29 ตุลาคม 2551 16:57 น.

เพียงข้ามขอบหมอน...

ฐปนวุธ

ใครไหมเอ่ยเคยนิยามแก่ความรัก
ใครที่เคยรู้จักบอกสักหน
ในความซึ้งความสุขคนทุกคน
มีไหมสักคนไม่เคยรัก...

เธอก็เป็นเพียงคนธรรมดา
ไม่ได้มีคุณค่า... แค่รู้จัก
ผ่านมาผ่านไปก็ทายทัก
แปลกนัก ทำไมไม่ลืมเลือน

นอนข้างเคียงกันเมื่อวันก่อน
ก็นอนข้างข้างก็อย่างเพื่อน
บางวันหายไปใจก็เตือน
อยู่ใกล้ก็เหมือนไม่คุ้นเคย

หมอนข้างตรงกลางวางเอาไว้
กั้นตัว...กั้นหัวใจ...ได้ไหมเอ่ย
กลัวกลัว กล้ากล้า ไอ้บ๊าเอ๊ย
ต้องเฉย กลบเกลื่อน เหมือนเคยทำ

เพียงแค่อยากจะหยุดใจไม่รู้สึก
ซ่อนไว้สุดลึก...กลัวถลำ
เป็นเพื่อน เท่านี้ที่ต้องย้ำ
เก็บงำ ความฝัน กันต่อไป...

อยากให้รู้ไว้ใต้หมอนอุ่น
เก็บความละมุน ละไมใส
อีกฝากขอบหมอนซ่อนหัวใจ
ที่จะมี เพื่อใคร ไม่กี่คน...				
13 ตุลาคม 2551 17:51 น.

แผ่นดินร่ำไห้

ฐปนวุธ

สายฝนพรำฉ่ำชุ่มพฤกษ์พุ่มไหว
ทิวแมกไม้เอนโอนโยนจังหวะ
ผิวน้ำเพื่อมเลื่อยสายไหลระยะ
สายน้ำชะความสิ้นหวังหมดทั้งมวล

เจ้าพระยาเอ๋ยเจ้าพระยา
เอื้ออกโอบหล้าฟ้ากำสรวล
มนุษย์น้อยมีฝันอันรัญจวน
แลล้วนสันติผลิบาน

วันนี้เลือดล้างธรณินทร์
แผ่นดินเดือดระอุ ปะทุพล่าน
ดอกพิรุณเลือดฝันอันตระการ
ห่อหุ้มดวงมานแห่งมวลชน

แผ่นดินร่ำไห้
เลือดไทยไหลหลั่งดังฝน
วันนี้ของวันหน้า...สาธุชน
จะย้ำเตือนตน...ประวัติการณ์

เวลาที่ซ้ำรอย
ต่อสู้ มิถอย เป็นคำขาน
พลีเลือดสั่งสมอุดมการณ์
ให้ลูกให้หลาน...ให้บ้านเมือง				
26 กันยายน 2551 13:19 น.

มะลิลา

ฐปนวุธ

หอมเอยหอมดอกมะลิลา
หลุดร่วงลอยฟ้ามาหวลหอม
บริสุทธิ์สดใสให้ดมดอม
โลกเลื่อมรายล้อมอร่ามนัยน์

แผ่วกลิ่นดินพร่างน้ำค้างพร้อย
ชดช้อยแช่มชัดผลัดใหม่
เจ้ามะลิยามเช้าเจ้าหนาวมั้ย
หัวใจข้าร้าวหนาวนัก...				
26 สิงหาคม 2551 07:05 น.

สุนทรีย์แห่งชีวิต

ฐปนวุธ

โคลงสี่สุภาพ
เย็นฝนหยดฉ่ำฟ้า      	ฟากไหน
เย็นทั่วเนื้อหัวใจ          	ชื่นหน้า
เย็นธรรมผ่องอำไพ      	สงบสุข
เย็นแผ่นผืนสยามกล้า   	เลือดเนื้อพลีสนอง 
 
อินทรวิเชียรฉันท์
เพลงพ่อนิพนธ์ขับ          	สุตรับลุทำนอง
"สายฝน" ณ ดินทอง       	ดลสุขเกษมศานติ์
ชนเอื้อและเกื้อกูล        	บริบูรณ์ประดับนาน
ธรรมทองผะผ่องกาล     	ทะนุชาติประโลมชน

 กาพย์ยานี๑๑
ความดีคู่ชีวิต               	 สนองสิทธิหน้าที่ตน
สร้างสรรค์ประโยชน์ผล   	 ร่วมศรัทธาสามัคคี
ดอกไม้จะเบ่งบาน          	 บนกิ่งก้านแข็งแรงดี
รากหยัดเลี้ยงชีวี            	 ร่วมหน้าที่แห่งชีวิต
สยามจะงามล้น              	 ถ้าชาวชนเอื้อเต็มสิทธิ์
ต้นไม้แห่งความคิด          	จะผลิตดอกไม้งาม
 
กลอนสุภาพ
ไทยเป็นไทยวันนี้กี่หยาดเหงื่อ    
 กี่เลือดเนื้อพลีใช้ให้สยาม
กว่าจะมาเป็นเมืองรุ่งเรืองราม    
 เคยรับความหมองเศร้าอยู่เท่าใด
เราจึงมีชาติมั่นในวันนี้	      
สุนทรีย์กับประวัติรัฐไสว
ใต้ร่มฉัตรปกคามนามเกรียงไกร  
ร่วมภูมิใจร่วมรักสามัคคี
เพลงพระราชนิพนธ์ดังพ้นรั้ว	     
ก็ตื่นตัวสำนึกรักในศักดิ์ศรี
ภูมิสยามงามล้ำนะค่ำนี้	      
เป็นวันที่เฉลิมชนม์ล้นเกล้าไทย
จึงรู้ค่าสุนทรีย์แห่งชีวิต	       
เหมือนไม่คิดมาก่อนใยอ่อนไหว
แท้ที่เลือดสยามร้อนกร่อนหัวใจ  
 จึงหลั่งไหลร่วมรู้สึกสำนึกเดียว...				
20 สิงหาคม 2551 13:00 น.

เป็นไฟ....

ฐปนวุธ

โลกอบอุ่นเพราะไฟให้ความร้อน
ตะวันจรมีไฟส่องจึงมองเห็น
กลางคำคืนฟ้าพร่างน้ำค้างเย็น
เพียงไฟเป็นความอุ่นเกื้อหนุนกัน

ไฟรักร้อนซอนทรวงในบ่วงรัก
อิงอ้อมตักแต่อุ่นห้วงดวงใจฝัน
กลางลานดินที่ดาวพร้อยร้อยผูกพัน
มีเพียงฉันและเธอ...เสมอมา

กลางห้องใจออกสู่ประตูเนตร
เธอเป็นเหตุและเป็นผล ที่ค้นหา
ฉันวันนี้มีแต่ใจ...ไร้ดวงตา
ก็เพราะว่า ฉันเห็นเช่นเธอมอง

เธอเป็นไฟฉันจะเป็นเช่นสายน้ำ
ระเหยฉ่ำเป็นฝนดับหม่นหมอง
เธอที่รักหากทุกข์ช้ำน้ำตานอง
ฉันจะป้องภัยสุมคุ้มครองเธอ

แม้วารลับดับลาโลกฟ้านี้
มิอาจที่จะหมดใจให้เสมอ
ไฟรักฉันโชติใสส่องใจเกลอ
หวังแต่เธอเป็นตะเกียง... อยู่เคียงไฟ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฐปนวุธ
Lovings  ฐปนวุธ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฐปนวุธ
Lovings  ฐปนวุธ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฐปนวุธ
Lovings  ฐปนวุธ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงฐปนวุธ