11 พฤศจิกายน 2546 10:29 น.

********* ปรัชญาชีวิต.....จากบิ๊กแม็ค ***********

burst

เมื่อวานได้กินบิ๊กแมค
มันคงไม่แปลก...ใช่ไหม
แค่เอาเงินยื่นให้ไป
สั่งแป๊บเดียวก็ได้มากิน

นั่งกัดบิ๊กแมคคำโต
แถมยังดูโก้...อร่อยลิ้น
ดีใจจังมีตังค์กิน
เบื่อแล้วติดดินกินข้าวแกง

ขนมปังสลับกับเนื้อหมู
รสชาติกลับไม่ดูขัดแย้ง
สีของผักตัดกับสีแดง
ผักดองกลิ่นแรงแต่เข้ากัน

บิ๊กแมคสอนอะไรบางอย่าง
เหมือนชีวิตบนทางยาวนั้น
มีมากมายหลายสิ่งปนกัน
มีสุขทุกข์หลายชั้นปนกันไป

คำแรกกัดโดนแต่ขนมปัง
เหมือนเรายังหาความสุขไม่ได้
กัดอีกคำ..โอ..ชื่นฉ่ำใจ
กัดโดนหมูชิ้นใหญ่รสโอชา

เข้ากลางๆรสชาติยิ่งอร่อย
เหมือนความสุขล่องลอยเข้ามาหา
เริ่มจะหมดรสชาติน่าระอา
หมดเนื้อหมูหมดคุณค่ารสของมัน

ชีวิตมีสุขซ่อนในความทุกข์
มีสนุกซุกซ่อนอยู่ในนั้น
หมุนสลับสับเปลี่ยนเวียนทุกวัน
เป็นรสชาติชีวิตฉันที่เข้าใจ

อันบิ๊กแมควันนี้มีคุณค่า
ที่มีตังค์ซื้อหามากินได้
วันพรุ่งนี้หมดตูดจะทำไง
คงเสียใจที่วันนี้เราได้กิน

อันความสุขและความทุกข์ในบิ๊กแมค
กลับแบ่งแยกรสชาติอร่อยลิ้น
และสตังค์ในกระเป๋าเราใช้กิน
เริ่มสร้างรอยมลทินในใจเรา

กินอาหารแพงๆอีกคราใด
สำนึกถึงหัวใจของใครเขา
ที่ไม่ได้มีตังค์กินอย่างเรา
บิ๊กแมคเอ๋ย...ฉันโง่เง่า..กินเจ้าไป

---------------------------------------------------				
10 พฤศจิกายน 2546 17:23 น.

*********** อย่าทำ....เขาไว้************

burst

วันนี้เดินดินกินข้าวแกง
สองขายังมีแรงพอเดินไหว
สลดหดหู่หนอ...ช่างท้อใจ
ชั่นเข่าเหงาได้ก็เพียงเรา

จะร้องไห้ก็ไม่มีน้ำตา
จะหัวเราะออกมาก็เงียบเหงา
ได้ยินเพียง...เสียงของใจ....ไหวแผ่วเบา
ลมหายใจที่ไม่เข้าข้างตัวเอง

ทำไมหนอชีวิต...คิดไม่ถึง
ก่อนนั้นก็ดื้อดึงและอวดเก่ง
อุปสรรคหน้าไหนไม่เคยเกรง
เริงละเลงชีวิตไม่คิดกลัว

ยามนี้เพียงชันกายหมายลุกขึ้น
ยังเมามึน...ไม่รู้...สู้ดีชั่ว
เท้าจะพาไปทางไหนไม่รู้ตัว
มือปีนป่ายไปมั่ว...เหมือนมัวเมา

ชีวิตล่มล้มละลายไร้ทางแก้
ถูกเหยียบซ้ำย่ำแย่....แคร์ใครเขา
ที่ถูกเค้าแนมเหน็บเจ็บใจเรา
ถูกของเขา..ก็เรา....เป็นคนทำ

ยามคนล้มอย่าข้าม..เขาปรามไว้
ทีของเราเขาสะใจ..หมายกระหน่ำ
ชีวิตช่างรันทดกฏแห่งกรรม
ก่อนนั้นก็เคยทำเขาช้ำใจ

อย่าทำเขาให้เจ็บ...ให้เก็บกด
ยามคืนกลับมาหมด....อดไม่ไหว
ยามนั้นจะรู้จักหนักเพียงใด
อย่าทำเขาเจ็บใจ...จะเข้าตัว				
10 พฤศจิกายน 2546 17:01 น.

********** แต่งกลอน...ไม่เป็น****************

burst

เธอสวยงามจริงหนาคิ้วก็โก่ง
จมูกคางปากคอดูคมขำ
หน้าตาน่ารักและใจดี
เธอเป็นคนที่ใจฉันต้องการ
แต่งกลอนให้เธอไปอ่านเล่น
เธอหัวเราะทั้งคืนน้ำตาไหล
กลอนที่ฉันแต่งให้เธออ่านวันนั้น
มันเป็นกลอนที่ไม่สัมผัสเลย

................................................................

นึกถึงครั้งแรกที่แต่งกลอน
แล้วนึกย้อนถึงที่แต่งในวันนี้
กลอนข้างบน...เค้าบ่นว่าไม่ดี
ไม่ได้มีสัมผัสอย่างที่ควรเข้าใจ

อ่านไปหัวเราะหัวแทบทิ่ม
เหมือนคนปัญญานิ่มแต่งมาให้
เหมือนพ่อแม่มันไม่ใช่คนไทย
แต่งมาได้ยังไงเหมือนพึมพำ

อ่านยังไงก็ไม่คล้องจอง
หัวเราะจนท้องแข็ง...เพราะขำ
ไอ้ตอนเรียนครูสอนก็ไม่จำ
กลอนดีดีก็กลับทำ...ไร้ราคา

แต่....กลอนบทนั้น
อาจมีค่ากว่ารางวัลล้ำค่า
ถึงกวีซีไรท์ไม่ชายตา
แต่อาจมีคุณค่ากว่าบทใด

ตอนที่ฉัน...แต่งกลอนไม่เป็น
ทุกอย่างที่ฉันเห็น...เป็นไปได้
ฉันจับเอาถ้อยคำวางตามใจ
รวมๆแล้วแต่งได้มาเป็นกลอน

ณ ตอนนี้...ฉันแต่งกลอนเป็น
สัมผัสอันยากเย็นตามครูสอน
ใช่...มันออกมาเป็นกลอน
แต่ไม่อาจสะท้อนความในใจ

ในถ้อยคำสวยหรูและดูดี
มันขัดกับความรู้สึกที่ยากบอกได้
ฉันรักเวลานั้นสุดหัวใจ
ในความเรียบง่าย....ไม่เป็นกลอน  
-------------------------------------------------------

ทุกคนคงมีก้าวแรกกันทั้งนั้นนะครับ 
ก็อยากให้เป็นกำลังใจในการแต่งกลอนด้วยครับ
ผมปัญญาน้อย แต่ฝอยมากครับ				
10 พฤศจิกายน 2546 10:27 น.

*********** กลอนที่....ไม่น่าอ่าน***********

burst

หากอ่านแล้วคุณเสียใจ
คุณจะอ่านไหมกลอนนี้
หากอ่านแล้วใจคอไม่ดี
คุณจะอ่านกลอนนี้ไปทำไม
หากอ่านแล้วคุณเจ็บช้ำ
คุณจะยอมรับกรรมนั้นไหม
หากอ่านแล้วไม่สบายใจ
คุณจะทนทำไมมาอ่านกัน

ผมอาจแต่งกลอนไม่เหมือนใคร
เพราะทุกอย่างมันไม่ได้สวยเหมือนฝัน
ผมไม่มีกลอนเพราะๆเหมือนใครกัน
สะกดถูกผิดช่างมันฉันไม่แคร์

แต่ผมพูดจาภาษาไทย
ดูบัตรประชาชนได้...คนไทยแท้
แต่เรื่องกลอนบอกไว้ก่อนผมอ่อนแอ
ไม่เก่งไม่เคยแน่เหมือนหลายคน

ผมอยากแต่งผมก็แต่ง
ไม่เคยคิดแข่งเลยซักหน
สัมผัสนอกสัมผัสในวกวน
ผมไม่รู้ผมไม่สนว่าเป็นไง

ผมเข้าเว็บนี้มาแต่งกลอน
และหลายคนเคยว่าสอนผมไว้
ทำยังงั้นทำยังงี้ไม่โดนใจ
แต่งมาได้ยังไงไม่ถูกความ

ใครบัญญัติกลอนขึ้นมา
มีโอกาสจะท้าตอบคำถาม
หากกลอนคือศิลปะที่งดงาม
มันจะต้องมีมั้ย....ความแน่นอน

ผมอาจจับตรงนั้นไปตรงนี้
ไม่ตรงกับที่ครูเคยสอน
แต่รวมๆยำๆแล้วออกมาเป็นกลอน
เพื่อสะท้อนความจริงที่โดนใจ

ผมยินดีรับทุกคำด่า
และคำติติงที่ว่าผมไว้
แค่อยากบอกให้เข้าใจ
กลอนของคนไม่แคร์ใคร....เป็นงี้เอง

-----------------------------------------------------------
หลายคนว่าผมใช้คำแรงไป ก็ขอโทษด้วยนะครับ
พอดีผมก็เป็นคนปากยังงี้เอง ส่อถึงชาติตระกูลที่ไม่
ได้สูงส่งอะไรนักหนาครับ หากสะเทือนอารมณ์ก็ขออภัยด้วยละกัน				
9 พฤศจิกายน 2546 01:21 น.

*********** สวย.....เมื่อสาย********

burst

เปี่ยมไปด้วยความ.....ชั่วช้า
รู้คุณค่าแห่งเธอ
เพราะตัวเธอ...คือกาลกิณี 
กิริยาโสมม
บัดซบเลวสิ้นดี
สิ่งเหล่านี้...ล้วนมีอยู่ในเธอ.......
(เริ่มด้วยทำนองประกวดนางสาวไทย)


ยามแรกรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน
พอเวลาเนิ่นนานมันเริ่มขม
ณ ยามนี้ยิ้มรื่นแต่อกตรม
เพราะไม่สบอารมณ์เลยจริงๆ

ก่อนนั้นเธอสวยปานนางสาวไทย
สมกุลสตรีไทยที่เป็นหญิง
เธอเด็ดขาดบาดใจฉันจริงๆ
ได้มาแนบแอบอิงเป็นบุญตา

อยู่ต่อไปลายชักเห็น
เช้าก็หายบ่ายไม่เห็นเลยใบหน้า
เดี๋ยวเข้าบ่อน เดี๋ยวชอปปิ้ง เพลินอุรา
อีกบุหรี่เหล้ายาเธอก็เอา

เพิ่งเห็นแท้เห็นจริงก็คราวนี้
อีตอนที่ตัวดี...แอบสวมเขา
นี่หรือคนเคยสวยถูกใจเรา
นี่หรือคนที่เขาเคยรักกัน

รู้พิษแท้...ความสวยก็เมื่อสาย
หมดแล้วความเป็นชายในตัวฉัน
หมดแล้วหมดศักดิ์ศรีเคยมีกัน
เธอสวยเกินกว่าฉันคาดคะเน

เพื่อนชายครับ อย่าได้รับแต่ความสวย
อาจแฝงความเฮงซวยในเสน่ห์
อันใจหญิงแปรปรวนและรวนเร
อาจไม่ทันร้อยพันเล่ห์...หลงเทใจ

สวยสะเด็ดก็ยิ่งเข็ด...เข็ดความสวย
อาจจะนำความซวย...ข่มสวยได้
เพื่อนหญิงจ๋า...สวยมีค่า...สวยที่ใจ
หน้าตาช่างมันปะไร....จิตใจดี				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟburst
Lovings  burst เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟburst
Lovings  burst เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟburst
Lovings  burst เลิฟ 0 คน
  burst
ไม่มีข้อความส่งถึงburst