โลกแห่งเรา

ราม ลิขิต

๐ป่าหรือเมืองเรืองไรหากใจรุ่ง
ตึกหรือทุ่งรังรองหากมองเห็น
มีแง่มุมยาวกว้างต่างประเด็น
ประดับเร้นลึกลับใช่กับตา
๐ในวันเบื่อเหลือร้ายที่ใจร่อย
เถื่อนก็ถอยทุ่งเพริดระเบิดผา
เมืองก็เหมือนไม่มีแล้วชีวา
โลกไร้ค่าอับจนสิ้นหนทาง
๐คนแปลกหน้าย่างกรายหัวใจเจ็บ
จะแกะเก็บทุกข์ถอนเที่ยวผ่อนถาง
ก็เงอะงะระเหงาซ่อนเงาพราง
อยู่เคว้งคว้างกลางขมสังคมคน
๐สุมฟืนไฟรอฝนประดนฝัน
หัวใจกลั่นรินกลอนสุนทรผล
สุขระบายฉายชื้นชื่นกมล
ขณะตนทุกข์ไต่ไปทั้งตัว/.				
comments powered by Disqus
  • น้ำ

    14 มิถุนายน 2546 19:09 น. - comment id 147096

    เลือดกวีท่าน เข้มข้นนิ มาเชียอะ
    ขอลือขานกลอนครูสุนทรภู่สักวันนิ
    
    เขาย่อมเปรียบเทียบความว่ายามรัก
    แต่น้ำผักต้มขมชมว่าหวาน
    ครั้นจืดจางห่างเหินไปเนิ่นนาน
    แต่น้ำตาลก็ว่าเปรี้ยวไม่เหลียวแล
    
    อิอิรักแล้วไม่หน่ายไม่วายเขียนอะ
  • พุดพัดชา

    15 มิถุนายน 2546 01:59 น. - comment id 147152

    สุมดอกรักปักทอทอดแตกยอดฝัน
    หัวใจหวั่นแค่ฝันคว้างห่างสับสน
    สุขชั่วฝันวันคืนตรอมกมล
    แม้จะหม่นแม้จะหมองไม่อยากครองไว้ผู้เดียวเพียงลำพัง!
    
    มาด้วยศรัทธาในรัก..ในชื่นชมกับงามคำสุดยอดเลยค่ะ
    
  • เทพธรรม

    15 มิถุนายน 2546 06:25 น. - comment id 147167

    โอโห..งามจับจิตมากๆคะ
    ขออนุญาติ copy ไปให้ญาติธรรมอ่านนะครับ
    เพื่อประโยชน์มากมายนะขอรับ
    คุณ ราม ลิขิต  และขอเชิญไปร่วมฝากบทกลอนไว้ด้วยมากๆจะเป็นพระคุณยิ่งครับ
    
    ที่....http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vboard.php?user=dokgaew13
    
    ผมมาที่ลานนี้ทุกวันครับ
    
  • เพื่อนไพร

    15 มิถุนายน 2546 18:31 น. - comment id 147273

    แวะมาให้กำลังใจค่ะ
  • พี่ดอกแก้ว

    15 มิถุนายน 2546 22:39 น. - comment id 147305

    ใจบรรเจิดจิตพร่างสว่างไสว 
    ณ เบื้องไกลให้กระจ่างดั่งมองเห็น 
    ณ เบื้องลึกก็ตรึกทั่วทุกประเด็น 
    ณ เบื้องกาฬฉานเช่นเห็นชัดตา 
    
    ใจสงบพบความสงัดเงียบ 
    แม้นที่เปรียบชุมผ่านศูนย์การค้า 
    แม้นที่โต้คารมคมวาจา 
    แม้นที่ทุกข์พบพามิพรั่นพรึง 
    
    ใจละมุนอุ่นไอในพรหมวิหาร 
    ก็เบิกบานเมื่อพบสบคนขึง 
    ก็เยือกเย็นดุจน้ำยามโทษตรึง 
    ก็ยื่นให้แม้นถึงทุรกาล 
    
    ใจมีคมชมโชคไม่โศกเศร้า 
    พบคนเขลาก็ยังสุขสนุกสนาน 
    พบคนโศกก็โยกย้ายให้เบิกบาน 
    พบคนพาลก็ระงับดับปวงภัย 
    
    ในความต่างห่างไกลในความเปลี่ยน 
    ที่หมุนเวียนเจริญทรามตามสมัย 
    หากเข้มแข็งเพิ่มแรงให้จิตใจ 
    ก็จะไร้ปัญหาทุกคราเอย 
    
    
    สวัสดีคะทุกๆท่าน
    คุณราม ลิขิต...แต่งกลอนชี้ชัดได้ซึ้งจริงๆคะ
  • somebody

    17 มิถุนายน 2546 00:47 น. - comment id 147641

    สวัสดีครับคุณน้ำ, คุณพุดพัดชา, คุณเทพธรรม, คุณเพื่อนไพร, คุณพี่ดอกแก้ว
    
    ช่วงหลังเข้าออกไม่ค่อยสม่ำเสมอครับ ต้องขออภัยด้วย พอดีต้องไปสนทนาอะไรกับผู้เฒ่าผู้แก่อยู่บ่อยๆ
    
    คุณน้ำครับถ้าเปลี่ยนจาก นิ เป็น ฮิ ผมว่าต้องเป็นคนจันท์เหมือนผมแน่ๆเลย ที่คุณน้ำว่ามานี่ถูกเลยนะครับ เพราะผมกินน้ำตาลเปรี้ยวมาหลายปี๊บแล้ว จนกินก๋วยเตี๋ยวตักน้ำส้มมาใส่ยังนึกว่าน้ำตาลเลย..คนแก่ก็งี้แหละหลงๆลืมๆ
    
    ...........................................................
    
    ขอบคุณคุณพุดพัดชามากครับ นานๆจะเห็นคนใจกว้างสักที แต่ออกเศร้าๆอยู่นะครับ
    
    ...........................................................
    
    ด้วยความเต็มใจครับคุณเทพธรรม ผมเองได้เข้าไปดูมาหลายครั้งหน กำลังตระเตรียมเอาอะไรไปคุยด้วยอยู่เหมือนกันครับ
    
    ...........................................................
    
    ขอบคุณกำลังใจจากคุณเพื่อนไพรมากครับ
    
    ...........................................................
    
    คุณพี่ดอกแก้วครับ พรหมวิหาร ๔ แต่ก่อนผมไม่เคยสนใจเลย มาบัดนี้ถือเป็นหนึ่งหมวดที่มีไว้ประจำใจ ไม่มีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา จะเป็นผู้ใหญ่ที่ดีไม่ได้และจิตใจเราจะไม่มีวันเลยที่จะสงบกับสิ่งที่มากระทบ ขอบคุณสำหรับบทกลอนเยือกเย็นสำนวนนี้มากครับ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน