กลอนชมธรรมชาติ

กิเลส

kOrOkOsO


พันดาวพันเดือนเลื่อนลาลับ        พิลาศดับมอดแสงแรงอ่อนล้า
ม้ามังกรดึงลากชากกระฉุดฟ้า      พญาครุฑขี่เมฆาเกาะกินนรี
เจ้ากิเลนเคราขาวยาวพาดบ่า      ปากคาบปักษาเท้าเหยียบปักษี
เลาะลัดตัดฟ้าย่างกายคำราม        มันทั้งสามย่ำปฐพีตีไปทั่ว
ไม่เกรงศักดิ์เกรงศรีมีใครกลัว    สุดแสบชั่วมั่วหมดพลโลกา
จะหาเพชรเม็ดงามมาปรามไว้      มาปราบใจเจ้าอหังการคร่า
ซุกซ่อนกลเม็ดเด็ดย้อนรอย         ส่งเจ้าพลอยรินมณีพลีร่างเชย
กิเลนชิมรสพิษสวาทบ่เคย            บ่วางบ่เว้นเลยจะปรนเปรอ
ยิ่งลุ่มยิ่งหลงยิ่งรักใคร่                  จวบตายใจใส่เสน่ห์พิฆาตธรรณ

หญ้าเจ้าชู้

ม้าก้านกล้วย


เหม่อมองหญ้าเจ้าชู้ชูช่อไกว
ลมแรงไป หรือไร เจ้าไหวหวิว
จะเก็บเจ้า มากอดไว้ ไม่ให้ปลิว
ก็กลัวกิ่ว หนามเกี่ยว เรียวหนามคม
เจ้าแลเด่น สมค่า หญ้าเจ้าชู้
ใครจะชู ช่องาม ต้องตามก้ม
ใครจะเด็ด มาเชย มาชื่นชม
ระวังคม ทิ่มตำ กระหน่ำใจ
จะปล่อยไว้ ก็กระไรเหมือนไร้ค่า
ประดับดิน สิ้นราคา จะคว้าไขว่
ครั้นจะเก็บ มาเชย เลยกระไร
เจ้าก็คมเกินไป หักใจไม่ลง
ดอกหญ้า เหมือนกับฉัน ทุกวันนี้
คิดจะมีรักไว้ ใจจะหลง
จะปล่อยกาล ผ่านไป ใจจะปลง
หรือจะ ตกลงรัก หนักใจจัง
ไม่เคยรู้ว่ารักนี้ ดีอย่างไร
มีหนามคมหรือไม่ ใจยังหวัง
หรือสวยหรูเลิศลอยพลอยภวังค์
ก็กำลัง หยั่งใจ ใช้ความคิด
จะรัก จะเมิน จะเขินอาย
จะใจหาย ใจจะขาด หรือพลาดผิด
แค่หาเพื่อนคลายเหงา กับเขาสักนิด
ก็กลัวคิด ไปเอง เกรงใจลอย

สัญญาที่บ้านนา

เด็กเมืองยศ


สิ้นวสัน ตฤดู สู่หน้าหนาว
ทุ่งสกาว เหลืองงาม ทาบท้องทุ่ง
รวงข้าวสุก ทองรอ น้องจากกรุง
เจ้าจงมุ่งก ลับบ้านนา มาร่วมเคียว
ย่างเดือนอ้าย ฟ้าสดใส เมฆลอยล่อง
แดดเรืองรอง อาบทิวไผ่ ใบไม้เขียว
นกเป็นหมู่ บินเรื่อย อย่างกลมเกลียว
พี่ยังเหลียว มองทาง น้องนางมา
พลิ้วลมโลม ลูบผิว แผ่วสะท้าน
โอ้นงคราญ อยู่ที่ไหน ไม่มาหา
แสงเดือนส่อง ผ่องนวล คล้ายขวัญตา
คืนกลับมา อาบดาว ร่วมห่มเดือน
เคียวคันเก่า กร่อนแล้ว แก้วตาเอ๋ย
นานเท่าไหร่ เจ้าไม่เคย มาเป็นเพื่อน
ลืมรวงข้าว น้ำคำ ช่างแชเชือน
น้ำใจนาง ขุ่นข้น เหมือนน้ำคลอง

แค่เพื่อนเก่า...

จัน


อย่าฝืนความรู้สึกกันอีกเลย
ทำเฉย ๆ กันดีกว่าไหม
หนทางรัก 2 เราคงหมดหนทางไป
เธอคงมีหนทางใหม่ที่ดีกว่าเดิม
ขอให้โชคดีกับทางเลือกใหม่
อย่าได้ใส่ใจกับเรื่องราวเก่า ๆ
แม้ความรู้สึกบางส่วนคงเหลือภาพบางเบา
แต่ความเป็นเพื่อนคนเก่ายังเหมือนเดิม

ดอกไม้น้อยและเด็กตัวจ้อย

เสี้ยว


อ่อนแสนอ่อน อ้อนอาบลม พรมอุ่นแดด
รังสีแผด แดดอาบทุ่ง รุ่งพฤกษา
แลทิวข้าว พราวกระจ่าง กลางสายตา
เด็กน้อยมอง ว่าช่างใหญ่ เกินตาชาย
เลยลองเหลือบ ก้มลงมอง ตรองตรงขอบ
ก็นึกชอบ ดอกเล็กเล็ก นี่ไฉน
ไม่ต้องทอด มองยาว สาวตาไกล
เจ้าอยู่ใกล้ ข้าได้เอื้อม ดอมเด็ดดม

ป่าเอ๋ย ป่าไม้

ไม้เก็ด


ป่าเอ๋ย  ป่าไม้
เป็นของใครคิดครวญให้ถ้วนถี่
ของข้าราชการ,พ่อค้าบรรดามี
หรือของพี่น้องไทยในแผ่นดิน
เป็นของเราชาวไทยใช่ใครอื่น
ทุกวันคืนควรรักษาอย่าให้สิ้น
เมื่อป่ายังอยู่ยั้งไม่พังภินท์
ผองชีวินก็จะอยู่คู่ป่าเอย.

ฝน

ใบไม้


ฟ้าจ๋าฟ้า
สายฝนลาหายไปไหน
ฤดูฝนจึงเปลี่ยนไป
ไร้เม็ดฝนหล่นลงมา
ร้อนเอยร้อน
ไยจึงร้อน ร้อนนักหนา
ร้อนกายใจร้อนกว่า
ฝนฟ้ามาหายไป
หว่านเมล็ดได้เจ็ดวัน
เฝ้าฝันถึงวันใหม่
ฟ้าฝนไม่เป็นใจ
นกน้อยใหญ่คาบไปกิน
จนเอยไยจึงจน
ฟ้าฝนทำหมดสิ้น
น้ำตาล้าไหลริน
ชาชินไม่สิ้นจน.

บันทึกนี้...มีความรัก

จัน


จดบันทึกรักใส่กระดาษ
้เป็นของฝากให้เธออ่านคลายเหงา
ทุกถ้อยคำบ่งบอกถึงคำว่าเรา
เพื่อนคนเก่าคนเดิมที่รักเธอ

จันทร์เจ้าเอย

นิติ


จันทร์เจ้าเอยจันทร์เจ้าช่างใจดำ
คงชอกช้ำจันทร์เจ้าไม่มีแสง
ไม่มาเป็นเพื่อนยามอ่อนแรง
หรือจันทร์แกล้งตอกย้ำซ้ำเติม
จันทร์เจ้าลี้จันทร์เจ้าหนีห่างดวงดาว
จันทร์เจ้าหนาวไม่มีเขาไว้ช่วยสงเสริม
หรือจันทร์เจ้าเป็นใจใฝ่ริเริ่ม
มาเพิ่มความเศร้าหมองในใจเรา

ลองมองสิ่งต่างๆแล้วสบายใจ

นิติ


มองดินที่มีกลิ่นโคลนสาปควาย
มองดูปลาว่ายเวียนในลำธาร
มองต้นไม้ไหวเอนน่าเอนกาย
มองดูดอกไม้ช่างสวยใสในยามเย็น
มองนกบินร่อนลงจากฟ้า
มองม้าท่าทางแกร่งกล้าใด้ชัดเจน
มองหญ้ามีมดไต่วิ่งเล่น
มองดูเด่นเห็นเป็นตะวันลับขอบฟ้าไป
มองสิ่งใดเริ่มลางเลือน
มองหาเพื่อนก็ไม่แวะเวียนมาใกล้
มองหาใครที่คิดว่าห่วงใย
มองตรงที่ใจอยากมีใครซักคน
หน้า / 5  
ทั้งหมด 78 กลอน