กลอนเขมรของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช

เจรนัย

สัปดาห์นี้มีเรื่องความเมืองใหญ่ 
ไทยถูกฟ้องขับไล่ขึ้นโรงศาล 
เคยเป็นเรื่องโต้เถียงเกี่ยงมานาน 
ที่ยอดเขาพระวิหารรู้ทั่วกัน 
   กะลาครอบมานานโบราณว่า 
พอแลเห็นท้องฟ้าก็หุนหัน 
คิดว่าตนนั้นใหญ่ใครไม่ทัน 
ทำกำเริบเสิบสันทุกอย่างไป 
   อันคนไทยนั้นสุภาพไม่หยาบหยาม 
เห็นใครหย่อนอ่อนความก็ยกให้ 
ถึงล่วงเกินพลาดพลั้งยังอภัย 
เพราะเห็นใจว่ายังเยาว์เบาความคิด 
   เขียนบทความด่าตะบึงถึงหัวหู 
ไทยก็ยังนิ่งอยู่ไม่ถือผิด 
สั่งถอนทูตเอิกเกริกเลิกเป็นมิตร 
แล้วกลับติดตามต่อขอคืนดี 
   ไทยก็ยอมตามใจไม่ดึงดื้อ 
เพราะไทยถือเขมรผองเหมือนน้องพี่ 
คิดตกลงปลงกันได้ด้วยไมตรี 
ถึงคราวนี้ใจเขมรแลเห็นกัน 
   หากไทยจะลำเลิกบ้างอ้างขอบเขต 
เมืองเขมรทั้งประเทศของใครนั่น 
ใครเล่าตั้งวงศ์กษัตริย์ปัจจุบัน 
องค์ด้วงนั้นคือใครที่ไหนมา 
   เป็นเพียงเจ้าไม่มีศาลซมซานวิ่ง 
ได้แอบอิงอำนาจไทยจึงใหญ่กล้า 
ทัพไทยช่วยปราบศัตรูกู้พารา 
สถาปนาจัดระบอบให้ครอบครอง 
   ได้เดชไทยไปคุ้มกะลาหัว 
จึงตั้งตัวขึ้นมาอย่าจองหอง 
เป็นข้าขัณฑสีมาฝ่าละออง 
ส่งดอกไม้เงินทองตลอดมา 
   ไม่เหลียวดูโภไคไอศวรรย์ 
ทั้งเครื่องราชกกุธภัณฑ์เป็นหนักหนา 
ฝีมือไทยแน่นักประจักษ์ตา 
เพราะทรงพระกรุณาประทานไป 
   มีพระคุณจุนเจือเหลือประมาณ 
ถึงลูกหลานกับเนรคุณได้ 
สมกับคำโบราณท่านว่าไว้ 
อย่าไว้ใจเขมรเห็นจริงเอย... 
------------------------------------------------------
ผู้แต่ง: ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
18 ตุลาคม พุทธศักราช 2502 ก่อนศาลโลกจะตัดสินให้กัมพูชามีอธิปไตยเหนือปราสาทเขาพระวิหาร 2 ปีเศษ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เจ้าของหนังสือพิมพ์สยามรัฐได้แต่งกลอนนี้เพื่อแสดงถึงความรู้สึกส่วนตัวของท่าน หรืออาจเป็นความรู้สึกส่วนใหญ่ของคนไทยต่อสถานการณ์นั้นก็เป็นได้ ซึ่งเมื่อผมลองอ่านแล้ว ผมก็เผลอไปคิดว่า หรือเราจะต้องประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกหรือเปล่า...				
comments powered by Disqus
  • สดายุ

    17 พฤศจิกายน 2552 14:23 น. - comment id 25672

    เห็นความชัดเจนอีกราย
    
    41.gif41.gif41.gif
  • ใจปลายทาง

    17 พฤศจิกายน 2552 14:03 น. - comment id 25678

    ขอบคุณที่นำกลอนนี้มาลง ใจปลายทางอยากได้มานานแล้วค่ะ เห็นทางทีวีเอามาอ่านให้ฟังก็อยากได้ 
    
     สมใจแล้ว ขอบคุณมากจ้า
    
    ขอเก็บไว้หน้าส่วนตัวนะค่ะ
  • ลูกข้าวนึ่ง

    18 พฤศจิกายน 2552 16:40 น. - comment id 25692

    แวะมาดูคนโง่ๆ บ่น
  • ปอ ประตูหลัง จอมมารถั่วดำ

    18 พฤศจิกายน 2552 16:46 น. - comment id 25697

    คนโง่พวกขี้เหลืองแท้ต้องกินน้ำมนต์แช่โกเต็กซ์เปื้อนประจำเดือนเสกของไอ้แป๊ะกะทิลิ้มดอกทองโกงสิบทิศ
    
    นอกนั้นของปลอม
  • ฉางน้อย

    17 พฤศจิกายน 2552 15:53 น. - comment id 25700

    .... มาแอบขำคอมเม้นท์ ที่ 5 ค่ะ .....46.gif65.gif   ขำเฉยๆจ้า   74.gif
  • สายวารินทร์

    17 พฤศจิกายน 2552 17:08 น. - comment id 25701

    อ้าว ฉางน้อยขำตัวเองหรือ 555
    
    19.gif19.gif19.gif19.gif
  • Darkness_Hero

    17 พฤศจิกายน 2552 16:16 น. - comment id 25702

    ร่วมด้วยช่วยคุณฉางน้อยขำความเห็นที่ 5 ครับ ^ ^ 19.gif19.gif19.gif
  • ฉางน้อย

    17 พฤศจิกายน 2552 16:44 น. - comment id 25708

    9......มาม่ะๆ มาช่วยกันขำ   อิอิ 
    
    อย่าขำมาก เดี๋ยวคนอื่นหมั่นไส้
    
    70.gif70.gif46.gif
  • ฉางน้อย

    17 พฤศจิกายน 2552 18:16 น. - comment id 25724

    8........แหม ลุงล่ะก็ ตามน้ำเชียว ....46.gif65.gif
  • ประชาทิปด สร้างเอกสารเท็จเช็ดเมียเพื่อน

    18 พฤศจิกายน 2552 16:20 น. - comment id 25966

    การที่จะนำพระราชกระแสในโต๊ะเสวยมาบอกเล่าให้คนนอกทราบนั้น ก็ไม่บังควรอย่างยิ่งอยู่แล้ว ......ประโยคนนี้คุณชายว่าใครเหรอ
  • ประชาทิปด สรางเอกสารเท็จเช็ดเมียเพื่อน

    18 พฤศจิกายน 2552 14:33 น. - comment id 25975

    "ทักษิณ"เล่นบท"ฮีโร่ช่วยวิศกรไทยส่ง "จิ๋ว"บินรับตัว ซัด"มาร์ค"เด็กขี้วีน เลิก ...ข่าว..มติชนออนไลน์       
    
    "เอ็มโอยู"เสียเปรียบ
    
    "แม้ว"ยันมีคำสั่งยุทธการให้สอยเครื่องบินส่วนตัว ซัด"โอบามาร์ค"คิดลบแถมเป็นเด็ก"ขี้วีน" ยกเลิกเอ็มโอยูเขตทับซ้อนทางทะเลไทยเสีย เผย ขอความเป็นธรรม ให้วิศวกรไทยแล้วพร้อมอภัยให้แม้เป็นอันตรายต่อตัวเอง "ทักษิณ" ส่ง"จิ๋ว"บินรับตัว .........................
    พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ที่ไปกัมพูชา เพราะสมเด็จฮุนเซน มีน้ำใจ และกษัตริย์สีหมุนี โปรดเกล้าฯ แต่ไม่ได้หมายความว่า ตนไม่รักชาติ ไม่ช่วยชาติ ตนพร้อมทำงานเพื่อชาติ แต่เมื่อกัมพูชาให้เกียรติ ตนก็ต้องยอมรับ จึงได้ไปบรรยายเรื่องเศรษฐกิจ เพื่อให้เป็นประโยชน์ในการทำงานร่วมกันของสองประเทศ หาทางให้วินวินทั้งคู่ ขอยกตัวอย่างประธานาธิบดีโอบามาล่าสุดที่ไปเซี่ยงไฮ้ ซึ่งพูดมีทัศนคติดีมาก ยิ้มแย้ม ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ต้องเป็นเชิงบวก สร้างสรค์และเข้าใจกันในวงกว้าง แต่ของไทยตรงข้าม คือ คิดลบ คิดในการทำลาย และคิดแบบไม่เข้าใจและยังเป็นปฏิปักษ์ด้วย นี่สะท้อนถึงการไม่มีประสบการณ์การเมืองระหว่างประเทศ จึงมองในทางลบหมด 
    
    พ.ต.ทงทักาณกล่าวว่า โอบามา ยังบอกว่า ประเทศหนึ่งประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ประสบความสำเร็จบนความล้มเหลวของอีกประเทศหนึ่ง เราสำเร็จไม่ใช่คนอื่นเจ๊ง หรือคนอื่นสำเร็จแต่เราเจ๊ง มันไม่ใช่ซีโร่ซัมเกมส์อีกแล้ว ในสมัยนี้ต้องวิน-วินทั้งคู่ ทัศนคติต้องกว้าง รู้สึกที่ดีต่อกัน แต่นี่ โอบามา กับโอบามาร์ค คิดไม่เหมือนกัน ฉะนั้น อยากเหมือนโอบามา ต้องเอาพื้นฐานความคิด บุคลิกมาด้วย
  • เจรนัย

    18 พฤศจิกายน 2552 16:44 น. - comment id 25976

    คนโง่พวกขี้เหลืองกินน้ำมนต์แช่โกเต็กซ์เปื้อนประจำเดือนเสกของไอ้แป๊ะกะทิลิ้มดอกทองโกงสิบทิศใช่ป่ะ
  • ลูกข้าวนึ่ง

    18 พฤศจิกายน 2552 16:44 น. - comment id 25977

    คนโง่พวกขี้เหลืองกินน้ำมนต์แช่โกเต็กซ์เปื้อนประจำเดือนเสกของไอ้แป๊ะกะทิลิ้มดอกทองโกงสิบทิศใช่ป่ะ
  • ประชาวิบัติ ถนัดกู้

    18 พฤศจิกายน 2552 14:36 น. - comment id 25978

    จัดอันดับคอร์รัปชั่นโลกปี 2552 ไทยแย่ลงจากอันดับ 80 ร่วง 84 คะแนน ดีกว่าอินโดนีเซีย แต่แย่กว่ามาเลเซีย เต็มสิบได้ 3.4 คะแนน สถานการณ์ไม่เคยดีขึ้น วูบมาตลอดต่ำสุดเท่ากับปี 50
    
    
    ได้มาเพราะฝีมือไม่ใช่โชคช่วยนะ
  • ประชาวิบัติ ถนัดกู้

    18 พฤศจิกายน 2552 14:40 น. - comment id 25979

    "แม่ลูกจันทร์" เห็นว่าการที่รู้ล่วง หน้าว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะไม่สำเร็จ ย่อมเป็นเรื่องที่ดี
    
    ดีกว่ารัฐบาลจะสร้างภาพให้ประชาชน เข้าใจผิดว่า การแก้รัฐธรรมนูญยังเดินหน้าเต็มสตีม
    
    แถมยังประหยัดงบประมาณแผ่นดินอีกสองพันล้านบาท ที่จะจัดออกเสียงประชามติถามความเห็นประชาชนทั่วประเทศว่าต้องการ ให้แก้รัฐธรรมนูญหรือไม่? และให้แก้กี่ประเด็น?
    
    อย่างไรก็ตาม "แม่ลูกจันทร์" ยืนยัน ว่ารัฐธรรมนูญฉบับมดลูก คมช. ออกแบบมา ให้การเมืองไทยอ่อนแอ
    
    การจะแก้ไขแค่ 6 ประเด็น อย่างที่กำหนดไว้ยังไม่เพียงพอ
    
    ต้องแก้ไขยกเครื่องใหม่เพื่อล้างดีเอ็นเอเผด็จการ
    
    
    วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ.2552 จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
  • สายวาลิง

    18 พฤศจิกายน 2552 08:06 น. - comment id 25980

    หนังสือพิมพ์รายวันสยามรัฐ จากคึกฤทธิ์ ถึงเปรม
    
    
    
    หนังสือพิมพ์รายวัน สยามรัฐ 
    ฉบับประจำวันที่ 11 มีนาคม 2530 
    
    ความจริงผมไม่อยากจะเขียนเรื่องที่จะเขียนต่อไปนี้เลย แต่เมื่อได้พิจารณาดูโดยรอบคอบแล้ว เห็นว่า จำเป็นต้อง 
    เขียนเพราะถ้าไม่เขียนแล้วอาจเกิดผลเสียหายใหญ่โตต่อไปได้ 
    
    จะกระเทือนใครบ้างผมก็ไม่สนใจละครับ เพราะผมคิดเสียว่า ถ้าผมกระเทือนใครคนนั้นเป็นคนควรกระเทือน 
    หรือกระเทือนอยู่แล้ว 
    
    มีข่าวออกมาว่า ในหลวงมีพระราชดำรัสกับคนหนังสือพิมพ์ที่จังหวัดเชียงใหม่ในทำนองว่า 
    
    ระบอบประชาธิปไตยในเมืองไทยนั้นยุ่งยากเพราะเราต้องลอกแบบฝรั่งเอามาใช้ ถ้าทำแบบไทยๆ ก็คงจะยุ่งยาก 
    น้อยลง พระราชดำรัสนี้มีขึ้นในโต๊ะเสวยขณะที่มีพระราชปฏิสันถารกับคนหนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นธรรมดาของพระ 
    ราชดำรัสในโต๊ะเสวยก็จะต้องมีพระราชกระแสอื่นๆ มาก่อนหน้านี้ หรือคนหนังสือพิมพ์กราบบังคมทูลถามอย่าง 
    ใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง และเมื่อมีพระราชกระแสที่เป็นข่าวนี้แล้ว ก็จะต้องมีพระราชกระแสอื่นๆ ต่อไปอีก 
    
    การที่จะนำพระราชกระแสในโต๊ะเสวยมาบอกเล่าให้คนนอกทราบนั้น ก็ไม่บังควรอย่างยิ่งอยู่แล้ว 
    
    แต่ถ้าจะบอกเล่า ก็ควรจะบอกให้หมดว่า พระราชกระแสก่อนนั้นมีมาอย่างไร และพระราชกระแสต่อไปมีอย่างไร 
    การที่รัฐบาลจงใจเชิญพระราชกระแสมาแต่ประโยคเดียว แล้วสั่งให้เผยแพร่ต่อไปนั้น เป็นการไม่บังควรอย่างยิ่ง 
    แม้จะเป็นคำพูดของคนอื่นก็ไม่ควร เพราะไม่เป็นธรรมแก่ผู้พูด 
    
    ความจริง คนหนังสือพิมพ์ที่เฝ้าฯอยู่ในโต๊ะเสวยนั้น มีอยู่หลายคน ไปจากหนังสือพิมพ์หลายฉบับ แต่มีอยู่เพียง 
    ฉบับเดียวหรือสองฉบับเท่านั้น ที่ได้นำมาลงเป็นข่าว แต่ก็เป็นข่าวเล็กๆ มิได้ถือว่าเป็นข่าวใหญ่ข่าวสำคัญ 
    หนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่นั้นมิได้เอ่ยถึงเลย 
    
    ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่าหนังสือพิมพ์ไทยนั้นถึงจะจ้วงจาบใครต่อใครให้เกิดโทสะ เคียดแค้นได้อยู่เสมอ แต่ก็รู้ที่ต่ำที่ 
    สูง บูชาคนที่ควรบูชาและมีความจงรักภักดีอันมั่นคงแข็งแรงอยู่ พูดง่ายๆ ก็คือ หนังสือพิมพ์ไทยยังเป็นผู้ดีอยู่ไม่ 
    กำเริบ 
    
    ผมก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมนายกรัฐมนตรีเปรม ติณสูลานนท์ จึงได้ตื่นเต้นถึงกับบอกคณะรัฐมนตรีให้ช่วยกันเผยแพร่ 
    ข่าวนี้ให้สะพัดออกไป และย้ำแล้วย้ำอีกว่า อยากให้คนรู้กันทั่ว 
    
    ที่คุณเปรมอ้างว่าจงรักภักดีต่อพระกรุณายิ่งกว่าใครนั้น น่าจะต้องเอามาผ่านห้องทดลองเพื่อวิเคราะห์กันใหม่เสีย 
    แล้วกระมัง? สิ่งสำคัญที่สุดที่จะต้องคิดก็คือ คำว่า ประชาธิปไตยแบบไทยๆ นั้น หมายความว่าอย่างไร โดยเฉพาะ 
    อย่างยิ่ง ความหมายของคำนี้ในขณะที่มีพระราชดำรัสนั้นเป็นอย่างไร เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ ผมเองก็ไม่รู้ 
    
    คุณเปรมเป็นอะไรมาจึงจะเข้าไปหยั่งรู้ในพระราชหฤทัยได้? 
    
    เพียงแต่คิดว่าตัวรู้ก็ออกจะเป็นคนไม่น่าติดต่อด้วยเสียแล้ว 
    
    เรื่องประชาธิปไตยแบบไทยๆ นี้ ผมได้ยินพูดกันมาช้านานแล้วคนโน้นพูดบ้างคนนี้พูดบ้าง ฟังดูก็เห็นตรงกันแต่ 
    ศัพท์ที่ใช้เรียก 
    
    ส่วนวิธีการที่อ้างว่าเป็นวิธีการแบบไทยๆ นั้น ไม่เห็นตรงกันสักราย เมื่อต่างคนต่างคิดในเรื่องเดียวกันนี้ ต่างคน 
    ต่างก็มีวิธีการของตนแตกต่างกันไป บ้าบ้าง บอบ้าง บิ่นบ้าง หาอะไรเป็นแก่นสารและเอาเป็นที่ยุติไม่ได้ 
    
    เมื่อคุณเปรมตื่นเต้นในระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ อย่างนี้ ก็พอจะเข้าใจได้ว่า คุณเปรมเองก็ต้องการและมี 
    วิธีการของระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ ของตนเอง 
    
    หมายถึง การเป็นนายกฯโดยไม่ต้องสมัครผู้แทนฯให้เหนื่อยกาย เหนื่อยใจ ใช่ไหม? 
    
    หมายถึงการที่เป็นนายกฯคนเดียวตลอดไปใช่ไหม? 
    
    หมายถึงนายกฯคนที่ชื่อเปรมนั้นไม่ต้องรับผิดในสิ่งใดและต่อใครใช่ไหม? 
    
    หมายถึงนายกฯคนที่ชื่อเปรมจะต้องอยู่เหนือคำวิพากษ์วิจารณ์ ใครแตะต้องไม่ได้ ใช่ไหม? 
    
    หมายถึง ความเป็นนายกฯนั้นมีแต่เสวยสุข ไม่มีทุกข์กับใคร ใช่ไหม? 
    ได้อยู่บ้านหลวง ใช้น้ำหลวง ไฟหลวง ใช่ไหม? 
    
    จะไปไหนก็ใช้รถหลวง เรือหลวง หรือหลวงออกค่าโดยสารเครื่องบินให้ยกโขยงกันไปเที่ยวต่างประเทศได้ ใช่ 
    ไหม? 
    
    จะไปไหนก็มีคนมาเรียงรายคอยต้อนรับ บางแห่งถึงกับก้มลงกราบกับพื้นดิน ใช่ไหม? 
    
    คึกฤทธิ์ ปราโมช
  • ลูกข้าวนึ่ง

    18 พฤศจิกายน 2552 14:50 น. - comment id 25995

    ....โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ พรรคยังได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์การเมือง ขณะนี้ ด้วยว่าจากการลงพื้นที่ของส.ส.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือพบว่าประชาชนระดับราก หญ้ายังศรัทธาและสงสารพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และมองว่ารัฐบาลรังแก พ.ต.ท.ทักษิณมากเกินไป ขัดแย้งกับผลสำรวจของโพลต่างๆอย่างสิ้นเชิง เพราะกระแสของพรรคเพื่อไทยในภาคอีสาน ขณะนี้ แรงว่าพรรคไทยรักไทย และพลังประชาชนเสียอีก
    
    นพ.อลงกต กล่าวต่ออีกว่า เชื่อว่าหากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น พรรคเพื่อแผ่นดินคงมีโอกาสสอดแทรกเข้ามาได้น้อยลงกว่าเดิม เพราะกระแสความนิยมในตัว พ.ต.ท.ทักษิณในเขตเมืองของต่าง จังหวัดไม่ต่างจากระดับรากหญ้าเท่าใดนัก ส่วนอายุของรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้ ต้องขึ้นอยู่กับความสามัคคีของพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร  พรรคเพื่อแผ่นดินไม่กลัวการยุบสภาแต่กลัวจะเกิดการปฏิวัติมากกว่า...
    
    http://www.thairath.co.
  • คนรากหญ้า

    18 พฤศจิกายน 2552 16:49 น. - comment id 26006

    นายเจรนัย ไม่อยู่เหรอ
    
    คนมีวุฒิภาวะอย่างคุณน่าจะมาตอบอะไรบ้างนะ  ทำอาการอย่างนายเนี่ยคนบ้านนอกที่บ้านเรานะเขาด่ากันเลยนะว่าไอ้หน้าโง่  ไอ้หน้าส้นตรีนนะ  
    
    เราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจึงด่ากันเช่นนั้น  คงต้องไปหาข้อมูล

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน