1. ขอที่ขอทางอย่างละหน่อย พอให้ได้ปลดปล่อยหัวใจป่วย ขออากาศหายใจหายงงงวย แบบที่ไม่เจือด้วยพิษใดใด 2. ขอเลี้ยงชีพมีค่ามากกว่าสัตว์ ยืนหยัดเทิดเสรีเป็นนิสัย ขอที่อยู่ที่ยืนคืนค่าไท แบบที่ไม่มีอาณัติมาดัดงอ 3. เกินกว่านี้ไปใหญ่หรือย่อม จะยอมยกให้คือไม่ขอ หยัดยืนอยู่แน่แม้มอซอ ไม่ท้อต่อจุดหมายปลายทาง
5 ตุลาคม 2548 05:47 น. - comment id 523055
ผมนอนหลับยาวที่ระเบียงบ้าน ดึกมาอากาศหนาวมาก ตอนหัววันล่ะร้อนแทบแย่ วันนี้สดชื่นมากๆ มีพลัง เต็มเปี่ยม ขอบคุณมิตรทุกท่านครับ อรุณสวัสดิ์คุณอัลมิตรา คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ คุณกุ้งหนามแดง คุณพุด คุณร้อยแปดพันเก้า คุณชัยชนะ คุณมัท ครูใหญ่ คุณภาวิดา คุณมนต์กวี คุณเรน และมิตรที่ผมไม่ได้เอ่ยชื่อทุกท่าน
5 ตุลาคม 2548 06:41 น. - comment id 523058
พุด.. ถูกปลุกด้วยไรแสงสีชมพูแสนงาม ที่ค่อยๆเรื่องเรื่องสว่างกระจ่างนภางค์ ทางขอบฟ้าทิศตะวันออกค่ะ ฟ้าหลังฝนที่งามเหลือค่ะ พร้อมเสียงนกเขาขันคู และนกกาที่เริ่มร้องจุ๊บจิ๊บระงม ไปทั่ววิมานดินค่ะ.. พุดอ่านงาน *คุณก่อ..และของมิ่งมิตน้องพี่* ทุกดวงใจแสนดี ในร่มรักเรือนใจเรือน ไทยเรือนทอง แกล้มคลอ* พร้อมฟังบทเพลงเพลงชุดชื่อ MORNING ยามเช้าของคุณจำรัศ เศวตาภรณ์ค่ะ แล้ว.. หัวใจดวงสะออนอรชรของพุด ก็พลันพร่างพราวราวกับมีอัญมณี เจิดจรัสรุ้งณ..ภายใน ค่ะ เป็นความสุขเรียบง่ายงดงาม ในท่ามโลกแล้งไร้รายรอบค่ะ คุณก่อคะ พุดเพิ่งอ่านเมล์เกี่ยวกับเหตุการณ์ ที่อาจจะมีวาตภัยผสมกับอุทกภัย ตามคำทำนายอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ด้วยใจนิ่งงันค่ะ มหันตภัย ที่มวลมนุษย์ ไม่พึงตระหนัก และ จักกลายใกล้เข้ามาสอนบทเรียน ยิ่งใหญ่ให้..อย่างมิมีวันที่ มวลมนุษย์ทุกธุลีหล้าจักจะพากันหนีพ้นค่ะ ทั้งๆที่ผ่านมาก็มาเตือนเป็นระยะแล้ว เมื่อคืนพุดสวดมนต์ ด้วยน้ำตาซึมซึ้ง ค่ะ ด้วยบทนี้นะคะ หวังทุกดวงใจจักพากันรวมพลังจิต รวมกันสวดอธิษฐานภาวนาและนั่งสมาธิ พร้อมเพรียงกันในทุกช่วงมิติรอยต่อเวลา นะคะเพื่อตัวเองและคนที่รัก รวมทั้งประเทศชาติเราค่ะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท-ธัสสะ (3 จบ) นะโม โพธิ สัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา (3 จบ) เประมัง ธัมมัง สังฆัง ประมัง ธัมมัง สังฆัง ปรมัง ธัมมัง สังฆัง เสสัง ธัมมัง สังฆัง กะริยานัง อัตโน โหนตุ 3 -11 จบ สัตว์ทั้งหลาย จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด จงไปสู่ภพภูมิที่ดีที่ชอบเถิด (1 จบ) จากนั้นนั่งสมาธิสักครู่ เป็นอันเสร็จพิธีนะคะ พุดจะลงบทความที่อาจจะช่วยเตือน สติแด่ทุกดวงใจนะคะ และจักพึงได้ไม่ประมาทค่ะ ด้วยรักล้นใจ
5 ตุลาคม 2548 07:37 น. - comment id 523080
สวัสดีตอนเช้าค่ะ อยู่อย่างทรนง....บนความต้องการของตนเอง.. แต่มิได้เดือดร้อนใคร...
5 ตุลาคม 2548 07:39 น. - comment id 523083
อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณก่อพงษ์ ตอนนี้อัลมิตราเปิดเน็ตอ่านข่าว อ่านกลอน และทานข้าวผัดปูไปด้วย เมื่อคืนอากาศค่อนข้างเย็น อัลมิตราจมูกชื้น ๆ สงสัยฝนคงตกค่ะ เช้าวันนี้ ถนนโล่ง .. โรงเรียนแถวบ้านปิดเทอมกันไปหมดแล้ว ใช้เวลาเดินทางมาทำงาน 3 นาที เท่านั้น ปกติ 8 นาที .. :) อีกสองวันก็จะวันศุกร์ล่ะ เสาร์-อาทิตย์ อัลมิตราจะกลายเป็นหนอน..
5 ตุลาคม 2548 08:04 น. - comment id 523097
สวัสดีตอนเช้าครับ คุณก่อพงษ์ เช้านี้ที่บ้านผมอากาศค่อนข้างเย็นครับ หมอกคลุมทั่วบริเวณบ้าน เอาอาหารให้เจ้าลูกชายสี่ขาของผมก็รีบมาทำงาน อากาศเย็นขนาดนี้กำลังดีครับ ไม่อึดอัด สายๆหน่อยก็เย็นสบาย สิ่งที่คุณก่อพงษ์ขอ ไม่มากเกินไปครับ ยังไงก็ขอเป็นส่วนหนึ่งที่เพิ่มพลังใจให้คุณก่อพงษ์สร้างสรรค์สิ่งดีดีต่อไปเรื่อยๆครับ ทำงานให้มีความสุขนะครับ
5 ตุลาคม 2548 08:56 น. - comment id 523168
สวัสดีครับคุณก่อพงษ์..เมื่อคืนไม่ไหวเลยอะทานยาไปสองรอบไข้ขึ้น..แต่วันนี้ดีขึ้นแล้วครับ...เช้านี้ก็รู้สึกถึงอากาศเย็นแล้วครับผม อาทิตย์นี้ต้องเดินทางไปเชียงราย คงเย็นๆเหมือนกันครับทางโน้น...รักษาสุขภาพนะครับผม แวะเวียนมาทักทายเช่นเดิมครับ
5 ตุลาคม 2548 11:37 น. - comment id 523302
เกินกว่านี้ไปใหญ่หรือเป็นย่อม จะยินยอมพร้อมใจกระไรอยู่ เพราะที่ทางรกร้างทิ้งข้างคู เฝ้าแต่หาที่อยู่หรูเลิศเกิน แต่งได้ดีค่ะ
5 ตุลาคม 2548 19:05 น. - comment id 523556
ตอบคุณพุด ผมไม่ค่อยได้พูดคุยกับคุณพุดเลยในช่วงหลังๆ แต่ช่วงแรกๆที่ผมเข้ามาในนี้ใหม่ ก็ได้พูดคุยบ้าง ผมเคยบวชพระนะครับ เดือนนึงเต็ม ๆ แต่ก่อนหน้านั้นก็เคยฟังพระบรรยายธรรม รวมทั้งฝึกหัดกำหนดจิตแบบกำหนดลมหายใจเข้าออก กับเดินจงกรม ผมโชคดีที่กำหนดจิตได้ง่าย คือจิตสงบไว และมันก็สบายน่ะครับ เยือกเย็น ปีติ ดีใจที่ได้เกิดเป็นคน และได้สัมผัสรสของความสงบ เวลาฟังธรรมะนี่ซาบซึ้งตรึงใจ สงบ ผมยิ้มชื่นหัวใจตลอดเวลา สึกออกมาอยู่กับครอบครัวก็เอาธรรมเหล่านั้นมาหล่อเลี้ยงหัวใจ ก่อนนอนนี่ผมกำหนดลมหายใจไปจนหลับ หลับก็หลับง่าย เป็นหลับแบบหลับลึก ตื่นขึ้นมานี่สบายมาก พร้อมสำหรับการงานทันที วันนี้คุณพุดแนะนำบทสวดมนต์แก่ผม ผมขอขอบคุณอย่างยิ่งครับ คงได้พูดคุยทักทายกันอีกต่อไปนะครับ
5 ตุลาคม 2548 19:10 น. - comment id 523557
ตอบคุณแมงกุ๊ดจี่ สวัสดีตอนค่ำครับผม ผมคิดว่าผมเจียมหัวใจตัวเองอยู่ตลอด และความเจียมตนนี่ แท้จริงมันคือความทรนงล่ะครับ ยินดีที่ได้พูดคุยกันครับ
5 ตุลาคม 2548 19:30 น. - comment id 523560
แวะมาทักทายกันภาคค่ำครับคุณอัลมิตรา ตอนนี้ผมอยู่บ้านเงียบๆคนเดียว ลูกๆกับแม่ของเขาเข้าไปในเมืองกัน พร้อมกับญาติๆ ซึ่งทำงานอยู่ด้วยกัน เพื่อเลี้ยงส่งเพื่อนร่วมงานที่เพิ่งหมดสัญญาจ้าง ในเมืองมีร้านหมูกะทะอร่อยอยู่หลายร้าน นานๆเราเคยพาลูกๆไปกินกัน ท่าทางเด็กๆอร่อยครับ เขาจัดแบบบุ๊ฟเฟ่ อิ่มละ 59 บาท อาหารเยอะแยะไปหมด ขนม ของหวาน ไอศกรีมก็มีด้วย ผมติดภาระขุนวัว คืองานในคอกวัวของผมยังไม่เสร็จ ผมเลยสละสิทธิ์ไม่ไป แถวใกล้บ้านมีร้านสเต็กโคขุนด้วยนะครับ ลูกๆบอกว่าอร่อยมาก เนื้อย่างน้ำตก ลาบ แกงอ่อมเนื้องวัวขุนนี่ก็ไม่เลวเลย ถ้าคุณอัลมิตรามาแวะจะพาไปกินครับ ที่ท่องเที่ยวก็มีหลายที่ที่ใกล้บ้าน จะพาไปนมัสการพระธาตุพนม ซึ่งอยู่ห่างบ้านผมไปราว 30 กิโลเองครับ ขับรถไปแป๊บเดียวก็ถึง พระธาตุเชิงชุม พระธาตุนารายณ์เจงเวง พิพิธภัณฑ์อาจารย์มั่น อาจารย์ฝั้น หนองหาร ก็อยู่ไม่ไกลนะครับ เมื่อมีช่วงเวลาเหมาะสมคงได้ตอนรับคุณอัลมิตราและเพื่อนๆครับ
5 ตุลาคม 2548 19:50 น. - comment id 523570
ตอบคุณ-ร้อยแปดพันเก้า-ครับ ที่ผมพูดว่าผมคงไม่เหมาะกับเชียงใหม่ในกระทู้ก่อนหน้านี้ เป็นเพราะผมจดจำความรู้สึกหนาวไปถึงกระดูกได้ดีครับ ช่วงวัยเด็ก ตอนนั้นคงอยู่ราวๆม .1 น่ะครับ คุณครูของผม ผมขออนุญาตเอ่ยนามท่าน ท่านชื่อ ไตร น้อยคูณ เคยพามาเชียงใหม่หน้าหนาว โอย ผมหนาวมากๆ ผ้านวม 3 ผืนก็ไม่อุ่น หนาวจนปวดขากรรไก ฟันกระทบกันกักๆตลอดเวลา อาจเป็นความไม่เคยชินก็ได้ครับ ถ้าผมเกิดที่เชียงใหม่ ผมอาจชอบหรือรู้สึกสบายกับอากาศแบบนั้นก็ได้ ผมเกิดที่มหาสารคาม แล้งและร้อนยิ่งกว่าร้อน บางปีไม่มีน้ำทำนานะครับ มันแห้งแล้งมาก น้ำท่าสำหรับอาบสำหรับดื่มนี่บางปีแทบไม่มี ผมยังจำได้ เป็นเด็กตัวเล็กๆต้องไปเข็นน้ำไกล ๆห่างจากบ้านไปราว 8 กิโลเมตร มันแล้งขนาดนั้นแหละ อาหารการกินในวัยเด็กนี่ผมก็จำได้ พ่อได้ปลาช่อนตัวเล็ก ๆ มาตัวสองตัวก็ต้องต้มกับน้ำปลาร้าเพื่อเอามาทำน้ำพริกใสๆกินกะข้าวเหนียว คือให้อิ่มเข้าไว้ รสของอาหารเน้นให้เผ็ดเพื่อให้กินข้าวและผักได้เยอะ ผมก็ติดรสเผ็ดมาแต่ครั้งกระนั้น สมัยลูกๆ นี่ชีวิตของเขาต่างจากผมเยอะ ผมเรียนโรงเรียนบ้านนอก เขาเรียนในโรงเรียนในจังหวัด อ่านเขียนเก่งกว่าผมเยอะถ้าเทียบอายุเท่ากัน ถ้าพูดเรื่องลูกๆ ผมมีความสุขเสมอครับ ผมพูดกับภรรยาว่า ชีวิตของผมไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าความสุขความสำเร็จของลูกนะครับ และเราก็คิดเรื่องนี้ตรงกัน จึงมีกิจกรรมในครอบครัวด้วยกันอยู่เรื่อย ๆ เช่นเล่นแบ็ต เล่นบาส ผมทำสนามเล็กไว้เล่นกันครับ คุณ-ร้อยแปดพันเก้า-กินมื้อเย็นหรือยังครับ ภรรยาของผมทำแกงเห็ดน้ำหมาก(เห็ดแดงในป่า)ไว้ให้ก่อนเข้าไปในเมือง ผมจะกินเผื่อนะครับ
5 ตุลาคม 2548 19:55 น. - comment id 523574
เดินทางโดยสวัสดิภาพครับคุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ อย่าลืมเก็บบรรยากาศและเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางมาเขียนให้อ่านบ้าง จะรอติดตามนะครับ
5 ตุลาคม 2548 19:58 น. - comment id 523576
และทักทายคุณผู้หญิงไร้เงาด้วย ผมยิ้มนะครับเมื่ออ่านที่คุณเขียนไว้ โพสต์งานของคุณให้อ่านเรื่อยๆนะครับ ผมจะเฝ้าติดตาม
6 ตุลาคม 2548 06:40 น. - comment id 523816
เรียนคุณก่อพงษ์ หลอนของคุณนั้นมีความหมายทีดีนะ
6 ตุลาคม 2548 11:39 น. - comment id 523936
สวัสดีครับ คุณก่อพงษ์ เพิ่งเข้ามาอ่านที่นี่ เมื่อเช้าไม่ค่อยว่าง เห็นกลอนวางใหม่ ก็เลยเปิดอันนั้นก่อน อยากกินแกงเห็ดน้ำหมากจังแฮะ ขอบคุณครับ ที่ระลึกถึงกัน อยากให้คุณก่อพงษ์เห็นแม่คะนิ้งที่ดอยอ่างขางครับ ทางนี้เรียกเหมยขาบ ไม่แน่ใจว่าปีนี้จะหนาวจนได้เห็นหรือไม่ แต่คาดว่าจะหนาวนะครับ เพราะปีนี้น้ำมาก ผมอยู่จนชินแล้วครับ ชอบอากาศเย็น แต่ผมว่าทางอีสานหนาวเข้ากระดูกเหมือนกันนะครับ หนาวแห้งๆ แต่เราก็คุ้นชินกับมันได้ในที่สุด ว่างๆจะเข้ามาคุยด้วยครับ
6 ตุลาคม 2548 21:05 น. - comment id 524226
เข้ามาทักทายภาคค่ำนะครับคุณแสงไร้เงา ผมเข้าใจว่าคุณชม ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับเนี่ย ขอบคุณครับผมที่เข้ามาแวะทักทาย คงได้พูดคุยกันอีกครับ
6 ตุลาคม 2548 21:17 น. - comment id 524234
มาตอบคุณ-ร้อยแปดพันเก้า-ต่อครับ ทางนี้มีเห็ดป่าเยอะครับ สีเหลืองสีขาว สีดำ สีแดง ดอกใหญ่ๆขนาด 2 ฝ่ามือวางชิดกันก็มี แบบเป็นทรงกลมใสข้างในเหมือนขนมทับทิมกรอบก็มี แบบทรงกลมยุ่นๆเหนียวๆก็มี ฝนแรกนี่ชาวบ้านไปเก็บเห็ดกันทั้งหมู่บ้าน แล้วก็ได้กันมาทำมื้อเช้ามื้อเที่ยงกันทุกคน ป่าก็เป็นพวกเต็งรัง ป่าโคก ออกโปร่งๆแล้วครับ เห็นที่ผมว่ามาน่ะกินได้ทั้งนั้นครับ สมัยเป็นเด็กแม่พาไปหาเก็บเห็ดในป่าใกล้บ้าน ก็ห่างบ้านไปราว 7-8 กิโลครับ เดินไปแต่เช้ามืด ไปถึงป่าก็พอดีสว่าง พูดถึงแกงเห็ด รสชาติที่ผมชอบคือเปรี้ยวนำเผ็ด เปรี้ยวนี่เอามาจากใบมะขามอ่อนนะครับ กินเป็นของเล่นก็ใช้ได้ครับ กินเห็ดทุกครั้งผมก็จะคิดว่าผมได้แร่ธาตุหลายอย่างจากดินจากป่า ความจริงร่างกายของคนเราก็มาจากอาหารที่เรากินนี่แหละใช่ไหมครับ เหมยขาบ ผมเคยเห็นในโปสเตอร์ที่เด็กนักเรียนเอามาแปะฝาห้องเรียนนะครับ ของจริงผมไม่เคยเห็น ถ้าอากาศหนาวจนเกิดเหมยขาบ นั่นก็แสดงว่าอุณหภูมิลดต่ำลงมาก นึกแล้วหนาวครับ
7 ตุลาคม 2548 11:00 น. - comment id 524474
ใช่ ...เรานะชม แต่ขอโทษด้วยนะที่เขียนผิด เจ๋งมากกกกกกกกก แล้วจะแวะมาใหม่นะจ๊ะ
7 ตุลาคม 2548 20:17 น. - comment id 524776
คุณแสงไร้เงาเข้ามายืนยัน ต้องขอขอบคุณอีกครั้งนะครับ