15 พฤษภาคม 2554 09:28 น.

51

สะพั่งสะท้านไมภพ

ผมออกเดินทางไป จังหวัดพิษณุโลก ในตอนเช้า ปรากฏว่ารถวิ่งเพียงห้าชั่วโมงก็มาถึง มน.
มน.นั้นผมเรียกว่า มหาวิทยาลัยนเรศวร แต่พวกคอลเซ็นเตอร์ของแท๊กซี่พิษณุโลก กระแดะเรียกว่า มอนอก ผมยืนยันว่า ม.นเรศวร แต่เจ้าหล่อนก็พยายามจะให้ผมเรียกว่า ม.นอก แต่ผมยืนยันว่าผมไม่รู้จัก ม.นอก รู้จักแต่ ม.นเรศวร เพียงเท่านี้ เวลาเรียกรถแท็กซี่ที่ พิษณุโลก ท่านก็จะได้รอแบบไร้ความหวังเพียงเพราะว่าคอลเซ็นเตอร์แท็กซี่โกรธที่คุณไม่ยอมเรียกตามมัน
เรื่องนี้ช่วยไม่ได้ ผม สะพั่ง สะท้านไมภพ ยักไหล่ 
ในมุมระดับครึ่งชั้น อ่างน้ำแคบๆ น้ำอุ่นๆ และการสระผมและขัดตัวอย่างเกลี้ยงเกลาดำเนินไปในรอบหนึ่งชั่วโมงครึ่ง
ร้านข้าวต้มริมน้ำน่านเมื่อผมสั่ง ปลาสองสีทอดน้ำปลา ยำปลาหมึก และยำสามกรอบ และข้าวสวยหนึ่งหม้อ เด็กสาวเชียร์เบียร์จะให้ผมดื่มเบียร์ แต่ทว่ามื๊อนั้นผมกลับปฏิเสธ หลังจากที่กินเสร็จ มีคนแก่เดินมาขายกล้วยหอม ผมปฏิเสธด้วยความโกรธ อันเนื่องมาจากอาหารไม่อร่อย เมื่อเช็คตังส์เสร็จ ผมก็เห็นว่าแม่ค้าเขายิ้มแย้มดี จึงบอกว่ารู้สึกว่าอาหารจะจืดชืดไปหน่อย เมื่อแม่ค้ากลับมาทอนตัง ยิ้มแบบเจ้าของร้านค้า ยังไม่ถึงเวลาขาย เอาไว้มาใหม่ ถ้าไม่ดีจริงไม่อยู่ถึงห้าสิบปี พูดในขณะยิ้มเสียด้วย 
เมื่อเดินกลับมาลูกชายขอให้เลิกสูบบุหรี่ ก็ทำให้ผมโกรธเหมือนกัน
แต่ทว่าเมื่อผ่านไปสักนิด เมื่อคิดได้ว่ามันเป็นความหวังดี มันก็ไม่สมควรต้องใช้ความโกรธ ผมก็บอกกับลูกชายว่า ตกลง การขอได้รับตามนั้น และก็คิดไปถึงเรื่องที่ผ่านมาในเรื่องของความหวังดี
นี่ถ้าหากเราสามารถรู้ได้ว่าใครหวังดีกับเราบ้างแล้วละก็ก็คงจะต้องไม่มีความโกรธเกิดขึ้นแบบไม่มีเหตุผล
สุดท้ายขากลับ เมื่อคนพากันเฮโลกลับกรุงเทพในวันหยุดยาว แน่นอนรถเมล์เต็ม รถตู้พยายามถูกเสนอเข้ามารับคนโดยสารจากความเขี้ยวที่พยายามยัดคนเข้าไปจนแน่นแบบทุเรศมากกว่า หากปลากระป๋องแน่นแบบเนี้ยะจะชอบมากเลย
ผมลองไปขึ้นรถไฟ ทีแรกรถเร็วขึ้นฟรี ตีตั๋วเสร็จไปนั่งคิด บนชานชลาสองเพื่อกลับกรุงเทพ คิดไปคิดมามองดูคนรอ เยอะและผมไม่อยากแย่งชิงที่นั่ง และหากมีคนแก่ หญิงท้อง เด็ก มาจะไม่ลุกให้นั่งก็จะถูกประนาม และถึงกรุงเทพเกือบสามทุ่ม เจ็ดชั่วโมง ไม่นับหากมีการช้าของรถไฟตามปกติ
ผมบอกกับคนขายตั๋วรถไฟว่าเปลี่ยน ขอเป็นปิ๊นเต้อแทน สองที่โดนไป แปดแปดสี่บาท และกลับมาสามโมง ช้าอีกสีสิบนาที และถึงตรงเวลาทุ่มครึ่ง บวกเกินอีกสี่สิบนาทีของแถม และในระหว่างทางมันเหมือนกับรถที่มีคอนเสริทแรฟดังสนั่นตลอดทางสนุกดี
เมื่อรถมาถึงดอนเมือง
ความรู้สึกของเราก็คือ คิดถึงบ้าน
เมื่อก่อนคิดจะพเนจร จากการเดินไปคราวนี้ก็พอไปได้ในแบบประหยัดๆ
แต่ตอนนี้คิดถึงบ้านมากกว่า 
ว่าแล้ว
สะพั่ง สะท้านไมภพ ก็นั่งแท๊กซี่กลับบ้านด้วยความสุข				
8 เมษายน 2554 21:46 น.

เท่

สะพั่งสะท้านไมภพ

วันนี้
ผมนั่งเก็บกวาดจัดของในบ้าน ไล่ดะไปจนกระทั่งรองเท้า ใครจะเคยนึกบ้างว่าจะมีรองเท้าของตนเองแบบนี้ด้วย นึกแล้วก็ขำๆ 
ในอดีต
ผมขับรถโตโยต้าเคอียี่สิบสีเลือดหมูไปโยนโบว์ลิ่ง ณ ห้างแห่งหนึ่ง ในระหว่างการโยน ก็พบว่าเลนข้างๆโยนด้วย และดื่มเบียร์เหมือนกันด้วย มองไปมองมาก็ทักทายกัน เขาอายุมากกว่าผมผมก็เรียกเขาว่าพี่ใหญ่ โยนไปโยนมาก็ออกไปกินข้าวต่อที่โชคชัย ผมสั่งแบล๊คเลเบิลมาทานกับเสต็ดรสโอชะแต่ทว่าตอนนั้นไม่รู้เรื่องแล้วรู้เพียงแต่ว่าเหล้าที่กินรสเค็ม สักพักก็จากกัน ผมก็ขับรถออกมาแล้วก็มาต่อร้านคาราโอเกะ รู้เพียงแต่ว่า สั่งเบียร์เสร็จ ก็รู้สึกตัวอีกที เช็คบิล พันสี่ ยังไม่ได้ร้องเพลงเลย เด็กก็นั่งข้างๆ จ่ายตังค์แล้ว เด็กก็เดินมาส่งแล้วชวนไปร่วมหลับนอนด้วย แต่ทว่าตะกี้เข้าไปนอนในคาราโอเคตั้งพันสี่จึงปฏิเสธด้วยความสุภาพ และก็เดินตุปัดตุเป๋ออกมาถึงหน้าซอยและมองหารถ มองซ้ายมองขวาก็ไม่เจอ บังเอิญโชคดีเจอมอเตอร์ไซด์รับจ้างจึงให้น้องเขาขี่ไล่ดูทางซ้ายก่อนและค่อยย้อนมาทางขวาเพื่อหารถที่จอดไว้ เมื่อเจอแล้วก็เมาแล้วขับกลับบ้าน เมื่อก่อนยังไม่มีโครงการเมาไม่ขับนะครับ เมื่อกลับมาถึงบ้านก็นอน
วันนี้ มาเห็นรองเท้าคู่นี้เข้า รองเท้าโบลิ่ง เห็นแล้วก็ขำสุด เมาจนลืมเปลี่ยนผ่านมาแล้วราวสิบห้าปีครึ่งจึงเห็นรองเท้าคู่นี้อีก
อนาคต
เอาละในเมื่อมีวาสนาต่อกันเฃ่นนี้ ผมก็จะใส่มันออกไปข้างนอกต่อๆไปอย่างแน่นอน
มีความสุขมากเลย
ปล.ผมยังนึกไม่ออกเลยว่าเอารองเท้าคุ่ไหนไปแลกกะคู่นี้มาจนถึงบัดนี้				
2 เมษายน 2554 20:56 น.

ดวดเหล้า(18+)

สะพั่งสะท้านไมภพ

เมื่อคนเราคิดจะเป็นคนดีอยู่ในศีลธรรมก็ต้องห่างเหินจากพวกนี้
แต่ทว่า สะพั่ง กลับคิดว่า การที่ไม่มีแอลกอฮอลล์อยู่ในสายเลือดบ้างเลยอย่างน้อยสักวันหนึ่งเนี่ย มันจะเป็นการเสี่ยงต่อการรักษาชีวิตน้อยๆของสะพั่งหรือเปล่า 
สะพั่ง กลับนึกถึงเมียรัก ที่ต้องทนทุกข์ทรมานมานานจากการที่ผัวเมาเหล้าและสูบบุหรี่เหม็นคละคลุ้งนับตั้งแต่มีกรรมกันมาตอนอายุยี่สิบกว่าๆจวบจนกระทั่งถึงปรัตยุบัน
แต่ว่าการที่คนเราสักคนจะทำอะไรลงไปสักอย่างมันก็ต้องมีสภาพแวดล้อมมาประดังกันหลายๆอย่าง
อย่างแรก ในการอาบน้ำทุกวันนั้น มือไม่สามารถลากยาวไปขัดขี้ใคลให้ทั่วหลังหรือส่วนที่ไม่เคยไปได้ 
อย่างสอง การมีพุงก็ทำให้ไม่สะดวกในการก้มไปขัดขี้ไคลตรงทุกด้านองศาของเท้า
สามวันนี้ไม่ได้ห้อยวัตถุมงคลใดๆเลย ลืมห้อยมา นับว่าเป็นโอกาสอันสอดคล้อง
สี่นั่งรถเมล์มาเพิ่งเห็นป้าย ออน ครั้งแรก ทำให้ไม่สามารถจินตนาการได้ถูกว่าจะเป็นอย่างไร
ห้า ให้รางวัลกับชีวิตบ้างจะเป็นไร
ว่าแล้วก็ป๊อกแป๊กเข้าไป
หนึ่งเบียร์แพงมาก แต่ก็สั่งมาอีกขวด
สอง พูดตรงดีถูกใจ กดซะสองรอบ
สาม ตลกดีโทงๆ กันแบบเสรีชนจิบเบียร์กันกร๊วบกร๊าบเย็นคอ
บางครั้ง สิ่งที่พบเจอก็ทำให้หลงละเมอเพื้อพกได้
แต่มันก็เป็นเรื่องราวที่ยิ่งกว่ายาเสพติด
ที่ยิ่งแปลกพิสดารเพียงไหนยิ่งออกนอกวงโคจรเรื่อยๆ
การออกนอกวงโคจรเรื่อยๆมันไม่ใช่สิ่งที่ดีหรือสิ่งที่ไม่ดี
แต่ทว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้น
เมื่อก่อนอาจคิดว่าเป็นการเสเพล
แต่ทว่าปัจจุบันเป็นสิ่งที่ต้องกระทำบ้างมิงั้นขัดกับหลักการของเต๋า
เอาเป็นว่าหากต้องการจะเอาแอลกอฮอลล์ฆ่าเชื้อในกระแสโลหิตในร่างกายของผมอีก ก็จะไปใช้บริการอีก
อย่ายึดติดกับกฏเกณฑ์อันหลอกลวง
มีแต่ผู้ที่ไม่นอกกรอบเท่านั้นที่ยังคงเคร่งเครียด
ไม่ต้องถามเพราะจะไม่บอก
เรื่องราวทุกเรื่องของแต่ละบุคคลล้วนแล้วแต่เป็นวาสนา
แม้แต่ในคราวเคราะห์หากพิจารณาให้ดีอาจกลับกลายเป็นวาสนา
และบางทีก็ต้องตกใจว่าแท้จริงแล้วเราไม่เคยเป็นคนดีเลย
ขอบพระคุณที่ติดตามผลงาน				
28 มกราคม 2554 17:31 น.

ศึกชิงเจ้ายุทธ

สะพั่งสะท้านไมภพ

การไต่เต้ามันช่างยากเย็นเสียจริงๆ แม้ว่าจะได้รับประสบการณ์ปาฏิหารย์มาอย่างมากมายแต่ทว่าเมื่อสุดยอดวิทยายุทธมาเจอกันสิ่งที่ต้องใช้คือเชาวน์ปฏิภาณไหวพริบและบางครั้งต้องมีโชควาสนาด้วย และในครั้งนี้ซาปังได้พบกับยอดฝีมือสาวนางคืออสูรนางฟ้า เรื่องราวใดๆในโลกยากที่จะบ่งบอกให้ชัดเจน แม้จะมีวาจาหลายคำจะกล่าวแต่ทว่าอสูรนางฟ้านั้นกลับมิฟัง ฟ้าใกล้สางแล้วแต่ทว่าซาปัง และอสูรนางฟ้ากลับยืนตั้งท่าคุมเชิงกัน ดูทั้งสองสงบนิ่งไร้เภทภัย แต่ทว่าหากเป็นชาวยุทธ์แล้วมันกลับเป็นวินาทีแห่งการแตกหัก
ซาปัง ร้อยเพ้ย แล้วเริ่มต้นด้วยท่าฝ่ามือพิชิตมังกรสิบแปดท่า มังกรผยองได้สำนึก มังกรบินอยู่สวรรค์ มังกรโรมรันกลางไพร มังกรซ่อนกบดาน เชี่ยวชาญข้ามแม่น้ำใหญ่ หงส์ร่อนพสุธา  ระดังโดยพลัน สะท้านขวัญร้อยลี้ ทะยานสู่มหรรณพ มังกรเทพสะบัดหาง มังกรผงาดกลางทุ่ง มังกรคู่ตักน้ำ มัจฉาทะยานสมุทร บังคับหกมังกร เมฆหนาไร้ฝน ลดสูญเสียเกิดผลลัพธ์ สัมผัสน้ำแข็งเหน็บหนาวกาย มังกรพิโรธ นางอสูรกลับมิได้ไหววิตกนางกลับใช้สิบเจ็ดฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลาย ซิมเกีย เน็กเถี่ยว ( เนื้อเต้นใจสะท้าน ) กีนั้งอิวเทียน ( วิตกทุกร้อนเกินเหตุ ) บ้อตังแซ่อู๋ ( เสกสรรปั้นเรื่องราว ) ทัวนี้ตั่วจุ้ย ( ยืดเยื้อชวนรำคาญ ) ไป๊ฮ้วยคงก๊ก ( วนเวียนหุบเขาร้าง ) ลักปุกชงซิม ( ใจสู้ขาดแรงหนุน ) เกียซีเจ้าเน็ก ( ซากศพเดินได้ ) ย้งนั้งจื่ออิว ( คนเขลาหาเรื่องใส่ตน ) ต้อเกี้ยเง็กซี ( ฝืนทวนความประพฤติ ) ฮุ่ยจิ้มบ้วงเจี๊ยะ ( ลืมกินไม่หลับนอน ) โกวเฮ้งเจียะเอี้ย ( เงาโดดเดี่ยวร่างเดียวดาย ) อิ้มหึงทุงเซีย ( กลืนความแค้นไม่ออกปาก ) ลักซิ้งปุกอัน ( จิตทั้งหกไม่สงบ ) ข้งทู้ม้วกโล่ว ( อับจนสิ้นหนทาง ) มิ่นบ้อนั้งเส็ก ( หน้าไร้แววผู้คน ) เสียยิบฮุยฮุย ( จิตฟุ้งซ่านรัญจวน ) ไง้เยียกบักโกย ( ตะลึงงันราวกิ่งไม้ )

ในการต่อสู้กระบวนท่าของนางอสูรขาดไปหนึ่งท่าดังนั้นนางจึงเริ่มใช้รอบที่สอง ซาปังพลันหัวเราะก้องต้องใช้สุดยอด ไม้ตาย กวางเหลียวหลัง นางอสูรสาว แย้มยิ้มหยาดเยิ้ม กลับร้อยเพ้ย แล้วใช้ท่าไม้ตายของนาง มณโฑนั่งแท่น ไม่คาดคิดเลยว่าซาปังจะเพลี่ยงพล้ำได้ นับแต่นี้ซาปังมิอาจไม่เป็นจอมยุทธอันดับสองได้				
27 มกราคม 2554 06:42 น.

ยาสูบ

สะพั่งสะท้านไมภพ

สะพั่ง สะท้านไม นั่งครุ่นคิดถึงความยากลำบากของชาวเมือง ดูเหมือนว่าเศรษฐกิจกำลังดีขึ้น น้ำมันแพง โดยเฉพาะ ๙๑ สำหรับมาสด้าสามสองสามจีแอลเอ็กของกะพ้ม ก็ครุ่นคิดไปถึงการจะประหยัดได้ ก็คือการไม่ขับ แต่พอผ่านมาได้สามสัปดาห์ เครื่องทำท่าจะไม่ยอมติด ดังนั้นจึงต้องติดเครื่องแล้วขับบ้าง ก็เป็นอันว่าต้องเสียบ้างตามความจำเป็น 
ทองคำโอ้ทำไมมันขึ้นแบบนี้ ซื้อไม่ลงจริงๆ ซื้อแล้วไม่รู้ว่าจะยัดใส้หรือเปล่า และเวลาขายเจ้าของร้านทองคำก็จะลีลาซื้อถูก มีแล้วก็ไม่กล้าใส่ ทองเหรียญห้าสิบสตางค์ใส่ไปแล้วก็โชว์ปลอมดำปื๊ด
บุหรี่มาโกโร ซองขาวก็แพง แต่ว่า ดูดแล้วกลิ่นไม่แรงเมียจับได้ยาก แต่ทว่าในยุคนี้เศรษฐกิจดีมากเกินไป ผมจึงไปได้เครื่องทำบุหรี่มาหนึ่งเครื่อง มันเป็นอะไรที่ถูกใจที่สุด สามารถแอบผลิตบุหรี่ได้ปริมาณเพียงพอความต้องการ ไม่ต้องจ่ายค่าบุหรี่ราคาแพงทุกสามวันนั่นหมายถึงไม่ต้องเสียภาษีซ้ำซากซ้ำซ้อนจนไม่รู้เรื่องหน้ามืดตามัว ขณะที่นั่งรถกลับมาจากคลองถม สายหกสิบ บรรเจิดแต่คิดจะหายาไป๊มาใส่เพื่อความหอมหวล แต่ทว่ากลับคิดได้ว่า สมัยก่อนไปทำงานภาคใต้ ได้ลองซื้อบุหรี่หนีภาษีมายี่ห้อหนึ่งชื่อสุริยา แดง ซองหนึ่งมีแค่สิบสองตัว แต่ยาวกว่าปกติ และซองหนึ่งสี่สิบห้าบาทขนาดหนีภาษี แต่ทว่าพอสูบดูแล้ว ใช่เลย และยังชอบอยู่เสมอ แต่ทว่าโอกาสซื้อไม่มีเพราะดันอยู่กรุงเทพ เมื่อความคิดบังเกิดใช่เลย กานพลู แต่ทว่าความคิดนั้นก็ต้องถูกรบกวนเพราะรถเมล์ฟรีเพื่อประชาชนเนี่ย ทุกช๊อตต้องเบรคเพื่อจอดที่ป้ายโดยสาร และต้องเกินป้ายอย่างต่ำครึ่งคันรถ อย่างมาก สามเท่าของความยาวรถ ผู้โดยสารที่จะลงก็ต้องวอร์มวิ่งเหยาะๆก่อนเพื่อจะได้ลงทันก่อนรถจอด และผู้โดยสารที่จะขึ้นก็ต้องทำทำเตรียมวิ่งก่อนที่กรรมการแข่งขันวิ่งจะยิงปืนให้ออกวิ่งได้ ร้อยป้ายจอดริมฟุตบาทสองป้ายคือป้ายที่อู่ออกกับอู่ที่ถึง เสียงเกียร์ของรถเมล์คันนี้เหมือนลากแล้วเฟืองเกียร์จะถลอกปอกเปิด หลังจากที่พบสถานที่ๆจะลงแล้วต่อรถได้นั่นคือแถวราม หนึ่งสองหก ผมก็วอร์มเตรียมตัวลง โชว์เฟอตีนผีขับผ่านโค้งทีไร รถเมล์เอียงวูบวาบทุกที เลนสองที่จอดให้ที่รามนับว่ามีเมตตาปราณีมากแล้วผมโชคดีหนึ่งสองหกมาพอดี วิ่งขึ้นทันที รถที่เสียเงินแปดบาทคงดีกว่ารถที่ไม่เสียเงิน แต่ผมคิดผิด หนักกว่าเก่าแม้บินจะชนนกยังเบรคซะขนหัวลุก ลงวัดพระศรีต่อรถตู้ เอออย่างน้อยมันก็ปลอดภัยกว่า แม้จะขับกวนประสาทชาวบ้านบ้างก็ไม่เป็นไรเพราะรวดเร็ว ถึงพานใหม่ เดินเข้าตลาดหาซื้อยาไป๊ก่อน แต่ทว่าไม่มี จึงเปลี่ยนเป็นหาซื้อกานพลู ได้กานพลูบดมาหนึ่ง ขีด ผมเริ่มผลิตยาสูบส่วนตนแล้วโรยผงกานพลูเข้าไป พอสำเร็จจุดสูบ ช่างสมใจนัก แต่ทว่าเกิดระลึกได้ว่า อาจมีอันตรายก็ได้เลยไปเปิดเน็ตดู เรียบร้อยผงของมันกินได้ มีประโยชน์ของสมุนไพรอย่างเต็มร้อย ดังนั้น ยาสูบที่ผลิตได้นี้จึงถูกใจ เบาสบาย ไร้กลิ่น ปากไม่เหม็น ร่างกายแข็งแรง จึงเรียกว่ายาสูบจริงๆไม่ใช่บุหรี่ แต่ยังคงผลิตแล้วใส่ซองมาโกโร่อยู่เพราะในเมืองนี้ชอบแบบนี้ หน้าตาดีไว้ก่อนดูเท่ห์ ชุ่มคอดีแท้ ถ้าเป็นของซูรียามันก็ตกตัวละสี่บาท แต่ทว่าของผม สามร้อยเจ็ดสิบบวกแปดสิบ เท่ากับสี่ร้อยห้าสิบ จำนวนเกินร้อยยี่สิบมวลหลายเท่าแน่นอน สมัยนี้ดีอย่างนี้แหละครับ หากเข้าใจคำว่าพอเพียง ก็สามารถพลิกพลิ้วกระบวนท่าไปได้เรื่อยๆอย่างไม่มีอับจนและจับทางได้ถูก ซึ่งขึ้นอยู่กับไหวพริบ แต่ทว่าผมชอบพ่นควันกลิ่นกานพลูไปนั่งคิดไปเรื่อยเปื่อย ไม่มีเวลาสว่างหรือมืด เห็นกลลวงทางการเมือง เห็นการหลอกลวงทุกวัน แต่ก็อย่างว่า สะพั่ง ยักไหล่ หากตัวตนไม่ได้มีความหวังลาภยศตำแหน่งชื่อเสียงหรือกลัวน้อยหน้าชาวบ้าน ขอเพียงแต่มีข้าวกิน มีที่นอนที่อบอุ่น ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ และมีความมุ่งหวังต่อชีวิตไว้เพียงได้แค่ไหนเอาแค่นั้น ก็คงจะมีปอดที่อบอุ่นได้ ต้องกราบขอบพระคุณโรงงานยาสูบที่ได้ดูแลผมมาตั้งแต่ปี สองห้าสองหก จนถึงต้นปีนี้ หากมีสิ่งใดที่กระพ้มล่วงเกินไปก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ แนวความคิดในการดำเนินการต่อไปของสะพั่ง สะท้านไมภพ คือ หากล่องใส่บุหรี่สวยๆ ราคาตลาดๆมาแทนซองมาโกโร่ เพราะหากยังด้านหน้าใช้แบบดูดีอยู่มันผิดหลักการของกะพ้มครับ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสะพั่งสะท้านไมภพ
Lovings  สะพั่งสะท้านไมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสะพั่งสะท้านไมภพ
Lovings  สะพั่งสะท้านไมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสะพั่งสะท้านไมภพ
Lovings  สะพั่งสะท้านไมภพ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสะพั่งสะท้านไมภพ