27 พฤษภาคม 2548 16:53 น.

ความจริง

vaproud

หยิบพู่กันแทนดินสอปากกาวาด
แล้วค่อยปาดสีสันอันสดใส
แต้มเติมส่วนที่ว่างเปล่าอย่างตั้งใจ
ปล่อยความฝันนั้นไว้ในจินตนา

ก่อนเด็กน้อยเคยวาดฝันโลกใบใหญ่
ฉันจะเติมสีอะไรให้มีค่า
ร้อยสรรพสารพันความฝันนานา
ความสวยงามในดวงตาช่างมากมาย

ปล่อยพู่กันตามอย่างใจอิสระ
ดั่งจังหวะดนตรีอันหลากหลาย
ยามเมื่อบรรเลงก็ระบัดระบาย
กลับกลายเป็นความสุขในใจตน

ต้นไม้ของฉันมีใบสีเหลืองฟ้า
ปรารถนาให้หลังคาเป็นสีหม่น
ทาวงกลมสีเขียวเป็นหยดฝน
ลงสีแดงเป็นรูปคนยิ้มสดใส

แต่เมื่อวันที่ฉันโตจึงพบว่า
วันเวลาสอนให้มองโลกกว้างใหญ่
ระหว่างฝัน จินตนาการ จิตใจ
บางคราต้องยืนไว้บนความจริง

บางมุมมองอาจมิได้สวยงามนัก
บ้างสลับซับซ้อนในสรรพสิ่ง
บ้างอยากหลบซ่อนความฝันจนละทิ้ง
ความเป็นจริงที่ดวงตาเห็นรู้

วันนี้ฉันหยิบสีสันบรรจงวาด
ค่อยค่อยปาดตามความฝันที่มีอยู่
พินิจถึงวันวัยพิจารณาดู
สุดท้ายแล้วต้องเผชิญสู้ความจริง


วาพราว				
2 มีนาคม 2548 12:03 น.

ผ่าน

vaproud

ที่ขอบฟ้าตะวันพ้นขึ้นฝั่งโพ้น
ลมพัดโอนพรูผ่านมาอ่อนไหว
แมกไม้พราวเขียวคลุมชอุ่มใบ
บ้างปลิวคว้างสู่ใจของสายธาร
ละล่องลอยคล้อยไหลตามระลอกเคลื่อน
สายน้ำเลื่อนแตกลายกระเซ็นซ่าน
พาใบไม้ลับไกลในกระแสกาล
คล้ายชีวิตเลือนผ่านในวันและคืน				
12 ตุลาคม 2547 10:04 น.

อีกไม่นาน

vaproud


เมฆคล้ำเคลื่อนผ่านบานหน้าต่าง
หอบพัดความเปล่าว้างมาทายทัก
แล้วเม็ดฝนก็โปรยปรายอย่างหนัก
เจ้านกน้อยหลบพักใต้หลังคาร้าง

เหน็บหนาวมาอย่างไรเล่าใจนก
ตื่นตระหนกจะโผผกให้ไกลห่าง
เมื่อเสียงฝนหล่นบรรเลงเพลงหม่นคว้าง
ฟ้าทั้งฟ้ายังไม่จางสีฝน

คงมีหลากหลายชีวิตรอคอยเจ้า
ดวงใจเฝ้าฝ่าความหนาวให้ผ่านพ้น
ภายในดวงตาฝากรอยกังวล
สักกี่หนกี่ทิศทางเพื่อโบยบิน

รอคอยเถิดใจนก
อย่าวิตก  เจ้าต้องได้ซบถิ่น
เมื่อหยาดฝนลับฟ้าน้ำค้างริน
เจ้าจะได้โผผินตามอิสรา

อีกไม่นานแสงตะวันจะทอรุ้ง
ที่โค้งคุ้งดั่งเฝ้าปรารถนา
ณ  ที่ซึ่งทางฝันยามจากมา
ณ  ที่ซึ่งขอบฟ้าเจ้ามองเห็น


วาพราว
ค่ำ  ๑๑  ตุลาคม  ๔๗				
17 กันยายน 2547 18:31 น.

คนรัก

vaproud




คนรัก

๑.
อรุณสวัสดิ์ค่ะ  คนรัก
ลมข้าวทายทักบทเพลงหนาว
อ่อนหวานในอ่อนไหวมาพรูพราว
ท่ามกลางฉากของเช้าแสดง
แดดอุ่นสะท้อนผ่านหน้าต่างฟ้า
ส่องกระทบม่านตาให้ตื่นแสง
ชมไม้ดอกบนลานเมืองสะพรั่งแดง
สอดสลับประดับแต้มทางสัญจร

๒.
เมื่อคืนหลับสบายไหม?  คนรัก
ฝนตกหนักหรืออากาศแผ่วร้อน
ที่นี่กว่าจะฝืนข่มตาหลับนอน
ก็ผันผ่านมาครึ่งค่อนของค่ำคืน
นั่งฟังบทเพลงบรรเลงเรื่องราว
นั่งดูข่าวความเป็นไปที่ไหวตื่น
ภาพเหตุการณ์ฉายซ้ำย้ำจะกลืน
เปลี่ยนฉากจากจุดยืนในตัวตน

๓.
เหนื่อยล้าบ้างอย่างไรล่ะคนรัก
ภาระใดสุมรัดให้สับสน
หยาดเหงื่อไหลอาบมาเปื้อนปน
อยากจะซับรอยหม่นจากดวงตา
ภาระที่แตกต่างไประหว่างวัน
บ้างเหนื่อย  บ้างฝัน  บ้างคิดล้า
คงไม่แปลกต่างใจประสบพา
บางทีอยากหลับตาชั่วนิรันดร์

๔.
คิดถึงค่ะคนรัก
คือ  ส่วนหนึ่งคำรัก  ของคนฝัน
คือ  เส้นด้ายเปล่าว่างสานสัมพันธ์
ผูกปลายนิ้วระหว่างกันระหว่างใจ
คนรัก
ที่ซึ่งตะวันลับเธอเห็นไหม
ความรักของฉันอยู่ไม่ไกล
เธอสัมผัสได้  ฉันรู้


คนรัก
ที่ซึ่งตะวันลับ  ฟ้าคงอยู่
ฉันมีรัก  ฉันมีรัก  ที่ฉันรู้...
............ฯลฯ


 วาพราว				
13 กันยายน 2547 22:36 น.

กาลครั้งหนึ่ง...

vaproud



ลมฝนต้นเดือนกันยา                   ร่วงพราวกราวฟ้า
สู่ดวงตาสะท้อนใจ

ฟังสิ,สะท้อนภายใน                      คล้ายสะอื้นไห้
ดังไกลจากฟ้าฝั่งโพ้น

ลมฝนโยกไกวไหวโอน                 หนาวลมเร้าโลม
ใบไม้โน้มจุมพิตดิน

บ้างคว้างปลิวพลิ้วโผผิน                 ดั่งปีกโบยบิน
ล่องลอยสู่ถิ่นที่ใด

ฝังฝากรักนำทางไป                       วางลงกลางใจ
ที่ซึ่งใบไม้ไกลลับ

ณ  มุมหนึ่งแห่งห้องหับ                   ซาบซึ้งซึมซับ
ถ้อยคำลึกลับอ่อนไหว

กรุ่นเอยเคยอุ่นอวลไอ                     มิรู้จางไป
อดีตถามไถ่ความฝัน

เผยยิ้มเหงากับตะวัน                       ในสายฝนนั้น
ไม่มีสีสันส่องถึง

บานหน้าต่างเศร้าตราตรึง                ครุ่นคิดคำนึง
กาลครั้งหนึ่งความรัก


______________________

ค่ำของคืนที่  ๑๒  กันยายน  ๒๕๔๗
๒๐.๓๓ น.				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟvaproud
Lovings  vaproud เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟvaproud
Lovings  vaproud เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟvaproud
Lovings  vaproud เลิฟ 0 คน
  vaproud
ไม่มีข้อความส่งถึงvaproud