ช่องว่างระหว่างวัย

(น้ำตาลหวาน)

เพราะช่องว่างระหว่างวัย ทำให้คุณแม่กับคุณลูกหลายคู่มักจะมีความเห็นไม่ตรงกัน รวมทั้งชอบและมองอะไรไม่เหมือนกัน จนเกิดเป็นปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณลูกอาจจะไม่ทันฉุกคิดและสนใจ แต่รู้ไหมว่า เพียงแค่ปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้นเอง ก็อาจจะสร้างความน้อยใจและเสียใจให้คุณแม่ได้แล้ว 
          อย่างเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงของ คุณ momeye ที่ได้เขียนเล่าเรื่องของเธอกับคุณแม่ไว้ในเว็บไซต์ pantip.com ซึ่งกระปุกดอทคอม ขออนุญาตนำมาเผยแพร่ต่อ เพราะมั่นใจว่า เรื่องราวของคุณ momeye ต่อไปนี้ คงคล้ายและตรงกับประสบการณ์ของใคร ๆ หลายคนอย่างแน่นอน และคงจะเตือนใจให้คุณลูก ๆ ทุกคนนึกถึง "หัวอกแม่" ให้มากขึ้น เพื่อจะได้รีบทำอะไรให้คุณแม่ก่อนที่จะสายจนเกินไป...
          "กระเป๋าธรรมดาใบนี้มีค่า ถึงจะเอากระเป๋าแบรนด์เนมแพง ๆ มาแลกก็ไม่ยอม"
          "ใช่ค่ะมันเป็น "กระเป๋า" หนังธรรมดา ๆ ราคาถูก ๆ แบบเชย แก่ ๆ แต่มันมีค่า มีความหมายสำหรับฉันมากมาย วันนี้แม้จะมีใครเอากระเป๋าแบรนด์ดังใบเป็นหมื่นเป็นแสนมาแลกฉันก็ไม่ยอม ทำไมน่ะหรือคะ ก็เพราะกระเป๋าใบนี้ เป็นของชิ้นสุดท้ายที่ฉันได้จากแม่น่ะสิคะ
          ฉันยังจำได้ดี เมื่อปีก่อนตอนที่แม่ซื้อกระเป๋าใบนี้มาให้ฉันจากตลาดโรงเกลือ ที่ชายแดนปอยเปต แม่บอกซื้อมาฝาก เห็นฉันหิ้วแต่กระเป๋าอะไรก็ไม่รู้ เดี๋ยวก็เปลี่ยน ๆ เลยซื้อแบบหนังแท้ดี ๆ มาให้จะได้ใช้ได้ทนนาน ฉันรับกระเป๋าจากแม่มาแบบเซ็ง ๆ แอบบ่นนิด ๆ ด้วยความไม่ชอบ 
          "ทำไมมันหลายสีจังแม่ กระเป๋าหนังหนักก็หนัก แบบก็แก่จังอ่ะแม่"
          แต่พอเห็นแม่ทำหน้าผิดหวัง แถมพ่อที่ไปกับแม่เล่าให้ฟังว่า แม่อุตส่าห์เดินเลือกซื้อให้ตั้งนานทั้ง ๆ ที่เดินไม่ค่อยไหวเพราะตอนนั้นแม่เริ่มป่วย แขนและขาชาไม่ค่อยมีแรง พอเลือกได้ก็ยังไปต่อราคาอีกเป็นครึ่งชั่วโมง จากใบละ 750 แม่ต่อมาเหลือ 450 ฉันฟังแล้วก็เลยรีบเปลี่ยนสีหน้าบอกแม่ว่า 
          "ไม่เป็นไร ใบที่หนูใช้อยู่มันพังพอดี" แต่ฉันก็พูดไปอย่างนั้น เพราะจริง ๆ ฉันเอากระเป๋าใบนี้ทิ้งไว้ก้นตู้ โดยที่ไม่เคยหยิบมาใช้อีกเลย
          จนกระทั่งอีก 2 เดือนต่อมา แม่เริ่มป่วยหนัก แขนขาที่ไม่ค่อยมีแรงเริ่มยกไม่ขึ้น เดินไม่ได้ ฉันพาแม่ไปตรวจอีกครั้ง หมอบอกแม่เป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย แม่จะมีชีวิตอยู่ได้แค่ไม่เกิน 4-5 เดือนเท่านั้น ฉันและทุกคนช็อก  แต่เราก็พยายามทำเป็นปกติ บอกให้แม่รู้แค่ว่า เป็นมะเร็ง แต่เราไม่ได้บอกแม่ว่า เป็นระยะไหน จะอยู่ได้แค่ไหน เพราะกลัวแม่ทำใจไม่ได้ แม่เข้มแข็งมากรักษาทุกวิธีเพราะอยากหาย แต่ฉันรู้ดีว่า แม่ไม่หาย แม่เริ่มเจ็บมากขึ้น ๆ จนระยะหลังต้องมาอยู่โรงพยาบาล จู่ ๆ วันหนึ่งแม่ก็ถามฉันว่า 
          "ไม่เห็นใช้กระเป๋าที่แม่ซื้อให้เลย ไม่ชอบหรือ"
          ฉันแค่พยักหน้าและบอกแม่ว่า "ชอบสิแม่" เท่านั้น เพราะพูดอะไรมากไปกว่านั้นไม่ได้แล้ว น้ำตามันจะไหล วันรุ่งขึ้นฉันก็เปลี่ยนกระเป๋าใหม่ เอาใบที่แม่ซื้อให้สะพายมาหาแม่ และนอกจากกระเป๋าแล้ว ยังมีเสื้อผ้าและพวกกิ๊บ ที่คาดผมที่แม่เคยซื้อให้ฉัน แต่ฉันไม่เคยสนใจไม่เคยเอามาใช้เลยด้วยความรู้สึกว่า ของที่แม่ซื้อมันเชย แก่ ไม่เหมาะกับฉัน แต่ ณ ตอนนั้นฉันรื้อเอามาใส่ให้แม่ได้เห็น ได้รับรู้ว่า ฉันชอบ แม่เห็นแม่ก็ยิ้มดีใจที่ลูกเอาของที่ซื้อให้มาใช้ ฉันยังจำได้ดี วันที่แม่เห็นแม่พูดด้วยเสียงแหบแห้งว่า...
          "มันใบใหญ่ ใส่ของได้เยอะเหมาะกับแกดี"
 
          แต่ฉันก็สะพายให้แม่เห็นอยู่แค่ 4 เดือนเท่านั้น
          ใช่ค่ะ เพราะแม่จากฉันไปแล้ว วันนี้ถึงฉันยังสะพายกระเป๋าใบนี้อยู่ แต่แม่ก็ไม่เห็นแล้ว กระเป๋าใบนี้ เป็นของชิ้นสุดท้ายที่แม่ซื้อให้ฉัน ถึงมันจะไม่มีมูลค่ามากมาย แต่มันมีความหมายและมีคุณค่าทางจิตใจสำหรับฉันมาก.... กระเป๋าแบรนด์เนมราคาแพง ถ้าไม่ตายเสียก่อน ฉันก็ยังพอมีปัญญาหาซื้อเองได้
หากเรายังมีคุณพ่อคุณแม่อยู่เป็นร่มโพธิร่มไทร รักท่าน ดูแลท่าน อย่ารอเวลาเมื่อสาย 
ที่มา  kapook.com
ขอขอบคุณ  คุณ momeye
				
comments powered by Disqus
  • ฉางน้อย

    30 กันยายน 2554 19:13 น. - comment id 126611

    15.gif15.gif15.gif
  • กลั่นแก้ว

    30 กันยายน 2554 19:43 น. - comment id 126614

    ฉางน้อยอย่าร้องไห้ซิจ้า...46.gif46.gif46.gif
    น้ำท่วมแล้วจ้า5.gif5.gif4.gif4.gif
    
    ล้อเล่นนะ64.gif64.gif64.gif64.gif46.gif46.gif36.gif36.gif
  • กทก.

    30 กันยายน 2554 14:55 น. - comment id 126676

    เดี๋ยวมาอ่านต่อค่ะ11.gif
  • กลั่นแก้ว

    30 กันยายน 2554 16:20 น. - comment id 126681

    10.gif10.gif10.gif10.gifอ่านแล้วคิดถึงแม่...ค่ะ
    แล้วก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปอีกเยอะเลย65.gif
    คิดไปถึงสิ่งของ ของใช้ แล้วก็อะไรหลายๆอย่างเราคงไม่ได้มองที่รูปลักษณ์ภายนอกอย่างเดียวจริงๆนะค่ะ
    แต่เราเลือกที่คุณค่าทางใจกับเรามากกว่า...
    
    ขอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้ฟังนะค่ะ46.gif46.gif46.gif46.gif
    ปรกติก็เป็นคนไม่ได้รักสัตว์เท่าไหร่
    แต่คงจะด้วยความที่เราเลี้ยงแล้วผูกพันธ์
    
    
    เราก็คิดว่ามันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเราไปด้วย
    คราวนี้มันเกิดท้องมีลูกออกมายั่วเยียะไปหมดฐานะอย่างเราก็คงไม่มีปัญญาเลี้ยงแน่
    มันเป็นหมาพันธ์ใหญ่
    ถ้าเลี้ยงมันก็คงไม่อิ่ม..และได้รับการเอาใจไม่เต็มที่เลยตัดสินใจ..
    ให้คนที่รัก...น้องหหมาดีกว่าเอาไว้ตัวเดียว
    
    ด้วยความหวังดีเห็นเพื่อนไม่มีลูก..กลัวเพื่อนเหงา..
    
    เลยโทรถามเพื่อนต้องการน้องหมาไหม..จะให้..
    
    เพื่อนพูดว่า...ไม่ต้องการเอาสัตว์มาเลี้ยงแทนลูก..
    
    ถามว่าเสียใจไหม..
    คงบอกว่าเสียใจนะเสียใจที่ว่าเพื่อนมองเจตนาเราผิดไปมากกว่า...
    
    จริงๆแล้วมีคนมาขอซื้อลูกหมาถึงที่บ้านเลยนะแต่ไม่คิดขายคงเพราะกลัวเค้าไม่รักมันจริงๆทิ้งๆขว้างๆ
    
    ลูกชายนั่งข้างๆกับสะกิดบอกว่า...ก็ดีแล้วไงมาม๊าที่เค้าไม่เอา..ถ้าเอาไปด้วยความเกรงใจแล้วไม่รักโดนรถชนตายไปทำไง...
    
    อืม...ก็จริงเหมือนกันเน้อะ..
    
    เราก็มามองว่า...เด็กก็มีความคิดความอ่าน...
    ช่องว่างระหว่างวัย..ไม่ได้กั้นความคิดแม่กับลูกได้
    
    จากที่เราเป็นคนสอนลูก
    วันนี้ลูกก็สอนให้เราคิดไปอีกแง่มุมหนึ่ง...
    
    และมองคนรอบข้างอีกมุมหนึ่ง..
    เราก็สบายใจและไม่เสียใจอะไร..
    เราก็มีความสุข..
    
    
    46.gif46.gif46.gif46.gif
    การที่เรามองอะไรให้เป็นมุมกลับ..
    เราก็มีความสุขจากมันได้จริงๆค่ะ16.gif16.gif16.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif
  • โคลอน

    30 กันยายน 2554 20:13 น. - comment id 126684

    เศร้าจัง...10.gif
    
    แต่ก็ให้ข้อคิดสะกิดใจใครหลายคนได้ดีเลยค่ะพี่พิม 57.gif36.gif
  • ฉางน้อย

    30 กันยายน 2554 22:29 น. - comment id 126687

    4 เค้าร้องไห้เพราะต่ะเองเหยียบตาปลาเค้าจิ อ๊ากกกซ์ 15.gif
  • ฤกษ์(ไม่ได้ล๊อกอิน)

    1 ตุลาคม 2554 15:19 น. - comment id 126695

    เมื่อพูดถึงวัยที่แตกต่าง ย่อมมีระยะห่างซึ่งอาจเรียกว่าเป็นช่องว่างระหว่างวัยได้แต่ระยะห่างของช่องว่างโดยธรรมชาติก็จะปรับตัวของมันเองให้มาเท่ากันหรือใกล้เคียงกันในที่สุด
      เจ้าหนุ่มหล่อล่ำ มีนิวาสถานอยู่ใกล้กับตาลุงแก่ที่แกมีเมียสาวมีลูกสองสามคนบ้านใกล้กันขนาดเปิดหน้าต่างตรงกันทักทายกันตอนตื่นมาล้างหน้าทุกวัน
       เจ้าหนุ่มไปแต่งเมียพามาอยู่บ้านเป็นวันแรกพอเช้าตื่นขึ้นล้างหน้าเจอตาลุงที่หน้าต่างแกพยักพเยิดถามคำคามที่รู้กันของพวกผู้ชายเจ้าหนุ่มไม่พูดอะไรชูนิ้วให้เห็นเจ็ดนิ้วพยักถามตาลุงแกชูนิ้วเดียว
        จากวันนั้นตอนเช้าเจ้าหนุ่มโผล่มาเจอตาลุงชูนิ้วลดลงทุกวันจากหก ห้า สี่  จนถึงวันที่เจ็ดเหลือนิ้วเดีว เท่ากับตาลุงซึ่งชูหนึ่งทุกวันระยะห่างระหว่างวันลดลงจนเท่ากันแต่พอถึงวันที่แปด เจ้าหนุ่มเปิดหน้าต่างมาเจอตาลุงกลับส่ายหน้าโบกมือไท่ชูสักนิ้วเลย ส่วนตาลุงแกก็ยังชู หนึ่งนิ้วเป็นปกติ อิอิ โดยธรรมชาติต่อไปเจ้าหนุ่มก็คงชูเท่าตาลุงไม่มีช่องว่างระหว่างวัยอีกต่อไป อิอิตะแล๊ม ๆ ๆ
  • เฌอมาลย์

    1 ตุลาคม 2554 17:14 น. - comment id 126697

    10.gif57.gif
    
    ขอบคุณที่นำมาให้อ่านค่ะ
  • แมงกุ๊ดจี่

    1 ตุลาคม 2554 20:29 น. - comment id 126699

    อ่านแล้วคิดถึง  แม่จังค่ะ  พี่พิม
    
    6.gif
  • กรต

    2 ตุลาคม 2554 01:12 น. - comment id 126706

    55.gif55.gif55.gif
    
    เคยอ่านแว้ววว....ใจแป้วไปหนนึงล่ะ
    คุงพิม เอามาให้อ่าน แป้วอีกหนนึงล่ะ
    
    6.gif11.gif6.gif55.gif55.gif55.gif46.gif36.gif
  • ปู่กิ่ง

    3 ตุลาคม 2554 09:19 น. - comment id 126725

    มาเยี่ยม และมาอ่านเรื่องสั้น คุณแม่ คุณลูกจ้า
  • แก้วประภัสสร

    3 ตุลาคม 2554 17:15 น. - comment id 126755

    ขอบคุณจ้าที่นำมาให้อ่านอีกรอบ 
    57.gif36.gif36.gif31.gif
  • รักคนดี

    4 ตุลาคม 2554 21:14 น. - comment id 126799

    มาอ่านเรื่องดีๆครับ36.gif36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน