19 สิงหาคม 2548 12:01 น.

ลอยนาวา

ธรรมาภิวัฏ


..นาวาฝันฟากฝั่ง
คลื่นโถมโรมรันสนั่นไหว
ถ่อพายฝ่าคลื่นประดังไป
ฝั่งฟ้ากลับไกลสุดแสงตา

  เรือน้อยลอยเค้วงกลางสมุท
ทอดใจด้วยสุดจะฟันฝ่า
เหนื่อยอ่อนผ่อนใจในสายตา
เหน็ดหน่ายอ่อนล้าจะราพาย

  เหทิศหันคว้างตามแรงพัด
ลัดใจลอยหลักที่ปักไว้
จ่อมจมหล่มด่ำถลำไกล
ดำลึกดิ่งในใต้นที

  ทุลักทุเลกระอักอ่วม
เสือกสนจนจวนจะสุดที่
สำนึกสำเนียกในนาที
เลือกที่ขวายควานจวนเจียนตาย
  
  คว้าพายหงายเรือตั้งลำใหม่
กลับเรือล่องใบด้วยใจหมาย
หยัดขึ้นถ่อพายให้สุดกาย
โถมคลื่นถั่งพายกระจายพัง

  ฟ้ามืดวิโยคประโคมคลื่น
ใหญ่ยิ่งสุดฝืนจะกลืนหวัง
วายุใหญ่โถมโหมประดัง
ยิ่งยั้งยังกายตะกายพาย

  เรือเอียงเบี่ยงเฉเซแทบคว่ำ
เอียงกลับทับย้ำสำคัญหมาย
นารกนาวาฝ่าสุดใจ
แม้นตายใจฝ่า ข้าจะสู้..!!

 ลมราฟ้าครึ้มกระจายจาง
ฟ้าใสดาวพร่างทางทอสู่
ฝั่งฟากฟ้าฝันที่เฝ้าดู
ร่ำลู่ตรูตรงลงปลายทาง

  ล่องสู่จุดหมายตรงปลายฟ้า
แจวพายฟันฝ่าวันฟ้าสาง
สู่หมายอรุณที่รุ่งราง
เบิกฟ้าเบิกทางที่รางรอ
				
16 สิงหาคม 2548 20:55 น.

ฝันดี

ธรรมาภิวัฏ


ฝันดี
แด่แสงดาวแห่งศรัทธาเล่มใหม่

------------------------------------------------

ดินสอที่หมดไส้
แท่งใหม่ที่มาแทน
ทุกคำที่แน่นแฟ้น
เป็นสิบแสนที่เส้นสาย

อักษรกลอนทบเก่า
ยังเกิดเค้าออกเส้นลาย
ทุกคำมิพร่าพราย
ทุกสายเส้นยังอักษร

คำนึกนำคำนึง
แอบเอื้อนถึงมิต่างพร
อักษาระดากลอน
ประพันธกรคำน้อมนบ

เกิดใกล้มิพรากจาก
ยากลำบากอาจประสบ
ทุกถ้อยร้อยคำรพ
ประพบเพ้อที่จากมา

แสงดาวหรือแสงฝัน
หรือต่างกันในศรัทธา
ฝันเปล่ายังเปรยค่า
ณ เวลาข้าเพ้อฝัน

เวลาอาจลาวาง
หากเราห่างต่างทางกัน
คล้ายคำที่ขำขัน
กลับจักพลันมลายหาย

สิ้นแล้วหรือสิ้นรัก
ดังสิ้นหลักรักมลาย
คำเพ้อก็เสื่อมคลาย
ก็คล้ายฝันเมื่อวันตื่น

ก่อนนั้นฉันฝันดี
ดังเคยมีในค่ำคืน
คืนได้จะกลับคืน
คืนสิ่งฝันเมื่อวันนั้น

อนิจจาเราล้วน แต่.. ต่าง
ระหว่างทางอย่างกีดกั้น
ขีดครึ่งที่แบ่งกัน
นี่ฝันฉัน...นั้นฝันเธอ !!

สวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน    
ประดาพร แก่ฉัน , เธอ
อธิษะฐานประพรมประทานเปรอ
ประปรายโปรยสู่ฝันดี..

				
12 สิงหาคม 2548 22:56 น.

เสียงขับขาน เมื่อวันวานของแม่

ธรรมาภิวัฏ

นอนสาหล้า

 นอนสาหล้าหลับตาแม่สิก่อม
นอนอู่แก้วนอนแล้วแม่สิไกว 
มีหวีก้วยแม่สิเอามาป้อน
มีจอนฟอนแม่สิเอามาหมก
มีบักจกแม่สิขุดเอากลอย
คอยท่าเจ้าหลับตาสาหล่า
ตื่นขึ่นมาแม่สิหยั่มเข่าบาย
คายเข่าป้อนนอนเด้อสาหล่า
เจ้าอย่าถ่าหลับตาไว๊ไว๊
แม่สิไปสานปลาสานปู
เอามาซูมาให่เจ้าเบิ่ง
อย่าสิเพิ่งอุเอ้อุแอ้ว
นอนลงแล้วเจ้าสิเห็นนางฟ้า
เทวดาเพิ่นสิมาพาเที่ยว
มาเป็นเสี่ยวสิได้ผูกแขน
ให่เจ้าแถนเอาแหวนมาซู
มีส่งซูส่งลายซูเจ้า
ให่เจ้าฟ้าวหลับตาหล่าเด้อ
หลับแล่วเด้อสิใหญ่ไวไว
ฮักเจ้าหลายแม่บ่ไปใสดอก
บ่ได้หยอกตั๋วเจ้าลูกหล่า
นอนสาหล่าหลับตาแม่สิก่อม
เจ้าบ่นอนขี้เจี้ยมกินตับ
เจ้าบ่หลับขี้เจี้ยมสิหยอก
บ่ได้บอกตั๋วเจ้าฟ้าวนอน
เอ่เหเอ้เห่ะเอ่เห่เอ่
นอนสาหล่าหลับตาแม่สิก่อม
นอนอูแก้วนอนแล้วแม่สิไกว
				
7 สิงหาคม 2548 20:47 น.

เวล(เวลา)

ธรรมาภิวัฏ


..เช้าเย็นร่ำย่ำเวรุ่ง
แดดแสงสูงดวงดาลับ
..ถึงเพลาชีวาจับ
สดับสรรพบรรเลงดง
ถึงดงถึงพนา
ถึงเวหาวิหคผิน
ถึงเหล่าวรีริน
สรรพสัตว์สิ่งละโลดเดิน
..เดินไปกลางสายธาร
ที่หมุนผ่านกงกาลเวล
ยังคงเดินกะเกณฑ์
ที่เป็นเวลอันเที่ยงธรรม
เที่ยง ทรง ตรง คงวิ่ง
บ่ละสิ่งแลลาหลัง
..ลับไปกลางไพรวัน
เพื่อหมุนวันเปลี่ยนเวียนเวล(วน)
				
6 สิงหาคม 2548 01:27 น.

หมาเศร้า(เราก็แค่หมา)

ธรรมาภิวัฏ


๑ สงัดหนึ่ง ณ ราตรี
ลักษมีสงัดเงียบ
วิเวกโลกโศกจักเปรียบ
กระทบเทียบนฤกานต์

๒ เกิดกล้ำกระหน่ำซ้ำ
โศกจักพลันมหาศานต์
พินาศใดจักปาน
เทวษธารจักท่วมทัน

-----------------------------------

๓ รักแล้วสนิทรัก
กลับผลาญผลักประจักกั้น
ฤาชั่วทั้งชาติชั้น
ก็จักพรั่นประหวั่นใจ

๔ ผลาญใจให้วายวอด
ให้ไหม้มอดโหมมอดไหม้
ร้าวรักสักปานใด
อย่าเจือไว้ในแววตา

๕ ทุกคำที่พร่ำพรอด
อย่าทดทอดเลยอุษา
เชือดแล้วในแววตา
ผิเจือมาว่าเว้าวอน

๖ เลือดพี่จักหลั่งริน
สังเวยสิ้นแด่อัปสร
ซึ่งนางจักต่างพร
มาทอทอนบันเทิงเท้า 

-----------------------------------------

๗ แต่รักก็จักรัก
มิเคยหักสักแผลเก่า
แม้นกลับคืนแนบเนา
ก็จะเฝ้าอภัยเดือน

๘ แม้นดาวจะมิเห็น
ที่เคยเป็นดั่งฉันท์เพื่อน
วอนดาวอย่าพราวเชือน
แม้นจะเลือนอยู่ร้างแรม

------------------------------------------

๙ อดีตที่เคยฝัน
ปัจจุบันยังแน่นแฟ้น
ความหลังยังพลันแต่ง
แม้จะแต้มด้วยร้าวราญ

๑๐ วอนฟ้ามาผสม
วอนสายลมมาผสาน
พัดใจที่ร้า(ล)ราญ
ให้ปสานสู่ดวงใจ

------------------------------------------

๑๑ เพ้อเจ้อและเพ้อฝัน
มิมีวันเป็นไปได้
ปาฏิหาริย์หรืออย่างไร
จะเหลือไว้ในโลกา(โลกนี้มันไม่มีปาฏิหาริย์)

๑๒ สนุกทั้งทุกข์เศร้า
หัวร่อเร่าเคล้าน้ำตา
ฝันไปก็เปล่าค่า
กูแค่หมาเห่าพระจันทร์

๑๓ พระจันทร์ฤาจะร่วง
คนทั้งปวงก็จะพรั่น
หัวร่อก็จะหยัน
" มึงหน่ะมันหมาไม่มีหัวสมอง......!! "(ไอ้คนไม่มีสมอง)

๑๔ " หลับตาฝัน.. " เถิดหมาเศร้า
ธเนตรเคล้าน้ำตานอง
ฝันได้ดั่งใจปอง
คงต้องใจในฝันนั้น

------------------------------------------

๑๕ กลับสู่โลกความจริง
ในเรื่องจริงต่างทางฝัน
มนุษย์ไม่จีรัง
ส่วนความหวัง " ก็ไม่ยั่งยืน....!! "

๑๖ พบเธอในฝันนั้น
คงพบวันหักพังครืน(ฝันสลาย)
เพราะเรามิอาจฝืน
ในค่ำคืน " แห่งโชคชะตา......!! "

๑๗ " เราต่างนอนกันคนละคืน 
แล้วตื่นจากคืนกันคนละฝัน "
ต่างจากกันห้วงเวลา
เธอดั่งเทพธิดา
ฉันแค่หมาแทบทางเท้า

๑๘ เส้นทางอาจบรรสป
บรรจบพบเพียงสองเรา
ดั่งละครตอนน้ำเน่า
กลับบทเราให้เลิกลา

๑๙ สวรรค์หรือฟ้านั่น
กลั่นแกล้งฉันหัวเราะร่า
หมาน้อยพลอยน้ำตา
อนาจหมา.. รันทดท้อ

----------------------------------------

๒๐ ทางเดินแห่งสองเรา
จบลงเปล่าบ่เล่าต่อ
เพียงคนละทางรอ
คู่ขนานต่างเวลา

--------------------------------------- 
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟธรรมาภิวัฏ
Lovings  ธรรมาภิวัฏ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟธรรมาภิวัฏ
Lovings  ธรรมาภิวัฏ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟธรรมาภิวัฏ
Lovings  ธรรมาภิวัฏ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงธรรมาภิวัฏ