พันดาวพันเดือนเลื่อนลาลับ พิลาศดับมอดแสงแรงอ่อนล้า ม้ามังกรดึงลากชากกระฉุดฟ้า พญาครุฑขี่เมฆาเกาะกินนรี เจ้ากิเลนเคราขาวยาวพาดบ่า ปากคาบปักษาเท้าเหยียบปักษี เลาะลัดตัดฟ้าย่างกายคำราม มันทั้งสามย่ำปฐพีตีไปทั่ว ไม่เกรงศักดิ์เกรงศรีมีใครกลัว สุดแสบชั่วมั่วหมดพลโลกา จะหาเพชรเม็ดงามมาปรามไว้ มาปราบใจเจ้าอหังการคร่า ซุกซ่อนกลเม็ดเด็ดย้อนรอย ส่งเจ้าพลอยรินมณีพลีร่างเชย กิเลนชิมรสพิษสวาทบ่เคย บ่วางบ่เว้นเลยจะปรนเปรอ ยิ่งลุ่มยิ่งหลงยิ่งรักใคร่ จวบตายใจใส่เสน่ห์พิฆาตธรรณ
เหม่อมองหญ้าเจ้าชู้ชูช่อไกว ลมแรงไป หรือไร เจ้าไหวหวิว จะเก็บเจ้า มากอดไว้ ไม่ให้ปลิว ก็กลัวกิ่ว หนามเกี่ยว เรียวหนามคม เจ้าแลเด่น สมค่า หญ้าเจ้าชู้ ใครจะชู ช่องาม ต้องตามก้ม ใครจะเด็ด มาเชย มาชื่นชม ระวังคม ทิ่มตำ กระหน่ำใจ จะปล่อยไว้ ก็กระไรเหมือนไร้ค่า ประดับดิน สิ้นราคา จะคว้าไขว่ ครั้นจะเก็บ มาเชย เลยกระไร เจ้าก็คมเกินไป หักใจไม่ลง ดอกหญ้า เหมือนกับฉัน ทุกวันนี้ คิดจะมีรักไว้ ใจจะหลง จะปล่อยกาล ผ่านไป ใจจะปลง หรือจะ ตกลงรัก หนักใจจัง ไม่เคยรู้ว่ารักนี้ ดีอย่างไร มีหนามคมหรือไม่ ใจยังหวัง หรือสวยหรูเลิศลอยพลอยภวังค์ ก็กำลัง หยั่งใจ ใช้ความคิด จะรัก จะเมิน จะเขินอาย จะใจหาย ใจจะขาด หรือพลาดผิด แค่หาเพื่อนคลายเหงา กับเขาสักนิด ก็กลัวคิด ไปเอง เกรงใจลอย
สิ้นวสัน ตฤดู สู่หน้าหนาว ทุ่งสกาว เหลืองงาม ทาบท้องทุ่ง รวงข้าวสุก ทองรอ น้องจากกรุง เจ้าจงมุ่งก ลับบ้านนา มาร่วมเคียว ย่างเดือนอ้าย ฟ้าสดใส เมฆลอยล่อง แดดเรืองรอง อาบทิวไผ่ ใบไม้เขียว นกเป็นหมู่ บินเรื่อย อย่างกลมเกลียว พี่ยังเหลียว มองทาง น้องนางมา พลิ้วลมโลม ลูบผิว แผ่วสะท้าน โอ้นงคราญ อยู่ที่ไหน ไม่มาหา แสงเดือนส่อง ผ่องนวล คล้ายขวัญตา คืนกลับมา อาบดาว ร่วมห่มเดือน เคียวคันเก่า กร่อนแล้ว แก้วตาเอ๋ย นานเท่าไหร่ เจ้าไม่เคย มาเป็นเพื่อน ลืมรวงข้าว น้ำคำ ช่างแชเชือน น้ำใจนาง ขุ่นข้น เหมือนน้ำคลอง
มองดินที่มีกลิ่นโคลนสาปควาย มองดูปลาว่ายเวียนในลำธาร มองต้นไม้ไหวเอนน่าเอนกาย มองดูดอกไม้ช่างสวยใสในยามเย็น มองนกบินร่อนลงจากฟ้า มองม้าท่าทางแกร่งกล้าใด้ชัดเจน มองหญ้ามีมดไต่วิ่งเล่น มองดูเด่นเห็นเป็นตะวันลับขอบฟ้าไป มองสิ่งใดเริ่มลางเลือน มองหาเพื่อนก็ไม่แวะเวียนมาใกล้ มองหาใครที่คิดว่าห่วงใย มองตรงที่ใจอยากมีใครซักคน