส่ง ในสภาพปัจจุบัน มันก็มีความคิดที่เปลี่ยนไปจนน่าตระหนก เพราะไอ้ข้อมูลข่าวสารที่มากเกินไปเนี่ยเอง จึงทำให้ไม่รู้แล้วว่าอะไรถูกหรืออะไรผิด
   ผมสะพั่ง คิดว่า แม้แต่ความถูก หรือ ความผิด มันอาจจะใช้อะไรเป็นบรรทัดฐานวัดไม่ได้เลยเป็นแน่
    ก็ในเมื่อผู้แข็งแรงย่อมสามารถมีชีวิตอยู่ในโลกได้
    ก็เรียนเชิญนะครับ สำหรับผมแล้วจะขอเริ่มต้นอยู่ในโลกนี้ด้วยความโง่ คือตั้งต้นโง่มันซะเลยตั้งแต่วันนี้ ก็เป็นการเริ่มใหม่อีกครั้งหนึ่ง ในสมมุติฐานดังกล่าวข้างต้น
    ก็ตั้งใจแล้วครับว่าจะโง่ไปเรื่อยๆจนกว่าจะโง่ไม่ออก
    เมื่อหมดมวล ผมก็ทิ้งบุหรี่ในร่องน้ำตามเคย ผมสะพั่ง ก็เดินต๊อกแต๊ก กลับบ้าน และเปิดเว็บค้าขายต่อไป				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน