20 พฤศจิกายน 2548 10:43 น.

ตุ๊กตามนุษย์

เวทย์

(๑)
จากดินที่คัดสรรมาปั้นแต่ง
ร้อนไฟแรงเพียงไรในเตาเผา
กว่าจะเป็นตุ๊กตาตรงหน้าเรา
มิใช่เฝ้าเพ้อฝันให้มันเป็น

กรรมวิธีขั้นตอนซับซ้อนไฉน
ฤๅหลับไปชั่วคืนตื่นมาเห็น
ทุกบรรจงลงมือทำล้วนลำเค็ญ
ต้องยากเย็นก่อนยลอีกผลงาน

กี่เรียนรู้เสริมหลักแทนมักง่าย
เพื่อสืบสายรอยศิลป์ดวงจินต์สาน
เฝ้าฝักใฝ่ฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ
ค่อยเกิดการต่อก้าวยืดยาวไกล

มากกว่าสิบปากว่าสิบตาเห็น
คือทำเป็น ชำนาญจริง อ้างอิงได้
สองมือสร้างศิลปะละเมียดละไม
หนึ่งหัวใจเจือละมุนอบอุ่นพอ


(๒)
จากสายเลือดเติบร่างใครช่างปั้น
ก่อนคืนวันประสบการณ์ช่วยสานต่อ
กว่าค่าเข้มเต็มคนต้องทนรอ
อย่างจดจ่อเอาใจใส่ไม่ละเลย

ทุกขั้นตอนพัฒนาทารกหนึ่ง
เป็นเรื่องพึงกำชับกลับเพิกเฉย
คอยพ่อแม่หรือครูเล่าหนูเอย
หรืออย่างเคยคือไร้ใครดูแล

เพียงตุ๊กตาตัวที่....มีชีวิต
กลางวิกฤตชะตากรรมอันย่ำแย่
อยู่ในรัฐเลอะเลือนและเชือนแช
คิดแคบแค่การสร้างทางร่ำรวย

ยังขาดช่างชำนาญในการปั้น
ยังเกี่ยงกันเหลียวแลแค่ฉาบฉวย
ยังอ้างว่าปัจจัยไม่อำนวย
ยังงงงวยหลงทิศเดินผิดทาง


(๓)
แค่ ตุ๊กตามนุษย์ ขาดจุดหมาย
อยู่หรือตายกี่คนกังวลบ้าง
กี่มือหยิบตุ๊กตามาจัดวาง
กี่มือขว้างเศษชีวิต...ลืมคิดตรอง
				
18 พฤศจิกายน 2548 19:25 น.

ตำนานแล่นใบ

เวทย์

จากเรือเล็กถึงลำสำเภาใหญ่
นับย้อนไปกระทั่งหลังยุคหิน
พึ่งแรงลมท่องโลกราวโบกบิน
เชื่อมแผ่นดินทุกแดนเป็นแผ่นเดียว

เพียรหล่อหลอมความรู้สู่ทักษะ
หมายชนะธรรมชาติที่กราดเกรี้ยว
บนลำเรือลอยล่องท่องทางเทียว
คนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ผ่านเวลา

อ่านแผนที่ทิศทางคุมหางเสือ
ปรับใบเรือให้เหมาะเฉพาะหน้า
ทั้งกระแสลม-น้ำร่ำเรียนมา
มิใช่เพียงพึ่งพายถากรรม

ฝ่าคลื่นแรงลมกล้าค้นหาฝัน
แต่ละวันแต่ละคืนทุกข์กลืนกล้ำ
แลกบทเรียนชีวิตไว้คิด-ทำ
ปัญญานำสติเหนี่ยวเติมเชี่ยวชาญ

มิปล่อยเรือลอยคว้างไร้หางเสือ
ขอเพียงเหลือศรัทธา,ความกล้าหาญ
ตราบลำเรือลอยล่องบนท้องธาร
ย่อมพ้นผ่านเรื่องร้ายสู่ปลายทาง

คืนที่ฟ้าเวิ้งว้างระหว่างค่ำ
เรือหนึ่งลำแล่นฝ่าทะเลกว้าง
หวังว่าก่อนกำหนดปลดระวาง
สามารถสร้างสักตำนานทระนง

อนุสาวรีย์วีรกรรมนักสำรวจ
ที่รุ่นทวดลืมเล่าเราเลยหลง
ลืมทุกเรือที่ล่มแล้วจมลง
แม้ซากคงคู่ทะเลเวิ้งเวลา
				
16 พฤศจิกายน 2548 21:21 น.

ใต้ต้นกร่าง

เวทย์

(๑) 
.....ครั้งหนึ่งเหนือลานหญ้า............ผ่านแดดจ้าและมนต์จันทร์ 
ทุกแสงถูกแบ่งปัน........................ความเป็นไปเปี่ยมไมตรี 

(๒) 
.....เมล็ดกร่างเริ่มผลิกล้า.............โดยเหล่าหญ้าร่วมยินดี 
ร่มรางต้นกร่างมี..........................มอบเย็นสู่, สู้แดดแทน ? 

(๓) 
.....ต้นกร่างยิ่งกางพุ่ม...................ปกแผ่คลุมครอบครองแดน 
แยบยลบนแบบแผน......................เพื่อเก็บกักกอบโกยกิน 

.....รากแน่นร่มใบหนา..................คือฉกฟ้าฉวยฟากดิน 
เหล่าหญ้าน้ำตาริน........................รอล้มหายรายลำเค็ญ 

.....พุ่มกร่างแผ่กว้างไกล................หวังยิ่งใหญ่ใช่ร่มเย็น 
แดด,ดิน..สินจำเป็น.......................ยื้อแย่งไปไม่แบ่งปัน 

.....หมกมืดย่อมหญ้าม้วย...............ฤๅรอดด้วยแรงดึงดัน 
ขมขื่นแห่งคืนวัน...........................ลอยเวียนวนจนชินชา 

(๔) 
บนลานดินลานเดิมเหมือนเริ่มแรก 
ภาพผิดแผกเพียงตอนนี้ไม่มีหญ้า 
หนึ่งใบแก่จากต้นกร่างร่วงคว้างมา 
แทนหยดหนึ่งน้ำตา..แสร้งอาลัย 

อีกตำนานอันอนาถที่อาจพบ 
เริ่มแล้วจบเช่นนั้นนิรันดร์สมัย 
เว้นแต่หญ้าสามารถอ่านสัญญาณภัย 
ก่อนสายไปสำหรับเตรียมรับมือ				
12 พฤศจิกายน 2548 11:12 น.

เหลวไหลในความหลับ

เวทย์

รวยกระจุกจนกระจายหลายปีผ่าน
ความต้องการของคนจนมักหล่นหาย
เป็นปัญหาหนึ่งที่ยากคลี่คลาย
ซ้ำขยายช่องว่างทางสังคม

ด้วยระบบอุปถัมภ์....ฐานอำนาจ
บวกโอกาส, กติกา  มาผสม
นโยบายบังหน้า ประชานิยม
ซ่อนเงื่อนปมปล้นชาติอุบาทว์อุบาย

ยิ่งจนทรัพย์อับปัญญายิ่งหน้ามืด
แผนหว่านพืชหวังผลหลอกคนง่าย
บริโภคนิยม  เพิ่มงมงาย
ไทย ก็กลายเป็น ทาส อำนาจเงิน

กุ้งฝอยตกปลากะพง คงมนต์ขลัง
หน้ากากบัง..แบ่งปันแลกสรรเสริญ
ผลกำไรงอกงามตามประเมิน
เขาเจริญส่วนเราเศร้าดักดาน

ตราบยังหลงเหลวไหลในความหลับ
ไม่ซึมซับบทเรียนเปลี่ยนรากฐาน
เปลืองชีวิตทั้งหมดเยี่ยงมดงาน
ข้าวทุกจานมีสำหรับกินกับเกลือ

เรายังเป็นขอทานคอยการ "ให้"
ยังพอใจยิ้มย่องรับของเหลือ
เบื้องหลังของน้ำใจใช่จุนเจือ
แท้เขาเอื้ออาทรก่อนถอนทุน
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเวทย์
Lovings  เวทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเวทย์
Lovings  เวทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเวทย์
Lovings  เวทย์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเวทย์