9 มิถุนายน 2546 16:42 น.

ฉันเป็นชายคนหนึ่ง......ซึ่งปากจัด(มาก)

burst

ฉันเป็นเพียงชายคนหนึ่ง....ซึ่งปากจัด
คอยแต่กัดเธอได้ไม่เคยเบื่อ
ฉันยังมีคำมากมายใช้เหลือเฟือ
และยังเหลือเผื่อมาใช้..ไม่ซ้ำกัน
ให้ทำไงเกิดเป็นชายอกสามศอก
พูดความจริงไม่กลิ้งกลอกหรอกตัวฉัน
มีอะไรก็พูดไปก็แล้วกัน
เพียงแค่ฉันใส่อารมณ์ธรรมดา
จะให้รี่เข้าไปต่อยเลยหรือไง
ทำไม่ได้...เพราะฉันไม่ใช่คนบ้า
มีปากไว้ก็ให้ใช้เจรจา
เอาไว้บอกเอาไว้ด่าแทนต่อยตี
ฉันเป็นเพียง...ชายคนหนึ่ง....ซึ่งปากหมา
ตั้งแต่เกิดก็เป็นมาอยู่อย่างนี้
แต่ไม่เคยทำร้ายใครเลยซักที
จะให้ทำร้ายสตรีทำไม่ลง
ไอ้เรื่องด่าฉันชอบฉันถนัด
ไอ้เรื่องกัดเรื่องนี้เรื่องขี้ผง
คนดีดี...ฉันขอย้ำ...ทำไม่ลง
ถึงปากจัด..ยังคง..อุดมการณ์
คนร้ายมาร้ายตอบเป็นสองเท่า
คนนินทาว่าเรา...เอาห้าหาร
คูณอีกร้อยแล้วค่อย..ด่าคืนมัน
นี่แหละนะ...คนอย่างฉัน....มันปากเอย


แบบว่าอิงตัวจริงนิดๆ นิดเดียวเท่านั้น
ตัวจริงเรียบร้อย นั่งด่ายังพับเพียบ หาวก็ปิดปาก
เข้าห้องน้ำยังปิดประตู ก่อนนอนยังถอดรองเท้า 
อะไรประมาณเนี้ยะ				
9 มิถุนายน 2546 12:05 น.

มือปืน......18 ฝน

burst

18 ฝนที่คนเขาว่าแรง
เพิ่งสำแดงให้เห็นก็คราวนี้
18 ฝนของคนที่ไม่ดี
ก็ไม่ต่างกับที่เรากลัวกัน

2 หนุ่มน้อยควงปืนกระหน่ำโหด
ต่างมีใจชั่วโฉดกันเช่นนั้น
บ้างยิงเพื่อนยิงยายตายตามกัน
บ้างคิดสั้นด้วยโมหันต์ด้วยราคี

คำว่ารักจากไหนไม่มีค่า
เท่าความรักที่ได้มาเวลานี้
อนาถหนอสายไปไม่ใยดี
จึงก่อการเช่นนี้ไม่กลัวใคร

กี่ศพเล่าที่เจ้าเข้าห้ำหั่น
กี่คนหนอที่โศกศัลย์..เจ้ารู้ไหม
ว่าหัวอกพ่อแม่แย่เพียงใด
ที่เลี้ยงเจ้าจนเติบใหญ่หวังพึ่งพา

บ้างอกหักช้ำรักจนหนักอก
ฆ่าตัวตายมันตลกเป็นนักหนา
อันความรักที่เที่ยงแท้แม่ให้มา
อีกพ่อเจ้ายังห่วงหาและอาทร

ณ ยามนี้หลังเสียงปืนสะท้านใจ
น้ำตาพ่อแม่ไหลจนเปียกหมอน
สะท้อนใจจริงเจ้าเฝ้าแต่วอน
ขอให้เจ้าสิ้นทุกข์ร้อนตอนนิทรา

แล้วหัวอกคนอื่นฝืนเท่าไหร่
ที่เจ้าไปคร่าชีวิต..ผิดยิ่งกว่า
ไม่ได้รู้ความใด..ไม่เจราจา
เจ้ายัดเยียดเข่นฆ่าเขาทำไม

กระบอกเดียวเจ้าเหนี่ยวไกโดยไม่คิด
แต่มีกี่ชีวิตต้องร้องไห้
มันสายเกินกว่าจะแก้..แย่เพียงใด
ที่มันเกิดกับลูกชาย....ของเราเอง
---------------------------------------------

เลี้ยงลูกก็อย่าตามใจมากนักนะครับ 
เดี๋ยวเขาจะไม่รู้จักความผิดหวัง และทำผิดไป
เหมือนข่าวเด็กมัธยมทั้ง 2 คนที่ฆ่าเพื่อน และฆ่า
ญาติๆของเพื่อนสาวตายคาบ้าน....เฮ้อ...สังคม				
9 มิถุนายน 2546 10:03 น.

เมื่อเราสอง....มองทะเล...ที่ต่างกัน

burst

(ผู้ชาย)       เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม
                  มีความจริงใจอยู่ในนั้น
                  สีฟ้าจางๆดูห่างกัน
                  แต่ในความกว้างนั้นคือหัวใจ

(ผู้หญิง)       ใช่...ฉันเห็นท้องฟ้า
                   ที่เธอตั้งใจพามาดูใช่ไหม
                   ร้อนก็ร้อนไม่รู้พามาทำไม
                   มีแต่คราบเหงื่อไคลน่ารำคาญ

(ผู้ชาย)        เธอเห็นทะเลนั่นไหม
                   ดูเวิ้งว้างกว้างไกลจริงไหมนั่น
                   เหมือนกับรักที่เรามีให้กัน
                   เทียบกับความรักนั้นแค่ครึ่งใจ

(ผู้หญิง)        ใช่...ฉันเห็นทะเลคราม
                   มองไม่เห็นจะงดงามที่ตรงไหน
                   มีแต่คลื่นชวนอาเจียนเลี่ยนจะตาย
                   ขยะเต็มหาดทรายหน่ายเต็มที

(ผู้ชาย)         เธอเห็นคู่รักนั้นไหม
                    ช่างดูสดใสเต็มที่
                    ทะเลช่วยผูกมิตรไมตรี
                    ให้ระรื่นชื่นชีวีมีหัวใจ

(ผู้หญิง)         ใช่...ฉันเห็นคู่รัก
                     น่าเกลียดจะตายชักเธอรู้มั้ย
                     เล่นน้ำจนตัวดำขำจะตาย
                     ทำเป็นเด็กไปได้ไม่อายปลา

(ผู้ชาย)          เธอเห็นฉัน...ตรงนี้ไหม
                     หากเธอบ่นต่อไป...ฉันไม่ว่า
                     แต่อยากลองถามเธอสักครา
                     เธอเห็นฉันมีค่าตรงที่ใด

(ผู้หญิง)          ใช่...ฉันเห็นเธอ
                      และดีใจเสมอที่เธอใกล้
                      แต่ถ้ายังนั่งต่อไป....
                      แล้วเมื่อไหร่....จะขายปลาหมึกหมดซักที....


เรื่องของพ่อค้าปลาหมึกปิ้งกับแม่ค้าปลาหมึกปิ้งริมฝั่งบางแสน				
9 มิถุนายน 2546 09:57 น.

ฉันแต่งกลอน....ไม่เป็น

burst

เธอสวยงามจริงหนาคิ้วก็โก่ง
จมูกคางปากคอดูคมขำ
หน้าตาน่ารักและใจดี
เธอเป็นคนที่ใจฉันต้องการ
แต่งกลอนให้เธอไปอ่านเล่น
เธอหัวเราะทั้งคืนน้ำตาไหล
กลอนที่ฉันแต่งให้เธออ่านวันนั้น
มันเป็นกลอนที่ไม่สัมผัสเลย

................................................................

นึกถึงครั้งแรกที่แต่งกลอน
แล้วนึกย้อนถึงที่แต่งในวันนี้
กลอนข้างบนมันเป็นกลอนไม่ดี
ไม่มีสัมผัสอย่างที่ควรเข้าใจ

อ่านไปหัวเราะหัวแทบทิ่ม
เหมือนคนปัญญานิ่มแต่งมาให้
เหมือนพ่อแม่มันไม่ใช่คนไทย
แต่งมาได้ยังไงเหมือนพึมพำ

อ่านยังไงก็ไม่คล้องจอง
หัวเราะจนท้องแข็ง...เพราะขำ
ไอ้ตอนเรียนครูสอนก็ไม่จำ
เสียไปหมดความงาม...ไร้ราคา

แต่....กลอนบทนั้น
อาจมีค่ากว่ารางวัลล้ำค่า
ถึงกวีซีไรท์ไม่ชายตา
แต่อาจมีคุณค่ากว่าบทใด

ตอนที่ฉัน...แต่งกลอนไม่เป็น
ทุกอย่างที่ฉันเห็น...เป็นไปได้
ฉันจับเอาถ้อยคำวางตามใจ
รวมๆแล้วแต่งได้มาเป็นกลอน

ณ ตอนนี้...ฉันแต่งกลอนเป็น
สัมผัสยากเย็นตามครูสอน
ใช่...มันออกมาเป็นกลอน
แต่ไม่อาจสะท้อนความในใจ

ในถ้อยคำสวยหรูและดูดี
มันขัดกับความรู้สึกที่ยากบอกได้
ฉันรักเวลานั้นสุดหัวใจ
ในความเรียบง่าย....ไม่เป็นกลอน				
6 มิถุนายน 2546 15:52 น.

สอนเพื่อน.....จีบหญิง

burst

การจีบหญิงแท้จริงนั้นแสนง่าย
แค่แต่งกายไปเดินที่สยาม
ปิ๊งคนไหนไปใกล้ใกล้แล้วเดินตาม
จากนั้นถามเบอร์โทร..โอ้...ง่ายจัง
แต่จะได้หรือไม่ได้อยู่ที่น้อง
เพราะผู้หญิงมีสมองอย่าได้หวัง
ว่าอะไรจะแสนง่ายสบายจัง
อยากสมหวังต้องจริงใจมาก่อนเลย

ถ้ารักจริงชอบจริงค่อยตามจีบ
ไม่ต้องรีบเปิดใจไปเฉลย
ว่าตัวมึงรักแม่งชิบหายเลย
อย่าเปิดเผยเร็วไปให้เวลา
แรกทักทายต้องสุภาพพูดไพเราะ
พูดเพราะๆดีกว่าอย่าปากหมา
อย่าshow off ทำเป็นเท่ห์อวดศักดา
แค่ทำตัวธรรมดาก็เป็นพอ
ควรทำตัวปกติไม่ต้องset
เค้าจะgetดีกว่าทำตัวหล่อ
ได้เบอร์โทรมาแล้วรู้จักรอ
อย่าเพิ่งขอเบอร์ยกทรง กางเกงใน

โทรไปหาวันละครั้งกำลังแจ๋ว
สิบแปดครั้งมากไปแล้วเค้ารู้ไต๋
อย่าทำตัวเป็นคนง่ายเกินไป
แล้วผู้หญิงหน้าไหนมาใยดี
อ้อ...อย่าตื๊ออย่าตามรำคาญว่ะ
หยิ่งหน่อยนะจะดูเท่ห์สมศักดิ์ศรี
แล้วอย่าพล่ามเรื่องตัวเองแม่งทั้งปี
พูดแบบนี้เหมือนขี้คุยเสี่ยวรำพึง

นัดทานข้าวควรจะเป็นมื้อเย็นนะ
ถ้าอยากจะจากกันแล้วเค้าคิดถึง
เลี้ยงมื้อเช้า มื้อกลางวัน เปลืองนะมึง
แดดมันร้อนแถมไม่ซึ้งเสียตังค์ฟรี

จะไปไหนควรไปรับควรไปส่ง
ต้องซื้อตรงจริงใจไม่ขี้หลี
ถือคติทำดีย่อมได้ดี
ทำตามนี้จีบติด....คิดค่าครู

ข้อควรระวัง
ห้ามใช้กับหญิงไร้หัวใจ มึงจะเสียตังค์ฟรี
โปรดสังเกตุคำเตือนจากเพื่อนๆทุกครั้ง ขอบคุณ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟburst
Lovings  burst เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟburst
Lovings  burst เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟburst
Lovings  burst เลิฟ 0 คน
  burst
ไม่มีข้อความส่งถึงburst