::จากใจคนจร::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


1.  จึงนอนหนุนตักเพราะรักคุณ
     อบอุ่นคุ้นในใจเสมอ
     แววตาจริงใจที่ได้เจอ
     รักนั้นจึงเอ่อท้นหัวใจ
2.  แรมรอนมาไกลในชีวิต
     หมายพบมิ่งมิตรในวันใหม่
     เมื่อพบก็ไม่หมายกรายไกล
     ฝากใฝ่ให้ช่วยชูช่วยดูแล
3.  ความฝันอันแสนธรรมดา
     คิดว่าคงไม่ทำให้ย่ำแย่
     แต่กระนั้นก็เจียมหัวใจแจ
     กลัวคุณรังแกแลเกลียดชัง
4.  แม้นคุณหยันใจไม่อาทร
     ก็คงต้องจรไปอีกครั้ง
     ชีวิตเร่ร่อนจรจัดจัง
     แรมรอนเหลียวหลังแล้วช่างล้า
5.  ชีวิตวันนี้ที่มีคุณ
     เอื้ออุ่นตอบรักชื่นนักหนา
     รับเถิดฝันชัดเต็มอัตรา
     ถ้วนด้วยศรัทธา   แด่คุณ
ฯ
     				
comments powered by Disqus
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    16 ตุลาคม 2548 04:48 น. - comment id 527802

    อรุณสวัสดิ์ครับมิตร
        
         ผมตื่นเช้ามาก  เข้ามาอ่านแล้วก็อยากเขียน   เขียนถ้อยคำที่อ่านเมื่อใดก็ได้ยิ้ม มีความสุข  ผมอาจยิ้มเอง มีความสุขเอง  ก็ไม่เป็นไร  ส่วนถ้ามิตรของผมมีความสุข  ได้ยิ้มด้วยนั่นก็ยิ่งทำให้หัวใจของผมปรีดานัก
    
         สวัสดีครับคุณอัลมิตรา  คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้
    คุณร้อยแปดพันเก้า  คุณดอกแก้ว  คุณเพรง.พเยีย คุณนางสาวใบไม้  คุณธรรม คุณบัวกันต์  คุณมัท  คุณตุ๊กตาไล่ฝน  คุณชัยชนะ  คุณผู้หญิงไร้เงา  คุณมนต์กวี คุณร้อยฝัน  คุณพุด
    คุณชลกานต์ คุณแดดเช้า  และมิตรทุกท่านที่ผมยังไม่ได้เอ่ยนาม
    
          แล้วคุยกันอีกครับ
  • จิตรนัย

    16 ตุลาคม 2548 05:03 น. - comment id 527806

    ไม่มีชื่อเรา 54.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    16 ตุลาคม 2548 05:06 น. - comment id 527807

    อรุณสวัสดิ์ครับคุณจิตรนัย
    ตื่นเช้าเหมือนกันนะครับ  หรือว่ายังไม่นอน
    
    กินกาแฟเช้ากันครับ
  • จิตรนัย

    16 ตุลาคม 2548 06:08 น. - comment id 527813

    ยังไม่นอนขอรับ
    59.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    16 ตุลาคม 2548 06:13 น. - comment id 527814

    ผมเคยนอนเอาตอนเช้าเหมือนกัน
    ตอนนั้นเร่งปิดเล่มหนังสือพิมพ์
    ไม่ได้นอนกันทั้งโรงพิมพ์
    
    ผมเคยทำงานแบบฝึกงานช่วงสั้นๆในโรงพิมพ์
    
    เครียดครับ
    
    เลยทำอยู่ได้ไม่นาน
  • จิตรนัย

    16 ตุลาคม 2548 06:25 น. - comment id 527816

    ชอบบรรยากาศยามค่ำคืน
    เย็น,เงียบ,สงบ,สงัด
    นาน ๆ จะได้อยู่สักทีขอรับ
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    16 ตุลาคม 2548 06:28 น. - comment id 527817

    อ๋อ...
    เข้าใจแล้วครับ
    
    ผมก็จะอยู่ในเว็บอีกนิดก่อนออกไปทำงาน
    
    
    สบายดีครับ
  • จิตรนัย

    16 ตุลาคม 2548 06:40 น. - comment id 527819

    สุขกับงานนะขอรับ
    คารวะ 59.gif
  • แดดเช้า

    16 ตุลาคม 2548 07:39 น. - comment id 527821

    สวัสดีมิ่งมิตร
    มาเสพถ้อยรอยลิขิตที่มิตรเขียน
    ผลิผลดลบันดาลงานพากเพียร
    น้อมใจเรียนคารวะมิตรกวี : )
    
    สวัสดีค่ะ ... มาอ่านกลอนแต่เช้า
    ขอให้เช้านี้สดใสในใจคุณนะคะ
  • -ร้อยแปดพันเก้า-

    16 ตุลาคม 2548 13:05 น. - comment id 527859

    สวัสดีครับ คุณก่อพงษ์
    59.gif59.gif
    
    อ่านกลอนก็หายเหนื่อย อากาศเย็นๆก็ดูอุ่นขึ้น มีมิตรให้คิดถึง 
    ผมเป็นได้แค่บทกลอนบทที่สองของคุณก่อพงษ์ เลยโดนใจ บทแรกคงเป็นได้แค่ความรู้สึกที่เคยเกิดขึ้นในหัวใจ อย่างน้อยก็ยังมีอดีตให้คิดถึง
    
    อ่านมาจนจบก็แอบอิจฉาคุณก่อพงษ์เล็กๆโดยเฉพาะบทสุดท้าย
     ผมไม่ทราบหรอกครับว่าอะไรคือแรงบันดาลใจของใครในการเขียนอะไรได้แบบนี้ แต่ไม่ว่าจะเขียนออกมาแบบไหน ก็ทำให้คนเขียนอะไรไม่เป็นอย่างผมได้ยิ้มทุกครั้ง62.gif
    
    ทำงานให้มีความสุขนะครับ ช่วงนี้ไม่ค่ยเห็นสหายธรรมเลย คงจะงานยุ่ง
    
    รักษาสุขภาพครับ
  • อัลมิตรา

    16 ตุลาคม 2548 15:59 น. - comment id 527892

    วานนี้ .. มีคนบอกว่า 
    หากเขาไปเยือนคุณก่อพงษ์ อัลมิตราจะไปด้วยไหม ?
    ไม่มีความลังเลในหัวใจ .. อัลมิตราบอกว่า ไป
    
    บางทีที่รู้สึกคว้างกลางเมืองใหญ่ ที่ซุกเพื่อให้ปลอบใจก็หาไม่เจอ
    ภาพที่อัลมิตรานึกออก เป็นภาพที่คุณก่อพงษ์เขียนบรรยายให้อ่าน
    บ้านที่อบอุ่น บ่อปลาที่รอให้อัลมิตราปูเสื่อนั่งตกปลา
    ใต้ต้นไม้ใหญ่ .. เรานั่งล้อมวงกันทานข้าว
    ด้านหลังฉากเป็นภูเขา ..( ว๊า นึกชื่อไม่ออก ภูพานใช่เปล่าหนอ)
    
    อัลมิตราไม่มีเครือญาติที่อยู่ชนบท 
    เวลาไปท่องเที่ยว ก็พักที่โรงแรมหรือไม่ก็รีสอร์ท 
    ความสุขมันคนละอย่างกันกับที่หลายต่อหลายคนกลับบ้าน กลับภูมิถิ่นฐานของตน
    อัลมิตรา ได้แต่ฝันว่า สักวัน ..
    อัลมิตราจะมีถิ่นฐานของตน และมีรูปแบบการดำเนินชีวิตเรียบง่าย
    
    เอาหัวใจมาแฉ แบบขาร๊อคเชียวนะ อัลมิตราเนี่ย ..
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    16 ตุลาคม 2548 17:03 น. - comment id 527896

    สวัสดีครับคุณจิตรนัย คุณแดดเช้า
    คุณร้อยแปดพันเก้า  และคุณอัลมิตรา
    
         ขอบคุณในมิตรไมตรีครับ
    
    -----------------------------
    
          แรงบันดาลใจในการเขียน หลายครั้งผมมาหาเอาในเว็บ
    
          อย่าง 2 - 3 บทที่ผมโพสต์ต่อ ๆ กันมานี่ก็เขียนหลังจากที่ได้อ่านงานของคุณอัลมิตราบ้าง   ของมิตรท่านอื่น บ้าง   รวมทั้งสรุปวิเคราะห์ความเป็นไปของเรื่องราวในเว็บ ที่ผมรับรู้แล้วเกิดความรู้สึกว่า  จะต้องพูดอะไรบ้างเพื่อบอกมิตร ว่าผมอยู่ข้างเขา หรือพร้อมที่จะยืนเคียงเขา
          แต่ว่าผมก็มีพื้นหรือฐานความคิดอยู่ด้วยจำนวนหนึ่ง  แบบที่เขาใช้คำว่า  โลกทัศน์- ชีวทัศน์ นั่นแหละครับ   เมื่อเอาสองส่วนมารวมกัน  ก็กลายเป็นงาน ที่ตัวผมผู้เขียนเองพอใจที่ได้บอกออกไป   ซึ่งผมก็เชื่อว่ามิตรของผมรู้
    
          เราอยู่ในโลกที่อ้างว้างพอแรงแล้ว   เราไม่ควรทำร้ายกัน จนต้องตัดเพื่อนออกไปจากชีวิต  คุณเห็นด้วยไหมครับ
           เพราะถ้าต้องทำเช่นนั้น แม้เป็นทางเลือกสุดท้ายหรือไม่ก็ตาม  มันก็เป็นความปวดเจ็บที่จะอยู่ในใจเราไปจนที่เราต้องคืนลมหายใจให้แก่โลก
    
           ผมยังไม่อยากเขียนบทกวีบทเจ็บบทสุดท้ายแบบนั้น
    
           แล้วคุยกันอีกครับคุณร้อยแปดพันเก้า
    
    --------------------------------
    
            ทักทายคุณอัลมิตราครับ
    
             ผมเดาว่า   เหตุการณ์เมื่อวานที่คุณอัลมิตราพูดถึง   น่าจะมีคุณธรรม  หรือไม่ก็คุณกอนกูยอยู่ด้วย
    
            ที่เดาไปเช่นนั้นก็เพราะ  ทั้งคุณธรรมและคุณกอนกูยเป็นมิตรที่ผมเคยได้พูดคุยด้วย  กับเคยได้เกริ่นชวนมาแวะบ้าน   เมื่อนานมาแล้ว
    
             ผมยินดีมากครับที่จะได้ต้อนรับมิตร  คุณอัลมิตรา  คุณธรรม คุณกอนกูย
    
             อย่างน้อยผมก็มีข้าวในยุ้งเอง    มีปลาในบ่อ  ที่คิดว่ากินได้หลายวัน   พืชผักก็ยังหาเอาแถวนั้นได้ด้วย   พวกเครื่องดื่มของกินของแกล้ม ในตลาดก็เลือกเอาได้ตามใจนิยม
    
             รอบรรยากาศดี ๆ ช่วงหนาวและข้าวไกวรวงสีทอง  เป็นคลื่นไล่กันไกลออกไป  - ใช่ครับฉากหลังเป็นภูพาน  เวลานั้น   เหมาะและงดงามที่สุด
    
             ให้คุณธรรมเอากีตาร์ไปด้วยนะครับ
    ผมจะร้องเพลงบทคุ้นให้ฟัง
    
             สำหรับฝันของคุณมิตรา เป็นจริงได้แน่ครับ
  • ร้อยฝัน

    16 ตุลาคม 2548 19:30 น. - comment id 527912

    มาสวัสดีคุณก่อพงษ์ค่ะ  บรรยากาศน่าจะคล้าย ๆ กับที่บ้าน  ผิดกันที่ติดบ่อปลา ไม่ได้เป็นทุ่งนา  แต่เป็นสวนมะขามหวาน กับมะม่วงหลากพันธุ์  ข้างหลังนั้นเป็นเทือกเขาดงพญาเย็น  ค่ะ
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    16 ตุลาคม 2548 21:48 น. - comment id 527939

    สวัสดีครับคุณร้อยฝัน
    
    กินข้าวมื้อเย็นหรือยังครับ
    วันนี้แฟนผมทำต้มยำปลาให้กินกะข้าวกล้อง
    นานๆถึงกินข้าวเจ้ากันน่ะครับ
    ก็อร่อยดี
    
    ที่คุณร้อยฝันอธิบาย ผมนึกไปถึงเพชรบูรณ์
    หรือไม่ก็ลพบุรีนครสวรรค์นะครับ
  • อัลมิตรา

    16 ตุลาคม 2548 23:33 น. - comment id 527994

    มีคนฝากมาบอกว่า .. \" จะเตรียมไปครับ แต่ว่าจะเป็นกีตาร์โปร่ง หรือ กีตาร์ไฟฟ้า ดี.. และฝากถามอีกนิดว่า ที่บ้านของคุณก่อพงษ์ มีหนังสือเพลงคาราวานมั๊ย ..ถ้ามี..รับรองว่า แจมกันได้ทั้งคืน ฮา .. สงสารเป็ดไก่จัง ต้องทนหนวกหู เช้ารุ่งขึ้นไก่ที่บ้านของคุณคงขันเป็นร๊อค \"
    
    ตอนนี้เขาอยู่ในที่ห้อง(ของเขา) เขาฝากอิจฉาลมหนาวด้วย อัลมิตราก็รับจ้างคีย์ข้อความแทนเขา แต่ไม่เป็นไร ไม่เหนื่อย.. เต็มใจ เพราะว่า อัลมิตราคิดตังค์เขาเป็น record ค่ะ
    
    เพลงบทคุ้นอยากฟังจังค่ะ ฮา .. แบบฮาอีกนิด
    มีคนเขาฝากบอก (ฝากอีกแล้ว) อยากได้ยินเสียงคุณก่อพงษ์ใจจะขาด .. ยิ่งนึกภาพตอนเป่าแคนด้วยแล้ว ( ว่าแต่ว่า .. ใช้หูเป่าเหรอ เขาบอกมางี้นะ)  
    
    อย่าลืม !!..เหล้าอุเรณูนครต้องเตรียมไว้ด้วยนะคะ .. เข้ากับบรรยากาศดีแท้ .. ดีไม่ดี คืนนั้นอาจเกิดปรากฏการณ์ประหลาด ที่สาวลูกกรุงลุกขึ้นมาเซิ้งแบบลูกทุ่ง .. ว่าแต่ว่า อัลมิตราต้องหัดนุ่งผ้าซิ่นก่อนมั๊ยเนี่ย .. ไม่มั่นใจเล้ย สงสัยต้องแอบใส่กางเกงขาสั้นไว้ข้างใน ไม่งั้นมีเฮกลางวงแน่ ... ฮ่า ฮ่า ฮ่า ...
    
    พอดีกว่า .. หัวเราะลั่นบ้านแล้วแหง๋เลย รู้น๊า ..
    
    มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า ..
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    16 ตุลาคม 2548 23:49 น. - comment id 527996

    มาทักทายกันดึกๆครับ
    
               เอากีตาร์โปร่งแล้วกัน  จะได้เล่นไกลบ้านคนได้สะดวกหน่อย   หนังสือเพลงค่ายเก็บไว้ให้แล้วครับคาราวานก็จะยืมหลานมานะครับ  จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้  ไก่และวัวที่บ้านฟังคาราบาวกะผมประจำ   ส่วนคาราวานผมฟังเองคนเดียว  
    
              อยากฟังแคนหรือครับ  ไว้ผมไปตลาดอินโดจีนเดี๋ยวหามาเปิดให้ฟัง  ผมยังไม่เก่งถึงขั้นเล่นพิณแคนฉิ่งเองคนเดียวแบบตัวละครในเรื่องที่ผมเคยเขียน  เรื่องอะไรน๊า..อ๋อ..::เสียงและภาพอันแคล้สสิก::- ฮา 
    
              เหล้าอุเรณูนครมีแยะไป  ไวน์ผลไม้พื้นบ้านจากตลาดกลางภูพานก็มีให้ชิมเยอะ แต่เวลากินนี่ผมชอบกับแกล้มมากกว่า   ดีกรีทำให้กินแกล้มอร่อยและคุยสนุก   ที่ผมประทับใจก็คือวิสกี้กับหนังวัวเผาแล้วทุบกินกะข้าวเหนี่ยวและแจ่วปลาร้าสับ -แค่คิดก็น้ำลายจะสอเลยครับ
    
               ฮ่า ๆ  สาวลูกกรุงจะลุกขึ้นรำเซิ้งหรือครับคงน่าดูแหละ
    
               เขาใส่ยีนส์รำซิ่งกันแยะไป
    
               เอิ๊กๆ
  • sun strom

    17 ตุลาคม 2548 10:08 น. - comment id 528026

    1.gif16.gif
    
    ชอบบทกลอนบทนี้มากค่ะ
    มองเห็นภาพพี่พงษ์นอนหนุนตักสาวคนนั้นด้วยดิคะ 
    
    อ่านไปก็อินไปกับบท นึกถึงภาพยนต์ที่มีฉากหนุ่มสาวนั่งพรอดรักกันข้าง ๆ กองฟางข้าวค่ะ
    
    เดือนตุลาคมเป็นเดือนที่จะเริ่มเข้าสู่หน้าหนาว แต่เดือนตุลาปีนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะหนาวเลยค่ะ เช้า ๆ ที่ตื่นขึ้นมาใส่บาตรก็มีหมอก แต่พอสายมาหน่อยก็ร้อนแล้วค่ะ
    
    ที่ขอนแก่นแม้จะไม่มีบรรยากาศเหมือนบ้านพี่พงษ์ หากแต่ก็อบอุ่นค่ะ อบอุ่นเหมือนนอนหนุนตักใครบางคนเลยค่ะพี่พงษ์
    
    อยากจะไปทานปลาเผาหน้าเตาผิง
    ที่นั่งอิงด้วยคนรัก แต่เสียดายที่คนรัก
     ของน้องนั้นช่างอยู่ไกล
    
    อยากไปด้วยนะคะพี่พงษ์ 
    สกลนครเคยไปมาสองสามครั้งค่ะ
    เคยไปเที่ยวตลาดอินโดนจีน
    เคยไปทำบุญที่วัดหลาย ๆ วัดซึ่งมัทจำชื่อไม่ค่อยได้ ตลอดรายทาง ตั้งแต่หนองคาย ไปจรดนครพนม ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 5 วัน 
    
    คิดถึงมิตรอย่างพี่พงษ์นะคะ แค่ได้เข้ามาอ่านก็มีความสุขแล้วค่ะ
  • เพรง.พเยีย

    17 ตุลาคม 2548 12:51 น. - comment id 528100

    มาเคาะประตูทักทายช้าไปหน่อย
    แต่ก็มาด้วยความตั้งใจค่ะ
    .
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    17 ตุลาคม 2548 14:44 น. - comment id 528255

    มาทักทายคุณมัทตอนบ่ายสองแก่ๆครับ
    
         ผมดีใจครับที่พูดคุยกับคุณมัทอีก
         
         ความรักกับความเข้าใจ ในบรรยากาศอย่างไรๆก็คงมีความสุขนะครับ  
         หรูหราหรือเรียบง่ายก็ขอให้จริงใจไว้ก่อน เห็นด้วยไหมครับ
    
         ตอนนี้อากาศยังร้อนมากครับ  ต้นข้าวก็ยังกลมเป็นส่วนใหญ่คือยังไม่ถอกรวง  อาจมีบ้างที่เป็นข้าวเบาออกรวงเก็บเกี่ยวแล้ว  แต่ปีนี้ก็ถือว่าน้อยมากๆ
    
          ผมชวนคุณมัทด้วยนะครับ   ถ้าได้วันเวลาเหมาะแน่นอนแล้ว   ผมจะแจ้งมา   ผมคงปลื้มใจมากที่ได้ต้อนรับคุณมัท   มิตรที่เอื้อเฟื้อผมมาตลอด
    
          ผมดีใจที่ได้ทำให้คุณมัทมีความสุขบ้าง   แม้จะเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม
    
    
          ด้วยไมตรีนะครับ
    
    ------------------------------
    
          ทักทายคุณเพรง.พเยียด้วย
    
          ยินดีมากครับที่คุณแวะมาทักทาย
    
          แล้วคุญกันอีกครับ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน