16 ธันวาคม 2554 19:59 น.

รอวัน ฝันเป็นจริง

คนบางบอน

อ่านบทกลอน อ่อนไหว คนไกลห่าง
ยิ่งอ้างว้าง อาวรณ์ สะท้อนไหว
อารมณ์เหงา เศร้าสร้อย ของกลอยใจ
สะท้อนใน อารมณ์เรา เหงาวิญญาณ์

บาดแผลใจ ในอดีต ที่กรีดลึก
ความรู้สึก กัดกร่อน จนอ่อนล้า
จมอยู่กับ ทะเล แห่งเวลา
ความเหว่ว้า เผาใจ ไปวันวัน

มีบทกลอน รับรู้ อยู่เป็นเพื่อน
เขียน อ่าน เตือน ปลอบใจ อยู่ในฝัน
เขียนเอง อ่านเองจบ อย่างครบครัน
คนเข้าใจ กัน และกัน นั้นไม่มี
			
ความเหมือนที่ แตกต่าง ทางชีวิต
ใครลิขิต ให้เป็น กันเช่นนี้
เป็นนักกลอน นอนเหงา เศร้าชีวี
หรือว่านี่ เป็นคำสาป ของ กาพย์-กลอน

คนขาดคน รู้ใจ ไม่คลายหม่น
มองหาคน เข้าใจ ใช่ออดอ้อน
บทเพลงแห่ง ความเหงา มันร้าวรอน
โปรดอาทร เอื้อเศษ เมตตากัน
			
อยากพบหน้า คนเขียนกลอน ที่อ่อนไหว
อยากพักใจ กับไออุ่น ละมุนขวัญ
วาสนา มีไหมหนอ...พ้อรำพัน
นานกี่ปี กี่วัน ฝันเป็นจริง ฯ

สมยศ	เปียสนิท				
10 ธันวาคม 2554 11:54 น.

เสียงจากประชาชน

คนบางบอน

พระราชดำรัสเคยตรัสไว้ ให้สร้างเขื่อน
ทำไมจึง แชเชือน เขื่อนอยู่ไหน
แก่งเสื้อเต้น เต้นอยู่ กับผู้ใด
จึงปล่อยให้ น้ำบ่า มาท่วมเมือง

พระราชดำรัส เคยตรัสไว้ หลายปีแล้ว
ทรงแนะแนว ชี้ทาง อย่างต่อเนื่อง
ปลูกบ้านขวาง คูคลอง น้ำนองเนือง
ยังเป็นเรื่อง รัฐบาลไทย ไม่นำพา

วันนี้ต้อง ประสบภัย ครั้งใหญ่หลวง
น้ำตาล่วง หมองมัว กันทั่วหน้า
อุทกภัย ขยายกว้าง อย่างเต็มตา
เป็นปัญหา ต้องแก้ไข ไปด้วยกัน

ทุกภาคส่วน จงร่วมมือ รื้อทิฐิ
ให้สติ พิจารณา ปัญหานั้น
อย่ามัวโทษ ดินฟ้า โทษตะวัน
เร่งรังสรรค์ ซับน้ำตา เยียวยาใจ

ขอไหว้วอน ผู้ได้สิทธิ์ รับผิดชอบ
จงรอบครอบ พิจารณา ปัญหาใหญ่
น้อมนำพระ ราชดำรัส ทรงตรัสไว้
มาแก้ไข ปัญหา ประชาชน

อย่าทำให้ ระคายเคือง เบื้องพระยุคลบาท
ประชาราษฏร์ ยอมไม่ได้ หลายหลายหน
จงจำไว้ ให้ถ้วนทั่ว ทุกตัวคน
พระทัยหม่น เพียงนิดเดียว เดี๋ยวเจอดี				
6 ธันวาคม 2554 20:19 น.

ไม่มีข่าวจากแดนไกล

คนบางบอน

ฝนสุดท้าย สั่งลา ปลายหน้าฝน
คิดถึงคน เคยสั่งลา เมื่อหน้าหนาว
ดอกเอย ... ดอกชบา คราปวดร้าว
จะหาข่าว คนไกล ไม่เห็นมี

ดอกเอย .. ชบาเหลือง
เจ้าขุ่นเคือง หรือไรนี่
เยื่อใย และไมตรี
จึงไม่มี มาปลอบใจ

หนาวแล้ว นะจอมขวัญ
เจ้ามิหวั่น หรือไฉน
เมืองเหนือ กับเมืองใต้
นับวันไกล กันทุกที

อกเอย .. คนเคยหนาว
จะปวดร้าว อีกกี่ปี
ลมหนาว เพิ่มทวี
ยังไม่มี คนชิดใกล้

หนาวลม พอห่มผ้า
เมื่อหนาวฟ้า ยังผิงไฟ
หนาวหญิง อิงผู้ใหญ่
พี่ หนาวใจ ใครเมตตา

เพลงรัก ใต้ลมหนาว
เมื่อถึงคราว ร้องเรียกหา
ดอกเอ๋ย ... ดอกชบา ...
เจ้าอยู่ไหน ใยหมางเมิน

สมยศ    เปียสนิท  				
3 ธันวาคม 2554 21:00 น.

คิดถึงพ่อ

คนบางบอน

เมื่อถึงวัน กำหนด รับบทพ่อ
น้ำตาคลอ ตื้นตัน ทั้งหวั่นไหว
เพราะมีลูก เป็นโซ่ทอง คล้องหัวใจ
เราจึงได้ เป็นพ่อคน จนวันนี้

ดีใจอย่าง สุดซึ้ งซึ่งตระหนัก
ร้อยความรัก เทใจ ให้เต็มที่
เฝ้าถนอม กล่อมเกลี้ยง เลี้ยงชีวี
ให้ลูกมี พัฒนาการ ทุกด้านไป

เรารักลูก ผูกพัน กันเพียงนี้
แล้ววันที่ พ่อมีเรา เล่าไฉน
คงรักเรา เหมือนเรารัก ปักดวงใจ
อุ้มชูไว้ แนบขวัญ นิรันดร

คิดถึงพ่อ ทันที ที่มีลูก
เราทำถูก หรือไม่ ในกาลก่อน
ปล่อยให้ท่าน ห่วงหา ห่วงอาวรณ์
เมื่อยามจร จากไป อยู่ไกลตา

อยากขอเตือน เพื่อนน้องพี่ ที่มีพ่อ
อย่ามัวรอ ผลัดวัน กันเลยหนา
เรารักลูก ห่วงลูก ทุกเวลา
จงรู้ว่า พ่อก็เป็น เหมือนเช่นเรา

รีบกลับบ้าน กราบพ่อ ที่รออยู่
อย่าเหมือนผู้ เขียนกลอน นี้สอนเล่า
เพราะเคยผิด พลาดพลั้ง ครั้งยังเยาว์
ต้องนั่งเศร้า จุดธูป กอดรูปพ่อ

สมยศ  เปียสนิท  				
30 พฤศจิกายน 2554 19:09 น.

จะก้าวไปอย่างนี้ ทุกนิยาม

คนบางบอน

ด้วยใจรัก อักษรา ภาษาศิลป์
จึงสร้างจิน ตนาการ ผสานสาย
ร่ายบทเพลง ลีลา อันท้าทาย
สร้างความหมาย ในนิยาม แห่งความจริง

มิสนใจ คำอ้าง พูดถางถาก
ถึงจนยาก ระทมทุกข์ ยอมทุกสิ่ง
จะสร้างฝัน สู่ฝัน อันเพริศพริ้ง
คำท้วงติง สำหรับเรา ก็เท่านั้น

ชีวิตเป็น ของเรา เราย่อมรู้
ความเป็นอยู่ จำกัด ใครจัดสรร
ความคิด อิสระ เป็นประกัน
ไม่ต้องหัน ไปตาม ความคิดใคร

จะขัดแย้ง ใครบ้าง ก็ช่างเขา
ไม่เก็บเอา มาไตร่ตรอง ให้หมองไหม้
จะผิดถูก ผูกพัน มิหวั่นใจ
ขอปล่อยไป ตามทาง อย่างที่เป็น

ถึงจะรัก เพื่อนพ้อง รักน้องพี่
ลดศักดิ์ศรี มันลำบาก มันยากเข็ญ
ทางของใคร ใครเลิศล้ำ ใครลำเค็ญ
ไม่ต้องเห็น ใจต้อง หม่นหมองตาม

คือความจริง จากอักษร กลอนบทนี้
ซึ่งไม่มี คำตอบ คำสอบถาม
จะก้าวไป อย่างนี้ ทุกนิยาม
สู่หลักชัย ในนาม ความเป็นจริง  				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนบางบอน
Lovings  คนบางบอน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนบางบอน
Lovings  คนบางบอน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนบางบอน
Lovings  คนบางบอน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคนบางบอน