7 มิถุนายน 2547 13:02 น.

วันนั้นกับหญิงชราข้างทางรถไฟ

vaproud

เคลื่อนไหว...ทุกสิ่งดูคล้ายจะเคลื่อนไหว  ประตู  บานหน้าต่าง  โคมไฟหรือแม้แต่ดินสอสีที่สามารถคว้างลอยกลางอากาศได้ภายในหนึ่งวินาที  ของทุกสิ่งเป็นไปตามจังหวะการสั่นสะเทือนอย่างรวดเร็วเพียงเสี้ยวพริบตาหนึ่ง  ฉันต้องปลุกตัวเองตื่นจากภาพฝัน  ก่อนที่บางสิ่งจะเคลื่อนไหวอีกครั้ง 

          ยามสายของเช้านี้  ฟากฝั่งฟ้าตะวันออกถูกเคลือบคลุมไปด้วยเมฆคล้ำหม่นหนา  ฉันกวาดสายตาข้ามไปยังฝั่งฟ้าตะวันตก  บางสิ่งกำลังเดินทางไปอย่างเงียบเชียบที่สุด  โดยไร้ทิศทาง  ไร้จุดหมาย  แล้วความเยียบเย็นจึงแทรกตัวผ่านเข้ามาทักทาย  ฉันสัมผัสได้ถึงละอองใสที่ทิ้งตัวอย่างเป็นอิสระลงบนพื้นดิน  เวลานี้ภายนอกบานหน้าต่างกลายเป็นเพียงหมอกม่านสีขาวขุ่นไม่ว่าจะมองไปทางไหน  นิ่งเงียบฟังเสียงสายฝน  กว่าจะรู้ตัว   ภาพบางภาพได้เคลื่อนไหวปรากฏในมุมหนึ่งของความทรงจำ... 

          การเดินทางของคนเราไม่เคยหยุดนิ่ง  ตราบเท่าที่ลมหายใจและพลังแห่งความฝันจะเหลืออยู่  เฉกเช่นเดียวกับวันที่ฉันก้าวผ่านออกจากประตูบ้าน  โลกใบใหญ่กำลังรอคอยให้เติมแต่งสิ่งสวยงามและเกี่ยวเก็บประสบการณ์อยู่เสมอ  ฉันเก็บภาพของเมือง  วิถีชีวิตของผู้คน   ธรรมชาติ  และสิ่งที่พบเจอ  ภาพสุดท้ายที่ยังคงตรึงอยู่ในความรู้สึกของฉันก็คือ  ภาพของหญิงชราที่พนมมือไหว้ก้มกราบผู้คน  ที่สัญจรผ่านไปมาอยู่ริมทางรถไฟ  ภายในดวงตาสีโศกคู่นั้น  ได้สะท้อนถึงเรื่องราวมากมายของชีวิตที่มีค่ามากกว่า   จำนวนเหรียญในขันน้ำใบเก่าๆ ที่ตั้งวางอยู่ตรงหน้า  ทำให้นึกย้อนภาพกลับไปตอนที่ได้เดินทางไปหาพี่ทิกิ (Tiki)  ที่คอนโด  รอยยิ้มและน้ำใจอันงดงามส่งผ่านมาให้ได้สัมผัสทุกครั้งที่เยี่ยมเยือน  มิตรภาพระหว่างเราไม่เคยมีคำใดมาขีดขั้นหรือจำกัด  พี่ทิกิพาไปบ้านคุณยาย (แม่ของพี่ทิกิ)  เราออกเดินทางไปด้วยกันบนสายถนนที่มีความเคลื่อนไหว  ไม่คาดคิดมาก่อนว่า  การที่ได้เดินทางมาเยี่ยมคุณแม่ของพี่ทิกิในวันนั้นจะเป็นภาพความทรงจำที่หยั่งลึกลงในความรู้สึกของฉันได้ 

          คุณยาย  พี่ทิกิ  และฉันนั่งร่วมรับประทานอาหารเย็นด้วยกันท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นกันเองและสีเขียวของใบไม้   บทสนทนาเริ่มต้นคุยกันอย่างสนุกสนาน   เรื่องราวเก่าๆ   ถูกหยิบยกขึ้นมาเล่าผ่านความทรงจำของคุณยาย  ย้อนกลับไปเมื่อครั้งอดีตที่สวยงาม  พี่ทิกิให้ฉันอ่านบทโคลงและงานกวีมากมายให้คุณยายได้ฟัง    อ่านถูกอ่านผิดบ้างเป็นบางจังหวะ   คุณยายจะหัวเราะชอบใจทุกครั้งใบหน้าที่เปื้อนยิ้มนั้นกำลังเล่าเรื่องแห่งความสุขใจ   

          ช่วงเวลาแห่งความสุขมักจะวิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอ  เราเพียงได้แต่เก็บความทรงจำดีๆ  เหล่านั้นไว้เพียงภาพๆ      หนึ่งในกล่องความทรงจำ  แววตาที่พี่ทิกิมองคุณแม่ด้วยความรัก  ความเข้าใจ  อ้อมกอด  คำถามไถ่   ในฐานะคนภายนอกอย่างฉันได้เพียงแต่ยิ้มและเก็บความรู้สึกดีๆ  เอาไว้    ตื้นตันที่เป็นส่วนเล็กๆ  ส่วนหนึ่งในภาพความทรงจำนี้... 

          ฉันอยากเปลี่ยนดวงตาสีโศกของหญิงชราคนนั้น    ภายในจิตใจก่อเกิดคำถามนานาสารพันว่า   ลูกหลานของเขาอยู่หนใดหนอ  ถึงได้ทิ้งคว้างดวงใจดวงหนึ่งอย่างไม่เห็นคุณค่าไว้ริมทางเช่นนี้  พวกเขาจะรู้บ้างไหมดวงใจกำลังเปื้อนฝุ่น  เปียกปอนกับสายฝนเหน็บหนาว  และจะรู้ไหมหากว่าดวงใจหวงนี้กำลังจะดับสูญไปสักวัน  ในมุมหนึ่งมุมใดของเมือง...

          ปู๊น...ปู๊น...เสียงหวูดรถไฟส่งสัญญาณแผดดังมายังโสตประสาท  ฉันสะดุ้งตกใจ  สายตาเหม่อลอยคืนสภาพปกติเรียกสติกลับคืนอีกครั้ง  ภาพสุดท้ายร่วงหายไปในเม็ดฝน  แตกกระจายไหลรวมลงสู่ท่อระบายน้ำ   แล้วบางสิ่งจึงเริ่มเคลื่อนไหว...ประตู   บานหน้าต่าง โคมไฟหรือแม้แต่ดินสอสีที่สามารถคว้างลอยกลางอากาศได้ภายในหนึ่งวินาที   
          โครม......!!!
          ........................................................
  



___________________________

ขอบคุณพี่ทิกิค่ะ  
ที่ให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในภาพความทรงจำวันนั้น...
ความรักของพี่ทิกิกับคุณแม่ยิ่งใหญ่มาก  
สะท้อนภาพและเป็นแบบอย่างดีๆให้ 
คิดถึงคุณยายค่ะ...วันนี้เราห่างไกล
แต่ความห่างไกลก่อกั้นก็แค่ระยะทาง
เดี๋ยวนั่งรถไฟหน้าบ้านไปเลย
ปู๊น...ปู๊น 

ภาพ : ป๋าแก่ - วาพราว				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟvaproud
Lovings  vaproud เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟvaproud
Lovings  vaproud เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟvaproud
Lovings  vaproud เลิฟ 0 คน
  vaproud
ไม่มีข้อความส่งถึงvaproud