30 มิถุนายน 2548 22:33 น.
				
												
				
								ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
		
					
				
1.   ผมพอจะพูดได้ว่าผมชมชอบการอ่านข้อเขียนในเว็บบอร์ดต่างๆ
      พอๆกับการอ่านหนังสือเล่ม
      เพราะสะดวก กับมีอะไรใหม่ๆทุกวัน
      
      ผมอ่านจนติด
      ติดแนวการเขียน
      และติดตามเสมอว่าวันนี้เขาจะเขียนอะไรให้อ่าน
      ก็คุ้นชินเสียจนบางวัน  หรือหลายวันที่เขาไม่เขียนผมรู้สึกโหวงเหวง
      เหมือนขาดอะไรบางอย่าง
2.    ผมพอจะพูดได้ด้วยว่าผมชมชอบการเขียนในเว็บบอร์ดต่างๆ
       พอๆกับการเขียนด้วยเป้าหมายที่จะทำหนังสือเล่ม
       เพราะมันสะดวก  ที่จะลงเรื่องใหม่ ๆ ได้ทุกวัน
        ผมเขียนจนติด
        ได้แสดงความเห็นต่องานที่อ่านสักบรรทัดก็ยังดี คือได้ความรู้สึกดี
        
3.     แต่ถึงวันหนึ่ง  ผมกลับเขียนไม่ออก
        รู้สึกโหวงเหวง เหมือนชีวิตขาดอะไรซักอย่าง
        
         
         เมื่อบีบ..ให้ตัวเองเขียน 
          น่าขัน..ที่พอมันไปได้ 3 บรรทัดเท่านั้นผมก็ทนความรู้สึกอันชืดจืด  
          ของตัวเองไม่ได้
4.      คงโชคดีอยู่บ้างที่ผมเขียนรูปได้
         ผมร้องเพลงเป็น
         เล่นดนตรีบางชิ้นได้
         กับมีหนังสือที่ชอบหลายเล่มอยู่บนชั้นหนังสือ
         ไม่งั้นมันคงเคว้งคว้างพิลึก....
5.       กับคนที่หายไป
           ผมคิดว่าเข้าใจ..
           
6.        แต่กับบางช่วง  คนเราก็จำเป็นต้องห่างไกลออกไป
           เพื่อจะไม่ต้องอยู่ในสายตาใคร
           แม้จะมีเยื่อใย   มากมายเพียงใด				
			 
			
				26 มิถุนายน 2548 14:57 น.
				
												
				
								ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
		
					
				
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
@  โดยถนัดจัดฉากกระชากช่วง          จริงเป็นลวงล้นเลศครองเขตเขลา
      มือพระกาฬเก่งมารยามานานเนา    รวมกลุ่มเข้าซ่อนกรรมอันอำพราง
@  วางชั้นเชิงฉานปานองค์อินทร์         แต่แอบกินโดยฉลฉ้อมีข้ออ้าง
      ซ้อนหมากบังตาเหลี่ยมหนาบาง      มากพลพรรคเลยกร่างกลางสกล
@  ครั้นหมากผลข้องขัดก็งัดง้าง          เปลี่ยนขั้วเปลี่ยนข้างพรางกรรมฉล
      ยกละครน้ำใสชวนไปยล                 น้ำเน่าท้นท่วมถ้วนทำเนียบฯไทย
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------