9 พฤศจิกายน 2545 13:06 น.

บอกพระเจ้าด้วย..หิวข้าว

ปุถุซน

ท่านนักบุญ
ถ้าท่านเข้าเฝ้าพระเป็นเจ้า
ช่วยบอกพระองค์ด้วย..
ว่าเราหิวข้าว
บอกพระองค์ด้วยว่า
กระสุนปืนเรากินไม่ได้
หยาดฝนเหลืองก็มิดับกระหาย
สันติภาพเราไม่ต้องการ
เราต้องการอาหาร
เครื่องดื่มและยารักษาโรค
อ้อมกอดของผู้เป็นที่รักอันอบอุ่น
มิใช่ร่างกายที่แหลกเหลวด้วยระเบิด
เราต้องการดวงตาและไมตรี
ที่บ่งบอกถึงมิตรภาพและความห่วงใย
มิใช่ยาพิษที่หยิบยื่นให้แก่เด็กเด็ก

ป.ล.ท่านนักบุญอย่าลืม
บอกพระเจ้าด้วย..หิวข้าว				
18 ตุลาคม 2545 11:29 น.

ระบำเท้าบนยอดหญ้า

ปุถุซน

แสงเรืองเรืองสีแดงแสดปลั่ง 
ทาทาบขอบฟ้าทางตะวันออก 
แต่หมอกยังคงหนาอยู่ 
น้ำค้างยังคงปริ่มยอดหญ้า 

ฉันถอดร้องเท้า 
แล้วขออนุญาติต้นหญ้าว่า 
ขอฉันเดินเยาะย่อง 
บนยอดของเธอด้วย 

แล้วฉันค่อยค่อยก้าวเดิน 
ดุมดุมย่ำไปบนยอดหญ้า 
เท้าเหยียบสัมผัสความฉ่ำเย็น 
ของน้ำค้างบนยอดหญ้า 
ฉันขยับเท้าอย่างระแวดระวัง 
เพราะกลัวยอดหญ้าจะหักเอา 

ฉันเดินไปเดินมา 
แต่ไม่ให้ซ้ำรอยเท้าเดิม 
เดินไปคิดไป 
พลางสูดความสดชื่น 
สุดพรรณนา 
บางครั้งเหลียวหลัง 
มองรอยที่ฉันเดิน 
แลเห็นเป็นทาง 
เหมือนรอยเท้า 
บนหาดทราย 

แล้วดวงตะวัน 
เปล่งประกายแสง 
สีแดงค่อนทอง 
มาทายทักฉัน 
กลางสนามหญ้า 
ฉันเห็นรอยยิ้ม 
ของมันส่งมาให้ 
ฉันเลยส่งยิ้มตอบ 

แล้วหมอกก็เริ่มจาง 
น้ำค้างบนยอดหญ้า 
สะท้อนแสงประกาย 
คล้ายเพชรเม็ดงาม 
ยวงระยิบระยับ 

ฉันกล่าวขอบคุณต้นหญ้า 
ที่ให้ฉันเดินบนยอด 
และกล่าวสวัสดีดวงตะวัน				
5 ตุลาคม 2545 14:13 น.

หมอกจางจางใต้แสงดาวพราว

ปุถุซน

ดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปนานแล้ว 
ความมืดก็กางผ้าคลุมผืนใหญ่ของเธอ 
แล้วท้องฟ้าทั้งผองก็เริ่มมืดสนิท 
ดวงดาวจากจักรวาลอันไกลโพ้น 
ทยอยกันออกมาทักทาย 
ทีละดวงสองดวง 
โคมระย้าแห่งหมู่ดาวดารดาษ 
ถูกแขวนไปทั่วฟากฟ้ากว้าง 
หมอกจางจางค่อยค่อยโปรยลงมา 
ปกคลุมพื้นโลกที่กำลังเหนื่อยอ่อนล้า 
ภาพต้นสนสูงที่ยืนตระหง่านโดดเด่น 
รอรับความชุ่มฉ่ำจากหยาดน้ำค้าง 
ที่อาจโปรยร่วงลงมาจากสรวงสวรรค์ 
เสียงจิ้งหรีดจักจั่นร้องระงมเซ็งแซ่ 
ทั่วป่าพงรกหญ้าทึบเขียวครึ้ม 

ผมนั่งจิบชาร้อนร้อนหอมกรุ่น 
ไออุ่นจากถ้วยชาลอยเป็นหมอก 
พวยพุ่งละลิ่วเป็นสายสวยงาม 
ผมเอาริมฝีปากประทับลง 
ที่ขอบถ้วยชาแผ่วเบา 
รสชาหอมชุ่ยแตะลิ้น 
แล้วเคลื่อนเข้าสู่ลำคอ 
ผมรู้สึกถึงความอบอุ่น 
ที่กำลังแล่นเดินทาง 
เข้าสู่ร่างของผม 
มันช่างละมุนนุ่มจริงจริง 
แล้วผมก็วางถ้วยชาลงอีกครั้ง 
แล้วเพ่งพินิจที่กลุ่มควันน้อยน้อย 
ที่ทยอยกันโผออกจากถ้วยชา 
มาสู่บรรยากาศอันปลอดโปร่งของโลก 
แล้วอาณาจักรทางความคิดของผม 
ก็ก่อตัวขึ้นภายใต้บรรยากาศเฉกเช่นนี้				
20 กันยายน 2545 18:24 น.

ฉันอยากร้องไห้..แต่น้ำตามันไม่ไหลออกมา

ปุถุซน

๑
ให้ฉันอธิบายอย่างไรดี
ถึงความรู้สึกสุขใจอันมิอาจเปรียบ
ที่ผันผ่านเข้ามาในห้วงหนึ่งของชีวิต
เป็นความปลื้มปีติที่คลับคล้ายว่าเป็นจริง
แต่ฉันตระหนักดีว่ามันไม่ใช่ความฝัน
และมันก็ไม่ใช่ความจริง
เป็นสิ่งที่อยู่ระหว่างทั้งสอง
บางครั้งฉันรู้สึกว่ามันใกล้แค่เอื้อม
คิดคิดดูอีกทีมันกลับถอยห่างออกไป
ไกลไกลเกินสุดจะไขว่คว้า.

๒
ฉันคงเหมือนนักเดินทางทั้งหลาย
ที่เที่ยวสืบเสาะแสวงหาคุณค่า
และความหมายแห่งชีวิต
ดั้นด้นเดินทางรอมแรม
มาไกลแสนไกล
แต่แล้วโชคชะตานำพา
ให้ฉันต้องพลัดหลงเข้าไป
ในท้องทะเลทรายอันแห้งแล้ง
เปล่าเปลี่ยวสุดอ้างว้าง.
เสบียงและน้ำเริ่มร่อยหรอ
ท่ามกลางความร้อนระอุ
ฉันไม่มีสิ่งใดหลงเหลืออยู่เลย
มีแต่เพียงความหวังเท่านั้น
ซึ่งเป็นสิ่งสุดท้ายที่ฉันพยายามโอบอุ้ม
ทะนุถนอมพร้อมกับร่างอันบอบช้ำโซซัด
หวังว่าในไม่ช้าคงจะพบโอเอซิส
มีเงาไม้ให้ฉันหลบพักพิงบ้าง
มีน้ำสักกอบมือเพื่อให้ฉันได้ดื่ม
ดับความกระหายเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต

๓
แสงแดดแผดเผาร้อนสุดระอุ
ความหิวกระหายยิ่งเพิ่มทวีคูณ
สายตาเริ่มพร่ามัวเลือนลาง
พลันเหลือบมองไปเห็น.
เหมือนแหล่งน้ำที่ต้องกับแสงแดด
สะท้อนระยิบระยับไกลออกไป
ฉันคิดในใจ
ไม่มีสิ่งใดอีกแล้วในโลกนี้
จะมีค่าเทียบเท่าสิ่งที่ฉันกำลังเห็น
จึงรวบรวมกำลังฮึดสุดท้าย
เท่าที่จะสามารถทำได้ในนาทีนี้
ด้วยความหวังประการฉะนี้
ฉันจึงลุกขึ้นด้วยความมั่นใจ
ว่าข้างหน้านั้นอีกไม่ไกล
ฉันคงได้ดื่มน้ำดับกระหายแล้วล่ะ
ฉันไม่ได้สนใจหรอกว่า
ฉันจะรอดตายออกจาก
ทะเลทรายแห่งนี้หรือไม่
หวังเพียงแค่ได้ดื่มน้ำดับกระหาย
เป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตฉันก็สุขใจ
ถึงแม้จักต้องตายอย่างโดดเดี่ยว
ในทะเลทรายอันเวิ้งว้าง

๔
ยิ่งฉันขยับเท้าก้าวเข้าไปใกล้
ภาพนั้นกลับถอยห่างออกไป
แล้วอันตรธานหายไปสิ้น
ต่อหน้าต่อตาฉัน
แล้วกลับปรากฏให้เห็น
อีกทีหนึ่งไกลออกไป
ระยิบระยับทอประกายงามวิจิตร
เป็นอย่างนี้เรื่อยไป
จนในที่สุดฉันเริ่มอ่อนล้า
สิ้นเรี่ยวสิ้นแรงกับการค้นหา
ภาพลวงตาที่ทะเลทรายแห่งนี้
มอบให้เป็นเป็นของกำนัลอันล้ำค่า
แก่นักเดินทางเช่นฉัน
บางทีมันอาจกำลังสอนบทเรียน
ที่ฉันมิอาจแสวงหาได้จากที่อื่น
นอกจากที่นี่แห่งเดียวเท่านั้น
มันคงอยากให้ฉันปลง
ให้ละซึ่งทุกสิ่ง
แม้กระทั้งความหวัง

๕
ฉันอยากร้องไห้
แต่น้ำตา
มันไม่ไหลออกมา
ฉันเลยต้องยิ้มหัวร่อ
ให้กับชีวิตที่มันแสนสั้น				
12 กันยายน 2545 11:13 น.

11 กันยา

ปุถุซน

เป็นวันเกิดของบางคน 
เป็นวันตายของบางคน 
เป็นวันอำลาของบางคน 
เป็นวันพบรักของบางคน 
เป็นวันทำใจของบางคน 
เป็นวันอกหักของบางคน 
เป็นวันสูญเสียของบางคน 
เป็นวันโชคดีของบางคน 
เป็นวันโชคร้ายของบางคน 
เป็นวันโดดเรียนของบางคน 
เป็นวันที่สถานฑูตอเมริกาปิดทำการ 
เป็นวันที่แสนน่าเบื่อหน่ายของบางคน 
เป็นวันที่สนุกครึกครื้นของบางคน 
......................................................... 

11 กันยายน 
ในปาเลสไตน์เด็กเด็กแต่ละคนที่นั่น 
เตรียมพร้อมแล้วด้วยก้อนหิน 11 ก้อน 
สำหรับขว้างปาไปยังทหารบยิว 11 คน 
กองกำลัง11กองร้อยเตรียมพร้อมบุกปาเลสไตน์อีกครั้ง 
รถถัง 11 คันกำลังมุ่งไปยังถนนสายที่ 11 
เพื่อที่จะไปบดขยี้เด็กน้อยปาเลสไตน์ 11 คน 
....................................................... 
11 กันยายน 
ในอิรักเด็กเด็ก 11 คน กำลังบิแบ่งขนมปังชิ้นเล็ก 
แบ่งเป็น 11 ชิ้นเล็กเล็กสำหรับ 11 คน 
ส่วนอีก 11 คน ในอีกมุมหนึ่งกำลังร้องเพราะหิวโหย 
คุณแม่ชาวอิรักคนหนึ่งกำลังต้มน้ำให้เดือด 
พลางพูดปลอบโยนลูกลูกว่า  รออีก11นาที 
อาหารในหม้อก็จะสุกแล้วน่ะลูกรัก 
ทั้งทั้งที่ในหม้อคือน้ำเปล่า 
กี่ 11 นาทีแล้ว 
อาหารก็ไม่สุกสักที 
ในที่สุดเด็กน้อย11คนก็หลับไปเพราะหิวจัด 
................................................................... 
11 กันยายน 
ในอัฟกานิสถาน 
เครื่องบินสอดแนม 11 ลำ 
บินวนเวียนตลอด 11 ชั่วโมง 
นับตั้งแต่เที่ยงคืนแล้ว 
ว่ากันว่ากลัวกองทัพฏอลิบานฟื้นคืนชีพ 
..................................................................... 
11 กันยายน 
ผม(ปุถุชน)ตื่นแต่เช้า 
เปิดวิทยุ
แล้วฟังข่าวคราว 
ความหวาดวิตกของชาวโลก 
ต่อมุสลิม......................
...........................................................................				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปุถุซน
Lovings  ปุถุซน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปุถุซน
Lovings  ปุถุซน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปุถุซน
Lovings  ปุถุซน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงปุถุซน