ดื่มด่ำค่ำคืนหนาว

กฤตศิลป์ ชินบุตร

...ดื่มด่ำค่ำคืนหนาวร้าวตรึงจิต		
ดื่ม...น้ำพิษเมรัยให้สุขสม
ดื่ม...น้ำตาปร่าฝืนกลืนระทม			
ดื่ม...รักขมตรมซาบอาบสรรพางค์
ด่ำ...สุนทรีย์วจีร้อยถ้อยความรัก	
ด่ำ...ราตรีหนาวนักอรุณสาง
ด่ำ...ดาวด้อยน้อยแสงอันแรงราง	
ด่ำ...โลกร้างว่างเปล่าคืนเมามาย
ค่ำ...ชิงพลบลบฟ้านภารอง		
ค่ำ...ทำนองไพรแผ่วยินแว่วหาย
ค่ำ...วิถีชีวิตคนพ้นมลาย				
ค่ำ...เดียวดายตายทั้งเป็นเช่นนี้ใจ
คืน...ท้องฟ้ามืดมิดพิสดาร 		
คืน...ดาวดาษจักรพาลพิศุทธิ์ใส 
คืน...คนหม่นทนเศร้าเคล้าเมรัย		
คืน...บางใครสุขสมรมณีย์
หนาว...เนื้อเลือดเหือดลดแทบหมดร่าง	
หนาว...เวิ้งว้างอาณาเขตเปรตภูตผี 
หนาว...อนิยตหมดสิ้นแดนโลกีย์			
หนาว...ลวงเล่ห์นารีไม่หวนคืน
ร้าว...ใจหวังพังใจวาดปรารถนา	
ร้าว...ดาราดวงเห็นมาเป็นอื่น
ร้าว...น้ำคำคมกรีดมีดบาดกลืน		
ร้าว...ขมขื่นคืนศัลย์กัลป์ปา
ตรึง...สัมผัสชัดแจ้งแสดงรัก		
ตรึง...ประจักษ์รักขมสิเน่หา
ตรึง...คืนค่ำย่ำรุ่งปรุงสุรา			
ตรึง...ยอดหญิงกัลยาจวบวายชนม์ 
จิต...เข้มแข็งสู้ต่อในวันพรุ่ง		
จิต...ผดุงซากศพไว้อีกหน
จิต...รวมเนื้อก่อตัวว่าเป็นคน			
จิตเจ้ากรรมจำเจ้าด้นทนต่อไป...				
comments powered by Disqus
  • donjuann

    16 ธันวาคม 2552 07:04 น. - comment id 1074677

    มาขอร่วมฝึกจิจใจให้เข้มแข็งด้วยอีกคนนะครับ   บทกลอนเพราะมากครับ
  • สุริยันต์ จันทราทิตย์

    16 ธันวาคม 2552 12:31 น. - comment id 1074797

    เหนือคำบรรยายครับ
    41.gif41.gif41.gif41.gif29.gif29.gif29.gif
  • ธันวันตรี

    16 ธันวาคม 2552 17:23 น. - comment id 1074901

    ความหมายดีครับ สู้ต่อไป 
    
    
    แสดงความคิดเห็นนิดนึงนะครับ
    
    ค่ำ...ชิงพลบลบฟ้านภาเรือง 
    ค่ำ...สำเนียงเสียงแว่วยินแล้วหาย
    ค่ำ...วิถีชีวิตคนพ้นมลาย 
    ค่ำ...เดียวดายตายทั้งเป็นเช่นนี้ใจ
    
    พี่วิเคราะห์ว่า เรากำลังเขียนกลอนสุภาพ
    
    สระเอือ กับ สระ เอีย ไม่น่าจะเอามารับสัมผัสกันได้
    
    ความงามของร้อยกรองหนึ่งๆ น่าจะประกอบด้วย
    ฉันทลักษณ์
    ความไพเราะของถ้อยคำ
    ความหมายคมคาย ลึกซึ้ง กินใจ
    คุณค่าทางวรรณศิลป์
    
    บางคนก็ให้ความสำคัญกับส่วนใดส่วนหนึ่ง โดยที่ไม่เอาอีกส่วน เช่นไม่เอาฉันทลักษณ์ ไม่เอาการสะกดคำ ไม่เอาไวยากรณ์
    
    แต่พี่มองว่า ถ้าเขียน ให้สมบูรณ์ในทุกๆ ด้าน บทกวีนั้นๆน่าจะมีคุณค่าอย่างมาก
    
    เช่น บางคนไม่เขียนเอาฉันทลักษณ์ แต่จะเขียน กลอนสุภาพ โคลงสุภาพ เมื่อเขียนผิดแบบ ก็ว่าไม่เอาฉันทลักษณ์ ดีกว่าไหม ถ้าเราจะเขียนร้อยแก้ว เขียกลอนเปล่า โคลงเปล่า โดยไม่ยึดตามแผนผัง จะเขียนเอาความหมายอย่างเดียว
    
    
    หรือการสะกดคำ ต้องการสื่อว่า พลิ้ว แต่ไปเขียน พริ้ว  ต้องการสื่อว่า เพริศแพร้ว แต่ไปเขียนว่า เพริดแพร้ว  ถึงแม้ว่าเราต้องการสื่อแบบนั้น แต่เขียนอีกแบบ ก็คือสิ่งที่เหมาะสมแล้ว?
    
    ทั้งนี้ เป็นเพียงความคิดเห็นของ ธันวันตรี ส่วนการเลือกปฏิบัติก็ขึ้นกับเจ้าของผลงานครับ
    
    ถ้าเราลองคุณกับนักกลอนหลายๆ คน จะพบว่า มีหลากหลายความคิด มีทั้งเหมือนและต่างกัน นั่นคือความหลากหลาย
    อะไรที่เราคิดว่าเหมาะสมกับตัวเอง ก็เลือกแบบนั้นครับ ^ ^
    
    36.gif11.gif36.gif
  • กฤตศิลป์ ชินบุตร

    16 ธันวาคม 2552 21:16 น. - comment id 1074996

    ขอบคุณกำลังใจจากคุณ donjuann คุณสุริยันต์ จันทราทิตย์
    และพิเศษสำหรับพี่หมอ ตามที่พี่เคยแนะนำผมบ่อยๆๆมาแล้ว ก็ถือเป็นความบกพร่องของผมเอง จึงขอแก้ไขตามคำแนะนำของพี่เรียนร้อยแล้วครับ
  • สุรศรี

    17 ธันวาคม 2552 15:01 น. - comment id 1075202

    จริง ๆ แล้วเคยอ่านงานของคุณน้อยมาก
    เหตุผลก็คือ  กลัว ไม่กล้าเข้ามาอ่าน
    เพราะอ่านแล้ว คิดว่าตัวเองจะเขียนต่อไม่ได้เพราะเทียบไม่ติดเลย ก็เลยเขียนในแบบฉบับของตัวเอง  ง่าย ๆ  เน้นที่ต้องการประลองฝีมือตนเองและสื่อสิ่งที่ต้องการนำเสนอเท่านั้น
    .....
    ชื่นชมครับ เข้ามาแล้วไม่ผิดหวังจริง  ๆ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน