7 พฤศจิกายน 2548 23:02 น.

ฟ้า เคียง จันทร์ ตอนที่ 2 : ฟ้าประดับดาว

แดดเช้า

แห่งค่ำคืนที่แสนรัก ... ฉันยิ้มทักกับดาวดารดาษที่กลาดเกลื่อนอยู่บนฟากฟ้า จันทร์จรทอแสงนวลอร่าม ฟ้ากระจ่างไสว เพียงเพื่อดิ่งสู่ความนิ่งแห่งสรรพสิ่ง และเข้าใจในความลึกเร้นไหวติงของสิ่งสรรพ ภายนอกหน้าต่างกว้างโล่งตรงหน้า ตรงนั้น ....

กับอีกตรงหน้า ... เสียงเคาะประตูเรียกจากจอคอมพิวเตอร์ สัญญาณ MSN กระพริบขึ้นอีกครั้ง ฉันผละสายตาจากฟ้าแสนรักมาอ่านข้อความของใครสักคนที่สื่อสารมา
สวัสดีครับ คุณรุจน์ เป็นข้อความคุ้นเคยเป็นประจำทุกค่ำคืน เหมือนเป็นที่รู้กันและเป็นแหล่งนัดหมาย
สวัสดีค่ะ คุณทิว สบายดีอยู่หรือคะ 
สบายดีครับ ... อ่าน ฟ้าเคียงจันทร์ ฉบับที่ผมเป็นพระเอกแล้วนะครับ
ค่ะ ฉันนิ่ง เตรียมใจฟังคำวิจารณ์ ซึ่งอาจจะได้รับคำชมหรือคำติ จึงต้องสำรวมใจพร้อมพอที่จะไม่หวั่นไหวดวงใจไปกับสิ่งเหล่านี้
ผมชื่นชมคุณมาก 
ค่ะ ขอบคุณค่ะ  

ฉันพูดอะไรยังไม่ออก เพราะกำลังนั่งตรวจตราหัวใจของตัวเอง
พองๆ ฟูๆ ชื่นใจที่เขาเห็นคุณค่า ในขณะเดียวกันก็พยายามข่มดวงใจให้นิ่งเพียงพอที่จะกำหนดรู้ตามสิ่งที่เป็นไป ... เดี๋ยวก็คงจางหาย  ใช่ว่าจะอยู่ติดตรึงนานสักเพียงใด  เว้นแต่เพียงว่ายังจับยึดไว้ตลอดกาลแล้วเฝ้าหลงพะวงว่า ความฟูพองชื่นใจนั้น คือ สิ่งจริง

ชีวิตคุณเป็นยังไงบ้างคะวันนี้ ... คุณทิว  ฉันละความสนใจจากอารมณ์เพียงชั่วคราว ไถ่ถามเรื่องราวของเขา
สบายดีครับ ทุกอย่างอยู่ในสภาพที่ลงตัว
ยินดีด้วยค่ะ
คุณจะเขียน ฟ้าเคียงจันทร์ ตอนต่อไปอีกหรือเปล่าครับ ผมขอเป็นผู้อ่านทุกตอนที่คุณเขียน
ยังไม่พร้อมค่ะ วัตถุดิบยังไม่มี
ครับ ... ผมจะรออ่าน
ฉันผละสายตาเหม่อมองไปที่ฟากฟ้าตรงหน้า ดาวหลากดวงส่งสายตายิ้มหยอกลงมา เหมือนหยอกเย้าอะไรสักอย่าง จนทำให้ฉันรู้สึกขวยอาย ...
..
เสียงเคาะประตูทักทายมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง ครั้งนี้มีแขกรับเชิญมาด้วย 
คุณรุจน์ครับ ขอโทษครับ ขอแนะนำให้รู้จักน้องดรุณ
สวัสดีครับ พี่รุจน์
สวัสดีค่ะ ดรุณ อายุเท่าไหร่คะเนี่ย
22 ครับผม

แล้วเราก็พูดคุยกันทางตัวอักษรไปตามเรื่องตามราว หลายครั้งที่ฉันผละความสนใจ ปล่อยให้สองหนุ่มคุยกันไปตามลำพัง เฝ้ามองดวงดาวแสนสวยบนฟากฟ้าดีกว่า ...

นานพอสมควร .... จึงรู้สึกตัว  อ่านข้อความใน MSN  กำลังนินทากันได้ที่เลยทีเดียว  ฮะแฮ่ม ...
สงสัยคุณรุจน์จะเหม่อมองท้องฟ้าอยู่นะ น้องดรุณ
พี่รุจน์ชอบมองท้องฟ้าหรือครับ
ครับ เขาชอบฟ้ายามค่ำคืน และชอบหาพล็อตเรื่องต่างๆ มาจากท้องฟ้านี่แหละ
เขาว่ากันว่า คนที่ชอบมองท้องฟ้าเป็นคนมีจินตนาการ
คนบ้า ก็ชอบเหม่อมองท้องฟ้านา ... ดรุณ ฮา ..
ฮะแฮ่ม ... ว่าใครบ้าหรือ คุณทิว  ฉันพิมพ์ถ้อยคำลงไปขัดคอ
ปะ ป่าว ครับ ผมกำลังบอกน้องเขาว่า คนมีจินตนาการกับคนบ้าไม่ต่างกันเท่าไรนักหรอก

ท่าจะจริงของเขา ... ความกว้างไกลของท้องฟ้าทำให้เราเตลิดคิดฝันอันไม่มีที่จบสิ้น ตราบใดที่เรายังไม่รู้สึกตัวได้ตลอดเวลา

เฉกเช่นกับฉัน ... หลายครั้งเพลินกับท้องฟ้า หลงใหลกับสิ่งภายนอกเสียมากมายจน ลืมตัว
พี่รุจน์ โกรธไหมครับ เด็กหนุ่มส่งข้อความถามมา แสดงเจตจำนงห่วงใย
ไม่จ้ะ น้องดรุณ ถ้าจะโกรธ คงโกรธคุณทิวซะมากกว่า เชอะ ...
มีการโกรธผมด้วยหรือครับ แล้วเขาส่งยิ้มมาให้ 
เป็นค่ำคืนแรกที่นำพาให้ฉันรู้จักมิตรภาพใหม่ คือ น้องดรุณ.
.....................
	ฟ้านำพาชะตาชีวิตต่างๆ มาให้ผู้คน  โอบอุ้มผู้คนอยู่ในเอื้อมหัตถ์
	
ฟ้าคือความมั่นคง .... ไม่ว่าจะเปลี่ยนสีไปด้วยแสงแห่งดวงตะวัน พร่างนวลจันทร์ ฤๅประดับด้วยกระดุมดาวพราวระยับก็ตาม แต่ฟ้าก็ยังเป็นผืนผ้าที่ห้อมคลุม ห่มทุกสรรพชีวิตอยู่เช่นนั้น

	เข้มแข็งราวท้องฟ้า  มั่นคงราวแผ่นดินและภูผา ...
	ฉัน ... น้ำตาไม่เคยได้หลั่งรินไปกับทุกข์โศกของผู้ใด แม้แต่กับตัวเอง

	ด้วยที่ว่า หลั่งน้ำตาออกมาเพื่ออะไรกันเล่า? นั่นเป็นสิ่งที่ถามใจตัวเองเรื่อยมา ใช่เพื่อเรียกร้องให้ผู้ใด หรือกระทั่งตัวเองเห็นใจสงสารตัวตนอันเปล่าดายนี้   ฤๅจะเรียกร้องให้ฟ้าเห็นใจขีดชะตาชีวิตให้ใหม่

	เป็นประโยชน์อะไร ... ฟ้าได้แต่นิ่งมองให้สรรพสิ่งเป็นไป 
	ฉันควรเจริญรอยตามแบบอย่างแห่งฟ้า 


	หัวค่ำนี้ ... ฉันเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมา ทันทีที่ออนไลน์ ดรุณเด็กหนุ่มคนนั้นก็เข้ามาทักทาย
	สวัสดีครับ พี่รุจน์
	ค่ะ สวัสดี น้องดรุณ ชีวิตวันนี้เป็นยังไงบ้างคะ
	สบายดีครับผม แต่เจ็บปลาบๆ ที่หัวใจ
	ขนาดน้าน 
	พี่รุจน์ครับ ทำไมผู้หญิงชอบคิดมากจังเลย ... ทำไมเธอไม่เข้าใจอะไรง่ายๆ เหมือนที่ผมคาดหวังให้เธอเข้าใจ ทำไมเธอต้องระแวงระวังห่วงใยว่า ผมจะหลอกลวง ผมไม่จริงใจ ผมโกหก ทำไมละครับ
	เขาหลั่งระบายความในใจออกมามากมาย .... จนแทบทำให้ดาวบนฟ้าของฉันมัวหมองลงไป

	ผู้หญิงคิดมาก? ... คิดมากยังไงหรือ ดรุณ
	ผมจะไปไหน ก็ต้องเล่าให้เธอฟังทุกเรื่อง  ระแวงจนกระทั่งผมเฝ้าระแวงตัวเองไปด้วยแล้วนั่นครับ
	อืม ... ระแวงตัวเองยังไง
	ผมต้องคอยระวังเวลาพบปะพูดคุยกับใครๆ เกรงจะเกิดปัญหา ผมต้องเฝ้าระวังใจตัวเองครับ
	แล้วรู้สึกยังไง อึดอัดไหม
	อึดอัดครับ ... เครียดครับ
	สูดลมหายใจลึกๆ สิจ๊ะ
	ครับ

	ฉันเผลอเหม่อมองท้องฟ้าอีกแล้ว ท้องฟ้ามืดมิดแต่เหมือนมีจุดประกายดาวเป็นช่องทางแห่งความสว่างให้เล็ดลอดออกมา .... ท้องฟ้ามีรู ฉันอดคิดแล้วอมยิ้มไม่ได้
	

	ดวงดาว เป็นเครื่องหมายแห่งความหวัง .... ท้องฟ้าที่ฉันรัก  ฉันอยากให้ยามค่ำคืนเช่นนี้ที่ม่านฟ้าสีดำคลุมห่มห้วงฟ้ามีแสงประดับให้ฟ้าพร่างพราว แม้เพียงจุดเล็กๆ หลายๆ จุดก็ยังดี

	ดาวที่รัก ... ถ้าฉันเลือกทำได้  ฉันขอเป็นเพียงผู้จุดประกายความหวังแห่งดวงดาวสู่ดวงใจของใครต่อใคร นะ ดาวแห่งศรัทธาบนฟากฟ้า

	
	ผละกลับมาที่หน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงเคาะเรียกจาก MSN พร้อมกับข้อความที่ฉันอ่านพบ
	พี่รุจน์ครับ ... ผมเองควรจะไว้วางใจตัวเองใช่ไหมครับ จึงจะเพียงพอที่จะทำให้เธอไว้วางใจผมได้
	ค่ะ ต้องเชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองเป็นนะคะ พี่คิดว่าอย่างนั้น
	ครับผม


	คืนนี้ ... ฉันนอนหันหน้าออกไปทางหน้าต่าง พิศดาวบนฟ้าสาดแสงรำไร 

	ปรารถนา .... เพียงจุดอันน้อยนิดจะเป็นแสงสว่างทางจิตใจให้ใจดวงน้อยของใครๆ พบทางออก  แม้เพียงนิดก็ยังดี
..
	หัวค่ำอีกตามเคย ... กับนอกหน้าต่างที่พร่างดาวราวกับนัดพบ และพร่างจันทร์เสี้ยวนวลเหมือนแอบดูเรื่องราวของฉันอยู่ไกลๆ 
	และหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ดูเหมือนกับเป็นช่วงเวลานัดหมายที่ฉันรอคอยใครสักคนจะมาทักทายพร้อมกับเสียงเคาะเรียกของ MSN ที่แสนจะคุ้นเคย ทั้งที่เราไม่ได้นัดพบกันอย่างจริงจัง 

	แต่ดูเหมือนฉันจะรู้ช่วงเวลาที่ เขา จะมาในเวลานี้ทุกวัน
	สวัสดีครับ คุณรุจน์
	ค่ะ สวัสดีค่ะ คุณทิว ชีวิตวันนี้คุณสบายดีหรือคะ
	สบายดีครับ น้องดรุณก็สบายขึ้นเยอะ ขอบคุณนะครับ
	ขอบคุณเรื่องอะไรคะ
	เขาบอกว่า คุณให้คำปรึกษาเขา
	ไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ แค่ฟังแล้วถามเขาเฉยๆ เขาคิดได้เองนะคะ
นั่นแหละครับ เป็นสิ่งล้ำค่ามากกว่าคำพูดใดๆ
	เขาบอกอะไรคุณบ้างหรือคะ ... คุณทิว
	บอกแค่ว่า ถ้าเขาเชื่อมั่นในสิ่งจริงของตัวเองแล้ว ทุกสิ่งก็เป็นเรื่องที่เปล่าดายสำหรับการระแวง ในที่สุด ความระแวงก็พ่ายต่อความจริงใจ
	ค่ะ ... น้องเขาฉลาด ปัญญาดี  รุจน์ไม่ได้พูดอย่างนั้นเลยสักคำ เขาเข้าใจเอง
แล้วคุณทิวก็ส่งยิ้มมาให้ฉัน เพียงเท่านั้นที่ฉันชื่นใจเหลือประมาณแล้ว


ฟ้าในค่ำคืนนี้ ... งามยิ่ง แม้ฟ้าจะอิงแอบเพียงนวลจันทร์ และมีระดะดาวประดับเป็นกระดุมทั่วฟ้า แต่ฉันก็ยังมีความสุขที่ได้รักฟ้าเพียงเป็น ผู้เฝ้าดู ดั่งเช่นฟ้าเฝ้าดูทุกสรรพสิ่งแห่งชีวิต หมายเอาฟ้าเป็นแบบอย่างแห่งดวงใจ

ปรารถนา ... เพียงเท่านั้น ก็คงเพียงพอ.				
1 พฤศจิกายน 2548 22:55 น.

ฟ้า เคียง จันทร์ ตอนที่ 1 : เมฆคุมจันทร์

แดดเช้า

ช่วงเวลาค่ำคืนเป็นความนิ่งสงัดที่น่าดื่มด่ำที่สุด  ฉันมักมานั่งสดับตรับฟังเสียงสรรพสิ่งดิ่งนิ่งลงไปถึง เสียงแห่งความเงียบ  ก่อเกิดความรู้สึก สงบอย่างประหลาด

ท้องฟ้าที่ฉันรัก ประดับไปด้วยกระดุมดาวพริบพราวประชันกันสาดแสง  อาจบางทีเหล่าดาวเหล่านี้ไม่ได้แข่งขันกันก็ได้ ใครจะไปรู้ ... แต่ฉันก็อดแอบเปรียบเปรยไม่ได้  แสงแห่งดาวช่วยกันส่องให้ฟ้าไม่เหงา  และรู้สึกเป็นเช่นนั้นจริงๆ

ฉันก็ได้แต่หลงรักท้องฟ้า เป็นความรักที่ไร้สิทธิใดๆ ในอันที่จะครอบครองมาเป็นของตัวเอง



ค่ำคืนนี้ ก็เช่นกัน .... 
ระหว่างการนั่งชื่นชมฟ้ายามค่ำคืนที่มีแสงจันทร์หม่นมัว  เมฆในฤดูฝนช่างมากมายเสียจริง เพียงพอที่จะรบกวนให้จันทร์นวลแสงต้องหม่นหมองลงไปได้

กับหน้าจอคอมพิวเตอร์  เขาออนไลน์ขึ้นมาพร้อมกับเสียงของ MSN เหมือนเคาะประตูเรียกให้ฉันผละความสนใจจากฟากฟ้านอกหน้าต่างมาอ่านข้อความที่เขาทักทาย
สวัสดีครับ พร้อมส่งยิ้มมาให้อย่างที่เคยทำเหมือนทุกคืน
ค่ะ สวัสดีค่ะ คุณสบายดีอยู่หรือ ฉันทักทายเป็นปกติเหมือนทุกวัน
ครับ แต่วันนี้ผมอาจจะขุ่นๆ ใจอยู่สักหน่อยหนึ่ง เรื่องราวที่เกิดขึ้น .. เรื่องเดิมแหละครับ

แล้วเขาก็เล่าเรื่องราวความรักของเขากับหญิงสาวคนหนึ่ง ที่นับวันเธอยิ่งมีความทุกข์ใจหลายต่อหลายเรื่องวุ่นวายเข้ามา รวมไปถึงเรื่องราวที่ชายอีกคนเข้ามาระรานในชีวิตประจำวันของเขา
เขาโทรศัพท์มาข่มขู่ผม เขาเล่าให้ฉันฟังด้วยความรู้สึกขุ่นเคือง
แล้วเธอคนนั้นล่ะคะ
เธอก็พยายามไกล่เกลี่ยแล้ว แต่เธอก็ยังลังเล ...

แน่นอนล่ะ ... เธอควรจะลังเลอยู่หรอก ผู้ชายคนหนึ่งใส่ร้ายคนรักของเธอสารพัดเท่าที่ฉันได้ฟังจากปากเขา เรื่องลูกเมียที่เขาไม่เคยรู้เรื่อง และไม่เคยผ่านใครมาก่อนเลย ก็ยังสรรหาหลักฐานเอามาเกี่ยวโยงกันจนได้


เขาส่งรูปถ่ายที่เขาอุ้มเด็กผู้ชายวัยน่ารักพร้อมกับหญิงสาวคนหนึ่งให้ดู แนะนำว่า เขาเป็นลุงของเด็กคนนี้ และหญิงสาวในภาพนั้นคือลูกของน้า  ในคราวที่เขาไปเยี่ยมบ้านน้าที่อเมริกาพร้อมกับแม่ของเขา

นี่แหละ ผมไปเที่ยวบ้านญาติมา เป็นความบังเอิญที่นายคนนั้นก็ไปอเมริกา แล้วเขาได้จังหวะถ่ายภาพนี้ไว้ ส่งให้แฟนผมดู บอกว่า เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ผมกำลังวางแผนหลอกลวงเธอ

ฟากฟ้าในคืนนี้ เงียบงันดูหงอยเหงาชอบกล ... ฉันพลอยหม่นหมองในใจไปกับฟากฟ้าด้วย ....


ดาวกระจ่างฟ้ามากมายหลายดวงนัก แต่ดวงจันทร์ยังมีเมฆลอยมาบดบังแสงนวลงดงาม รวมไปถึงท้องฟ้าให้อารมณ์หม่นมัวจนบอกไม่ถูก  ... ฉันทอดสายตาออกไปมองท้องฟ้าเนิ่นนาน ลืมฟังเสียงคอมพิวเตอร์ร้องเรียก เป็นเสียงบทสนทนาของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

คุณครับ ... ทำไมเงียบไป  เป็นข้อความสุดท้ายที่ฉันได้อ่าน ฉันได้สติจึงตอบกลับไปว่า
อ้อ ... กำลังอ่านอยู่ค่ะ เมื่อครู่นี้ ขอโทษด้วย
ทำอะไรอยู่ครับ
อ้อ ... พอดีมองออกไปดูท้องฟ้าข้างนอกน่ะค่ะ เมฆบังจันทร์ หมองใจจัง
อืม .. อารมณ์คุณโรแมนติกดีจังนะครับ
ค่ะ ... หัวใจของฉันหดหู่อย่างบอกไม่ถูก และโดยไม่มีสาเหตุ 

อาจจะ ... มีสาเหตุแต่ฉันเองไม่อาจจะรู้ใจของตนได้ ใจหายวาบไปโดยที่ไม่ทันเข้าใจตัวเอง


คุณครับ ... ทุกวันนี้ บางวันแฟนผมก็ดีแสนดี น่ารักเหมือนเดิม และบางวันก็เกิดความขุ่นเคืองอย่างไม่มีสาเหตุ จนเราทะเลาะกันบ่อย และผมจึงมั่นใจว่า จุดหนึ่งมาจากความศรัทธาที่ถูกสั่นคลอน
ค่ะ คุณต้องพิสูจน์ตัวเอง คงต้องพูดตามจังหวะที่เหมาะสมให้เธอเห็นความจริง
แต่บางที ผมก็อึดอัดนะครับ ... ผมทนนิ่งมาเนิ่นนาน
ค่ะ นิ่งไว้ดีสุดแล้วในสภาวการณ์เช่นนี้ ว่าแต่ว่า คนนั้นทำไมถึงมีบทบาทต่อแฟนคุณจัง
แฟนผมเคารพเขามากครับ เขาคอยแนะนำ เขาทำตัวเป็นผู้ใหญ่ คอยเตือนอะไรหลายอย่าง แต่ละอย่างมีเหตุมีผล แต่ว่า ผมคิดว่ามันไม่เข้าทีเลย
ยังไงคะ ที่เรียกว่า ไม่เข้าที
มันเป็นการสร้างภาพครับ ... คุณรุจน์
อย่างไรบ้างคะ
เขาพยายามทำให้รู้สึกว่า เขาดี เขาเก่ง ทั้งที่เขาเป็นคนล้มเหลวอย่างที่สุด
ล้มเหลวยังไงคะ
หน้าที่การงาน ฐานะการเงิน ผมรู้จักเขาอยู่บ้างครับ ... พยายามเตือนเธอให้ห่างออกมา ได้ระยะหนึ่ง แล้วเธอก็ถูกเป่าหูอีก จนชีวิตความรักของเราสั่นคลอน แทบจะแตกร้าว
ค่ะ ... แล้วคุณจะทำยังไงต่อไป
ก็ทำอย่างที่ว่าแหละครับ นิ่ง ... ผมขอรบกวนคุณรับรู้เรื่องราวของผมนะครับ ผมไม่มีใครปลดเปลื้องและให้ทางออกได้จริงๆ  รู้สึกว่า คุณพอเป็นเพื่อนได้
ยินดีค่ะ .. แล้วฉันก็ส่งยิ้มให้เขา 
กับห้วงหัวใจที่รานร้าว .... หมองจนบอกไม่ถูก


เขาออฟไลน์หายไปในเวลาเที่ยงคืนพอดี ... ฉันยังนั่งดื่มด่ำกับความนิ่งเงียบในช่วงราตรีอีกยาวนาน ประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วจึงค่อยล้มตัวลงนอนด้วยอารมณ์ที่หัวใจยังเดาไม่ถูกเช่นเดิม
........................................................
อีกค่ำหนึ่งมาถึง ... หน้าจอคอมพิวเตอร์เหมือนเดิม
กับท้องฟ้านอกหน้าต่างที่พร่างไปด้วยดวงดาว เมฆคลุ้มๆ ครึ้มๆ แต่จันทร์นวลในคืนนี้  ... งามเหลือเกิน 

ฉันเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ออนไลน์ทิ้งไว้เนิ่นนาน แต่ชื่นชมความงามแห่งฟากฟ้าในยามค่ำคืน ... หัวใจชุ่มชื่นอย่างไม่มีสาเหตุ 

เสียงเคาะทักทายจาก MSN ดังขึ้นมาเป็นปกติ
สวัสดีครับ คุณรุจน์
ค่ะ สวัสดีค่ะ คุณทิว ... ชีวิตในวันนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ
ขอบคุณครับ คุณรุจน์ ผมสบายใจขึ้นมาก ... แต่ต้องคอยระวังความระแวงของแฟนผม
ค่ะ ... วางใจอะไรไม่ได้ทั้งหมดทั้งสิ้น ยังไงก็ตาม ขอบอกอะไรสักหน่อยได้ไหมคะ
ครับ
แม้ว่า เราจะวางใจอะไรทั้งหมดทั้งสิ้นได้ รุจน์อยากให้คุณวางใจกับความจริง ค่ะ ถ้าคุณอยู่กับความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้น ความจริงจะชนะทุกสิ่งทุกอย่างทั้งหมดทั้งปวง
ว่าแล้ว ว่าคุณรุจน์ต้องพูดคำเดิม
แหม ... ก็มันเรื่องจริงนิคะ
ครับ ... คนรักความจริง
ฉันส่งยิ้มให้เขาไปทีหนึ่ง
คุณรุจน์ครับ
ค่ะ
ผมขอบคุณนะครับ
ค่ะ
คืนนี้ ... ยังดูท้องฟ้าอยู่หรือเปล่า เขาส่งข้อความมาสัพยอก
ดูสิคะ ท้องฟ้าอยู่ตรงหน้า ... คืนนี้จันทร์งาม ฟ้างาม ดาวสาดแสงงาม ใจชุ่มชื่นเป็นสุขค่ะ
ดีจัง ... คุณนี่จิตใจงดงามดีเหลือเกิน
ไม่หรอกค่ะ ... จิตใจไม่ได้งามสักเท่าไหร่ ยังอีกยาวไกลที่จะเป็นคนงาม แล้วฉันส่งยิ้มให้กับเขา
เอาเป็นว่า ผมจะไม่รบกวนเวลาชมท้องฟ้าของคุณละครับ มีอะไรทักผมได้นะครับ
ค่ะ 
ฉันเผลอคิดในใจว่า ... ค่ะ ท้องฟ้าของฉัน
......................
ช่างไม่แตกต่างอะไรเลย กับท่ามกลางฟ้าพร่างด้วยจันทร์งาม หรือฟ้าหม่นด้วยจันทร์ถูกบดบัง แม้กระทั่งฟ้ามืดมิด กระจ่างด้วยดวงดาวในคราวไร้จันทร์ 

ว้าเหว่ .. โดดเดี่ยวตามลำพัง ... หรือเดียวดายตามอารมณ์ 

ท้องฟ้าก็อยู่ส่วนฟ้า ... คุณทิว ก็อยู่ส่วนคุณทิว เพียงแต่ฉันเป็น ผู้ดู 
แต่เป็นผู้ดูที่โลดแล่นไปตามบทของละครที่ใครต่อใครแสดง ... ฉันยังนิ่งไม่เพียงพอที่จะมองเฉยตามที่ท้องฟ้าเป็นไป ตามที่พระจันทร์แสดงบทเป็นนางเอก ยามที่เมฆหม่นบดบังจันทร์จนทำให้ฟ้าพลอยหม่นมัวไปด้วย

ทั้งที่ ... ทั้งหมดทั้งปวงเป็นเพียงโลกมายาที่ฉันไปรับรู้มัน เท่านั้นเอง

ฉันรักท้องฟ้า ฉันรักคุณทิว ... เป็นความรักเหนือการครอบครองใดๆ เพียงมิตรภาพที่รับรู้ความเป็นไป เป็นกำลังใจให้เขาเข้าใจสิ่งที่เขาเป็น เป็นกระจกสะท้อนให้เขายอมรับความจริง -- เพียงเท่านั้น

กาลเวลาก็จะพาฉันให้จากสิ่งมายาเหล่านี้ไป หากใจยังผูกพัน ... ร้อยสิ่งฝันเหล่านี้เข้าอยู่ในความทรงจำ คิดถึงแล้วก็ยังความเจ็บปลาบเจ็บปวดมาให้ เป็นสุขลึกแห่งความสวยงามในห้วงคำนึง


เสียงเคาะเรียกทาง MSN อีกครั้ง ...
คุณรุจน์ครับ โทษทีครับ ... ขอรบกวนเวลาชื่นชมฟ้าของคุณสักหน่อย
ฉันแอบหัวเราะกิ๊กอยู่ในใจ
คุณครับ ผมเริ่มคิดอะไรได้บางอย่าง
อะไรคะ
คุณเป็นผู้เฝ้าดูท้องฟ้า กับ ดวงจันทร์ เหมือนกับเป็นผู้รับรู้เรื่องราวของผมเลย ใช่ไหมครับ
แหม... คุณก็  ช่างคิด
ขอพื้นที่ให้ผมเป็นพระเอกหน่อยเถอะครับ คุณรุจน์ ... 
ตามสบายค่ะ แต่ไว้จะคิดบัญชีลงโทษคุณนะคะ
ผมทำผิดอะไร
ผิดที่รบกวนเวลาคิดพล็อตเรื่อง ฟ้าเคียงจันทร์ ของฉันไงคะ ... รบกวนคอยอ่านสักหน่อย ได้ไหมคะ
แหม ... ยินดีที่เป็นพระเอกตัวจริง อะไรจะใจตรงกันปานนี้ครับ
ค่ะ ... รุจน์ไม่ใช่นักเขียนนะคะ เพียงแต่ชมท้องฟ้ามาหลายคืน ประกอบกับเรื่องราวของคุณ และความรู้สึกของตัวเอง เลยคิดว่าน่าจะสร้างเรื่องราวอะไรได้
เป็นเรื่องราวความรักที่อยู่เหนือความรักทั้งปวงครับผม ... ใช่ไหมล่ะ คนรักความจริง
ค่ะ ... เพราะเรื่องราวที่รุจน์จะเขียนนี้ เป็นความจริงค่ะ
ฝันดีนะครับ คุณรุจน์ ... ผมคงต้องไปชื่นชมความจริงบนท้องฟ้ายามค่ำคืนบ้างแล้ว แล้วท้องฟ้าของคุณจะมาพูดคุยกับคุณอีกบ่อยๆ  ขอบคุณสำหรับมิตรภาพที่งดงามแห่งดวงดาวที่คุณประดับในใจผมครับ


เขาไม่รอให้ฉันตอบคำ ออฟไลน์หายไปซะแล้ว ...				
29 กันยายน 2548 23:11 น.

ลำนำ "ความรัก"

แดดเช้า

เมื่อความรักโบกมือไหวๆ เรียกที่ปลายฟ้าสีทองส่องสว่างพร่างตา
ใครเลยจะไร้ซึ่งศรัทธา ... บันดาลใจ และแรงมุ่งหวัง
ฝันอันกระจ่างย่อมอยู่มิห่างไกลหัวใจผู้ได้รับการทักทายจากสายรัก

บนคืนวันที่เหน็บหนาว ร้าวราน แทบภินท์พังกับความเดียวดายกรายล้อมรอบกาย
ความรักเสกประกายฉายแสงอุ่นคุ้นเคยเป็นผ้าห่มปกคลุมให้คลายหวั่น
ใครเลยจะไม่ฝันถึงความหอมหวานแห่งวารวันอันงดงาม

บนคืนวันที่ร้อนระอุ แล้งร้าย อบอ้าว เคล้าด้วยความเหงาเศร้าตรมระทมกล้ำกลืน
ความรักหยิบยื่นปัดเป่าสายลมพรมน้ำทิพย์หยิบคำปลอบมอบเป็นกำนัล
หัวใจของใครเลยจะเฉยเมยไม่เปิดกว้างกระจ่างเผยเชยชื่นพร้อมรับ

เมื่อดอกไม้กรุ่นอุ่นฝันบานแย้มแต้มสีสันในอรุณอุ่นแห่งวันใหม่
ความรักนฤมิตความชื่นใจเป็นผีเสื้อปีกสวยกรายบินผินมาชมมวลดอกไม้
ดูดดื่มความอบอุ่นคุ้นเคยจากเยื่อใยเกสรดอกไม้ด้วยความดื่มด่ำอย่างเหลือประมาณ
หัวใจของใครเลย ... จะทนเฉยชาไม่แย้มยิ้มอิ่มใจไปกับสิ่งกำนัลอันเลอค่า ณ แดนสรวงแห่งสวนสวรรค์

โอ้ ... อานุภาพแห่งความรัก จักรวาลสานผืนหล้า แผ่นฟ้า หาดทราย สายลม ห่มห้อมคืนวันของมวลสรรพสิ่งเอาไว้
ภายใต้ความอบอุ่นแห่งรัศมีตะวันและนวลทองเย็นเบาแห่งจันทร์พราว
หากหัวใจ "ผู้รับ" ความรักยังคงโหยหา และเรียกร้องเกินไปนัก
ความรักจักต้องโบกมือจากลาไปไกลแสนไกล

ความรักมักอยู่ภายใต้ความดีงามแห่งการเป็นผู้ให้สรรพชีวิต
นอกเหนือดวงจิตดวงใจใดๆ ทั้งหมดทั้งสิ้น
แผ่นดินโอบร่างหลังปลิดดวงจิตออกจากกาย
แผ่นฟ้าคุ้มครองลมหายใจในห้วงแห่งชีวิต
หากคิดเพียงแต่จะรับ มุ่งหมายทะยานอยากปรารถนา
ฟ้าฤๅดินย่อมสิ้นเมตตาแก่ดวงจิตอันกระหายอยากอันไร้ขีดจำกัด

และแล้ว ... ถ้าในสักวัน 
ความรักหนักแน่นของแผ่นดิน อ่อนโยนเพียงพิณบรรเลงเพลงฟากฟ้า 
ขับร้องทำนองประสานแห่งกระพริบระยิบดาวเดือน ปกป้องแกร่งเข้มเต็มดวงตะวัน พลันโบกมือลาลับกลับคืนสู่สุดปลายฟ้า
หัวใจเจ้าเอย ... ใครเลยจะไม่พรึงพรั่นสั่นสะท้าน สะท้อนห้วงอกสะทกหวั่นไหว

บนคืนวันที่แสนอบอ้าว เหงา เคล้าซึมเซื่อง เงื่องหงอย โศกระทมตรมเศร้า
ความรักหายหน้าไปพร้อมกับสายลมแผ่วเบา เย็นชาคล้ายไร้หัวใจรู้คิดรู้สึกรู้ชมรู้ชื่น
หัวใจของใครเลยจะไม่ปวดร้าวยิ่งยวดไปกว่าเดิม

เมื่อดอกไม้ผลิกลีบบาน แต่ไร้ความรักชื่นชมยินดี 
สาดถักทอแสงสีแห่งกลีบดอกไม้จะมีค่าเทียบเท่าอันใด
นอกเสียจากความสิ้นไร้อารมณ์ เยือกเย็นเร้นลึกให้รู้สึกพรั่นพรึง 

ในยามอุษาสางสว่างฟ้า ความรักโบกมือลาไม่มาทักทาย
แสงแรกแห่งตะวันฉายจะมีความคุ้นค่าใดเหลืออยู่บ้าง 
นอกเสียจากความแตกต่างระหว่างวัน กับมวลสรรพสิ่งชีวิตรู้คิดแปลกแยกแผกผิดจากกันโดยสิ้นเชิง
สัมพันธภาพทาบโยงแห่งโค้งฟ้าย่อมไร้ความหมายใด  เนื่องไร้อานุภาพแห่งรักคอยเชื่อมผูกพัน
การณ์เป็นเช่นนี้แล้ว .... ห้วงดวงใจใครเลยจะไม่รู้สึกแห้งโรยระโหยหา

รักษาความรักไว้ให้แน่นแฟ้นกับผืนโลกอันสุกสกาวด้วยดาวพราวพริบเพริศ แสงเลิศเลอแห่งจันทร์นวล ผืนหล้าและแผ่นฟ้าทั้งมวลจะผนวกความดีงามกลางท่ามห้วงใจของใครๆ
รักษาความรักไว้ให้แนบแน่นกับผืนฟ้ายามอรุณสาง เพื่อสร่างบรรเทาความเหงาให้จางกระจาย และคล้ายปลูกต้นกล้าแห่งความฝันให้พลันงอกงาม
รักษาความรักไว้ให้แน่นหนากับผืนหล้า ดินอุ่นละมุน ละเมียดละไมอันเป็นสายธารหล่อเลี้ยงสวนแห่งสวรรค์งามล้ำเกินคำบรรยาย ด้วยมีความรักเป็นผู้จุดประกายชีวิตสถิตมั่นอยู่กับสรวงดอกไม้ให้ไหวเคลื่อนเลื่อนไหลไปตามทำนองของชีวิต
เพื่อความสราญสุข ปลุกแรงบันดาลใจ ไขคำถามไถ่ทวงความเป็นจริงในห้วงแห่งความคำนึงอันซึ้งซาบ
เพื่อความเปรมปรีดาและรอยยิ้มอันชื่นมื่นของใครต่อใคร
อย่าให้ความรักโบยบินหายไปไหน ... ขอให้ความรักอยู่กับโลกและใครๆ ชั่วนิจนิรันดร์
เพื่อความสราญและรอยยิ้มอันชื่นมื่นของใครต่อใคร

วอนขอให้ช่วยกันรักษาความรักเอาไว้ .... ชั่วนิจนิรันดร์				
4 กันยายน 2548 01:30 น.

เส้นขอบฟ้ากับชายผู้ตามหาความฝัน

แดดเช้า

ชายคนหนึ่ง กับแมวตัวหนึ่ง
หอบสัมภาระเดินทางไปบนเส้นทางที่เขาวาดไว้เอง
และสัมภาระนั้นหนักขึ้นๆๆๆ ตามกระแสแห่งกาลเวลา
เขาแบกอดีต ปัจจุบัน อนาคตเอาไว้
เขาเก็บความผิดพลาด
เขาร้อยเรียงความดีงามไว้สวมเป็นเครื่องประดับคอ
จนคอที่เคยตั้งตรงต้องก้มลง แล้วมองรอยเท้าตัวเอง
คอยมองความผิดพลาดที่ปลายเท้า
มองหาความดีงามตามพื้นดิน
กับโลกใบแคบๆ และหลังที่งุ้มงอตามแรงของสัมภาระที่พกพานำไป

    แมวน้อย .... มองหน้านายของตัวเอง
ด้วยแววตาสนเท่ห์ยิ่งนัก มันเดินตามเขา
แต่หน้าของมันเชิดด้วยความหยิ่งทะนง
อย่างน้อย ... มันก็ยังเป็นแมวที่ไม่พกพาเรื่องราวใดๆ
ที่จะทำให้หัวใจที่พองในศักดิ์ศรีของตัวเองต้องยุบลง
แล้วเหี่ยวเฉาร่วงหล่นสู่พื้นดิน
มันเดินไปอย่างเคารพในความเป็นแมว
และไม่จำเป็นต้องขีดเส้นทางใดๆ ให้กับตัวเองเลย.				
3 กันยายน 2548 21:28 น.

นางปะแดะและนางแก้วหน้าม้า

แดดเช้า

คุณอ่านชื่อเรื่องแล้วคงจะเกิดจินตนาการกันไปต่างๆ นานา

อยากจะบอกคุณว่า มันไม่เลวร้ายอย่างที่คิดหรอกนะ นางแก้วหน้าม้า ก็ไม่ใช่นางอัปลักษณ์ที่หลงรักหนุ่มเจ้าชายผู้สูงส่ง หรือนางปะแดะก็ใช่จะเป็นนางผู้มีลักษณะอันไม่น่ายลปานที่คุณเคยได้รับรู้กันมา

อยากจะพูดถึงลักษณะเฉพาะตัวของ นางแก้ว คนนี้สักนิด ที่เรียกว่า นางแก้วหน้าม้า มีเหตุเนื่องมาจากตัวเธอเองที่นิยมแต่งผมหน้าม้า ทั้งที่หน้าก็บานแฉ่ง แถมตาตี่เป็นอาหมวยอีกต่างหาก ด้วยเธอเข้าใจตัวเธอเองว่าเธอเป็นลาว เพราะจมูกก็ไม่มีดั้ง ใช่ว่าเธอจะมีปากยื่นราวกับม้าดั่งนางแก้วที่คุณจินตนาการกัน

แก้วหน้าม้ากับนางปะแดะต่างก็เป็นเพื่อนของผม และต่างก็ไม่เคยรู้จักกัน ปะแดะมีลักษณะเอวบางร่างชะลูดเหมือนนางปะแดะไม่มีผิดเลย และเธอก็นิยมการทำทีท่ากะแดะให้สมกับสมัญญาอีกด้วย

วันหนึ่ง โลกใบนี้ช่างกลมและมีเรื่องราวที่ไม่คาดฝันเสมอ วันนั้นไม่รู้ว่าใครเขียนบทละครกำหนดเหตุบังเอิญให้นางแก้วหน้าม้ากับนางปะแดะมาพบเจอกัน เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ...


สายวันว่างจากการเรียน ผมมักจะเดินไปนั่งคนเดียวตรงมุมตึก หลีกเร้นหนีหายจากผู้คนเพื่อนที่จะได้แอบมองท้องฟ้าได้อย่างเต็มฟ้า (ด้วยไม่มีใครมาจับผิดคิดว่าเป็นบ้าไปแล้ว) แปลกไหม? ที่ผมมักจะคิดว่าท้องฟ้ามีเจ้าของเรื่อยเลย เพราะว่าพื้นดินทุกวันนี้มีเจ้าของจับจองกันไปแล้ว สักวันท้องฟ้าก็คงเหมือนพื้นดินอย่างแน่นอน

หากท้องฟ้าเป็นนางงาม คงเป็นนางที่เข้าใจยากน่าดูเลยนะ เข้าใจยากยิ่งกว่านางปะแดะและนางแก้วหน้าม้าของผมซะอีก

ลืมบอกไปว่าเหมือนกันมีใครต่อใครมองว่า ผมสับรางกับสองสาวผู้มีลักษณะเป็นนางในวรรณคดีไทยในหัวใจของผม บ้างก็ว่าผมใจร้ายหลอกผู้หญิง ว่ากันไปโน่น

หากจะยืนยันเพียงว่าเราเป็นเพียงเพื่อนกัน ก็มักไม่มีใครเชื่อ เพราะใครๆ ต่างก็รู้กันไปทั้งบางว่า สองนางนั่นหลงรักผมจนจะเป็นจะตายกันไปข้าง หากเธอทั้งสองรู้จักกัน คงต้องตายกันไปข้างจริงๆ อย่างที่ใครๆ ต่อใครว่ากันไว้

และวันนี้ก็เป็นวันแห่งสงครามและความรัก อาหมวยแก้วหน้าม้าเดินมานั่งเคียงข้างกับผม ส่วนนางงิ้วกะแดะปะแดะศรีก็รีบรี่เข้ามาทำทีเป็นเจ้าข้าวเจ้าของด้วยอีกคน

ยุ่งละซี ... แต่แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นปรปักษ์กับความคาดคิดของผม (ว้า ... ไม่สนุกเลย คิดว่าจะมีศึกชิงพระเอกหนังกำลังภายในซะแล้ว) เธอทั้งสองคนกลับรู้จักกันและต่างก็แนะนำผมให้กันและกันรู้จักอย่างพร้อมเพรียง แล้วการณ์กลับเป็นว่า เป็นการสามัคคีชุมนุมที่ผมชื่นชมยินดีออกนอกหน้าแต่แอบเสียดายอยู่ลึกๆ

แก้วเองเหรอ? นี่อิเหนา แฟนฉันเองย่ะ
อ้าว ... เหรอ? ฉันว่าเขาชื่อขุนแผนแสนสนิท แฟนฉันต่างหากเล่า
แต่ฉันว่าเขาเหมือนอิเหนานะ ดูเขาชั่วๆ เลวๆ ยังไงก็ไม่รู้
ไม่นะ ... ปะแดะ ฉันว่าเขาน่ะขุนแผนมากกว่า ร้ายกาจจะตายไป เจ้าเล่ห์สารพัดอย่างเชียวล่ะ เธอไม่เคยรู้หรอกนะ ลีลาของเขาน่ะ  อื๋ยย ... ฉันไม่อยากจะว่าเลย เธอยังไม่เคยนะสิ
ทำไมจะไม่เคย ปะแดะเถียงทันควัน รู้สึกเธอจะไม่ยอมน้อยหน้าเลย
ฉันว่าเขาเหมือนอิเหนามากกว่า ไม่เชื่อไปห้องสมุดกันเลย แล้วจะได้เอาข้อมูลมาเปรียบเทียบกันให้เห็นๆ  อิเหนา หรือ ขุนแผน
พอๆๆๆ แล้ว ผมชักทนฟังต่อไม่ไหว นี่คุณสองคนจะมาเถียงกัน ทะเลาะกันเรื่องอะไรกันนักกันหนา ผมอยากจะอยู่อย่างเงียบๆ นะ
ผมชักฉุน ไม่ได้ฉุนที่เธอสองคนมาเจ๊าะแจ๊ะจอแจตรงหน้ารบกวนความสงบของผมหรอก แต่ผมไม่ค่อยพอใจที่พวกเธอมาเพียงกันในเรื่องความชั่วทรามของผมที่เธอต่างแอบรู้มา โดยเฉพาะเรื่องลับๆ ที่ผมไม่อยากจะเปิดเผยให้ใครรู้
แหม ... คุณก็ อิเหนาของปะแดะ
ขุนแผนของแก้ว ข้างกายของผมมีสตรีสองนางเคล้าเคลียนัวเนีย ผมแสร้งทำทีท่าเป็นรำคาญเสียเต็มประดา แท้จริงแล้วแอบปลื้มและแอบภูมิใจตัวเอง
คุณจะไปไหนกันก็รีบไปซะเลย ผมอยากอยู่ของผมเงียบๆ เข้าใจไหม?
แหม ... ทำเป็นไล่ไปได้ ปะแดะยังไม่ไปไหนหรอก จะนั่งกะแดะอยู่ใกล้ๆ คุณนะ ทูนหัวของปะแดะ
แก้วก็เช่นกันนะคะ ในโลกไม่มีใครดีเท่าคุณอีกแล้ว


บอกแล้วว่าโลกมันกลม หรือมหาวิทยาลัยมันแคบก็ไม่อาจจะทราบได้ คณะอักษรศาสตร์มีนักศึกษาร่วมพันคน ไม่ค่อยมีใครรู้จักกันอย่างทั่วถึงนัก แต่เธอสองนางก็ยังมารู้จักกันจนได้ แล้วผมใจร้ายไหมเนี่ย ....


แก้วหน้าม้าก็เข้าสวมกอดผมอย่างแรง ทำให้ผมได้สัมผัสถึงความผิดปกติบางอย่างที่เธอไม่เคยมี แต่เธอกลับมีขึ้น ผมรู้สึกวูบวาบและรู้สึกแปลกใจ ปะแดะดูอวบอัดมากขึ้นจนผิดสังเกต พวกเธอไปทำอะไรมา ผมสนเท่ห์ในหัวใจ แต่ยังไม่เอ่ยปากถาม

แก้วเพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาค่ะ คุณขุนแผน เธอตอบความคิดผมเหมือนรู้ใจ
ตอนนี้ปะแดะต้องทานยาทุกวันเช่นกันค่ะ เพื่อคุณอิเหนาคนเดียว เพื่อความสุขของคุณคนเดียว รายนี้ก็รู้ใจผมอีกคน 

ที่รู้แน่ๆ ว่า ตอนนี้ผมคงไม่ได้เป็นขุนแผนแสนสนิทหรือเป็นอิเหนาของใครทั้งนั้นแหละ ผมคงเป็นพระลอไปแล้ว โดยมีทั้งพระเพื่อนพระแพงอยู่เคียงข้างไม่ห่างอย่างนี้ เพราะชีวิตมันเป็นเช่นนี้เอง ผมเริ่มทำใจยอมรับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ได้ ทั้งที่เป็นห่วงสตรีทั้งสองคน เธอไปเกี่ยวข้องกับหมอกับยาทำไม ผมไม่เข้าใจ

คุณทั้งสองเป็นอะไรไป ไหนบอกผมหน่อยสิครับ ผมต้องมีส่วนในการรับผิดชอบคุณบ้างไหม แต่ผมยังไม่เคยล่วงเกินอะไรคุณมากเกินไปกว่าที่พวกคุณล่วงเกินผมเลยนะ เอ๊ย ... ไม่ใช่ ผมไม่เคยทำอะไรคุณเกินเลยไปกว่าการคบหากันฉันเพื่อนนะครับ ช่วยบอกคนเลวๆ อย่างผมหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณทั้งสอง ทำไมถึงต้องไปเกี่ยวกับหยูกกับยา ทำไมถึงเกี่ยวข้องกับหมอ
ผมยังไม่หายตื่นตกใจ ตามประสาหนุ่มบริสุทธิ์

แหม ... คุณก็ สองนรีอุทานขึ้นพร้อมกัน
ปะแดะต้องกินยาคุมค่ะคุณอิเหนา
คุณไว้วางใจผมเถอะ ผมไม่ทำอะไรคุณ ทำไมคุณต้องป้องกันตัวขนาดนั้นด้วย
ยาคุมทำให้สวยค่ะ ทำให้เป็นผู้หญิงขึ้น ปะแดะอยากให้คุณเห็นว่าปะแดะเป็นสาวสวยขึ้น มีลักษณะของเบญจกัลยาณีที่ควรจะเป็น พูดพลางเอามือเสยผมแล้วเชิดหน้าขึ้น กระเพื่อมอกให้ชูเชิดขึ้นเหมือนจะโชว์ความเป็นผู้หญิงให้เห็น
ไม่เป็นไรนี่ครับ ... เราก็คบกันได้ ผมไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงคุณเลยนะครับ ผมแสร้งทำเป็นคนดีทั้งที่ชอบให้ปะแดะอวบอัดขึ้นเพราะยาคุม
แก้วไปผ่าตัดหน้าอกมา และไปเสริมจมูกมาด้วยค่ะ 
ผมไม่เข้าใจพวกคุณเลย คุณไปทำอะไรกันเนี่ย  เสียเวลานะ
ไม่หรอกค่ะ ... เราทำแล้วมีความสุข แก้วหน้าม้าว่า
คุณยังไม่รู้จักตัวจริงของผม  ถ้าคุณรู้แล้ว ผมว่าคุณคงต้องตีจากและไม่เสียเวลามาทำอะไรเช่นนี้
นั่นน่ะสิคะ ... วันนี้แก้วอยากจะบอกอะไรคุณสักหน่อย คุณจะรับได้ไหมคะ
ปะแดะก็มีเรื่องจะบอกคุณเช่นกันค่ะ


ค่ะ คืองี้ แก้วนอนคิดตัดสินใจมานานแล้ว แก้วควรจะเปิดเผยตัวตนให้คุณรู้จักสักที เพื่อความสบายใจของตัวแก้วเอง แก้วเป็น ... เอ่อ เป็น กะเทย ค่ะ
ปะแดะก็เหมือนกันค่ะ .... อิเหนา ปะแดะกะแดะอยากเป็นผู้หญิงน่ะ ตอนนี้กินยาคุมเพราะว่าทำให้หน้าอกมันใหญ่ขึ้น จะได้อวบอั๋น และปะแดะก็จะได้เป็นผู้หญิงเต็มตัวสักที
แก้วไม่ได้ผ่าเฉพาะหน้าอกเท่านั้นหรอกนะคะ แก้วผ่าทุกส่วนเพื่อแสดงความเป็นผู้หญิงด้วยค่ะ ขุนแผนทูนหัวของแก้ว
แล้วผมก็ตัดสินใจบอกความจริงบางอย่างที่บรรจงปกปิดสังคมให้เธอทั้งสองฟังด้วยเช่นกัน ดังนี้

 "ไม่เห็นจะเป็นไรไปเลยจ้ะ คุณทั้งสองไม่ต้องห่วงเลยนะจ๊ะ เราเองก็ไม่ได้แตกต่างจากพวกเธอสักเท่าไหร่นักหรอก เราแอบไว้ตั้งนานแล้ว คิดว่าไม่มีคนเข้าใจ เราก็เป็นพวกเดียวกันกับพวกเธอนั่นแหละนะจ๊ะ ถึงชอบคบหากับเธอทั้งสองคนไงล่ะ ไปกันเถอะ ... เราไปเดินตามถนนหนทางแล้วมองหนุ่มๆ หล่อๆ กัน ฉันจะได้ไม่ต้องมาหลบนั่งปลีกตัวอยู่คนเดียวอีกแล้ว ดีใจจังเลย


ตั้งแต่นั้นเป็นมา เราทั้งสามก็กลายเป็นดาวคณะที่แสนจะเพริศพริ้งพร่างพราวกลางเวหาแห่งคณะอักษรศาสตร์และแห่งมหาวิทยาลัยนี้โดยที่ไม่สตรีนางไหนกล้ามาเทียบรัศมี.				
Calendar
Lovers  2 คน เลิฟแดดเช้า
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแดดเช้า
Lovings  แดดเช้า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแดดเช้า
Lovings  แดดเช้า เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแดดเช้า