อ่านแล้วต้องทำความเข้าใจถึงผลที่จะมีต่อลูกหลานเรา‏

ลุงแทน..

หลายคนรักในความเป็นคนดีของนายกฯ อภิสิทธิ์  ...แต่ก็ยังอธิบายไม่ได้  ว่าดีอย่างไร.....ใช่ไหม? 
คนเสื้อแดงบอก ทักษิณ สร้างความเจริญให้คนรากหญ้า ....จริงไหม? 
  
คำตอบ         
นอกจากเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจปัจจุบันแล้ว  นายกฯ อภิสิทธิ์  กำลังทำในสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับชีวิตของคนไทยในอนาคต   
นั่น คือ แก้ไขกฏหมายที่ไม่เป็นธรรมซึ่ง ทักษิณ ทำไว้หลายฉบับ  เช่น 
  
การทำธุรกิจของคนต่างชาติ 
·         กฏหมายกำหนดให้ต่างชาติถือครองหุ้นในธุรกิจไทยได้ไม่เกิน 49 %   
·         ทักษิน  แก้กฏหมายให้ต่างชาติถือครองหุ้นได้เป็น 51 %..... 
·         แปลว่า....ต่างชาติเป็นหุ้นใหญ่  สามารถทำอะไรก็ได้อย่างที่เขาอยากจะทำ..... 
  
การถือครองที่ดิน 
·         กฏหมายห้ามคนต่างชาติถือครองที่ดินในไทย 
·         ทักษิณ  แก้กฏหมายให้คนต่างชาติเช่าที่ดินได้ 99 ปี ...คนต่างชาติเฮโลมาทำธุรกิจกัน  ที่ดินสวยๆ ชายทะเลถูกเช่าทำ รีสอร์ท ..ธุรกิจเฟื่องฟู .. คนไทยมีงานทำ .... 
·         แต่  ต่างชาติจะเป็นเจ้าของที่ดินยาว 99 ปี  .นี่..ถ้ามีลูกเกิดในไทย ตายอีก 1 ชั่วคน..เราก็ยังไม่ได้ที่ดินคืน...และ ถ้าเราบังเอิญร่ำรวยจะไปขอเซ้งที่ดินคืน ก็คงแพงริบลิ่ว...จนสู้ราคาไม่ได้...นี่ใครเป็นเจ้าของประเทศกันแน่ 
  
อาชีพสงวนของคนไทย 
·         กฏหมายกำหนดอาชีพทำนา ทำไร่  ทำสวน เป็นอาชีพสงวนเฉพาะคนไทย ..ทำให้เรามีข้าวกินอุดมสมบูรณ์....มีข้าวไว้ต่อรอง  เวลาที่ซาอุ...จะขึ้นราคาน้ำมัน 
·         ทักษิน  แก้ให้การทำนาทำไร่เชิงธุรกิจ ถือเป็นการทำธุรกิจที่คนต่างชาติเข้ามาลงทุนได้  ..ชาวนาจะมีรายได้ตลอดปีจากการรับจ้างทำนา 
·         แปลว่า 
o        ชาวนาเปลี่ยนฐานะจากเจ้าของที่ดิน  กลายเป็นแรงงานรับจ้าง......ใช่ไหม 
o        ต่างชาติที่เคยซื้อข้าวเรา ..เป็นเจ้าของที่ดิน ปลูกข้าวได้เอง ..ไม่ต้องซื้อเราใช่ไหม...แล้วชาวนาที่เหลือจะเอาข้าวไปขายให้ใคร 
o        ซาอุ.. มีข้าวกินแล้ว ไม่ต้องง้อเรา  ...ฉะนั้น จะขึ้นราคาน้ำมัน บีบเราเท่าไรก็ได้ใช่ไหม 
o        ต่างชาติเจ้าของหุ้น 51% ...จะกำหนดนโยบายธุรกิจ ให้เราต้องซื้อข้าวตัวเอง กินในราคาแพงเท่าไรก็ได้ใช่ไหม 
o        ถ้าเกิดภาวะวิกฤติ..เราจะยังมีสิทธิ์ สำรองข้าวเป็นเสบียงอาหารเพื่อความอยู่รอดของลูกหลานไทยได้แค่ไหน ในเมื่อที่ดินและข้าวเป็นของเขาทั้งหมดแล้ว 
  
....อนาคตลูกหลานไทยเหลืออะไร... 
  
แต่ การแก้กฏหมายที่ ทักษิณ ทำไว้ เพื่อคืนแผ่นดินให้คนไทยทุกสี รวมทั้งคนเสื้อแดงด้วย 
แต่มันก็ไม่ง่าย ....ถ้าคนเสื้อแดงยังมองความจริงไม่ออก   
และยังมี ส.ส. ของพรรคต่างๆ ที่ยังเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง 
ลุแก่อำนาจ เห็นเงินคือพระเจ้า โดยไม่สนใจว่าสิ่งที่ทำ..มันจะชั่วหรือดีถูกหรือผิด..ควรทำหรือไม่ควรทำ....ที่ยังมีอยู่ในสภาฯ 
  
ฉะนั้น ..เราต้องช่วยกันทำให้พี่น้องคนเสื้อแดงรวมทั้งคนชนบทเข้าใจถึงเหตุและผลรวมทั้งผลกระทบที่มันจะเกิดขึ้น 
  
ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง....เลือกคนที่ดีทั้งต่อหน้าและลับหลัง , เลือกคนที่ไม่แจกจ่ายเงินและสิ่งของ , เลือกคนที่รักชาติบ้านเมือง , เลือกคนที่เสมอต้นเสมอปลาย และพิจารณาคนที่เราจะเลือกอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วย 
  
  
เงิน 500 หรือ 1,000 บาท ที่คุณรับวันนี้....แต่ถึงเวลาที่เค้าจะเอาคืน   มันจะกลายเป็น ร้อยเท่า..พันเท่า จากที่เค้าให้มา 
"ของฟรีมันไม่มีในโลก				
comments powered by Disqus
  • คนแถวนี้

    8 เมษายน 2553 13:18 น. - comment id 116333

    เห็นด้วยอย่างยิ่ง....
    
    เงินเพียงหยิบมือ...มันไม่คุ้มค่าพอกับ
    อนาคตของชาติจริงๆ...
    
    เศรษฐกิจกำลังจะดีแล้วแท้ๆ ยังมาทำให้
    เกิดความวุ่นวายขึ้นอีก...พวกคนที่มาทำ
    แบบนี้ทำไมไม่คิดบ้างว่าถ้าเศรษฐกิจ
    เดินหน้าไม่ได้  คนก็อยู่ไม่ได้ด้วยเช่นกัน
    
    พวกเค้าคิดอะไรสั้นๆ ไม่มองอะไรยาวๆ
    มองไม่เห็นแม้ความจริงของชีวิตว่าเรา
    เกิดมาเพียงแต่มาอาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้
    เท่านั้น ชื่อเสียง เกียรติยศ เงินทอง  มัน
    เป็นของที่ยั่งยืนซะที่ไหน....ประชาธิปไตย
    ที่ร้องขอนั่นก็เช่นกัน....จะอยู่กันไปได้อีก
    สักกี่ปี น่าจะทำอะไรที่มันดีกว่านี้..
    
    เสียดายแทนพวกที่หลงผิดมากๆเลย
    เกิดมาทั้งทีแม้ความดีก็ไม่ได้ทำไว้
    ให้กับคนเบื้องหลังงง มีแต่ทำความเดือด
    ร้อนเสียหายไว้มากมาย
  • ลูกชาวนา

    8 เมษายน 2553 14:55 น. - comment id 116338

    ถ้าโง่นัก  ไม่พูดก็ไม่มมีใครรู้ว่าโง่
    
    " กฏหมายกำหนดให้ต่างชาติถือครองหุ้นในธุรกิจไทยได้ไม่เกิน 49 %
    
    ทักษิน  แก้กฏหมายให้ต่างชาติถือครองหุ้นได้เป็น 51 %..... 
    
    "  .....หากรู้จริงบอกมาสิ   กฏหมาย 2 ฉบับนี้ใครขอแก้ 
    
    
    แล้วเดี๋ยวจะมาบอกว่าคนอย่างนายน่ะมันสมองน้อยเท่าฮี๋มอแค่ไหน
    
    พูดอะไรอย่าให้คนอื่นทุเรศ  พวกนายนี่มันคนจอมโกหกตอแหลในโลกเลย
  • รากหญ้า ป 4

    8 เมษายน 2553 14:57 น. - comment id 116339

    ความคิดเห็นที่ 1
    
    ตรงไหนเหรอที่บอกว่า เศรษฐกิจกำลังจะดีแล้วแท้ๆ ..
    
    ทำอะไรเหรอที่ว่า ทำความเดือด
    ร้อนเสียหายไว้มากมาย
    
    บอกหน่อยสิ
  • รากหญ้า

    8 เมษายน 2553 14:58 น. - comment id 116340

    ใช้ชื่อลงแทน  แสดงว่าอายุมากแล้ว  ต้องรู้อะไรจริงๆมากกว่าเด็กบ้านนอกอย่างผม
    
    ต้องมาขอความรู้ละครับ
  • ลูกชาวนา ขี่ควายเป็นอาชีพ

    8 เมษายน 2553 15:35 น. - comment id 116343

    คุยกะลุงแทน  คนสูงอายุต้องได้ความรู้มาก แน่เลย
    
    ชาวไร่ชาวนายุครัฐบาลนี้เป็นงัยครับ  ข้าวราคาดี  เห็นประกาศให้ชาวนาเลิกทำนานี่  ชาวนาคงสุขกายสบายใจสิ   รู้แล้วเหรอว่าท่านนายกทักษินจะให้ชาวนาทำอย่างไร
    
    หากจริงอย่างที่คุณพูด ทำไมชาวนายังรักทักษินทั้งที่พวกชั่วๆด่าท่านใส่ร้ายท่านมา 4 ปีแล้ว เลือกตั้งครั้งไหนไอ้พวกชั่วๆก็แพ้ตลอด และจะแพ้ตลอดไปด้วย 
    
    ทักษินชั่วทำไมคนยังรัก  หรือบ้านเมืองนี้คนมันประหลาด  พวกชาวนาชาวไรคนจนทุกข์ยากรักคนชั่วๆอย่างทักษิน
    
    เลือกคนที่รักชาติบ้านเมือง ..เท่นะคำพูดนี้  ใครไม่รักชาติบ้านเมือง  คนไทยเลือกพรรคเพื่อไทยมามากกว่าพรรค ปชป.  คนไทยก็ไม่รักชาติสิ
    
    บอกหน่อยนะ  ลุงแทน ผมจะรออ่าน,
  • ลุงแทน

    8 เมษายน 2553 16:23 น. - comment id 116345

    ถึงทุกท่านที่รัก  .... จากลุงแทน
    
    36.gif จากยุค ทักษิณ สู่ สุรยุทธ์
    
    ตอนที่ 2 ราคาน้ำมัน
    
    หากเปรียบเทียบราคาน้ำมันดิบปีที่แล้วกับปีนี้จะเห็นว่า ราคาน้ำมันดิบปีนี้จะต่ำกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย แต่ข้อสำคัญก็คือ "ค่าเงินบาท" ปีนี้แข็งค่ากว่าปีที่แล้วมากกว่า 10% (จาก 40 เหลือ 35 บาท/USดอลลาร์ โดยประมาณ)
    
       โดยปกติค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจะส่งผลให้สินค้านำเข้ามีราคาถูกลง จึงเกิดข้อสงสัยขึ้นว่า "เหตุใดราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศจึงไม่ลดราคาลงในระดับที่ควรจะเป็น"...หรือเป็นเพราะรัฐบาลสุรยุทธ์!!! ที่ไม่มีความสามารถในการบริหารจัดการ.......
    
    "ฤๅนี่คือข้อเสียของรัฐบาลที่มาจากการทำรัฐประหาร!!!"
    
       บ่อยครั้งที่เราโยงเรื่องเศรษฐกิจเข้ากับการเมืองโดยไม่แยกแยะ เศรษฐกิจดีก็ชื่นชมรัฐบาลนั้น เศรษฐกิจไม่ดีก็ด่ารัฐบาลนี้ ราคาน้ำมันไม่ขึ้นก็ยกนิ้วให้รัฐบาลโน้น ราคาน้ำมันขึ้นก็โทษรัฐบาลนี้ ทั้งที่เรื่องจริงของเศรษฐกิจมันมีปัจจัยอีกมากมายประกอบกัน
    
    ...ถ้าปัจจุบันเศรษฐกิจดีต้องย้อนดูก่อนหน้านั้นเป็นปีว่ามีความเป็นมาเป็นไปอย่างไรบ้างเศรษฐกิจถึงได้ดีขึ้น ในทางกลับกันถ้าปัจจุบันเศรษฐกิจไม่ดีก็ต้องย้อนดูก่อนหน้านั้นว่ามีความเป็นไปอย่างไรบ้าง ...เรื่องของเศรษฐกิจไม่ใช่ฉับไวอย่างกับการเปิด-ปิดไฟ 
    
     ...ณ วันนี้ราคาน้ำมันเบนซิน 91 ขายปลีกในกรุงเทพฯอยู่ที่ 29.19 บาท/ลิตร ซึ่งความเป็นจริงจะขายที่ 26 หรือ 27 บาท/ลิตรก็ได้ แต่เหตุที่ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศไม่ลดลงตามค่าเงินที่เปลี่ยนไปเพราะมีการเก็บเงินเข้า "กองทุนน้ำมัน" เพิ่มขึ้นจาก 1.50 บาท/ลิตรเป็น 3.50 บาท/ลิตร(โดยประมาณ) 
    
    
    
       ทุกอย่างมีเหตุและผลสอดรับกัน หากจำได้รัฐบาลคุณทักษิณเคยประกาศชดเชยราคาน้ำมันยาวนานถึง 15 เดือน และใช้เงินประมาณ 7 หมื่นล้าน ถึงที่สุดเกือบ 1 แสนล้านบาท นี่คือจุดเริ่มต้นของการบิดเบือนต้นทุนน้ำมันที่ภาคธุรกิจควรรับรู้ 
    
       สาเหตุที่ผู้ประกอบการควรรับรู้ต้นทุนที่แท้จริงก็เพื่อการวางแผนทางธุรกิจได้อย่างถูกต้อง และเตรียมกลยุทธ์ในการรับมือภาวะน้ำมันแพง...จนถึงทุกวันนี้ เป็นเวลากว่า 2 ปี แล้วที่ยังต้องเก็บเงินคืนกองทุนน้ำมันที่มีภาระถึงประมาณ 3 หมื่นล้านบาท เป็นผลมาจากการใช้มาตรการชดเชยราคาน้ำมัน 
    
       การชดเชยราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศได้เคยดำเนินการมาครั้งหนึ่งแล้วในช่วงต้นของรัฐบาลทักษิณซึ่งได้ผลดี โดยปัจจัยที่ช่วยให้การชดเชยครั้งแรกไม่กินเวลายาวนานนั้นคือ ราคาน้ำมันขยับตัวสูงขึ้นในเวลาสั้นๆ แตกต่างกับการชดเชยครั้งที่ 2 ที่เริ่มชดเชยเมื่อ 10 มกราคม 2547 และกว่าจะหยุดชดเชยราคาน้ำมันก็กินเวลาร่วม 15 เดือน หรือเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2548
    
       ข้อดีของการชดเชยราคาน้ำมันคือ ไม่ให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน และจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม การบริโภคจะไม่ได้รับผลกระทบกระเทือนมาก อัตราเงินเฝ้อจะไม่ขยับขึ้น ต้นทุนการผลิตของประเทศไทยจะยังคงต่ำกว่าประเทศอื่นในช่วงเวลานั้น แต่ผลเสียมีมากกว่าผลดีถ้าใช้มาตรการนี้ในระยะเวลาที่ยาวนาน 
    
       ไม่มีใครคาดคิดว่าราคาน้ำมันดิบจะขยับราคาสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงปี 2547-2548 ความจริงรัฐบาลอาจต้องการหยุดชดเชยราคาน้ำมัน และปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาดตั้งแต่ช่วงปลายปี 2547 แล้ว แต่...
    
       แต่ผมคิดว่าอาจเป็นเพราะใกล้เลือกตั้ง กุมภาพันธ์ 2548 รัฐบาลผู้มีอำนาจในขณะนั้น จึงใช้เงิน และอำนาจเพื่อตรึงราคาน้ำมันไว้ แม้จะต้องกู้เงินเพื่อใช้ในมาตรการนี้ก็ตาม...
    
    จาก Time Line ข้างต้นจะเห็นว่า หลังพรรคไทยรักไทยได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งอย่างท่วมท้น ไม่ถึงเดือนก็ขยับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลขึ้น 60 สตางค์/ลิตร และหลังจากนั้น 1 เดือนก็ขยับดีเซลขึ้น 3 บาท/ลิตร แสดงให้เห็นชัดเจนว่าไม่สามารถใช้มาตรการชดเชยราคาน้ำมันต่อไปได้ หลังจากที่ "อั้น" มานาน
    
       อย่างน้อยการใช้มาตรการนี้ก็ช่วยพยุงอัตราเงินเฟ้อปี 2547 ให้อยู่ที่ระดับ 2.7% ได้...และเมื่อต้องการจะแถลงผลงานรัฐบาลก่อนการเลือกตั้ง (ปี 2548) ตัวเลขก็ย่อมดูดีเป็นธรรมดา และประการสำคัญ ประชาชนจะไม่รู้สึกถึงความเดือดร้อนของปากท้อง และจะไม่ส่งผลต่อคะแนนเสียงในช่วงเลือกตั้งไม่มากก็น้อย (เป็นธรรมดาที่เรื่องของปากท้องจะมีความสัมพันธ์กับคะแนนนิยมทางการเมือง และชาวบ้านมักไม่มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ รวมถึงความเข้าใจในเรื่องของเศรษฐกิจยังมีน้อยเกินไป)
    
       ผิดกับอัตราเงินเฟ้อปี 2548 ที่อยู่ระดับ 4.5% แต่ก็ไม่สำคัญเพราะถือว่าพรรคไทยรักไทยได้เป็นรัฐบาลแล้ว
    
       "นี่คือความพยายามทำให้เศรษฐกิจดูดี แต่ไม่ใช่การสร้างเศรษฐกิจให้ดี"
    
       ประชาชนอย่างเราอาจยอมรับไม่ได้กับการขึ้นราคาสินค้า ขึ้นราคาน้ำมัน แต่หนทางแก้ไขไม่ใช่การชดเชยราคาน้ำมันด้วยระยะเวลาที่ยาวนาน ถึงจุดหนึ่งต้องยอมรับความจริง
    
    ใช่ว่าการยอมให้ราคาน้ำมันสูงตามความเป็นจริงจะไม่มีข้อดี...
    
       มีตัวอย่างของน้ำมันเบนซินที่รัฐบาลปล่อยลอยตัวก่อน คือปล่อยลอยตัวเมื่อ 20 ตุลาคม 2547 (การปล่อยลอยตัวเบนซินจะไม่กระทบกับราคาสินค้าเท่ากับการปล่อยดีเซล ขณะนั้นรัฐบาลจึงยังตรึงราคาน้ำมันดีเซลอยู่) หลังจากปล่อยลอยตัวเบนซินแล้วผลก็คือ ยอดการใช้
    
    ยอดการใช้เบนซินลดลงจาก 20.1% เหลือ 18.4%
    
      แต่ในขณะเดียวกันยอดการใช้น้ำมันดีเซลกลับเพิ่มจาก 44.6% เป็น 47.1%
    
    
       ที่สำคัญก็คือ ประเด็นของพลังงานทดแทนทั้ง NGV, LPG หรือการประหยัดพลังงานในรูปแบบอื่น จะเข้ามาเป็นกระแสเร็วกว่าที่เคยเป็นประมาณ 1 ปีเป็นอย่างน้อย
    
    ประชาชนยังคงต้องรับภาระจากการชดเชยราคาน้ำมันช่วงปี 2547-2548 ต่อไป 3.50 บาท/ลิตร แม้ประชาชนผู้ "รักทักษิณ" ก็ต้องรับภาระนี้ ในขณะที่ผู้ใช้มาตรการชดเชยราคาน้ำมันนี้ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ และยัง "คิดถึงเมืองไทย" อยู่ไกลถึงต่างแดน
    
    ยังมีประชาชนอีกมากที่คิดถึงอดีตนายกฯท่านนี้...ทั้งที่มีดถูกปักอยู่กลางหลังของประชาชนเหล่านั้น
    
    ความสมานฉันท์...จำเป็นที่จะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อมูล
    
    นี่คือเศรษฐกิจไม่ดี...จากยุค ทักษิณ สู่ สุรยุทธ์ ที่คุณเคยรู้หรือเปล่า?
    
    ..........ลุงแทน.............
  • ลุงแทน

    8 เมษายน 2553 16:25 น. - comment id 116346

    18.gifจดหมายเปิดผนึกถึงทักษิณ สมคิด ปุระชัย และอานันท์ 
    
    By ปราโมทย์ นาครทรรพ, ห่วงการเมือง
     
              เรื่อง ขอให้เลิกสลากกินแบ่งรัฐบาล และออกล็อตโตกับหวยเบอร์ 2 และ 3 ตัว
    เรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ฯพณฯ รมว.กระทรวงการคลัง ฯพณฯ รมว.กระทรวงมหาดไทย ฯพณฯ ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
    อ้างถึง 
    1. เอกสารประกอบการสัมมนา เรื่อง เศรษฐกิจการพนัน : ทางเลือกเชิงนโยบาย โดย รศ.สังศิต พิริยะรังสรรค์ และคณะ 17 ธันวาคม 2544
    2. บทความ หวยล็อก : ล็อกคนไทยทั้งชาติ นสพ.ผู้จัดการรายวัน วันที่ 6 ธ.ค. 44 
    3. บทความ มหาดไทยตาบอด ? นสพ.ผู้จัดการรายวัน วันที่ 13 ธ.ค. 44
    
    จดหมายฉบับนี้ ต้องการให้รัฐบาลและสังคมไทยช่วยกันพิจารณา และตอบคำถาม ว่าจะเลือกทางหนึ่งทางใด ไม่มีทางที่ 3 และมิใช่จะเอาทั้งสองอย่าง ระหว่างหวยที่รัฐบาลจัดการและควบคุม กับหวยใต้ดินที่รัฐบาลไม่มีวันปราบได้ เป็นอบายมุขทั้งสองอย่าง แต่เป็นความชั่วร้ายที่หลีกเลี่ยงมิได้ เช่นเดียวกับสุภาษิตที่ว่า รัฐบาลคือความชั่วร้ายที่จำเป็น (government is necessary evil)
    
    ผมเปิดผนึกจดหมายนี้เสนอสาธารณชนก่อน จะนำส่งถึง ฯพณฯ อีกหนึ่งสัปดาห์ให้หลัง เพื่อขอคำตอบเป็นทางการ ระบบการเมืองของเรา ยังมิได้เป็น participative democracy เนื่องจากประชาชนยังขาดความสนใจและไม่มีข้อมูลเพียงพอ ขาดองค์กรผลประโยชน์ (นอกจากองค์กรที่ไม่ชอบธรรม เช่น เจ้าพ่อ สำนักโจร และบ่อนพนัน เป็นต้น) ที่จะเป็นพาหะนำข่าวสารมาให้ และสื่อมวลชนก็ยังไม่พัฒนา การเปิดผนึกจดหมายนี้ หวังให้สาธารณชนตื่นตัว เกิดความสำเหนียก เคลื่อนไหว และหาข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับการจัดการและใช้เงินของสำนักงานสลากกินแบ่งของรัฐบาล ซึ่งประชาชนมีสิทธิขอดูรายละเอียด ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ได้ที่สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ สำนักนายกรัฐมนตรี
    
    สำหรับ ฯพณฯ ที่ได้รับจดหมายนี้ ผมหวังว่า แม้แต่เสียงนกเสียงกา ท่านก็มีหน้าที่รับฟัง เพื่อจะตัดสินใจให้ได้ ว่าสิ่งใดควรนำไปปฏิบัติ สิ่งใดควรเพิกเฉย ผู้ที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ยังมีอีกมาก ผมขอความกรุณาให้ฯพณฯนำส่งต่อไปยังรัฐสภา ผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา และผู้นำพรรคการเมืองทุกพรรคในสภา สื่อมวลชนและองค์กรมวลชนต่างๆ จะได้ร่วมกันพิจารณา
    
    ก่อนเขียนจดหมายนี้ ผมได้หารือผู้ที่เคารพนับถือ และบุคคลหลากหลายสถานะ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มีประโยชน์หรอก ลืมเสียเถอะ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้มีส่วนได้เสีย นับตั้งแต่รัฐบาลลงมา ถึงนายทหารข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ตลอดจนผู้มีอิทธิพลอุปถัมภ์ค้ำจุนรัฐบาล จะผนึกกำลังกัน ต่อสู้รักษาผลประโยชน์อย่างไม่ลดละ
    
    ผมกลับเชื่อว่า ฯพณฯ ล้วนเป็นผู้ที่ล่วงพ้นแล้ว ไม่มีผู้ใดห่วงผลประโยชน์ส่วนตน ล้วนแต่เห็นส่วนรวมเป็นใหญ่ และตั้งใจที่จะนำพาชาติให้พ้นหายนะภัย ตามแนวพระราชดำรัสและความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทุกประการ
    
    หากตัดผลประโยชน์ความเห็นแก่ตัวออกได้ รัฐบาลต้องเลิกสมคบและสมยอมกับหวยใต้ดิน และกำจัดหวยใต้ดินให้สิ้นซาก
    
    หากมีข้ออ้างว่า รัฐบาลไม่มีทางกำจัดหวยใต้ดินได้ ตราบใดที่ยังมีสลากกินแบ่งของรัฐบาล ตราบนั้นก็จะต้องมีหวยใต้ดิน เพราะหวยใต้ดินอาศัยสลากกินแบ่งของรัฐบาลเป็นประธาน รัฐบาลก็ต้องกำจัดยกเลิกสลากกินแบ่งแบบปัจจุบันไปเสีย ปราศจากสลากกินแบ่งแล้ว หวยได้ดินก็อยู่ไม่ได้
    
    รัฐบาลสามารถเลือกสิ่งทดแทนใหม่ ซึ่งรัฐบาลจัดการและควบคุมได้ และให้ผลประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองมากกว่าเดิม ไม่มีผลเสียหายที่ไม่คุ้มติดพันมา นั่นก็คือ การออกสลากแบบล็อตโต และหวยเลขสองตัวกับสามตัว โดยรัฐบาลเป็นเจ้ามือเสียเอง เช่นเดียวกับอังกฤษ นิวยอร์ก คาลิฟอร์เนีย สลากกินแบ่งมีผลทางลบต่อสังคมและประเทศชาติมากกว่าผลบวก พูดง่ายๆ ว่าได้ไม่เท่ากับเสีย
    
    ผลได้ของสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวรวมๆ ก็ได้แก่การทำรายได้ให้กับแผ่นดิน นั่นก็คือเงินที่นำส่งคลัง ดูย้อนหลัง แต่ละปีงบประมาณดังต่อไปนี้ 2540 = 4731 ล้านบาท 2541= 7340 ล้านบาท 2542 = 7304 ล้านบาท 2543 = 9373 ล้านบาท และ 2544 = 4885 ล้านบาท นอกจากนำเงินเข้าคลังแล้ว ยังเป็นเงินที่รัฐบาลตัดหัวคิวนำไปใช้ และบริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์ เงินสมือนงบลับเพื่อสวัสดิการกองทัพ และผู้ว่าราชการจังหวัด เงินสังคมสงเคราะห์ และโควตา แบ่งปันให้คนพิการตาบอดมีรายได้และงานทำ แต่ละรัฐบาล คือ ชวน ชวลิต และทักษิณ มีวินัยและความรับผิดชอบทางการเงินต่างกันมาก ดูได้จากตัวเลข
    
    ผลเสียของสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวรวมๆ ผลเสียของสลากกินแบ่งก็เท่ากับ ผลเสียของหวยรัฐบาลบวกกับผลเสียของหวยใต้ดิน เพราะสลากกินแบ่งเป็นบ่อเกิดของหวยใต้ดิน หวยใต้ดินเป็นองค์ประกอบหลักของเศรษฐกิจใต้ดิน มีขนาดถึง 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจใต้ดินทั้งหมด ปีละสามแสนสองหมื่นล้านบาทเศษ หวยใต้ดินเป็นบ่อเกิดและขุมกำลังของลัทธิเจ้าพ่อ ซึ่งเป็นตัวการทำลายระบบเศรษฐกิจการเมือง และสังคมของประเทศไทย แทรกแซงการเมืองและการบริหารราชการแผ่นดินระดับชาติและท้องถิ่น ซื้อเสียงขายเสียง ข่มเหงรังแกและเอาข้าราชการที่อ่อนแอเป็นทาส เป็นแหล่งทุนระบาดอบายมุขและโสณทุจริตอื่นๆ ทั้งยาเสพติด บ่อนการพนัน ซ่องโสเภณี การจัดระเบียบสังคมของ ร.ต.อ.ปุระชัย เป็นแค่เรื่องจิ๊บจ๊อย ไม่ระคายเคืองเจ้าพ่อ ซึ่งมีรากฐานอยู่ทุกระดับฐานันดร ทั้งในรัฐบาล ในพรรคการเมือง ในรัฐสภา และมีกิ่งก้านสาขาแทรกซึมอยู่ทั่วหัวระแหงในแผ่นดินพร้อมที่จะเป็นพาหะและปัจจัยให้ความชั่วร้ายทั้งปวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขายมนุษย์และยาเสพติด จำนวนเงินที่หมุนเวียนต่อปีของสลากกินแบ่ง จากการศึกษาของ ดร.สังศิตและคณะ มีแค่สามหมื่นล้านบาทเศษ มิได้แพร่ขยายไปสู่ทุรธุรกรรมอื่นๆ เทียบไม่ได้กับเงินหมุนเวียนในวงหวยใต้ดิน ซึ่งเมื่อรวมกับหวยบริวาร คือหวยออมสิน หวย ธกส. และหวยหุ้น มีมูลค่ารวมถึงแสนสองหมื่นล้านบาท เฉพาะหวยใต้ดินก็กว่าเก้าหมื่นล้านบาท คนที่เล่นหวยใต้ดินและหวยอื่นๆ ปีหนึ่งๆ กว่าสามสิบล้านคน ในขณะที่ผู้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลมีเพียงยี่สิบเอ็ดล้านคน ผู้เล่นหวยใต้ดินเป็นชาวชนบทบ้านนอกที่ยากจนมากกว่าคนในเมือง ต่างกับสลากกินแบ่ง กล่าวได้ว่าหวยใต้ดินทำลายระบบเงินออมของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศโดยสิ้นเชิง ในขณะที่สลากกินแบ่งส่งเสริมคอร์รัปชั่นระดับสูง เป็นแหล่งฟอกเงินและถุงเงินให้นักการเมือง ปู้ยี่ปู้ยำกันมาทุกยุคทุกสมัยไม่มียกเว้น จนกระทั่งปิดบัญชีไม่ลงหลายปีติดต่อกันจนถึงทุกวันนี้ หวยใต้ดินก็สร้างเครือข่ายของการคอร์รัปชั่นคดโกงในหมู่ตำรวจทหารข้าราชการ ตั้งแต่ระดับกลางลงมาถึงผู้น้อย บริวารและลูกเมียทุกจังหวัดทุกอำเภอทุกตำบลของประเทศไทย
    
    กี่รัฐบาลๆ ก็ไม่มีวันแก้ได้ หากไม่ตัดต้นตอ คือการเลิกระบบสลากกินแบ่งแบบปัจจุบันเสีย ทางออกของรัฐบาลคือ การออกสลากแบบล็อตโต และหวยแบบเลขสองตัวและสามตัว โดยใช้การขายทางเครื่องคอมพิวเตอร์ แบบเดียวกับในประเทศที่เจริญทั้งหลาย โดยมีวิธีการ มาตรการ สูตร และอัตราจ่ายรางวัลที่เป็นสากล ไม่มีทางที่จะล็อกหรือบูดเบี้ยวอย่างหนึ่งอย่างใดได้ สามารถตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายแน่นอนเป็นระบบ มิตกอยู่ใต้อิทธิพลใดๆ ทั้งสิ้น ในอังกฤษและอเมริกา รัฐบาลเป็นเจ้ามือล็อตโตออกสัปดาห์ละ 2 ครั้งในวันพุธและวันเสาร์ วิธีการและพิธีกรรมการออกเป็นวิทยาศาสตร์ทันสมัยและบันเทิงมาก ไม่เชยและเชื่อถือไม่ได้อย่างของเรา สำหรับหวยเบอร์ซึ่งก็คือเลข 2 ตัว และ 3 ตัวแบบบ้านเราออกทุกวัน ไม่มีหยุดเสาร์อาทิตย์ การออกหวย 2-3 ตัวก็ง่ายไม่มีพิสดารอะไร สลากล็อตโตก็ง่าย เพียงแต่ผู้ซื้อจะตัองมีใบกาแผ่นหนึ่งเป็นช่องๆ มีตัวเลขตั้งแต่ 1 ถึง 49 เมื่อกาแล้วสอดเข้าไปเครี่องคอมพิวเตอรก็จะออกใบรับมาให้ ผู้ซื้อต้องเลือกให้ครบ 6 ตัว ขาดไม่ได้และเกินไม่ได้ ถึงเวลาออก ใครถูกทั้ง 6 ตัวก็เป็นแจ็กพ็อต ได้รางวัลใหญ่ ตามสัดส่วนของการขายแต่ละงวด รองลงมาก็ถูก 5 ตัวกับโจ๊ก ถูก 5 ตัว 4ตัว และ 3 ตัว สำหรับ 3 ตัวถูกค่อนข้างง่าย แต่แจ็กพ็อตกินยาก งวดใดไม่มีผู้ถูก รางวัลก็ทบขึ้นไป ทำให้ตื่นเต้นและยอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากรัฐบาลตัดสินใจยกเลิกสลากกินแบ่งแบบปัจจุบัน หันมาออกล็อตโตและหวยเลขเบอร์แทน ผลเสียที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดก็จะหมดไป ในขณะเดียวกัน ผลเสียใหม่ และความขลุกขลักในระยะต้นๆ ก็อาจจะมีบ้าง แต่ผลในทางบวกหรือผลได้นั้นจะมีมากกว่าผลเสียเป็นยิ่งนัก
    
    ผลได้ผลเสียของการออกสลากระบบใหม่ มีคร่าวๆ ดังต่อไปนี้
    
    1. รายได้ทั้งหมด ทั้งจากล็อตโตและหวยเบอร์ หากเอาตัวเลขหวยใต้ดินและหวยบริวารประมาณโดย ดร.สังศิต และคณะ มารวมกับยอดขายสลากกินแบ่ง ก็จะได้ยอดเงินประมาณหนึ่งแสนสี่หมื่นล้านบาท หากยอดขายไม่เพิ่มหรือไม่ลด
    
    2. สมมุติว่าหักค่าใช้จ่ายเบ็ดเสร็จ 20 % ก็จะเหลือเงินอีกประมาณหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นล้านบาท หากจะหักเข้านำส่งคลัง ซึ่งขณะนี้อยู่ในภาวะย่ำแย่ ประมาณ 40 %
    
    ก็จะเป็นเงินประมาณสี่หมื่นล้านบาทเศษ หรือเกือบสิบเท่าของรายได้นำส่งคลังของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลปีที่แล้ว!
    
    3. จ่ายเป็นเงินรางวัลอีก X % ของเงินที่เหลือ สุดแท้แต่จะใช้อัตราเดียวกับลอนดอน คาลิฟอเนียหรือนิวยอร์กส สมมุติว่า 35 %ของเงินที่เหลือ คือประมาณเกือบสามหมื่นล้านบาท ก็จะยังคงเหลือเงินอยู่อีกเกือบสี่หมื่นล้านบาทเศษ
    
    4. เงินที่เหลืออยู่ หากรัฐบาลจะผันคืนท้องถิ่นแหล่งที่ซื้อ ตามสัดส่วนของการซื้อ โดยกำหนดให้เป็นงบพัฒนาตามยุทธศาสตร์ส่วนหนึ่ง และเงินอุดหนุนที่องค์กรท้องถิ่นสามารถใช้ได้อย่างยืดหยุ่นแต่โปร่งใสและรับผิดชอบ อีกส่วนหนึ่ง ก็จะทำให้เกิดงานและการพัฒนาในอัตราเร่งขึ้นมาจากท้องถิ่น ทำให้เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจรวม เมื่อราษฎรมีการศึกษาดีขึ้น ฐานะเศรษฐกิจดีขึ้น ความหมกมุ่นหรือการซื้อก็จะน้อยลง ดร.สังศิตและคณะ ระบุว่าผู้ที่การศึกษาต่ำก็เสี่ยงโชคมาก
    
    5. ผลพลอยได้อีกอย่างหนึ่ง ก็คือ การยกระดับความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์ระดับรากหญ้า เพราะรัฐบาลสามารถจัดให้องค์กรการปกครองท้องถิ่น ร้านค้าย่อย ร้านสหกรณ์ สหกรณ์ออมทรัพย์ เครดิตยูเนียน องค์กรเกษตร องค์กรสังคมสงเคราะห์ ผู้พิการคนตาบอด เท่านั้นเป็นเอเย่นต์ผู้จำหน่ายล็อตโตและหวยเบอร์
    
    ทั้งหมดนี้เป็นแต่เพียงความคิดหลัก และตัวเลขสมมติ อาจผิด แต่ปรับปรุงและสร้าง model ที่แม่นยำได้ ขอแต่ให้มีเจตจำนงทางการเมือง ( political will) เพียงพอ หากเราเชื่อเมตาฟิสิกซ์ส หรือแม้แต่เชื่อว่าลบบวกลบเท่ากับบวก (- + - = +) บางทีการพนัน ซึ่งเป็น necessary evil กับรัฐบาลที่เป็น necessary evil เช่นเดียวกัน อาจจะบังเอิญมาบรรจบกันให้เกิดคุณูปการต่อประเทศไทยในครั้งนี้ได้
  • คนแถวนี้

    8 เมษายน 2553 17:22 น. - comment id 116347

    สงสัยคนเสื้อแดงพวกนี้จะรับข่าวแต่ด้าน
    เดียวจริงๆ  หัดดูข่าวซะบ้างนะ  ดูว่าเค้า
    ประเมินความเสียหายจากการกระทำซั่วๆ
    ที่เป็นอยู่เนี่ยเท่าไหร่แล้ว  ตายไป 10 ชาติ
    หามาชดใช้กันได้หรือเป่าก็ไม่รู้  เปิดหู
    เปิดตาดูโลกซะบ้างไม่ใช่อยู่แต่ในกะลาน่ะ
    
    เฮ้อออพวกบ๊อทเนี่ยไร้สมองจริงๆ
  • คนแถวนี้

    8 เมษายน 2553 17:26 น. - comment id 116348

    ปล.ขอบคุณลุงแทนที่นำข้อมูลอีกด้านมาตี
    แผ่ให้ได้เห็น  ที่จริงหากมีข้อโต้แย้งอะไร
    ที่พวกเสื้อแดงกล่าวหามาขยายความจะดี
    มาก เพราะก็ดูข่าวจากหลายแหล่งรวมทั้ง
    ของเสื้อแดงด้วยแต่บางประเด็นยังมีข้อ
    ไม่ชัดเจนหลายประการ  ทั้งนี้จะเป็น
    ประโยชน์อย่างมากและจะได้นำไป
    ชี้แจงบอกต่อคนที่เข้าใจผิดได้ด้วย
    
    เพราะตอนนี้ประเทศเรากำลังต่อสู้อยู่กับ
    
    ความไม่รู้......
    
    อย่างหนักหน่วง
  • ลุงแทน

    8 เมษายน 2553 17:55 น. - comment id 116349

    1.gif ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน ในบ้านลุงแทน ... ลุงแทนรักไม่ได้แบ่งว่านั้นดแง นี่เหลือง เพราะสีอะไรก็แล้วแต่เป้นเพียงแต่สิ่งสมมติ  แต่ลุงแทนจะดูที่ตัวบุคคลมากว่า โดยใช้วิจารณญาณ ใช้จิตสำนึก   คนเราไม่มีใครดี ร้อยเปอร์เซ็น และไม่มีใครชั่วร้อยเปอร์เซ็น   เพียงแต่ว่าใครจะมีส่วนใหนมากน้อยกว่ากันเท่านั้น  
    
        ขอขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกท่าน 
    
    .........ลุงแทน.........
  • รากหญ้า ป4

    8 เมษายน 2553 20:21 น. - comment id 116352

    เอะ  ลุงแทนไม่คิดจะตอบคำถามผมบ้างรึ   อย่างนี้แสดงว่ารับข้อมูลข้างเดียวใช่ป่ะ
    
    ไอ้ที่เอามาโชว์ให้ดูน่ะเป็นข้อมูลเท็จทั้งนั้น ยังเอามาให้ดู้อีกหริอ  บาปนะจะบอกให้
    
    ไอ้การพูดว่าไม่มีสัน่ะทุกคนพูดได้ แต่เขาดูที่การกระทำ
    
    อย่างนี้ผมถือว่าคุณมั่วและโกหกข้อมูล  เป็นคนที่ใช้ไม่ได้  จิงป่ะ
    
    จัดอยู่ในพวกควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์    จะว่าสารเลวก็คงไม่ผิดแน่
  • รากหญ้า ป4

    8 เมษายน 2553 20:23 น. - comment id 116353

    ถึงผู้ใช้นามลุงแทน
    
    กรุณาอย่าทำตัวทุเรศ  โกหกมดเท็จ
  • รากหญ้า

    8 เมษายน 2553 20:25 น. - comment id 116354

    หากคุณแน่จริง นายต้องตอบคำถามผมได้
    
    คำพูดของคุณผมตอบได้ทุกข้แ
    
    บอกได้เลยว่าโกหก  อย่างน่าทุเรศมาก
    
    หากตอบไม่ได้ก็อย่ามาออกความเห็นเลย ทุเรศ
  • เด็กวัดบ

    8 เมษายน 2553 20:27 น. - comment id 116355

    อย่าทำเป็นเท่มาพูดว่าเป็นสิ่งสมมติส้นตรีนอะไรเลย  มันตอแหล  จะพูดธรรมว่างั้นเถอะจิตใจสกปรก  พูดยังงัยก็สกปรก
  • kru

    8 เมษายน 2553 21:12 น. - comment id 116356

    แถลงการณ์ร่วม
    เรื่อง การสั่งปิดสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมและเว็บไซต์
    
    ตามที่รัฐบาลอ้างอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในการ ปิดกั้นสัญญาณสถานีโทรทัศน์พีทีวี รวมทั้งปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาข่าวสารความคิดเห็นทางการ เมือง เช่นเว็บไซต์ www.prachatai.com ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมานั้น
    
    องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนประกอบด้วย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย ได้หารือร่วมกันแล้ว มีความเห็นดังต่อไปนี้
    
    1. การปิดกั้นสัญญาณของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมพีทีวี และการปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ที่แสดงความคิดเห็นดังกล่าว เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 45 ที่บัญญัติว่า การสั่งปิดกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนอื่นเพื่อลิดรอนเสรีภาพตามมาตรา นี้ จะกระทำมิได้ ทั้งนี้ รัฐบาลจะสามารถใช้กฎหมายพิเศษเพื่อจำกัดเสรีภาพของสื่อมวลชนได้ ก็เพียงการห้ามเสนอข่าวสารหรือแสดงความคิดเห็นทั้งหมดหรือบางส่วนเท่านั้น
    
    2. การที่รัฐบาลกล่าวอ้างว่า การดำเนินการปิดกั้นสัญญาณและการปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ดังกล่าว เพื่อป้องกันการบิดเบือนข่าวสาร ทำให้ประชาชนไม่ได้รับข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง ขณะที่รัฐบาลเองยังใช้สถานีวิทยุโทรทัศน์ของรัฐในการเสนอรายการที่มีลักษณะ นำเสนอข้อมูลด้านเดียว อีกทั้งยังปล่อยให้สถานีวิทยุและโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมอื่นๆ นำเสนอเนื้อหาในลักษณะใกล้เคียงกัน ซึ่งอาจนำไปสู่ความแตกแยกในสังคมมากขึ้นนั้น ย่อมเป็นการกระทำที่รัฐบาลอาจถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็น สองมาตรฐาน และสร้างความชอบธรรมแก่ผู้ชุมนุมมากขึ้น
    
    3. การปิดกั้นสื่อในลักษณะนี้ ย่อมเป็นการปิดกั้นสิทธิการรับรู้ข่าวสารของประชาชน จึงอาจทำให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกั้นสื่อดังกล่าว ออกมาเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้สถานการณ์มีความซับซ้อนและอาจนำไปสู่ความรุนแรงได้
    
    4. องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ขอเรียกร้องให้สื่อมวลชนทุกแขนง ทำหน้าที่รายงานข่าวสารที่เกิดขึ้นในขณะนี้ด้วยความครบถ้วนรอบด้าน โดยนำเสนอความจริงและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นด้วยการคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพใน การรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน และระมัดระวังการนำเสนอข่าวที่อาจนำไปสู่การใช้ความรุนแรงในการยุติปัญหา
    
    สุดท้ายนี้การแสดงจุดยืนของทั้งสองสมาคมเป็นไปตามหลักการของผู้ประกอบ วิชาชีพ โดยยึดถือประโยชน์สาธารณะเป็นหลัก ไม่ประสงค์จะให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดนำแถลงการณ์ฉบับนี้ไปใช้ในการสร้างความชอบ ธรรมให้กับตนเอง
    
    สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
    สมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย
    8 เมษายน 2553
  • รากหญ้า

    9 เมษายน 2553 08:12 น. - comment id 116383

    หายหัวไปเลยรึลุงแทน
    
    วันหลังหัดคิดแบบฉลาดๆเหมือนชาวบ้านเขาบ้างนะ  
    
    อย่าให้ใครเขาว่า  มันน่าเกลียด
  • แมวเหลือง

    11 เมษายน 2553 20:25 น. - comment id 116490

    ดีมากครับ ดีมาก
    
    29.gif72.gif41.gif39.gif
  • ปอ เปร...ต ประตูหลัง จอมมารถั่วดำ

    12 เมษายน 2553 06:09 น. - comment id 116513

    ไอ้แมวหลวยซีดเลยว่ะ
    
    มรึงทำเองก็ต้องรับกรรมไปนะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน