28 เมษายน 2553 20:56 น.

หน้าต่างบานเก่า

ปาลิน

หน้าต่างบานเก่า		
บทกวีบอกเล่าถึงความหมาย		
อวลซึ้งอุ่นฝันจนวันวาย		
ปลิวหายลาลับไปกับตา		
		
กลางดื่น		
ค่ำคืนดึงดันฉันฝันว่า		
รอยยิ้มวูบดับไม่กลับมา		
รอยตาหล่นเปื้อนเกลื่อนรอยใจ		
		
รุ่งเช้า		
เงาเหงาโปรยปันสู่วันใหม่		
ท้องฟ้าอวลอึงถึงหนึ่งใคร		
หยดน้ำจางไปกับสายลม		
		
ความเปราะบาง		
ปูทางมั่นเหมาะจะเพาะบ่ม		
เมล็ดพันธุ์ปั้นแต่งแห่งอารมณ์		
โศกเศร้าเหงาตรมผสมกัน		
		
ที่นั่นและที่นี่		
วันปีผ่านไปด้วยใจหวั่น		
เมื่อไหร่ลมหนาวจะเท่าทัน		
ปัดเป่าหมอกควันอันดื้อดึง		
		
ยิ่งถาม		
จะยิ่งพยายามไม่นึกถึง		
ปฏิเสธความหลังสักครั้งนึง		
เลือนรอยน้อยหนึ่งสักครึ่งใจ		
		
หน้าต่างบานเก่า		
ลมเบาจางๆระหว่างไหน		
ละเมอ...เธอ-ฉัน  แห่งวันใด		
ผ้าม่านกวัดไกวจึงไหวเอน				
26 เมษายน 2553 21:35 น.

ถ้าเธอยังอยู่

ปาลิน

อยากมีเธออยู่ตรงนี้		
กล่อมให้ฉันฝันดีสักนิดหน่อย		
ขอเวลาให้ฉันอยู่อย่างผู้คอย		
กับดอกไม้ดอกน้อยที่ฉันมี		
		
ถ้าเธอยังอยู่		
ฉันจะปิดประตูไว้ที่นี่		
ไม่ให้ใครทายทักสักนาที		
ไม่ยินดียินร้ายวุ่นวายใคร		
		
รอยยิ้มยังหลงเหลือ		
มิใช่มีไว้เผื่อเธอเชื่อไหม		
ทุกเหตุผลพบเจอเธอเข้าใจ		
นั่นไม่ใช่วารวันที่ฉันเป็น		
		
หากเธอถาม		
จะไม่เอ่ยอำความให้เธอเห็น		
จะไม่อมพะนำอยู่ย่ำเย็น		
จะไม่ซ้อนซ่อนเร้นความเป็นเรา		
		
ฉันจะตอบ		
ในวันที่เธอมอบความหม่นเศร้า		
ว่าความรักความชังนั้นฝังเงา		
และความเหงาเกาะกุมพื้นที่นี้		
		
เธอไปอยู่ไหน		
วันที่ใจทุกข์ทนจนเหลือที่		
สักคำนึงซึ้งบ้างไหมเล่าคนดี		
ก่อนจะปิดตาคู่นี้ลงล้มนอน		
		
เอาความฝันของฉันมา		
คืนดวงตาคู่เก่าให้ฉันก่อน		
คืนรู้สึกห่วงหาและอาทร		
ค่ำนี้ฉันจะขอพรวิงวอนเธอ				
25 เมษายน 2553 22:36 น.

รอยยิ้ม ดอกไม้

ปาลิน

รอยยิ้มดอกไม้		
ผลิช่อดอกออกใบอยู่ในสวน		
มดตะนอยต่อคิวริ้วขบวน		
ชักชวนผีเสื้อมาเรื่อริน		
		
ดื่มด่ำหยดน้ำหวาน		
ก่อนฤดูกาลจะสูญสิ้น		
หญ้าคาตลบลงซบดิน		
ปาดน้ำค้างฉ่ำรินและยินยล		
		
ถึงเจ้า....แมลงปอ		
เคยหยอกล้อลู่รางกลางเวหน		
ดอมดอกบัวเสาะส่ายกลางสายชน		
เวียนวนเย้าเล่นอยู่เป็นนาน		
		
สวัสดีสายหมอก		
ลมกระฉอกบอกย้ำกรำกิ่งก้าน		
โชยมาเรื่อเจือจางกลางสะพาน		
ที่นั่นมีจักรยานยืนเดียวดาย		
		
จักรยานสีเหงา		
กุญแจดอกเก่าเจ้าสูญหาย		
จึงยืนรอดักคอยทักทาย		
ผู้คนเรียงรายผ่านไปมา		
		
เพียงครู่เลอะเลือนคนเคลื่อนผ่าน		
จักรยานสีเหงาก็กล่าวว่า		
"ลาก่อนรอยยิ้มที่นำพา		
มาแต้มตาห้อมห้วงดวงดอกไม้"		
		
ก่อนสิ้นฤดูกาล		
ผีเสื้อชิมรสหวานอยู่ไกล-ใกล้		
สายหมอกจะมีค่าสักปานใด		
ก็สุดแท้แต่ใจคนผ่านทาง				
31 มีนาคม 2553 19:22 น.

รอยร้าวจากดาวใส

ปาลิน

หวัง ผนึกรอยร้าวจากดาวใส
พาตัวเองมาแสนไกลเพื่อใฝ่ฝัน
เดินตามรอยเท้าของใครกัน
แสวงหาวารวันโลกนิทาน

ฟอนไฟในแววตา
มีความไร้เดียงสาในหมอกม่าน
ความสุขเล็กๆเบ่งบาน
บนรอยร้าวรานของพระจันทร์

ตากับยายตำข้าว
เอ่ยปากถึงเรื่องราวเด็กช่างฝัน
ความอบอุ่นคุ้นจำนรรจ์
หากแต่ไร้ความผูกพันเมื่อแหงนมอง

เข้าใกล้ความด้านชา
ปวดร้าวรอนล้าไปทุกห้อง
หัวใจไร้คำตอบการครอบครอง
ไม่มีเจ้าของความเป็นเรา

เงาหม่นก็หม่นพร่า
สะกดคำอำลาอย่างเงียบเหงา
นับหนึ่งถึงศูนย์ขึ้นเบาๆ
หุ่นกระบอกตัวเก่าไร้คนดู

ฉันหยิบมันขึ้นมา
จะเดินหน้าหันหลังยังไม่รู้
บางขณะฉันเตลิดคอย เชิด-ชู
เพื่อแทนการมีอยู่ของตัวเอง

ท่ามกลาง คืนค่ำคนรำพึง
แสงดาวส่องถึงจะปลั่งเปล่ง
รอยร้าวรอยนั้นจะบรรเลง
ขับกล่อมบทเพลงสู่นิทรา

เพื่อปฏิเสธความรู้สึก
แห่งมโนสำนึกว่าห่วงหา
แม้ดาวร้อยลอยเลื่อนนั้นเลือนลา
จะวาดฝันบนฟ้าไว้แหงนมอง				
30 มีนาคม 2553 20:37 น.

นักเดินทางในห้องสี่เหลี่ยม

ปาลิน

บานประตูปิดตาย
เก้าอี้หวาย เกลื่อนกองสัมภาระ
แมงมุมวนวิ่งสะเปะสะปะ
เศษกระดาษเกะกะอยู่เกลื่อนพื้น

โคมไฟเปรอะเปื้อนสนิมฝุ่น
นาฬิกาหยุดหมุนไม่ยอมตื่น
แจกันแห้งกรังมาทั้งคืน
ผ้าม่านเย็นชื้นด้วยปื้นน้ำ

เมื่อคืนนี้มีฝน
ละอองความสับสนคงหล่นย่ำ
หลับใหล ในราตรีแห่งสีดำ
เนาว์นานจารจำฝันหลอนลวง

มีไหมดาวดวงใดเหน็บหนาว
มีไหมเรื่องราวความแหนหวง
มีไหมนักเดินทางสมองกลวง
มีไหมผู้ตักตวงความเดียวดาย

ซุกจินตนาการในม่านหลืบ
กลัวแม้มด กระทืบรุมทำร้าย
ตรงนี้ ตรงนั้น อันตราย
รื้อค้น เคลื่อนย้าย อลวน

ห้องสี่เหลี่ยมทาสีเทา
มุ้งหมอนทิ้งคราบเหงาในเงาหม่น
ค่ำนี้ฉันระบายความร้อนรน
หยากไย่เบื้องบนเป็นพยาน				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปาลิน
Lovings  ปาลิน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปาลิน
Lovings  ปาลิน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปาลิน
Lovings  ปาลิน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงปาลิน