วิถีชาวนา

โคลอน

@ วิถีชาวนา @  

 

@ พันธุวงศ์ พงศา เพียงหญ้าต่ำ

แต่ค่าล้ำ สำคัญอนันต์ผล

เป็นพืชพันธ์ธัญญาชีวาชนม์

ของผู้คนทุกแหล่งแห่งแผ่นดิน

 

@ ต้นกล้าฝัง...ฝั่งผืนลงพื้นนา

พิรุณพา...หยาดหยดรินรดถิ่น

ผลิช่อรวงพวงแผกแต่แรกริน

ชะโลมจินต์...ตั้งท้อง ทุ่งทองรวง

 

@ สุขใดเท่าเหล่าชนคนแบกไถ

ชมช่อใบ...ไหวล้อ รอเรียวร่วง

คอยคมเคียว เกี่ยวขอ เก็บช่อพวง

ทุ่งแดนสรวง สีทอง ของชาวนา

 

@ ลืมตาตื่นขึ้นดูแต่ตรู่เช้า

เห็นทุ่งข้าว ล้อแรงเล่นแสงฟ้า

เป็นสีเหลืองเรืองรองดั่งทองทา

จากต้นกล้าเติบแกร่งด้วยแรงใจ

 

@ จูงเจ้าทุยลุยทางไปถางเก็บ

ปลายเชือกเหน็บ...ผูกรัดมัดทุยไว้

เริ่มถอนหญ้าคาแทรกชำแรกใบ

กำจัดไข่เชอรี่ที่รุกราน

 

@ ฤดูคล้อยร้อยไร่ใกล้เก็บเกี่ยว

ลับคมเคียว...เทียวออกไปบอกขาน

ผองพี่ป้าน้าลุงมามุงงาน

ขอไหว้วาน...ลงแขกมาแลกแปลง

 

@ บูชาบุญ คุณแม่พระโพสพ

ประนมนบ...เสาตั้งตรงฝั่งแสง

ตะวันออกดอกไม้ด้ายขาว-แดง

ทั้งของแห้งคาวหวานพานหมากพลู

 

@ อีกยามวนม้วนมาบูชาให้

พร้อมเมรัย ขวดตั้งวางหมวดหมู่

จุดธูปหอมพร้อมเทียนเพียรพรั่งพรู

กล่าวคำบูชาธรรม...นำถวาย

 

@ ขอสู่ขวัญวันศรีเป็นศรีฤกษ์

บายศรีเบิก...บอกบุญพระคุณร่าย

รับขวัญข้าวกล่าวจบแล้วนบกาย

น้อมจิตไหว้...รับขวัญและอันเชิญ

 

@ สู่บายศรีเครื่องเซ่นสังเวยสู่

สถิตอยู่...เป็นขวัญแลสรรเสริญ

จงปกคลุมคุ้มครองให้ผองเพลิน

ได้จำเริญ...ปลูกข้าวเลี้ยงชาวไทย

 

 

@ ชะตากำหนด @

 

@ กสิกรรมนำพาชะตาเมือง

เหมือนรุ่งเรือง...เมืองทองที่ผ่องใส

อุดมแสนแดนดิน...ทุกถิ่นไป

แต่ยากไร้...ข้าวกินในถิ่นตน

 

@ หนึ่งเมล็ดข้าวเปลือกเลือกไม่ได้

ปลูกแทบตายขายถูกปลูกให้ผล

กับโรงสีที่ถือกระบือกล

ทดแรงคน...อย่างนี้ไม่มีจาง

 

@ จะกี่เกวียนกี่ตันมันก็กด

ชาวนาอด ลืมตาอ้าปากค้าง

มันรวมตัวฮั้วกันฝันอำพราง

เป็นนายจ้าง จ้างถูกปลูกให้มัน

 

@ ถูกหลอกขายที่นาให้มันหมด

อัปยศ...หมดสิ้นแผ่นดินฝัน

ไร้ดินแดนแผ่นเดิมจะเริ่มวัน

ดั่งโทษทัณฑ์...ฝันร้ายเมื่อขายดิน

 

@ ของปู่ย่าตาทวด...เพียงอวดรวย

เหมือนถูกหวย...ด้วยทรัพย์ที่พับถิ่น

โฉนดโยนโอนย้ายตอนขายกิน

พอหมดสิ้น...เงินถือคือหมดตัว

 

@ กี่ชาวชนคนไทยใจชาวนา

นี่หรือคือ ศรัทธา...ค่าฝังหัว

กสิกรร้อนหลังที่ฝังกลัว

ถูกความชั่ว...ทำนาบนหลังคน

 

@ ตกเป็นทาสขาดอิสระไร้

เสรีใดใคร่จัดมาวัดผล

ประชาธิปไตย...ไยชอบกล

ยังต้องมนต์...สะกดกำหนดทาง

 

@ ให้เดินไปตามกรรมด้วยคำผิด

ข้าวหนึ่งลิตรก่อนหุงในยุ้งฉาง

คือข้าวถุงหุงซื้อเป็นมื้อวาง

มองกองฟาง...รันทดหมดสิ้นแรง

 

@ มิอาจเรียกคืนผืน...แผ่นดินปู่

มิอาจอยู่ถ้าฝนดลดินแล้ง

มิอาจทิ้งถิ่นไว้ไปจำแลง

มิอาจแย้งความทุกข์เรียกสุขคืน

 

@ จึงยังคงคือคนชนชาวนา

รอเมตตา ฟ้าฝนบนดินชื้น

อุทกท่วมอ่วมช้ำก็กล้ำกลืน

น้ำน้อยฝืนยืนช้ำระกำไป

 

@ ในชะตาหาดีที่สุดทาง

บนโลกกลางเสรีที่สุดใช้

อะไรหนอขอรู้บ้างได้ไหม

ว่าเมื่อไหร่...เสรีจะมีจริง

 

@ มองทุ่งทองรองเรืองกับเมืองใหญ่

สุดหัวใจ...ให้ชี้ว่าดียิ่ง

ต้องตอบข้างต่างฝ่ายต่างพึ่งพิง

มิอาจทิ้ง...สำคัญของมันเป็น

 

@ อันคนเมืองเรืองไกรในโลกหล้า

อยู่ใต้ฟ้าเดียวกันยังฝันเห็น

อากาศร้อนนอนแผ่ในแอร์เย็น

ถ้าลำเค็ญคงมีแต่ชีวา

 

@ แต่ชีวิตผิดบทกำหนดรู้

หนทางอยู่ สู้ไปสิ่งใดหา

ไม่สุขจริงสุขจิตอนิจจา

เพราะไขว่คว้าไม่หยุดจนสุดทาง

 

@ อันบ้านนอกคอกนาที่ว่าไร้

กลับมีใจ ให้กัน สวรรค์สร้าง

ได้ชื่นเช้าเหล่าธรรมชาติวาง

แต่ถูกกางชะตาพาผิดเดิน

 

@ จากเหล่าพรรคเหล่านักธุรกิจ

ที่แผ่พิษฤทธาพาขัดเขิน

ให้ความอยากลากฉุดประดุจเชิญ

เอาจำเริญบนเสื่อมไปเชื่อมกรรม

 

@ จึงตกเป็น ทาสา ที่นาไร่

ต้องวิ่งไล่...ความเสื่อมที่เหลื่อมล้ำ

มาเนินนานพานผลบนทรงจำ

มิอาจทำ...ตามสิทธิ์ลิขิตฝัน

comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน