"ปรัชญาความรักของเม่น" จากโกวเล้ง

โคลอน

1123194.jpg วันเสาร์ที่ ๐๙-๑๐-๕๓
ณ เวลา ๑๘.๑๕ น.
ช่อง True Film Asia ฉันได้ดูการ์ตูนแอนิเมชั่นจากญี่ปุ่นเรื่อง EVAN GELION: 
YOU ARE NOT ALONE  โดยบังเอิญเพราะเป็นแนวแอคชั่นที่ดูน่าสนใจไม่
น้อย แต่ก็ต้องสะดุดกับประโยคหนึ่งที่ผู้หญิงสองคนพูดถึง นักบินผู้ขับอีวา๐๑ที่
ชื่อ ชูอิจิ ว่า "คนที่มีปัญหากับการสร้างมนุษย์สัมพันธ์กับคนอื่นก็คงคล้ายกับ เม่น 
ที่มีหนามรอบตัวที่แม้อยากจะถ่ายทอดความอบอุ่นให้อีกฝ่ายมากเพียงใด แต่ยิ่ง
เข้าใกล้ก็ยิ่งถูกหนามทิ่มแทงให้ต้องเจ็บปวด จึงต้องถอยห่างจากความสัมพันธ์"
เป็นบทสนทนาสั้นๆท่ามกลางการต่อสู้ที่ดุเดือด และ นักบินยังต้องพยายามเอา
ชนะความกลัวของตัวเองให้ได้อีกด้วย แต่ทว่าเป็นประโยคที่ประทับใจจนฉันต้อง
รีบคว้าปากกามาจดเท่าที่จำได้และเซิร์ชหาทฤษฎีความรักของเม่นจนได้รู้
ว่าแท้จริงแล้วมาจาก ปรัชญาของ โกวเล้งนั่นเอง
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
โกวเล้งกล่าวไว้ว่า ความรักของหนุ่มสาวก็เปรียบเสมือนความรักของเม่น
เม่นเป็นสัตว์ที่มีขนเต็มตัว แต่ขนแหลมๆเหล่านั้นกลับไม่ช่วยให้เม่นรู้สึกอบอุ่นแม้แต่น้อย
หนทางเดียวที่เม่นตัวหนึ่งจะได้รับความอบอุ่นท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น คือ
 การอาศัยไออุ่นจากเม่นอีกตัวหนึ่ง
ทว่า เวลาที่เม่น 2 ตัวขยับเข้าใกล้กันเพื่อรับไออุ่นจากอีกฝ่ายนั้น ต่างฝ่ายต่างก็
จะโดนขนแหลมๆของอีกฝ่ายหนึ่งทิ่มแทงให้ได้รับความเจ็บปวด
ดังนั้น หนุ่มสาวทั้งหลายจึงต้องเลือกเอา
ระหว่างอบอุ่นอย่างเจ็บปวดกับไม่เจ็บปวดแต่หนาวเหน็บ
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
อืมมม.... ถ้าเป็นคุณจะเลือกแบบไหนanimation-animal-4.gif				
comments powered by Disqus
  • กรต

    11 ตุลาคม 2553 12:37 น. - comment id 119376

    ดีจร้า....อาคุงสายฝน...
    สำหรับผมนะ...
    
    รักแท้...ก็แค่วลี...20.gif
    รู้ตัวอีกที...
    วลี...ก็กลายเป็นฝัน...ซะแระ...
    
    รักแท้....จริงๆแล้ว...ทุกคนรู้จัก...
    จริงๆแล้ว...ทุกคนอยากพบ...
    รักแท้....จริงๆแล้ว...มันมีอยู่ในใจ...ทุกคน...
    
    แต่น่าแปลก...ที่...เมื่อคนสองคนที่ตามหา...รักแท้...
    มาเจอกัน...ครองคู่กัน...
    หลายต่อหลายคู่...
    กลับไม่เป็นรักแท้...ของกันและกัน...
    
    เพราะ....
    รัก...(ไม่ต้องแท้)....
    มันไม่ต้องมีอะไรเลย...มันคือว่างเปล่า...
    มันคือ...บางสิ่งบางอย่าง...
    มันคือ....ทุกสิ่งทุกอย่าง...
    
    @ เหมือนเรารักบุพการี...ที่ไร้ซึ่ง...สิ่งใดๆ...
    วลีใดๆ...จะมากำกับว่า..."เพราะ"..."ถึงได้รัก..."
    
    @ มันเป็นบางสิ่งบางอย่าง...เมื่อ...ใจ
    เรามีอัตรา...แลกเปลี่ยน...ต่อรักนั้น..."ให้แล้ว ต้องได้ คืน"
    
    @ มันคือทุกสิ่งทุกอย่าง...เมื่อเราทำเพื่อมัน...เพื่อเขา...(คนที่เรารัก)...
    
    การจะได้ "รักแท้" มาครอบครอง...
    เราต้องเข้าใจ...คำว่ารัก...อย่างถ่องแท้เสียก่อน...
    ซึ่งถ้าขยายความไป...จะยาวเหยียด...
    แล้วก็จะได้บทสรุป...ว่า...เราต้องเป็น "คนดี" ก่อน...
    
    คราวเนี่ยะ...ยากล่ะ...ถ้าจะได้ รักแท้...จากใคร...
    เขาก็ต้องต้องเป็น"คนดี" เหมือนกัน...
    
    ความหมายของ "คนดี" .... 
    คุงฝน..ก็เขียนไปแล้วไง...
    แต่นิยาม...อีกทีว่า..."เหมือนกับพ่อและแม่"เราอ่ะจร้า...
    อุ้มเราได้...ปล่อยเราได้...
    กอดเราได้...ไกลเราได้...ใกล้เราได้...
    ดูแลเราได้...ไม่ดูแลก็ได้...
    มีเขา...แล้วเราสุข...แม้บางครั้ง...อยากหลบหน้า...แต่ก็ขอให้มี...
    
    ในทางกลับกัน...เหมือนว่าเราคือเขา(พ่อกะแม่) ที่มีรักต่อลูกอ่ะจร้า...
    
    นี่แหละรักแท้...
    (รู้แต่หายาก...อิอิ )
    
    53.gif46.gif11.gif4.gif6.gif36.gif
  • vit

    11 ตุลาคม 2553 13:04 น. - comment id 119377

    เกิดอะไรขึ้น
    
    สรุป  love is great  ว่างั้นเหอะ
    
    โอเคก็ได้ 
    
    จริงๆ เม่นน่ารักออก  อยากกอด
    
    แต่ไม่ชอบขน  เดี๋ยวจะถอนขนมาทำเป็น
    
    เข็มเย็บผ้า  ดีไหม20.gif19.gif
    
    แถม....
    
    love is the language that the blind and
    
    the dumb can see and listen.
    
    จำลอกของคนอื่นมา
    
    หน้าแผ่นนี้ใช้เวลาอ่านนานเหมือนกัน
    เพราะคนโพสช่างขยันจริง
    
    bye
  • เพียงพลิ้ว

    11 ตุลาคม 2553 15:25 น. - comment id 119378

    ได้มาจากหนังเกาหลีค่ะ จำไม่ได้ว่ามีกี่ข้อ จำได้แต่ว่าคนรักกันได้มีหลายอย่าง ข้อที่จำได้คือการมีประวัติศาสตร์ร่วมกันค่ะ
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • ice ice

    13 ตุลาคม 2553 16:14 น. - comment id 119389

    gooddddddd
  • โคลอน

    13 ตุลาคม 2553 20:20 น. - comment id 119390

    อะแฮ่มๆ....ขอบคุณน๊าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกท่านที่เข้ามาอ่านจ้า 29.gif29.gif29.gif
    
    
    หลี่เหม่ยจิน
    
    หายไปนานเลยน๊า ขอบคุณที่เอาปรัชญาของโกวเล้งมาร่วมแจมจ้า 58.gif11.gif36.gif
    
    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
    
    อาคุงกีฯ
    
    นานๆได้คุยกันฝั่งนี้เนอะ อิอิ 30.gif
    
    อืมมมม....ปรัชญาความรักของอาคุงกีฯ ก็คล้ายของฝนนะ
    
    รักโดยไม่จำเป็นต้องผูกมัดหรือสัมผัสจับต้องหรือแม้กระทั่งไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของ
    
    รักในความว่างเปล่า......แต่ในความว่างเปล่ามักจะมีอะไรเสมอๆ
    
    อาคุงกีฯเปรียบเทียบดั่งกับรักของ พ่อและแม่ที่มีให้เราโดยที่ท่านไม่ได้เรียกร้องหรือหวังผลตอบแทนแค่ทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ดีเพื่อคนที่รัก
    
    และฝนก็อยากจะเปรียบกับความรักของ น้องหมาที่มีต่อเจ้าของด้วยค่ะ
    
    เวลาที่เราออกไปข้างนอกแค่ไม่กี่ชั่วโมงแต่เวลากลับมาบ้านเขาจะดีใจกระโดดๆหอมแก้มเรา อยากให้เราอุ้มเหมือนไม่ได้เจอกันมาเป็นสิบปี
    
    บางครั้งเราก็อารมณ์เสียวีนใส่น้องหมาก็จะหางตกหูตกนั่งเรียบร้อยในที่ของตัวเองแต่พอเรายิ้มให้เท่านั้นแหละ น้องหมาก็จะยิ้มตอบและกระโจนมาปล้ำจูบเราโดยไม่โกรธเคืองเลยสักนิด ไม่มีอารมณ์น้อยใจให้เราต้องคอยตามง้อ...........
    
    แถม....เวลาเราพาไปเดินเล่นหรือไปเที่ยวท่ามกลางสถานที่แปลกถิ่น และท่ามกลางคนแปลกหน้ามากมาย.....สายตาเขาก็จะมีแต่เรา มองตามเราทุกฝีก้าว กลัวเราจะทิ้งเขาไป
    
    ความรักที่บริสุทธิ์ที่ยากจะบรรยายได้จริงๆค่ะ ถ้าไม่เจอกับตัว
    
    11.gif11.gif11.gif
    
    นี่แหละ"รักแท้" (เนอะ)
    
    46.gif46.gif46.gif
    
    ขอบคุณที่มาฝากข้อคิดดีๆน๊า อาคุงกีฯ
    
    คงได้แลกเปลี่ยนทัศนคติเรื่องต่างๆอีกบ่อยๆนะคะ
    
    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
    
    วิทย์ ศิริ
    
    เวอร์ชั่นปะกิตเหรอเนี่ย 21.gif
    
    ฮ่าๆ....คิดจะถอนขนเม่นเชียวเหรอเนี่ย 20.gif
    
    ว่าแต่ถอนยังไงอ่าอาคุงวิ๊ด 20.gif
    
    ขอบคุณข้อความดีๆที่นำมาฝากนะคะ29.gif
    
    ปล.คนโพสก๊อปเขามาอีกทีค่ะข้อความข้างล่าง65.gif หาได้ขยันไม่21.gif อิอิ
    
    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
    
    กานต์
    
    ประวัติศาสตร์ ดูยิ่งใหญ่จังเนาะ
    
    ชอบคำว่า"ความทรงจำ"มากกว่าอ่ะจ๊ะ กานต์ 11.gif 
    
    ขอบคุณน๊า 58.gif
    
    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
    
    ยกป
    
    ฮ่าา.....ขอบคุณที่อ่านจ้า ยาฯ 30.gif
    
    ไงก็ไม่ตาลายเท่าตอนเมามั๊งยาฯ20.gif อิอิ
    
    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
    
    nig... 
    
    ขอบคุณดอกไม้แห่งมิตรภาพนะคะ11.gif36.gif11.gif
    
    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
    
    ไอซ์
    
    อิอิ...........ขอบคุณน๊า64.gif58.gif57.gif
  • nig...

    12 ตุลาคม 2553 10:46 น. - comment id 119393

    36.gif
  • ยกป

    11 ตุลาคม 2553 16:15 น. - comment id 119398

    ยาวจัด อ่านซะตาลาย
    
    7.gif7.gif
  • .

    9 ตุลาคม 2553 20:52 น. - comment id 119406

    ทำไมรักของเม่นต้องปวดเจ็บทางเดียว หันหน้าจูบปากกันนิดๆ ก็อุ่นไอได้แล้วมิใช่หรือ
    
    คำโกวเล้งไม่แน่ว่าจริงเสมอไป..เพราะชีวิตโกวเล้งคงไม่ต่างเม่นที่รังแต่จะหันขนแหลมเข้าหาอีกฝ่ายกระมัง ชีวิตรักก็ดูไปไม่ราบรื่นเท่าใด  คงไม่ได้คิดถึงอีกของจมูกปากที่สามารถสร้างความรู้สึกดีได้เช่นกันกระมัง
    
    รักของโกวจุดไม่เคยคิดเอาเม่นเป็นทางรักแน่ๆ  ..กลัวไม่มีรักก่อนได้รับรู้รสรัก 
    
    46.gif21.gif20.gif19.gif27.gif
  • ไร้อันดับ

    9 ตุลาคม 2553 21:05 น. - comment id 119407

    ถึงแม้บาดแผลบนร่างกาย
    ของคนเรา อาจมีได้นับร้อย
    นับพันแห่ง...แต่รอยแผลใน
    หัวใจ กลับมีอยู่เพียงรอยเดียว 
    และที่ตรงนั้นเอง...
    ที่เขารู้สึกว่าเปราะบางที่สุด ถูกทำร้ายได้ง่ายที่สุด แม้ว่าปาก
    แผลจะปิดไปแล้วก็ตามแต่เมื่อไร
    ที่มีอะไรมาสะกิดทำให้เราหวน
    คิดกลับไป...อาการก็จะกำเริบเจ็บ
    ปวดขึ้นมาอีก 65.gif
    
    จากเรื่อง ดาบจอมภพ 11.gif
  • โคลอน

    9 ตุลาคม 2553 21:30 น. - comment id 119408

    ลุงจุด
    
    โกวจุด โหๆๆๆ20.gif ช่างกล้านัก อิอิ 19.gif
    
    อืมมม....หันหน้าชนกันแบบนั้นมันหายหนาวได้จริงๆเหรอลุงจุด...สู้ "วงแขนกล้ามเป็นมัดๆ อุ๊ย น่าจะกัดแขนเล่นเบาๆ" ก็ไม่ได้ 19.gif ฮ่าา....19.gif 
    
    โกวเล้งอาจจะไม่ได้หันขนแหลมทิ่มใส่คนอื่นแต่อาจจะถูกคนอื่นหันเข้าหาก็ได้นาลุงจุด48.gif
    
    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
    
    พี่สืบฯ
    
    อิอิ...นึกว่าพี่ไปสู้รบตบมือกับใครที่ไหน20.gif
    
    ที่แท้ก็ปรัชญาจอมยุทธนี่เอง21.gif
    
    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
    
    อะแฮ่มๆ หามั่งๆ ไหนๆก็ไหนๆแระ ขออนุญาตรวบรวมปรัชญาความรัก ไว้ที่นี่เลยแระกันเนาะ46.gif
    
    1.A man overtime falls in love with woman he is attracted to,
    
    and a woman overtime become more attracted to the man she loves. 
    
    ผู้ชายมักจะตกหลุมรักคนที่เค้าหลงเสน่ห์ และผู้หญิงจะหลงเสน่ห์คนที่เธอตกหลุมรัก 
    
    =================================
    
    2.You may only be one person to the world but you may also be the world to one person 
    
    คุณอาจจะเป็นแค่ "คนๆ หนึ่ง" ในโลกใบนี้ แต่คุณอาจจะเป็น "โลกทั้งใบ" ของคนคนหนึ่งก็ได้ 
    
    =================================
    
    3.You know when you love someone when you want them to be happy 
    
    even if their happiness means that you"re not of it. 
    
    คุณรู้ว่า คุณรักเค้าก็ต่อเมื่อคุณต้องการให้เค้ามีความสุข 
    
    แม้ว่าความสุขนั้นจะหมายถึง การที่คุณไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมัน 
    
    =================================
    
    คัดมาบางข้อที่โดนๆจากเว็บข้างล่างค่ะ
    
    http://www.tlcthai.com/club/view_topic.php?club=roch&club_id=1055&table_id=1&cate_id=-1&post_id=7655
    
    
    29.gif29.gif29.gif
    
    เข้ากับใครมั่งมั๊ยเนี่ย อิอิ21.gif
  • โคลอน

    9 ตุลาคม 2553 21:43 น. - comment id 119409

    ...ความรัก กับ ต้นหญ้า... 
    เรื่องราวของอาจารย์และลูกศิษย์ 
    
    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว 
    
    มีครูกับลูกศิษย์นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ซึ่งใกล้กับสนามหญ้าอันกว้างใหญ่ 
    ทันใดนั้น ลูกศิษย์คนหนึ่งก้อถามขึ้นมาว่า 
    
    ลูกศิษย์ : อาจารย์คับ ผมสงสัยจังเลยว่า เราจะหาคู่แท้เราเจอได้ไงคับ 
    อาจารย์บอกผมหน่อยได้ไหม คับ? 
    
    อาจารย์ : (เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนที่จะตอบ) อืม มันเป็นคำถามที่ยากนะ 
    ในขณะเดียวกันมันก็เป็นคำถาม ที่ง่ายเหมือนกันนะ 
    
    ลูกศิษย์ : (นั่งคิดอย่างหนัก) อืม?....งงอะไม่เข้าใจ 
    
    อาจารย์ : โอเค งั้น เธอลองมองไปทางนั้นนะ ตรงนั้นน่ะ มีหญ้าเยอะแยะ เลยใช่ไหม 
    เธอลองเดิน ไปหาหญ้าต้นที่สวยที่สุด แล้วเด็ดมาให้ครูสิ ต้นเดียวเท่านั้นนะ 
    แต่ว่า เวลาเธอเดินเนี่ย เธอต้องเดินไป ข้างหน้าอย่างเดียวนะ ห้ามเดินถอยหลัง 
    เข้าใจไหม 
    
    ลูกศิษย์ : ได้เลยครับ จาน รอสักครูน่ะครับ (ว่าแล้ว ก้อวิ่งตรงไปยังสนามหญ้า) 
    หลังจากนั้นไม่นาน.... 
    
    ลูกศิษย์ : ผมกลับมาแล้วครับจาน 
    
    อาจารย์ : อืม...แต่ทำไมครูไม่เห็นต้นหญ้าสวย ๆ ในมือเธอเลยหละ 
    
    ลูกศิษย์ : อ๋อ คืองี้ครับจาน ตอนที่ผมเดินไปแล้วผมเจอต้นหญ้าสวย ๆ เนี่ย 
    ผมก้อก้อคิดว่า เออ เดี๋ยว ก้อคงเจอต้นที่สวยกว่านี้ ดังนั้นผมก็เลยไม่เด็ดมัน 
    แล้วผมก็เดินไปเรื่อย รู้ตัวอีกที มันก็สุดสนามหญ้าแล้ว ครับ 
    จะเดินกลับก้อไม่ได้ เพราะจานสั่งห้ามไว้ 
    
    อาจารย์ : นั่นแหละ คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในชีวิตจริงหละ ... 
    เรื่องนี้ต้องการที่จะสื่ออะไรกับเรา ต้นหญ้า ก็คือ คนที่อยู่รอบ ๆ ตัวคุณ 
    ต้นหญ้าที่สวยงาม ก็คือ คนที่คุณชอบ หรือคนที่ดึงดูดคุณนั่นแหละ ส่วนทุ่งหญ้า 
    ก็คือ เวลา ... เวลาที่คุณจะหาคู่แท้ของคุณ อย่ามัวแต่เปรียบเทียบ แล้ว คิดว่า 
    คงจะมีที่ดีกว่านี้ เพราะถ้าคุณ มัวแต่ เปรียบเทียบ 
    คุณจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ อย่าลืมว่า..."เวลาไม่เคยย้อนกลับ" 
    ไม่ใช่แค่ความรักเท่านั้น เรื่องนี้ ยังสามารถใช้ได้กับ 
    การหาคนที่จะมาทำงานร่วมกับคุในชีวิต หรือ แม้กระทั่งงานที่เหมาะสมกับคุณ 
    ดังนั้น มันจึงเป็นสัจธรรม ที่ว่า ..."จงรัก และ ไขว่คว้า 
    โอกาสที่คุณมีในขณะนี้ อย่ามัวแต่เสียเวลา บางครั้งคนเราก็มีโอกาสเลือกแค่ 
    เพียงครั้งเดียวเท่านั้น..." 
    
    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
    
    แหล่งที่มา http://www.thaireaderclub.com/read.php?id=832
    
    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
    
    สงสัยจะเผลอฆ่าหญ้าไปซะแระ 21.gif21.gif21.gif
  • โคลอน

    9 ตุลาคม 2553 21:47 น. - comment id 119410

    เรื่องนี้สุดยอดเลยค่ะ 29.gif29.gif29.gif
    
    ความรัก (Love are...) 
    
    A kindergarten teacher has decided to let her class play a game. The teacher told each child in the class to bring along a plastic bag containing a few potatoes. Each potato will be given a name of a person that the child hates, so the number of potatoes that a child will put in his/her plastic bag will depend on the number of people he/she hates. 
    
    คุณครูในโรงเรียนสอนเด็กอนุบาลแห่งหนึ่งตัดสินใจที่จะให้เด็กนักเรียนในชั้นของเธอเล่นเกมได้ ดังนั้นเธอจึงบอกให้เด็กนักเรียนแต่ละคนในชั้นนำมันฝรั่งใส่ถุงพลาสติกมาจำนวนหนึ่ง บนมันฝรั่งแต่ละหัวให้เขียนชื่อคนที่รังเกียจไว้ ดังนั้นจำนวนหัวมันฝรั่งที่เด็กนักเรียนใส่ไว้ในถุงของเขาจะขึ้นกับจำนวนคนที่เขารังเกียจไม่ชอบ
    
    So when the day came, every child brought some potatoes with the name of the people he/she hated. Some had 2 potatoes; some 3 while some up to 5 potatoes. The teacher then told the children to carry with them the potatoes in the plastic bag wherever they go (even to the toilet) for 1 week. 
    
    และเมื่อถึงวันกำหนด เด็กๆ ทุกคนก็นำฝรั่งที่มีชื่อคนที่เขารังเกียจติดตัวมา บางคนมีมัน 2 หัว บางคนมีมัน 3 หัว ในขณะที่บางคนมีถึง 5 หัว จากนั้นคุณครูได้สั่งให้เด็กนักเรียนนำมันฝรั่งของตนเองใส่ถุงถือติดตัวไปทุกๆ แห่ง (แม้กระทั่งเข้าห้องน้ำ) เป็นระยะเวลา 1 อาทิตย์
    
    Days after days passed by,and the children started to complain due to the unpleasant smell let out by the rotten potatoes. Besides, those having 5 potatoes also had to carry heavier bags. After 1 week, the children were elieved because the game had finally ended....
    
    หลังจากที่หลายๆ วันผ่านไป พวกเด็กนักเรียนก็เริ่มบ่นถึงกลิ่นที่ไม่สู้จะดีที่ออกมาจากมันฝรั่งซึ่งเริ่มจะเน่า นอกจากนั้นเด็กที่มีมันฝรั่ง 5 หัวก็ยิ่งบ่นที่ต้องถือถุงหนักกว่าคนอื่น เมื่อเวลา 1 อาทิตย์สิ้นสุดลง พวกเด็กนักเรียนจึงได้รู้สึกปลดปล่อยเพราะเกมได้จบลงแล้ว
    
    The teacher asked: "How did you feel while carrying the potatoes with you for 1 week?". The children let out their frustrations and started complaining of the trouble that they had to go through having to carry the heavy and smelly potatoes wherever they go. 
    
    คุณครูถามว่า พวกเธอรู้สึกอย่างไรกับการที่ต้องถือมันฝรั่งติดตัวอยู่ 1 อาทิตย์ พวกเด็กนักเรียนจึงระบายความหงุดหงิดไม่พอใจออกมา และบ่นถึงความลำบากที่พวกเขาต้องเจอจากการที่ต้องถือถุงมันฝรั่งที่ทั้งหนักและส่งกลิ่นเน่าเหม็น
    
    Then the teacher told them the hidden meaning behind the game. The teacher said: "This is exactly the situation when you carry your hatred for somebody inside your heart. The stench of hatred will contaminate your heart and you will carry it with you wherever you go. If you cannot tolerate the smell of rotten potatoes for just 1 week, can you imagine what is it like to have the stench of hatred in your heart for your lifetime???" 
    
    หลังจากนั้นคุณครูจึงได้อธิบายให้พวกเด็กได้ทราบถึงความหมายแท้จริงที่ซ่อนอยู่ในเกม คุณครูกล่าวว่า นี่เป็นเหมือนกับสถานการณ์จริงๆ เมื่อเราต้องแบก เก็บความเกลียดชังผู้อื่นไว้ในใจ มลพิษของความเกลียดชังจะกัดกร่อนใจของเรา และติดไปกับตัวเราในทุกๆ ที่ที่เราไป ถ้าขนาดที่เรายังทนไม่ได้กับกลิ่นเน่าเหม็นของมันฝรั่งในช่วง 1 อาทิตย์ ลองคิดดูว่ามันจะเป็นเช่นไร ถ้าเราแบกเก็บความเกลียดชังไว้ในใจตลอดชั่วชีวิต ?
    
    Moral of the story: 
    Throw away any hatred for anyone from your heart so that you 
    will not carry sins for a lifetime. Forgiving others is the best attitude 
    to take! Love others even if you don't like them
    
    คติสอนใจจากนิทานเรื่องนี้ คือ :
    โยนทิ้งความเกลียดชังผู้อื่นออกไปจากใจของคุณ เพื่อที่ว่าคุณจะได้ไม่ต้องแบกรับบาปนี้ไปชั่วชีวิต ให้อภัยผู้อื่นถือเป็นทัศนคติที่ดีที่สุดที่ควรยึดถือไว้ รักชื่นชมผู้อื่นแม้ว่าคุณจะไม่ชอบพวกเขา
    
    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
    
    แหล่งที่มา http://www.thaireaderclub.com/read.php?id=966
    
    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
  • โคลอน

    9 ตุลาคม 2553 21:55 น. - comment id 119411

    ....ความจริงเกี่ยวกับความรัก...
    
     1. การรักและไม่ได้รับรักตอบ เป็นทุกข์ แต่สิ่งที่ทุกข์ยิ่งกว่า คือ การรักใครสักคน แต่ไม่มีความกล้าพอที่จะบอกให้คนคนนั้นรู้ และต้องมาเสียใจภายหลัง
    
    2. พระเจ้าอาจจะต้องการให้เราพบคนที่ไม่ใช่..ก่อนที่จะมาพบคนที่ใช่ เพื่อเวลาเราพบคนคนนั้นแล้ว เราจะได้รู้สึกซาบซึ้งถึงพรที่ทานประทานมา
    
    3. ความรักคือความรู้สึกที่คุณยังห่วงใยใครสักคนอยู่ แม้จะแยกความรู้สึก ความลุ่มหลง และความสัมพันธ์แบบรักใคร่ออกไปแล้ว
    
    4. สิ่งที่น่าเศร้าในชีวิต คือการพบคนที่มีความหมายอย่างมากสำหรับเรา แต่มาค้นพบภายหลังว่าเราไม่ได้ถูกกำหนดมาเพื่อสิ่งนั้น และจะต้องปล่อยให้ผ่านพ้นไป
    
    5. เมื่อประตูแห่งความสุขปิดลง ประตูแห่งความสุขบานอื่นก็จะเปิดขึ้น แต่เราก็มัวแต่มองประตูที่ปิดลงไปแล้วเนิ่นนานจนกระทั่งเรามองไม่เห็นประตูที่ เปิดไว้รอเรา
    
    6.เพื่อนที่ดีที่สุดคือคนที่คุณสามารถนั่งอยู่ริมระเบียงด้วยกันโดยไม่พูดอะไร กันสักคำ แต่สามารถเดินจากไปด้วยความรู้สึกเหมือนได้คุยกันอย่างประทับใจที่สุด
    
    7.เป็นความจริงที่เราไม่สามารถรู้เลยว่าเรามีอะไรอยู่จนกว่าเราจะสูญเสียมันไป แต่ก็จริงอีกเช่นกันที่เราไม่รู้ว่าเราพลาดอะไรไปบ้างจนกระทั่งสิ่งนั้นเข้ามาหาเรา
    
    8. การมอบความรักทั้งหมดให้ใครสักคนไม่ได้เป็นหลักประกันว่าเขาจะรักเราตอบ อย่าหวังที่จะได้รักตอบ แต่จงรอให้มันงอกงามขึ้นในหัวใจเขา แต่ถ้ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น ก็ให้พอใจว่าอย่างน้อยมันก็ได้งอกงามขึ้นในใจของเรา
    
    9. มีสิ่งที่คุณต้องการจะได้ยิน แต่คุณจะไม่ได้ยินมันจากปากของคนที่คุณอยากได้ยิน แต่อย่าทำตัวเป็นคนหูหนวกโดยไม่รับฟังสิ่งนั้นจากคนที่เขาบอกกับคุณจากหัวใจ
    
    10. อย่าบอกลา ถ้าคุณยังต้องการจะพยายามต่อไป อย่าท้อใจถ้าคุณยังรู้สึกว่าคุณไปไหว อย่าพูดว่าคุณไม่รักคนคนนั้นอีกแล้ว ถ้าคุณไม่สามารถทำใจได้
    
    11. ความรักมักมาเยือนผู้ที่ยังคง หวัง ถึงแม้ว่าจะผิดหวัง และมาเยือนผู้ที่ยังคงเชื่อ ถึงแม้ว่าจะถูกทรยศหักหลัง และจะมาเยือนผู้ที่ยังคงรัก ถึงแม้จะเคยเจ็บปวดมาก่อน
    
    12. การที่เราจะประทับใจใครนั้นใช้เวลาแค่เพียงนาที การที่เราจะชอบใครใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมง การที่เราจะรักใครใช้เวลาเพียงชั่ววัน แต่การที่จะลืมใครนั้นต้องใช้เวลาชั่วชีวิต
    
    13. อย่ามองใครจากหน้าตา เพราะมันอาจหลอกเราได้ อย่ามองใครจากความร่ำรวย เพราะมันไม่จีรังยั่งยืน ให้มองหาคนที่ทำให้คุณยิ้มได้ เพราะเพียงยิ้มเดียว สามารถทำให้วันที่หม่นหมองกลับสดใส ขอให้คุณพบคนที่ทำให้คุณยิ้มได้
    
    14.มีช่วงเวลาในชีวิตที่คุณคิดถึงใครสักคนจนกระทั่งอยากดึงเขามาจากความฝัน เพื่อกอดเอาไว้ขอให้คุณได้ฝันถึงคนพิเศษนั้น
    
    15. ฝัน ถึงสิ่งที่คุณต้องการฝัน ไปในที่ที่คุณต้องการไป เป็นในสิ่งที่คุณต้องการเป็น เพราะคุณมีเพียงชีวิตเดียว และมีโอกาสเดียวที่จะทำทุกสิ่งที่คุณต้องการ
    
    16. ขอให้คุณมีความสุขมากพอที่จะทำให้คุณเป็นคนอ่อนหวาน ผ่านการทดสอบมามากพอที่จะทำให้คุณเข้มแข็ง มีความเศร้าโศกพอที่จะทำให้คุณยังคงความเป็นมนุษย์ และมีความหวังมากพอที่จะทำให้คุณเป็นสุข
    
    17. เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าคุณรู้สึกว่าสิ่งนั้นจะทำให้คุณเจ็บปวด รู้ไว้เถอะว่าคนอื่นก็เจ็บปวดจากสิ่งเดียวกันเช่นกัน
    
    18. คำพูดที่ไม่ได้ยั้งคิดอาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง คำพูดที่โหดร้ายอาจทำลายชีวิต คำพูดที่เหมาะกาละเทศะอาจลดความเครียด คำรักอาจเยียวยาและทำให้มีสุขได้
    
    19. จุดเริ่มของความรักคือการปล่อยให้คนที่เรารักเป็นตัวของตัวเอง อย่าดึงเขาจากภาพความเป็นเขา มิฉะนั้นจะหมายความว่าเราเราเพียงภาพสะท้อนของตัวเราที่ปรากฎในพวกเขา
    
    20. คนที่มีความสุขที่สุด ไม่ได้หมายความว่าเขามีสิ่งที่ดีที่สุด เพียงแต่เขาสามารถทำสิ่งที่เขามีให้ดีที่สุดได้ต่างหาก
    
    21. ความสุขรออยู่เบื้องหน้าผู้ที่มีน้ำตา ผู้ที่เจ็บปวด ผู้ที่ค้นหา และผู้ที่พยายามแล้ว เพราะมีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่รู้จักคุณค่าของผู้คนที่ได้สัมผัสชีวิตพวกเขา
    
    22. ความรักเริ่มต้นด้วยรอยยิ้ม งอกงามด้วยรอยจูบ และจบลงด้วยคราบน้ำตา
    
    23. อนาคตที่สดใสมีรากฐานอยู่บนอดีตที่ถูกลืม คุณไม่สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ดีถ้าหากไม่รู้จักปล่อยวางความผิดพลาดในอดีต และความปวดใจ
    
    24. คุณร้องไห้ตอนคุณเกิดในขณะที่คนรอบข้างกำลังยิ้ม จงมีชีวิตอยู่เพื่อเมื่อตอนคุณตาย คุณจะเป็นคนที่ยิ้ม ในขณะที่คนรอบข้างร้องไห้ให้คุณ
    
    - A man overtime falls in love with the woman he is attracted to, and a woman overtime becomes more attracted to the man she loves.
    
    ผู้ชายมักจะตกหลุมรักคนที่เค้าหลงเสน่ห์ และผู้หญิงจะหลงเสน่ห์คนที่เธอตกหลุมรัก
    
    
    - Friendship is love minus sex and plus reason. Love is friendship plus sex and minus reason.
    
    มิตรภาพคือ ความรัก ลบด้วย เซ็กซ์ และบวกเอาเหตุผลเพิ่มเข้าไป ส่วนรักคือ มิตรภาพบวกด้วยเซ็กซ์ และลบเอาเหตุผลออก
    
    
    - To love is nothing. To be loved is something. To love and be loved is everything!!
    
    การได้รักเป็นเรื่องขี้ผง การถูกรักเป็น "บางอย่าง" ทีเดียว ส่วนการได้รักและการถูกรักเป็นทุกอย่าง (ว้าว)
    
    
    - You may only be one person to the world but you may also be the world to one person.
    
    คุณอาจจะเป็นแค่ "คน ๆ หนึ่ง" ในโลกใบนี้ แต่คุณอาจจะเป็น "โลกทั้งใบ" ของคนคนหนึ่งก็ได้
    
    
    - Friendship often ends in love, but love in friendship- never.
    
    มิตรภาพมักจะจบลงด้วยความรัก แต่ความรักไม่มีวันจบลงด้วยมิตรภาพ
    
    
    - You know when you love someone when you want them to be happy even if their happiness means that you're not part of it.
    
    (อันนี้ต้องขอบอกว่าโปรดมากค่ะ) คุณรู้ว่า คุณรักเค้าก็ต่อเมื่อคุณต้องการให้เค้ามีความสุข แม้ว่าความสุขนั้นจะหมายความถึงการที่คุณไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมัน
    
    
    - Love looks not with the eyes, but with the mind.
    
    ความรักนั้น เห็นไม่ได้ด้วยตา แต่ด้วยใจ
    
    
    - Love is like standing in the wet cement. The longer you stay, the harder it is to leave. And you can never go without leaving your shoes behind.
    
    ความรักก็เหมือนซีเมนต์เปียก ๆ ยิ่งคุณอยู่นานเท่าไหร่ก็ยิ่งติดหนึบ จากไปไม่ได้เท่านั้น และคุณจะไม่มีวันจากมาได้เลย โดยที่ไม่ได้ทิ้งรองเท้าไว้ข้างหลัง
    
    
    - Don't marry a person you can live with, marry somebody you can't live without.
    
    จงอย่าแต่งงานกับคนที่คุณ "อยู่ด้วยได้" จงแต่งงานกับคนที่คุณ "ขาดไม่ได้"
    
    
    - Don't rely on the past to create the future, rely on the future to erase the past.
    
    อย่าวางใจใช้อดีตเป็นตัวสร้างอนาคต แต่จงใช้อนาคตเป็นตัวลบอดีตทิ้งไป
    
    
    - Love will die if held too tightly; love will fly if held too lightly.
    
    รักจะเฉาตายถ้ายึดไว้แน่นเกินไป และรักจะโบยบินไปถ้ายึดไว้หย่อนเกินไป
    
    
    - If you love someone tell them, don't wait or else you will lose the chance.
    
    ถ้าคุณรักใคร บอกเค้าซะ อย่ารีรออยู่เลย ไม่งั้นคุณจะเสียโอกาสนะ
    
    
    - It only takes a second to say "I love you", but it will take a lifetime to show you how much.
    
    ใช้เวลาแค่เพียงชั่ววินาทีในการบอกว่า "ชั้นรักเธอ" แต่ใช้เวลาตลอดชีวิตในการแสดงให้เห็นว่า รักมากเพียงไร
    
    
    - Love, is like water, we take it for granted. Thus, when it is gone, it becomes crucial.
    
    ความรักก็เหมือนน้ำ เรามักจะเห็นมันเป็นของตาย ต่อเมื่อ มันหมดไปแล้ว นั่นละ ... มันจะกลายเป็นสิ่งจำเป็น
    
    
    - True love is like ghosts, which everyone talks about but few have seen.
    
    รักแท้ก็เหมือนกับปีศาจ ทุกคนพูดถึง แต่มีคนน้อยมากที่ได้เห็นว่าเป็นอย่างไร
    
    
    - The essential sadness is to go through life without loving. But it would be almost equally sad to leave this world without ever telling those you loved that you love them.
    
    ความเศร้าที่สำคัญคือการชีวิตโดยปราศจากความรัก แต่มันคงจะเศร้าเกือบจะพอ ๆ กันที่จะจากโลกนี้ไปโดยไม่ได้บอกคนที่คุณรักว่า คุณรักพวกเค้า"
    
    
    - A man falls in love through his eyes, a woman through her ears.
    
    ผู้ชายตกหลุมรักทางตา แต่ผู้หญิงน่ะ ตกหลุมรักทางหู
    
    
    - The way to love anything is to realize that it might be lost.
    
    หนทางที่จะรักสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ก็คือ การตระหนักสิ่งนั้น ๆ อาจจะสูญหายได้
    
    
    - The perfect marriage begins when each partner believes they got better than they deserve.
    
    การแต่งงานที่สมบูรณ์แบบเริ่มขึ้น เมื่อต่างฝ่ายต่างคิดว่า พวกเค้าได้รับสิ่งที่ดีเกินกว่าที่ตัวเองสมควรได้รับ
    
    
    - When a young man complains that a young woman has no heart, it is pretty sure that she has his.
    
    เวลาที่หนุ่มน้อยโอดควรญว่า สาวน้อยนางนั้นไม่มีหัวใจ ค่อนข้างแน่ใจได้เลยว่า สาวน้อยนั้นน่ะ ... มีหัวใจของหนุ่มคนนั้นอยู่ในกำมือ
    
    
    - Kindness in words creates confidence, kindness in thinking creates profoundness, kindness in giving creates love.
    วาจาที่กรุณาจะสร้างความเชื่อมั่น จิตใจที่กรุณาจะสร้างความลึกซึ้งของจิตใจ และการให้ที่กรุณาจะก่อให้เกิดรัก
    
    
    - To love is to risk not being loved in return. To hope is to risk pain. To try is to risk failure, but risk must be taken, because the greatest hazard in life is to risk nothing.
    
    การที่ได้รักคือการเสี่ยงว่าจะไม่ได้รับความรักเป็นการตอบแทน การตั้งความหวังคือการเสี่ยงกับความเจ็บปวด การพยายามคือการเสี่ยงกับความล้มเหลว แต่ยังไงก็ต้องเสี่ยง เพราะสิ่งที่อันตรายที่สุดในชีวิตก็คือ การไม่เสี่ยงอะไรเลย
    
    
    - When loving someone...never regret what you do...only regret what you didn't do.
    
    เวลารักใคร ... อย่าเสียใจในสิ่งที่คุณได้กระทำ จงเสียใจในสิ่งที่คุณไม่ได้กระทำ
    
    
    - Gravity cannot be held responsible for people falling in love.
    
    เวลาคนตกหลุมรักน่ะ ... โทษแรงโน้มถ่วงไม่ได้ จริงมั้ยล่ะ (ต้องโทษคนขุดหลุม)
    
    
    There is a story of a woman Who always kept her feelings towards her friend Until the day he got married, she decided to tell him the truth And he felt that it's a good joke for his wedding
    
    มีเรื่องเล่าของผู้หญิงคนหนึ่ง เธอรักเพื่อนของเธอแต่ได้เพียงเก็บความรู้สึกเอาไว้ จนกระทั่งวันที่เขาแต่งงาน เธอก็ตัดสินใจบอกความจริงกับเขา ...แต่เขากลับคิดว่าเป็นเพียงเรื่องตลกสำหรับวันแต่งงานของเขา...
    
    
    There is a story of a man Who has never told his wife how much he loves her Until the day she passed away Until now, he keeps sending flowers to her grave everyday With thousand kisses on the card saying "I love you" Would she be able to know?
    
    และยังมีเรื่องเล่าของผู้ชายคนหนึ่ง ที่ไม่เคยบอกภรรยาว่าเขารักเธอมากแค่ไหน จนกระทั่งเธอตายจากไป ถึงบัดนี้ เขายังคงวางดอกไม้ไว้ที่หลุมศพของเธอทุกวัน พร้อมกับรอยจูบนับพันบนการ์ดที่เขียนว่า "ผมรักคุณ" ...เธอจะมีโอกาสได้รับรู้ไหม...
    
    
    Yet, there is a story of a girl Who always needed a warm hug from her daddy But she was too shy to ask for Until the day he can never hug her any more...
    
    และยังมีเรื่องเล่าของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้ซึ่งต้องการอ้อมกอดอันอบอุ่นจากพ่อของเธอเสมอ แต่เธอเขินอายเกินกว่าจะเอ่ยปากออกไป ...จนกระทั่งวันที่พ่อไม่สามารถกอดเธอได้อีกต่อไป...
    
    
    A lot of stories happen everyday You could know what had happened yesterday How can you be sure what will happen tomorrow? Think of something you never say Are you waiting until the day? to say " I LOVE YOU "
    
    ทุกๆวันเกิดเรื่องต่างๆขึ้นมากมาย คุณอาจจะรู้ว่า เมื่อวานนี้เกิดอะไรขึ้น แต่คุณจะแน่ใจได้อย่างไร ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพรุ่งนี้ ลองคิดถึงบางสิ่งที่คุณไม่เคยพูด จะต้องรอให้ถึงวันไหน ที่จะบอกคำว่า "รัก 
    
    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
    
    แหล่งที่มา http://www.thaireaderclub.com/read.php?id=936
  • หลี่เหม่ยจิน(ไม่ได้ lock in)

    10 ตุลาคม 2553 18:22 น. - comment id 119412

    ไม่มีการอยู่ร่วม ไหนเลยมีการจำพราก การอยู่ร่วมของพวกเรา คือการเริ่มต้นจำพรากของผู้อื่น และการจำพรากของพวกเรา คือการอยู่ร่วมของผู้อื่น...
    จากตะขอจำพราก (ลี้เปียกเกา) ผลงานของโกวเล้ง

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน