กลอนกำลังใจ

ต่อให้

คาปูชิโน่


     ต่อให้ความโศกเศร้าผ่านเข้ามาจะหนักหนาเพียงไรยังสู้ไหว
ต่อให้ความเงียบเหงามากเท่าไหร่
อยู่คนเดียวทนไปไม่อ่อนแอ
    ต่อให้ความท้อแท้มาเคียงข้าง
คงไม่คิดถอยห่างที่จะแพ้
ต่อให้ความเจ็บช้ำนั้นรังแก
ก็ไม่แคร์ขนาดต้องทุกข์ตรม
   ต่อให้ความรักแท้แตกสลาย
หากคงไม่ถึงตายนอนซานซม
ต่อให้ดวงใจพบความขื่นขม
ป่าวทุกข์ระทมให้เสียเวลา
   ต่อให้ชีวิตจะหมดสิ้นหวัง
ไม่มีทางเสียพลังสร้างสิ่งมีค่า
กับเรื่องราวเล็กใหญ่โหมเข้ามา
ต้องแกร่งกล้าเพื่อวันหน้าจักก้าวไป
   

เธอต้องกล้า

คาปูชิโน่


    ขออย่าเพิ่งเลิกสิ้นหวังหมดพลังการไขว่คว้า
แค่เริ่มต้นก็ถอยลา
เสียดายค่าแรงตั้งใจ
เธอต้องกล้าฝ่าขวากหนาม
แม้ลุกลามต้านทนไหว
ลองลิ้ิมรสว่าเพียงไร
เรียนรู้ไว้ให้แกร่งพอ
และเมื่อเธอสู้อีกหน
จักฝ่าชนอย่างไม่ท้อ
หนักหรือเบายังก้าวต่อ
ถึงสิ่งรอดงต้องการ
ถ้าเธอหนีมัวแต่เศร้า
ปล่อยใจเราถูกเผาผลาญ
ความหวังก็ยากพบพาน
คงอีกนานกว่าเป็นจริง

เริมต้นใหม่ ด้วยใจเดิม

มวลภมร


กลับมายืน ที่เดิม เคยเริ่มต้น
แม้ไร้คน เคียงกาย คล้ายเคยหวัง
ชีวิตคง ต้องอยู่ สู้ลำพัง
สร้างกำลัง กายช่วย ด้วยใจเรา
กลับมายัง ทางเดิม เริ่มเดินซ้ำ
เคยหลงคำ หลงทาง อย่างคนเขลา
ประสบการณ์ สะสม บ่มใจเรา
กลับทางเก่า เดินใหม่ อย่าได้รอ
อุปสรรค ทางเก่า เราเคยเห็น
แม้ยากเย็น แค่ใหน ต้องไม่ท้อ
แม้หนทาง ขวากหนาม มีมารอ
ก็ต้องผ่าน ไปต่อ อย่างมั่นใจ
หนักหน่อยหนา รู้ว่า ยังต้องหนัก
ต้องตั้งหลัก ใจกัน อย่าหวั่นไหว
ไม่ย่อท้อ รอหา กำลังใจ
ไม่หวังมอง หาใคร มาประคอง
กลับมาตาม ทางเดิม ที่เคยคุ้น
ประสบการณ์ เป็นทุน ไม่มัวหมอง
สู้ด้วยใจ เต็มใจ หวังได้ครอง
ตั้งใจมอง จุดหมาย แล้วป่ายปีน
o...มวลภมร..o

เติมไฟให้กับฉัน

คาปูชิโน่


คิดถึงสายหมอกในยามเช้า     พัดปกคลุมขุนเขาทั่วไพรสณฑ์
ประหวัดถึงเธออีกหนึ่งคน
ที่ผ่านพ้นจากลามาหลายปี
อยู่ในเมืองที่มีผู้คนมากมาย
แข่งขันกันขวนขวายตามวิถี
รู้สึกเหน็ดเหนื่อยบ้างในบางที
แต่ยังดีเพราะมีกำลังใจ
สักวันหนึ่งฉันจะไปเยี่ยมบ้าน
หลังผ่านการเดินทางมาแสนไกล
ถึงเวลาพักผ่อนกายและใจ
ต่อเติมไฟเมื่อครายามอ่อนล้า 

สถานะยังหวัง

มวลภมร


ชีวิตเรา ยังอยู่ สู้ด้วยหวัง
เป็นพลัง ในใจ ไม่ย่อท้อ
ยามเช้าตื่น ขึ้นมา ตั้งตารอ
เลขใดหนอ งวดนี้ อาจมีรวย
สายขึ้นมา มองหน้า มิตรสหาย
ช่วยกันคลาย ปมฝัน ผันเลขสวย
ยามบ่ายนั่ง ตั้งหน้า ไม่งงงวย
หวังได้หวย ช่วยคลาย ให้หายจน
รออีกนิด เถิดหนา อดทนหน่อย
แล้วจะปล่อย เฮฮา โกลาหน
หากถูกเลข งวดนี้ ทั้งล่างบน
ได้เลิกจน เสียที ครานี้เอย
พอหวยออก ไม่เป็น  อย่างที่คาด
เลขประหลาด ออกมาได้ ยังงัยเหวย
เล่นเลขนั้น ดันออกใกล้ คล้ายกันเลย
ต้องนั่งเกย กอดเข่า เอ้าอดทน
ไม่เป็นไร ชีวิต ไม่สิ้นหวัง
เติมพลัง สร้างหวัง ได้อีกหน
งวดนี้เรา พลาดไป ไม่กังวล
ก็เราคน อยู่ด้วยหวัง สิบห้าวัน
o...มวลภมร...o

ห่วงคนไกล

ปราทร


ห่วงคนไกล
เสียงฟ้าร้องก้องฟ้าเวลานี้
ห่วงคนดีคนไกลทำไรหนอ
ราตรีมืดคงเหงานั่งเฝ้ารอ
ระทดท้อจ้องฟ้าน้ำตาริน
ฝนเริ่มพรำร่ำไห้ใจสะท้าน
หนาวเหน็บนานกาลล่วงห่วงถวิล
เหงาแสนเหงาบอกเล่าให้ได้ยิน
มีปีกบินจะถลาฝ่าฝนลม
มาอยู่ใกล้กอดใจให้อบอุ่น
ลิ้มละมุนเนื้อนุ่มร่วมอุ้มสม
ปลดความเศร้าผ่อนคลายหายตรอมตรม
ทุกข์ระทมร้ายร้ายให้กลายดี
ฝนสร่างฟ้านภาแจ่มกระจ่างฟ้า
โปรดรู้ว่าพี่ชายไม่หน่ายหนี
ห่วงแสนห่วงห่วงมากนะคนดี
จะต้องมีฤดีพร้อมหลอมรวมเรา
ทร...

แค่สายลมพัดผ่าน

พิมญดา


แค่สายลมพัดผ่าน
แค่สายลมพัดผ่าน.ใจสั่นไหว
แค่ใบไม้ร่วงหล่น ..แล้วลับหาย
แค่ชีวิต หนึ่งนี้ที่เดียวดาย
เพราะใจ-กาย ของเราอย่าเศร้าเกิน
พรหมลิขิต ให้เรา มาใช้กรรม
บุญพานำ ให้เรา อย่าห่างเหิน
หนทางธรรม นำเราให้ก้าวเดิน
ต่อเผชิญ กรรมหนัก ก็ลับลา
ท่องเอาไว้ให้จิตมิสิ้นสร่าง
แค่สายลมพัดผ่าน อย่าเหนื่อยล้า
แม้นวันนี้ มันหนัก เกินอุรา
พรุ่งนี้แสงเจิดจ้า ..มาอีกวัน

บางใครในความทรงจำ

สายธารน้ำใจ


บางใครในความรู้สึกส่วนลึกของความอ่อนไหว
แรกพบประจักษ์แก่หัวใจ
อยากบอกไว้ด้วยร้อยกรอง
เค้าคนคนนั้นช่างน่ารัก
ลึกซึ้งนักคอยค่อยแอบมอง
ครั้งแรกที่ไม่รู้ว่าใครจอง
คอยหมายปองจ้องอย่างเดียว
ด้วยไม่รู้เรื่องความรัก
ความอกหักใครคอยเกี้ยว
ความอกหักรักเขาได้ข้างเดียว
คอยประเดี๋ยวความรัก..พักเรื่องราว
พักไว้ พอก่อน เนาะเรื่องรัก
เพราะเรียนหนัก แบกไว้ เป็นเรื่องยาว
ร้อยคำกล่าว บทกลอน อ้อนอื้อฉาว
เรียงเคียงดาว บนดิน ถิ่นโพเอ็ม...

ที่พักใจ

คนกรุงศรี


แม้เหนื่อยนัก พักลง ที่ตรงนี้
ฟังวลี ลำนำ ที่ฉ่ำหวาน
มธุรส บทอ้อน ของกลอนกานท์
ปลอบดวงมาน ให้คลาย หายกังวล
บทกวี ที่กราย ร่ายอักษร
ของนักกลอน  หลากแหล่ง ทุกแห่งหน
ร่วมเรียงร้อย ภาษา มาให้ยล
ดุจดั่งมนต์ เทียมเทียบ เปรียบดนตรี
มาร่วมงาน สานฝัน วรรณศิลป์
ให้โลกยิน ลือไกล ไปทุกที่
ท่องโลกฝัน บรรเลง เพลงกวี
ปล่อยฤดี ตามมนต์ ของกลกลอน

ออกทางเข้า

มวลภมร


หากเจอะเจอ ปัญหา ฝ่าไม่ไหว
ในหัวใจ วกวน สุดทนฝืน
มีแต่ทุกข์ โศรกช้ำ ทั้งกล้ำกลืน
แม้แรงยืน ให้ได้ แทบไม่มี
ช่างมืดมน หนทาง มองไม่เห็น
ช่างยากเย็น ชีวิต เป็นอย่างนี้
เดินต่อไป ไม่รู้ ทางใหนดี
ยังไม่มี แสงใด ให้ส่องทาง
เดินต่อไป ไม่เท่าไร ก็คงล้ม
คงระบม เจ็บกาย ไปทุกอย่าง
คงต้องหัน หลังกลับ ทับเส้นทาง
ลองดูบ้าง ออกทางเข้า ที่เราเคย
ชีวิตนี้ ไม่มี คำว่าสาย
ยังไม่ตาย หายใจได้ อย่านิ่งเฉย
ถือทิฐิ ไม่งอนัก มักหักเลย
ถอยหน่อยเอย เชื่อเถอะหนา ไม่น่าอาย
เริ่มนับหนึ่ง อีกครั้ง ต้องยังสู้
ประสบการณ์ รู้อยู่ ยังไม่สาย
กลับทางเก่า เริ่มเดินใหม่ อย่างสบาย
ตั้งเป้าหมาย ทางชีวิต ไม่ผิดทาง
o มวลภมร o 

เพียงสัญญา อย่าจองจำ

มวลภมร


แม้ว่าเคย สัญญา ว่าเอาไว้
จะร่วมใจ ผูกกัน ไม่ผันเปลี่ยน
ขอรักกัน แม้กาล ผ่านวนเวียน
จะเฝ้าเพียร เรียนรัก ไม่จากไกล
เรื่องความรัก ยากนัก สมบูรณ์แบบ
ความในแอบ ซุกซ่อน จนอ่อนไหว
แรกรักกัน หวานนัก รักสุดใจ
ทุ่มเทใจ ให้กัน ด้วยสัญญา
เวลาผ่าน ผันไป ใจเริ่มเปลี่ยน
กาลวนเวียน ผ่านไป ไวนักหนา
จากเคยรัก รักกัน มั่นสัญญา
เริ่มลีลา พาที มีเลสนัย
หากมีใคร ฝ่ายใด หมดใจรัก
ที่เคยภักดิ์ กลับผัน ให้หวั่นไหว
ถือเป็นการ จบสัญญา อย่าอาลัย
อย่าผูกใจ ติดไว้ กับสัญญา
ลืมสัญญา อย่าเก็บ เอามาคิด
คืนชีวิต คืนใจ ของเราหนา
ลืมเสียที อย่าจำ เรื่องผ่านมา
ก็เพียงแค่ สัญญา อย่าจองจำ
o มวลภมร o

บทชีวิตคิดลำพัง ภาคผนวก

มวลภมร


หานิยาม ความหมาย ไว้ประกอบ
ถูกระบอบ แบบใจ ไว้เสนอ
อธิบาย ความรัก ให้ฉันเธอ
เผื่อคราวเผลอ พลั้งไป ไม่หลงทาง
 
ลำพังคือ คนเดียว ไม่เกี่ยวข้อง
แต่ก็ต้อง มีเหงา เป็นคราวบ้าง
เดินแบบไร้ จุดหมาย ไร้เส้นทาง
มีอ้างว้าง เหงาบ้าง ก็บางคราว
 
“เปิดหัวใจ” รับไว้ หัวใจพี่
เคียงคนดี ข้างใจ ช่วยคลายหนาว
จะเปลี่ยนรัก มุมลบ จบเรื่องยาว
เพื่อนับก้าว ร่วมกัน สร้างฝันไกล
 
จบบทเรียน รักร้าย แล้วคลายช้ำ
จบบทความ ทรงจำ ที่หวั่นไหว
เสริมด้วยรัก อีกบท ทศหัวใจ
เริ่มบทใหม่ ด้วยใจ “ไม่ลำพัง”
o มวลภมร o

บทชีวิตคิดลำพัง บทที่ 5 อยู่เป็นกำลังใจให้หายลำพัง

มวลภมร


เปิดหัวใจ ให้ใจ ได้รับรู้
 
ได้ตรองดู ความหวาน ผ่านมาใหม่
 
ต่างเสนอ ให้เธอ ได้จองใจ
 
หวังเพียงได้ เคียงกาย ยามราตรี
 
 
ยังมีใคร คนหนึ่ง ซึ่งอยากใกล้
 
อยากให้เธอ รับใจ ของพี่นี้
 
เพียงเสนอ ส่งไป ด้วยไมตรี
 
ขอคนดี โปรดตรอง อยากครองใจ
 
 
มีแค่เพียง หัวใจ เพียงเท่านี้
 
ไม่รู้ว่า คนดี รับได้ไหม
 
แม้ไม่มี มากมาย แต่จริงใจ
 
คงไม่อาจ เทียบใคร ที่ใกล้เธอ
 
 
คุณสมบัติ ของพี่ ที่ขอเอ่ย
 
บอกกับเธอ ไว้เลย พร้อมเสนอ
 
ใจล้วนล้วน เปี่ยมรัก ฝากให้เธอ
 
จะไม่เผลอ เปลี่ยนทาง แม้ห่างไกล
 
 
 
หนทางไกล หาใช่ เป็นปัญหา
 
ยังสัญญา ส่งรัก ฝากใจให้
 
สร้างตำนาน รักมั่น ผ่านออนไลน์
 
ส่งสัญญาณ หัวใจ “ว่ารักเธอ”
o มวลภมร o

บทชีวิตคิดลำพัง บทที่ 3 ตามลำพัง

มวลภมร


พักสักหน่อย เถิดหนา ถ้าสับสน
ยังกังวล เกรงกลัว หัวใจหวาม
ตัวไม่อยู่ กับใจ ไม่ได้ความ
อย่าเพิ่งตาม ใจเหงา ที่เข้ามา
 
พักสักหน่อย พักใจ ที่ยังเจ็บ
ยอมหนาวเหน็บ เหงาบ้าง ยังดีกว่า
อย่ารีบร้อน เพราะเหงา รุมเร้ามา
ให้เวลา หัวใจ ได้ทบทวน
 
อยู่กับตัว เองก่อน หย่อนใจบ้าง
เติมพลัง หัวใจ ให้ครบถ้วน
สร้างภูมิต้าน ทานโศก วิโยคครวญ
ใจจักได้ ไม่รวน สะดวกใจ
 
หากยังเหงา เหงาบ้าง ก็ชั่งเหงา
อยู่กับเรา เข้าใจเรา ยังพอไหว
อยู่ในมุม ตัวเรา แม้ไร้ใคร
พักหัวใจ ให้หาย ไร้แผลเป็น
 
เวลายัง พอมี อย่ารี่ร้อน
เหมือนครั้งก่อน พลาดพลั้ง ดังเคยเห็น
เริ่มสะสม พลังใจ อย่างใจเย็น
รอเพื่อเห็น รักใหม่ ไม่จำลอง
.....มวลภมร....

บทชีวิตคิดลำพัง บทที่ 1 ต้องลำพัง

มวลภมร


ผ่านเรื่องราว มากมาย หลายปัญหา
ผ่านเวลา ผ่านมา ด้วยความหมาย
เคยมีคน เคียงคู่ อยู่ข้างกาย
สร้างนิยาย แห่งรัก จากดวงใจ
 
อุปสรรค ขวางหน้า ผ่านมาหมด
จะกี่บท ทดสอบ ผ่านมาได้
เพียงมีเธอ เคียงข้าง กำลังใจ
ไม่เคยหวั่น อ่อนไหว เพราะมีเธอ
 
จนมาถึง บททดสอบ เกือบสุดท้าย
เป็นบทร้าย แรงคิด จิตแสนอ
คนตั้งโจทย์ สุดท้าย กลายเป็นเธอ
ฉันต้องเจอ บทชีวิต คิดลำพัง
 
โจทย์สุดท้าย เธอนั่นไง ทำให้เจ็บ
เกินจะเก็บ ลบหมด บทความหวัง
เมื่อไร้เธอ ชีวิตเผลอ หมดกำลัง
แล้วฉันยัง ยืนได้ อย่างไรกัน
 
ที่ผ่านมา ชีวิต ไม่คิดท้อ
อนาคต ยังรอ ยังต่อฝัน
ต่อจากนี้ จะอยู่ได้ อย่างไรกัน
ปล่อยชีวิต ผ่านวันวัน แค่นั้นพอ
o มวลภมร o

หมายิ้ม

ครูกระดาษทราย


วันนี้มีนางหมา
เดินขึ้นมาบนชั้นสี่
ฉีกยิ้มจนหูรี่
ทำทายทักนักเรียนเรา
แล้วเด็กชายคนหนึ่ง
ยื่นมือซึ่งแกร่งของเขา ลูบหัวอย่างเบาเบา ส่วนนางหมาหน้าชื่นบาน มันคงจะดีใจ ที่จะได้ยินเสียงขาน ปิดภาคเรียนมานาน คงเงียบเหงาเต็มประดา ดูเถิดนางหมาเอ๋ย เจ้าไม่เคยได้ศึกษา อ่านเขียนเรียนวิชา ยังอุตส่าห์มาเมียงมอง หนูหนูครูเล่าแล้ว จงแน่แน่วเพียรทั้งผอง อนาคตหมายปอง จะสมหวังดังกมล ๑๗ เมษายน ๒๕๕๖

เสียงแคนเอิ้นสาว

ครูพิม


เสียงแคนเอิ้นสาว..
 
แว่วเสียงแคนข้ามโขงคดโค้งไหล
กล่อมหัวใจคนล้าอยากลาหนี
ป่าคอนกรีตร้อนร้ายมากภัยมี
อยากย้อนถอยรอยวิถีที่บ้านนา
 
แว่วเสียงเพลงแคนลำโขงติดโต่งแว่ว
สายลมแผ่วต้องใจอยากไปหา
เพลงพิณแคนเอิ้นบ่าวและสาวนา
ให้คืนมา...สู่อ้อมกอด...อันปลอดภัย
 
แว่วคำเอิ้นมาไกลสู้ไสหล้า
พ่อตั้งตาแลทางก่อนสางไข
แม่สีข้าวหอมรอหนอทรามวัย
แกงหน่อไม้..เตรียมท่า...เจ้าอย่าลืม
 
ยอดผักหวานป่งใหม่เตรียมให้แล้ว
ไข่มดแดงของแก้วที่เคยปลื้ม
ผ้ามัดหมี่ทอไว้มีหลายฟืม
เขาหยิบยืม..แม่เก็บไว้..ให้คนดี
 
น้ำตารินหลั่งไหลรดใจสาว
รอสักคราวจะคืนนาหาวิถี
ญาติพี่น้องอบอุ่นคุ้นชีวี
เพลงแคนมีมนต์ขลังให้หวังงาม
แว่วเสียงแคนข้ามทุ่งมุ่งเมืองฟ้า
เรียกศรัทธาพลิกดินถิ่นสยาม
มาเสริมแรงคนแก่เฒ่าผู้เฝ้ายาม
ดอกห่วงตาม...ให้คืนท่ง...เล่นสงกรานต์
หน้า / 16  
ทั้งหมด 261 กลอน