ผีตาแฮก

กฤตศิลป์ ชินบุตร

ดึกสงัดหน้าร้อน ไร้สายลมเคลื่อนไหว มีเพียงดวงจันทร์สีเหลืองหม่นส่องสว่างยังพื้นโลก เงาตะคุ่มเล็กๆโซซัดโซเซตามถนน อาการนี้ชี้ชัดว่า เจ้าของร่างมีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายมาก จนระบบการทรงตัวผิดปกติ ร่างนั้นเดี๋ยวเดินเดี๋ยวถอยประดุจว่ามีบางสิ่งรั้งไว้ จนในที่สุดเขาก็ยอมศิโรราบกับอำนาจที่ไม่มีวันรู้จัก 
	เดินตั้งนานแล้วทำไมยังไม่ถึงบ้านสักทีว่ะ เสียงพึมพำจากร่างที่นั่งอยู่ริมถนน แม้นจะพูดยานคางแต่ก็กังวานใส จึงคะเนได้ว่าเจ้าของร่างเป็นชายวัยรุ่น 
                      แสงจันทร์สะท้อนโครงหน้าชายคนนั้น เขาดูหล่อเหลาเอาการทีเดียว ผนวกกับร่างกายกำยำแห่งวัยหนุ่ม จึงธรรมดาที่บุรุษนายนี้จะเป็นที่หมายปองของสาวเล็กสาวใหญ่ในตำบล นี่กระมังเป็นสาเหตุให้หนุ่มนายนี้เป็นเจ้าสำราญประจำหมู่บ้าน งานการไม่ทำเอาแต่กินเหล้าเมาหยำเปแทบทุกวัน ดีหน่อยที่ทางบ้านมีฐานะดี จึงไม่เดือดร้อนกับการถลุงเงินของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ทำนองว่าลูกคนเดียวขัดใจได้ที่ไหน อยากได้อะไรเพียงกระดิกนิ้วไม่นานก็สมปรารถนาแล้ว 
                 ชายคนนี้เพิ่งกลับมาจากเที่ยวงานบุญที่หมู่บ้านอื่น เปล่าหรอก เขาไม่ได้ไปคนเดียว ยังมีเพื่อนๆร่วมวงอีกประมาณสิบกว่าคน แต่พวกนั้นกลับมาก่อน เขาไม่ได้กลับด้วย เพราะกำลังสนุกกับเพื่อนใหม่ในจากวงเหล้า บรรดาสตรีต่างบ้านที่ได้ยินกิตติศัพท์ของหนุ่มรูปงามผู้นี้ มีหรือจะปล่อยตัวง่ายๆ ยิ่งความเป็นกันเองไม่ถือตัวและเพียบพร้อมทุกอย่างของเขา วงเหล้าจึงดำเนินไปโดยหามีที่สิ้นสุด 
                      เขารู้ตัวอีกทีก็ดึกสงัด บรรดาเครื่องมหรสพสมโภชสงบ มีเพียงความมืดแวดล้อม สมองของเขามึนซาไร้ความรู้สึก อาจเป็นเพราะเหล้าที่กินเข้าไป ซึ่งมากกว่าครั้งไหนๆ 
                         เมื่อร่างกายถูกหลอกว่ามีปริมาณน้ำในร่างกายมากเกินควร ระบบปรับสมดุลจึงกระตุ้นเตือนสมองอันเฉื่อยชาให้รู้หน้าที่ ร่างอันอ่อนปวกเปียกจึงค่อยๆแบนหน้าลงข้างทาง เพื่อเผด็จศึกเจ้ากระต่ายผู้โชคร้าย 
เสียงน้ำกระทบสังกะสีดังขึ้น พร้อมกับเสียงร้องอย่างเจ็บปวดของผู้ที่ทำให้มันเกิด เขารู้สึกว่ามีเข็มนับร้อยทิ่มแทงยังกล่องดวงใจ ความเจ็บปวดแผ่ซ่านจากศูนย์รวมความรู้สึก แทรกซึมทุกอณูเซลล์ ทุกประสาทสัมผัส เขาเริ่มรับรู้แล้วว่าได้ทำอะไรลงไป ความรู้สึกผิดค่อยๆถาโถมดังรอยรั่วเล็กๆในทำนบ ก่อนจะสำแดงพลานุภาพให้ประจักษ์ เป็นการพังทลายของทำนบนั้น 
                      เขาพาร่างกายอันอ่อนล้าและบอบช้ำ กลับสู่เคหะสถานอย่างเงียบๆ คงไว้เพียงความมืดแห่งราตรี และอาถรรพ์ที่เขาได้ลบหลู่ โดยหารู้ถึงฤทธานุภาพ ด้วยเพียงเพราะความเมา
ตะวันแดงโล่นำพาความสว่างมายังผืนโลก กลบแสงจันทร์ให้เลือนหายภายใต้ฟ้าผืนเดียวกัน
 
                    ลูกนัท ตื่นเถอะ ตะวันจะครึ่งฟ้าแล้ว ข้าวปลายังไม่ตกท้องเลย แม่เตรียมกับข้าวดีๆไว้ให้ รีบลุกขึ้นมากินนะ เสียงแม่ปลุกด้วยความห่วงใย 
ไม่มีเสียงตอบจากลูกชาย ผู้เป็นแม่สังเกตเห็นความผิดปกติ แต่ไหนแต่ไร ต่อให้นัทเมาหัวราน้ำเพียงใดก็ไม่เคยตื่นสายขนาดนี้ พอตะวันโผล่ขึ้นมาไม่นาน เขาต้องลุกมาอ้อนแม่ บ่นว่าปวดหัว หิวข้าวหิวน้ำ และแม่จะคอบประคบประงมป้อนข้าวป้อนน้ำราวลูกน้อยบอบบาง
                    ด้วยความห่วงใยของแม่ เธอไม่อาจทนรอได้ จึงตัดสินใจพังประตูเข้าไป หัวใจผู้เป็นแม่แทบสลาย เมื่อเห็นสภาพบุตรอันเป็นดวงใจอยู่ในสภาพไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ดวงตาเหม่อลอย ริมฝีปากบวมเป่งมีเลือดกลัดหนองซึมออกมา  ตามร่างกายเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนพกช้ำดำเขียว นางแทบไม่เชื่อสายตาเลยว่าคนหรือร่างที่นอนแผ่หลาตรงหน้าคือบุตรชายผู้มีผิวพรรณขาวผ่อง เรือนร่างหน้าตาเป็นที่ปรารถนาของบรรดาสาวๆและบรรดาบุรุษเพศที่แปรพักตร์ต่อธรรมชาติ
                           มันลบหลู่ข้า มันบังอาจนัก มันลบหลู่ข้า มันต้องตายเสียงแหบพร่าและแผ่วเบาเล็ดลอดจากริมฝีปากอันบวมเปล่ง เลือดกลัดหนองซึมไหลออกมาทุกครั้งที่พูด 
                          ผู้เป็นแม่ปรี่เข้าไปหมายจะประคองร่างลูกรัก ความเจ็บปวดที่ลูกได้รับคงไม่เท่าที่แม่รู้สึกในขณะนี้ น้ำตาแห่งความอาทรไหลอาบหน้าโดยหารู้ตัวไม่ 
                     ลูกนัท ๆๆๆ เป็นอะไรไป ใครใจร้ายทำลูกได้เพียงนี้ บอกแม่มาสิลูก แม่จะเอาคืนให้หนักกว่าที่ลูกได้รับหลายเท่าเชียว บอกมาสินัท นัทลูกแม่ นัท เสียงฟูมฟายประดุจบ้าของผู้เป็นแม่เรียกพ่อเข้ามา
                     อย่าเข้ามานะ ไอ้นี่มันลบหลู่ข้า ข้าจะเอามันไปรับใช้ เสียงจากบุตรชาย ทำให้ผู้เป็นพ่อหน้าถอดสีทันที 
                    แม่มึงเอ๋ย ไอ้นัทมันโดยดีเข้าแล้ว ผู้เป็นพ่อพูดแค่นั้นก็รีบจากไป 
 
                  ไม่นานนัก พ่อก็กลับมาพร้อมกับคนเฒ่าคนแก่ หนึ่งในนั้นมีพ่อหมอประจำหมู่บ้าน ไม่ใช่สิต้องเป็นพ่อหมอระดับจังหวัด เพราะในเขตจังหวัดนี้ชื่อของท่านเป็นที่เลื่องลือ แม้แต่ต่างจังหวัดอื่นไกลก็ยังเคยมารับตัวท่านไปทำพิธีบ่อยๆ จึงมีคนขนานนามให้ท่านว่า เทพปราบผี
                    ออกไปให้หมด ริมฝีปากนัทยิ่งเปรอะไปด้วยเลือดกลัดหนอง กระนั้นผู้เป็นแม่ก็ไม่อาจเข้าใกล้บุตรชายได้ ด้วยเพราะหากมีใครไปแตะต้องเรือนร่างของนัท ตัวเขาก็จะสั่นพร้อมคำขู่สารพัด แน่นอนว่าทุกอาการที่กล่าวข้างต้นล้วนสร้างความเจ็บปวดสยดสยองให้แก่ผู้แวดล้อมทั้งสิ้น
                      ท่านเป็นใคร เด็กคนนี้ได้ลบหลู่อะไรท่าน เทพปราบผีเริ่มสนทนาอย่างหยั่งเชิง
                         ข้าคือผีตาแฮกที่สถิตท้ายหมู่บ้าน คอยเฝ้ารักษาข้าวกล้านาดอนให้พวกเจ้า แต่ไอ้คนนี้บังอาจมาฉี่รดบ้านของข้า มันสมควรรับโทษทัณฑ์แล้ว เองอย่ามาข้อร้องอ้อนวอนให้ข้าปล่อยมันเลย ไม่มีวันหรอก
                   โอ้เด็กคนนี้ช่างกล้ากระทำการอันดูหมิ่นหยามเหยียดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราทุกคนเคารพ จะทำการกิจใดในไร่นาก็ต้องอัญเชิญท่านมารักษาดูแล ก็สมควรแล้วที่ได้รับโทษประการนี้เทพปราบผีกล่าวเห็นด้วย ทำเอาบรรดาญาติๆที่รายล้อมตระหนกตกใจเป็นการใหญ่ 
                    แต่เด็กหนุ่มนี้ก็รับโทษทัณฑ์สาสมกับความผิดที่ก่อแล้ว พวกเราผู้ซึ่งเคารพก้าวไหว้ท่านยิ่งกว่าสิ่งใด ขอให้ท่านโปรดละชีวิตบุรุษหนุ่มผู้นี้ด้วยเถิด เขาทำไปเพราะความไม่รู้ หาใช่เจตนาลบหลู่ดูหมิ่นประการใด เมื่อหายดีแล้วจะให้สร้างที่อยู่ใหม่แก่ท่านเป็นการไถ่โทษเทพปราบผีอ้อนวอนเสียงแผ่วเบา
สายตาหม่อลอยจากเด็กหนุ่มหยุดนิ่งตรงใบหน้าชายชรา
                        พวกแกก็ดีแต่พูด อ้างความเคารพโน่นนี้ อันที่จริงก็ไม่ต่างจากเด็กคนนี้หรอก ในที่แจ้งก็เคารพกราบไหว้ ลับหลังแล้วหากลัวเกรงไม่ ดูอย่างเครื่องเซ่นที่นำมาให้ข้าสิ บอกให้ดูแลนาข้าวให้จะให้สี่เกวียน เมื่อเก็บเกี่ยวก็เอาใบตองเล็กๆมาทำเป็นกระทง แล้วบอกว่านี้คือข้าวสี่เกวียน ทำยังกะข้าโง่เง่าจนแยกแยะขนาดไม่ออกเชียวหรือ แต่เอาเถอะข้าเองก็ไม่อยากสร้างเวรกรรมมากไปกว่านี้ บทเรียนครั้งนี้ ขอมอบให้พวกเจ้าทุกๆคน เพื่อระลึกถึงเสมอว่าการลบหลู่ดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ครั้งต่อไปคงไม่มีใครโชคดีอีกแล้ว ร่างบอกช้ำสั้นเทาก่อนจะค่อยๆสงบลง
                             เรื่องราวการลบหลู่ผีตาแฮกกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว จึงธรรมดาที่ถนนท้ายหมู่บ้านจะร้างผู้คนตั้งแต่หัวค่ำ ใครจำเป็นต้องเดินทางผ่านไปมา จะต้องเร่งให้พ้นจากบริเวรนี้ก่อนแสงอาทิตย์สุดท้ายจะลับขอบฟ้า คงไว้เพียงศาลเพียงตาเด่นสง่าในความสลัวของค่ำคืน และผ้าหลากสีสะบัดเงาไหวๆอันน่าพรั่นพรึง
                     วงเหล้าหรือวงสนทนาที่บรรดาคอทองแดงทั้งหลายให้ฉายาโก้หรูว่า วงเล่า เริ่มต้นตามปกติ
                   นัท แกไปทำอีท่าไหนล่ะ ถึงโดนเล่นงานซะเกือบเสียผู้เสียคนขนาดนั้นเพื่อนคนหนึ่งโพล้งขึ้นกลางวง ทำเอาเสียงอื้ออึงสบันลง
                   ข้าว่าพูดเรื่องอื่นกันดีไหม นัทคงไม่อยากเล่าเหตุการณ์อันเสมือนการย้อนเวลากลับไป เพื่อรับเอาความรู้สึกอันเจ็บปวดนั้นอีกแล้วเพื่อนอีกคนแย้งขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าผู้ถูกถามไม่ค่อยสู้ดีนัก
                          แก้วสีขาวไร้การแต่งแต้มจรดริมฝีปากที่มีรอยขีดขาวจางๆเป็นแนวยาว เหมือนเวลาจะลบเลือนบาดแผลให้จางหายได้ แต่บาดแผลภายในใจกลับปรากฏเด่นจนยากจะเลือนลบไป
                    ไม่เป็นไรหรอก ถ้าพวกแกอยากฟัง ข้าก็จะเล่าให้ฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นนัทตอบด้วยเสียงเรียบหลังธารเหล้าไหลรินลงกระเพราะเรียบร้อย
                      แกแน่ใจหรอเพื่อนย้ำ
                       ใช่ ฉันแน่ใจนัทสำทับคำตอบ
                       หลังจากพวกแกกลับไม่นาน สาวสวยก็ทยอยกลับบ้านกัน วงเหล้าเล็กลงเรื่อยๆจนเหลือเพียงไม่กี่คน เหล้าไม่มีรสชาติแล้ว ฉันจึงขอตัวกลับ ทีแรกพวกนั้นอาสาจะมาส่ง แต่ฉันปฏิเสธเพราะรู้ว่าพวกนั้นต้องการอะไร นัทกรอกเหล้าที่เพื่อนยื่นให้เข้าปากอย่างคล่องแคล่ว
                      แล้วพวกนั้นยอมปล่อยแกง่ายๆเหรอ ดูแต่ละคนก็ใช่ย่อย ยังกะแร้งอดอยากจ้องทึ้งอาหารขนาดนั้น คนรินเหล้าแย้งขึ้นเพื่อเรียกเสียงฮาจากมวลสมาชิกผู้รู้ใจ
                         ธรรมดาวงเหล้าคือเรื่องเล่า เมื่อเริ่มตั้งวงใหม่ๆ เครื่องยังไม่เดินเต็มที่ ประเด็นสนทนาจะเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสำคัญเช่นเหตุบ้านการเมือง พอสักพักเครื่องเริ่มเดิน เลือดสูบฉีดเต็มที่  ประเด็นสนทนาปราศรัยจะแคบเข้า เป็นเรื่องใกล้ๆตัว คำพูดคำจาก็จะเปลี่ยนระดับ สุภาพก็กลายเป็นสัปดนสองแง่สามง่ามไป 
                  แกพูดถูก พวกนั้นไม่ยอมปล่อยง่ายๆหรอก ตั้งท่าจะมาส่งให้ได้ ฉันไม่มีเหตุผลดีพอที่จะทานทัดก็เลยให้พวกเธอมาส่ง พอออกจากหมู่บ้านแล้วก็ให้พวกเธอกลับนัทรับแก้วเหล้าจากเพื่อนอีกครั้ง
                     แกเล่ายังไม่หมดนี่เพื่อที่นั่งตรงข้ามมองนัทอย่างมีเลศนัย สายตาทุกดวงจ้องดวงตาคู่เดียวเสียนาน จึงเห็นรอยยิ้มเล็กๆใต้ดวงตาคู่นั้นปรากฏ 
                       พวกแกนี่ ไม่เคยมองข้าในแง่ดีเลยหรือไง นัทพูดอย่างอายๆ แต่เป็นที่รับรู้กันว่าหมายถึงอะไร
	           เมื่อจำนนด้วยสัญชาตญาณดิบแห่งมนุษย์ปุถุชน ผู้ที่ยังเวียนว่ายในกิเลสตัณหา  บทสังวาสจึงก่อกำเนิดอย่างเร้าร้อน ปานประดุจเกรียวคลื่นบ้าคลั่งกลางมหาสมุทร โชคร้ายที่เรือเดินสมุทรขนาดใหญ่มุ่งหน้าเข้ามาท้าทายอำนาจใต้เงามฤตยูแห่งเวิ้งน้ำไพศาล แม้นเรือที่ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่ก็ไม่อาจทานอำนาจแห่งท้องมหาสมุทรได้ เรือที่เคยโลดแล่นบนผืนน้ำอย่างสง่า จึงเสียท่าดำดิ่งสู่เบื้องลึก ความมืดกลืนสิ้นเรือเดินสมุทรผู้ยิ่งใหญ่ 
	                   เหล้าขมปร่าทันที เมื่อนัทนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น เขาได้เพียงหวังว่าเวลาจะเยียวยาจิตใจห่อเหี่ยวได้ แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะลืมในสิ่งไม่ปรารถนาจำ และก็ไม่ง่ายเช่นกันหากจะจดจำสิ่งไม่ปรารถนาลืม 
	พวกแกทุกคนกำลังสงสัยว่าฉันเสร็จผู้หญิงพวกนั้นแล้วใช่ไหม ไม่มีทางเสียหรอก คนอย่างฉันไม่มีทางเสียรู้ใครง่ายๆหรอก นัทเสียงแข็ง
	        เราก็ไม่ได้ว่าแกเป็นไก่อ่อน แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ทั้งบรรยากาศ สถานที่ เวลา มันต่างเอื้อไปทำนองนั้น ฉันว่าต่อให้อินทร์ให้พรหมก็ยากที่จะฝืน หรือถ้าฉันเป็นแกคงได้เมียเป็นโหลไปแล้ว คนรินเหล้าพูดจบ เสียงเห็นด้วยเริ่มสอดรับจับผสานกับรูปการในอดีต จนนัทไม่อาจปล่อยให้เพื่อนๆเข้าใจไปอย่างที่คิดอีกต่อไป
	        พวกแกก็มองโลกในแง่ร้ายเกินไป จริงที่ว่าฉันไม่ใช่คนดีเลอเลิศ แต่ฉันก็ไม่ได้เลวบัดซบจนแยกแยะดีชั่วไม่ออก ฉันไม่ยากพูดมาก พวกแกคงรู้ดีว่าฉันหมายถึงอะไร ของแบบนี้ต้องเกิดมาจากการสมยอมพร้อมใจทั้งสองฝ่าย ไม่งั้นก็จบกัน
	        แล้วแกทำอีท่าไหนล่ะถึงได้สาหัสสากรรจ์จนแทบเอาชีวิตไม่รอด คนรินเหล้าแย้งเหตุผลเพราะเขาไม่เชื่อว่าผีตาแฮกซึ่งเป็นผีดีนั้นจะทำร้ายคนได้ 
	      ก็เจ้านัทมันไปลบหลู่ผีตาแฮกนี่ คนเขาลือกันใหญ่ ยิ่งใครที่เห็นสภาพมันตอนนั้น พูดได้คำเดียวว่าสยดสยองเพื่อนสนิทของนัทออกความเห็น
	    ฉันได้ยินว่าผีตาแฮกคอยดูแลนาให้เรามิใช่หรือ แล้วผีจะทำร้ายคนได้ขนาดนี้เชียว และต่อให้เป็นผีตาแฮกจริง มันก็อดสงสัยไม่ได้ว่า บาดแผลที่นัทมันได้รับเกิดได้อย่างไรเขายื่นเหล้าให้นัท
	        สายตาทุกดวงจ้องมองลูกกระเดือกเลื่อนขึ้นลงของนัท คำตอบทั้งหมดอยู่ที่เขา หากวันนี้ไม่สามารถลดคลางแคลงใจของเพื่อนได้แล้ว เสียงกระซิบกระซาบจากมุมมืดจะส่องสว่างเป็นข้องเท็จจริง ความชอบธรรมในตัวเขาก็จะลดลง ดอกไม้ที่ได้รับจักกลายเป็นก้อนหินข้างปา เขาไม่มีวันปล่อยให้มันเกิดขึ้นเป็นแน่
	     พวกแกกำลังคิดว่าฉันกุเรื่องขึ้นมาใช่ไหม ลองคิดแบบตรรกะหน่อยสิ ใครมันจะทำร้ายตัวเองจนปางตายนัทเริ่มมีอารมณ์ในน้ำเสียง
	ใจเย็นๆ เราไม่ได้หมายความอย่างนั้น เพียงแต่เสียงกระซิบมันดังขึ้นทุกที เราจึงอยากรู้เหตุการณ์จริงๆเท่านั้น ซึ่งก็เป็นผลดีกับแก หากปล่อยเวลาผ่านไปโดยไม่ทำอะไร ท้ายสุดเสียงนั้นจะดังกว่าคำพูดแกเพื่อนแนะนำด้วยความหวังดี 
	 
	      ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูงขึ้น เขาระลึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นอีกครั้ง ความเจ็บปวดวาบขึ้นที่ขั้วหัวใจ ความโหวงเหวงเกิดในระบบสมดุลร่างกาย เขารู้สึกกลัวจับใจ ถ้าคนอื่นรู้ความจริงขึ้นมา เขาจะสู้หน้าใครได้อีก บรรพชนผู้คนในหมู่บ้านจะยังเอนดูเขาไหม 
	       เมื่อฉันหลุดพันธนาการแล้วก็เดินมาเรื่อยๆตามถนน ตอนนั้นปวดหัวมากๆ อยากจะล้มตัวนอนเสียตรงนั้นให้ได้ แต่เท้าก็ยังก้าวต่อไป กระทั่งถึงทางเข้าหมู่บ้าน ของเหลวที่กินเข้าไปแผลงฤทธิ์ ฉันเดินออกมาข้างทางและก็ปล่อยมัน สิ่งเดียวที่ฉันรู้คือความเจ็บปวด มารู้สึกตัวอีกครั้งก็นอนซมอยู่ในบ้านแล้ว ไม่มีแม้แรงที่จะร้องขอความช่วยเหลือใดๆ
	        แกนึกไม่ออกเลยหรือคนที่รินเหล้าเพ่งใบหน้า 
	        ใช่นัทตอบ 
	        เป็นไปได้ไหมว่าแกเมามากจนไม่รู้ตัว และมีคนมาทำร้ายกระทั่งสลบไป 
	         ทีแรกฉันก็คิดเหมือนกัน แต่ทำไมฉันมารู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ที่บ้าน คนที่ทำร้ายฉันคงไม่ใจดีอย่างนั้นหรอก
	        แล้วถ้าเป็นผีตาแฮกจริง ทำไมไม่จัดการแกเสียตรงนั้นล่ะ ทำไมยังพาแกมาบ้านและก็ให้แกมีชีวิตอยู่อีก 
	        แกนึกไม่ออกเลยหรือว่าทำไม หากฉันนอนตายตรงนั้นคนอาจคิดว่าฉันถูกคนทำร้าย เรื่องมันก็จบเท่านั้นนัทกรองเหล้าเขาปากอย่างสบายใจ
	         แกกำลังบอกว่าผีตาแฮกนั้นไม่ต้องการเอาชีวิตแก แต่ต้องการให้แกมีชีวิตอยู่ เพื่ออะไรเล่า
	          สั่งสอนไง ท่านต้องการแค่สั่งสอนคำพูดของนัทสะกดเพื่อนๆให้นิ่งฟัง
	            สั่งสอนแกหรือเพื่อนเร้า
	               เปล่า เราทุกคนตากหากนัทตอบเสียงเรียบ
	              วงเหล้าเงียบเสียงลง ขวดเหล้าระเกะระกะบนแคร่ไม้ เห็นเงาจันทร์หม่นเทาสะท้อนในแก้วเหล้า เสียงนกกลางคืนร้องแว่วไกลๆ นักดื่มหลับใหลเพื่อตื่นมาปฏิเสธความเมาในรุ่งเช้าของอีกวัน 
	             งานบุญวนมาอีกครั้ง นัทและเพื่อนๆได้เรียนเชิญตนเองไปเป็นเกียรติเช่นเคย เหตุการณ์ในอดีตเหมือนเลือนลบไปกลับกาลเวลา แต่ในใจนัทแล้วหาได้ลืมความขมขื่นนั้นแม้แต่น้อย เหล้าเก่าขวดใบเก่า แต่ตัวแสดงตัวใหม่ หากสำเร็จตามแผน เขาจะได้สองอย่างคือ ความชอบธรรมและแนวร่วม
	              ดึกสงัดหน้าร้อนไร้สายลมเคลื่อนไหว ไร้ดวงจันทร์ส่องสว่าง แต่ยังสังเกตเห็นสองร่างโซซัดโซเซมา ร่างหนึ่งด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ร่างหนึ่งด้วยแรงพยุง สองร่างเป็นขบวนสุดท้ายที่จะเข้าหมู่บ้าน สองร่างที่จะแสดงให้เห็นอำนาจที่ไม่อาจรู้ สองร่างที่จักตอกย้ำอำนาจนั้น หนึ่งร่างที่ต้องเผชิญ หนึ่งร่างที่บังเอิญรอดพ้น หนึ่งร่างที่เข้าใจเรื่องราวแจ่มกมล หนึ่งร่างเหมือนมืดมนไปอีกนาน 
	             เสียงหวีดหวิวยามลมโชยพัด เงาศาลผีตาแฮกยังคงตั้งสง่าริมถนน ผ้าสีสะบัดปลิวเงียบเชียบในเงามืด
	                นี่หรือคือศาลผีที่ทุกคนเคยหวาดกลัวนัทหัวเราะร่วน 
	               แกไม่กลัวหรือ ถึงกล้าท้าทายและดูหมิ่นท่านเพื่อนของนัทพูดเสียงอ้อแอ้
	                 แกเคยสงสัยใช่ไหมว่าฉันโยนความผิดให้ผีตาแฮกเมื่อปีก่อน ฉันจะแสดงให้ดูว่าท่านมีจริง พูดเสร็จนัทก็เดินไปยังศาลผีตาแฮก ศาลที่เขาจำเป็นต้องสร้างขึ้นอย่างเร่งรีบ เพื่อเพิ่มความเกรงกลัวให้ผู้คน เขาเคยเชื่อว่าความกลัวทำให้คนเชื่อ และขณะนี้เขาก็ยังเชื่อว่าความเชื่อนั้นเกิดจากความกลัว เขามองเพื่อนที่จะแบกรับชะตากรรมเช่นเดียวกับเขา ก่อนจะกระซากผ้าสีที่มัดศาลขาดว่อน เครื่องสักการบูชากระจาย แล้วเสียงดังพลั่กก็ยุติการเคลื่อนไหวลง
	                 นัทมันตายแล้ว มันถูกศาลผีตาแฮกที่มันสร้างล้มทับตามเมื่อคืนนี้ ส่วนเพื่อนที่มาด้วยกัน ตอนนี้นอนซมอยู่บ้าน อาการเดียวกันกับที่เจ้านัทมันเป็นเมื่อปีที่แล้วเลย เสียงล่ำลือปากต่อปาก ถ่ายทอดความสยดสยองและความสะพรั่นพรึงของผีตาแฮกเป็นอย่างดี				
comments powered by Disqus
  • ปะการังสีฟ้า

    30 พฤษภาคม 2552 14:23 น. - comment id 105231

    แวะมาอ่านเรื่องสั้น  สำนวนดีจังค่ะ
  • ครูกระดาษทราย

    2 มิถุนายน 2552 18:06 น. - comment id 105255

    ง่า กลัวอ่ะ7.gif
  • แจ้นเอง

    6 มิถุนายน 2552 14:14 น. - comment id 105306

    36.gif
    
    ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
    
    แวะมาอ่านน่าติดตามตลอดเรื่องเลยค่ะ
    
    41.gif41.gif41.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน