24 สิงหาคม 2544 22:11 น.

ดอกไม้น้อยและเด็กตัวจ้อย

เสี้ยว

อ่อนแสนอ่อน อ้อนอาบลม พรมอุ่นแดด
รังสีแผด แดดอาบทุ่ง รุ่งพฤกษา
แลทิวข้าว พราวกระจ่าง กลางสายตา
เด็กน้อยมอง ว่าช่างใหญ่ เกินตาชาย

เลยลองเหลือบ ก้มลงมอง ตรองตรงขอบ
ก็นึกชอบ ดอกเล็กเล็ก นี่ไฉน
ไม่ต้องทอด มองยาว สาวตาไกล
เจ้าอยู่ใกล้ ข้าได้เอื้อม ดอมเด็ดดม				
22 สิงหาคม 2544 01:53 น.

นาฬิกาเก่าๆ

เสี้ยว

ดังติ๊กติ๊ก เข็มกระดิก อยู่ที่เก่า
เสียงเบาเบา เจ้าเกาะหู มิรู้หาย
เหลือบเร้นเร้น เห็นบนฝา มิวางวาย
เจ้าแขวนกาย มิอายโฉม นานนมมา

เมื่อวันก่อน เหลือบมิเห็น เร้นลับหลบ
มองมิพบ ฤาเจ้าหลบ อยู่หลังฝา
ไร้ติ๊กติ๊ก กระดิกเข็ม นาฬิกา
ฤาร้างลา ข้ามองหา มิพบเลย

เคยติ๊กติ๊ก แขวนกระดิก บนข้างฝา
ฝุ่นยังหนา จับที่เก่า เจ้ายังเฉย
ฤาจะถึง วันที่ต้อง ลาลับเลย
ลมรำเพย เชยกระซิบ คิดวังเวง.........

ลืมตาตื่น ฟื้นสำเนียง เคียงคุ้นหู
กวาดตาดู ฤาจะเป็น เพียงแค่ฝัน   
นาฬิกา เจ้าแขวนตัว อยู่ตรงนั้น
สิ่งสำคัญ เห็นเจ้าอยู่ ดูอุ่นใจ

สำนึกรู้ รู้สึกตน ตนตื่นอยู่
เสียงเข้าหู สำเนียงดี มีความหมาย
หากร้างเชียบ เงียบหงอยเหงา คงเปล่าดาย
ข้าหยัดกาย คลายงุนง่วง ปวงมายา

ดังติ๊กติ๊ก กระดิกเข็ม อยู่ที่เก่า
แสงยามเช้า เจ้าสุกสว่าง กลางข้างฝา
แม้นเป็นข้า ที่ต้องจาก ไกลคลาดคลา
นาฬิกา เจ้าคงร้าง ว้างวังเวง				
17 สิงหาคม 2544 08:36 น.

ฝันเถอะ ถ้าอยากจะฝัน

เสี้ยว

ในความจริงยังมีความฝัน
ดวงตะวันยังคงส่องแสง
ท่ามกลางพายุที่โหมแรง
ใจที่แห้งแล้งฤาหยัดยืน
ชืวิตไม่มีสิ่งน่าพิสมัย
อย่าใส่ใจกับสิ่งขมขื่น
ทำวันนี้ให้ใสสดชื่น
ทุกค่ำคืนจงฝันในสิ่งงาม
ความจริงของชีวิตโหดร้าย
ความเป็นความตายยังทวงถาม
จงฝันในคืนที่แสนงาม
ปล่อยใจไปตามจินตนา
ปลดปล่อยตัวเองบ้าง
อย่าฝันร้างเดี๋ยวกลายเป็นบ้า
ถ้าเธอฝันที่จะจับปากกา
จงหยิบขึ้นมาแล้วร่ายเป็นกลอน				
13 สิงหาคม 2544 12:12 น.

ไม่ไหวแล้วนะ

เสี้ยว

ความจำเป็นและหน้าที่ที่บังคับ
ให้หันกลับไปเผชิญสิ่งหมาๆ
สิ่งที่เบื่อต้องรู้เห็นอยู่กับตา
เพื่อย้ำว่าหมดเวลาเป็นของตน

อยากสนุกกับการใช้ชีวิต
ไม่อยากติดอยู่กับที่หากไร้ผล
ไม่ให้ใจเราก็รู้อยู่แก่ตน
ค่าของคนคงหมดสิ้นเพราะเต็มกลืน

เคยให้ไปให้ทุกสิ่งไม่มีเหลือ
ทุกสิ่งเอื้อเกื้อประโยชน์มิเคยฝืน
ให้ให้ไปไม่เคยหวังคุณกลับคืน
ถึงวันนี้มันเต็มกลืนเพราะฝืนทน

เขียนออกมาด้วยอารมณ์ที่ผวนผัน
เขียนถึงมันด้วยรู้สึกสุดสับสน
เขียนถึงมันด้วยความคิดที่สุดทน
เขียนวกวนอยู่ที่ตรงปลายปากกา

อยากขอโทษทุกๆคนที่ได้อ่าน
อย่างหน้าด้านที่รู้สึกอย่างหมาๆ
ได้ปลดปล่อยอารมณ์เต็มอัตรา
ที่อ่านมาลืมเถอะนะจงลืมมัน

           - ขอบคุณ -				
13 สิงหาคม 2544 06:11 น.

คำว่า "แพ้"

เสี้ยว

คำ ว่ า   " แ พ้ "   แ น่ ห รื อ คื อ ปั ญ ห า
       เป็นปุจฉาต้นแห่งทุกข์ทุกสมัย
       สิ่งสำคัญหนือสิ่งอื่นคือจิตใจ
       ยอมได้ไหมให้คำ "แพ้" เกิดแก่ตน
       เมื่อมีฝนทนไม่นานตะวันแผด
       เป็นแสงแดดแรงฤทธิ์วิจิตรผล
       เมื่อมี"แพ้"แย่ย่อมอยู่ไม่คงทน
       เปรียบกับคนใครจะทุกข์อยู่ถ่ายเดียว
       จงฉุดตนให้พ้นจากคำ"แพ้"
       อย่าคิดแต่ "แพ้" ตอกย้ำคำห่อเหี่ยว
       อย่าให้ "แพ้" เป็นปัญหาขมวดเกลียว
ธ า ร ทุ ก ข์ เ ชี่ ย ว อ ย่ า ง ไ ร ต้ อ ง ว่ า ย ท ว น				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเสี้ยว
Lovings  เสี้ยว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเสี้ยว
Lovings  เสี้ยว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเสี้ยว
Lovings  เสี้ยว เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเสี้ยว