ดวงใจของพ่อ ตอนที่ 1

ศรรกรา

เฮ้ย !  ยัยมินท์นั่นใคร  เด็กสาวหันเห็นหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบแต่งตัวปอน ๆ มองเธออยู่     อ๋อ...คนขับรถ ไม่ต้องสนใจหรอก     เค้าคงมารับแกกลับบ้านหรือเปล่า      เฮ้อ..น่ารำคาญ  เออ..แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ    เด็กสาววิ่งไปหาชายหนุ่ม  เธอหันซ้ายหันขวาก่อนจะกระซิบเบา ๆ      นี่...พ่อคราวหน้าไม่ต้องมาหาหนูที่โรงเรียนอีกนะหนูกลับบ้านเองได้  แต่มันไกลนะลูก  หนูต้องนั่งรถตั้งหลายต่อ  พ่อเป็นห่วง  บอกว่าไม่ต้องก็ไม่ต้องสิ  หนูโตแล้วนะ  เด็กสาวตวาดโดยไม่สนใจความรู้สึกของพ่อ  มินท์เป็นเด็กผู้หญิงที่จัดว่าหน้าตาน่ารัก และเป็นนักเรียนเรียนดีที่โรงเรียนเอกชนที่มีชื่อแห่งหนึ่งในกรุงเทพ   เพื่อนของเธอจัดอยู่ในกลุ่มลูกหลานคนมีเงินหรือมีชื่อเสียง  เธอจะโกหกว่าพ่อของเธอเป็นนักธุรกิจทำงานอยู่ต่างประเทศทั้งที่ความจริงเขาก็เป็นแค่คนกวาดถนนเท่านั้นเอง  การที่พ่อมาหาเธอวันนี้  ทำให้เธอกลัวว่าความจริงที่เธอปกปิดมาตลอดจะถูกเผยความจริงออกมา   
		นายกลศจำต้องเลี้ยงมินท์ลูกสาวคนเดียวของเขา  เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อเธอเพราะเห็นว่าเธออาภัพ  ภรรยาของเขาเสียชีวิตหลังจากให้กำเนิดลูกสาวคนนี้  และเขาก็ไม่คิดจะมีภรรยาใหม่เพราะกลัวจะมีปัญหากับเธอ  ด้วยค่าแรงขั้นต่ำที่เขาได้มาเพื่อส่งเสียบุตรสาวให้ได้เรียนโรงเรียนที่มีชื่อเพราะเชื่อว่าจะทำให้เธอมีอนาคตที่สดใสไม่ลำบากเหมือนเขาทำให้เขาลำบากไม่น้อย  หลายครั้งที่เขาต้องหยิบยืมเพื่อนเพื่อให้ลูกสาวทำกิจกรรมในโรงเรียนที่มักจะมีบ่อยครั้งในโรงเรียนทั้งงานกีฬาสี งานปีใหม่  จิปาถะ  ข้าว่าเฮ็งให้ลูกเอ็งเรียนโรงเรียนวัดไม่ดีกว่ารึ ไม่ได้หรอก....ข้าอยากให้ลูกเรียนโรงเรียนดี ๆมากกว่า  เขามักจะพูดอย่างนี้เมื่อเพื่อน ๆ บอกเขา
		พ่อ...หนูอยากได้คอม ฯ    เด็กสาวบอกเขาหลังจากทานข้าวเย็นร่วมกัน   มันแพงไม่ใช่เหรอหนู   มันก็แค่สองสามหมื่นเองนะพ่อ  เธอพูดเหมือนมันเป็นเศษเงินไม่กี่บาท  แต่สำหรับเขาอย่าว่าแต่เงินหมื่นเลยแม้แต่เงินเป็นพันที่เขายังคงเป็นหนี้ค้างบรรดาเจ้าหนี้  เขายังไม่มีปัญญาใช้คืนเลย  หนูต้องใช้มันพิมพ์รายงานให้อาจารย์  หนูขี้เกียจใช้ของโรงเรียน  มันต้องต่อคิว  เด็กหญิงอ้างเหตุผล  เมื่อเขาฟังเหตุผลของบุตรสาวเขาจำต้องตอบรับด้วยไม่อยากให้ลูกมีปัญหาเรื่องการเรียน
		เถ้าแก่ช่วยตีราคามอเตอร์ไซค์ผมหน่อยว่ามันได้เท่าไหร่  ชายหนุ่มเข็นมอเตอร์ไซค์คนโปรดที่เขามักใช้มันขี่ไปทำงาน  นับแต่วันนี้เขาคงต้องอาศัยรถประจำทางไปทำงาน  และเขาก็ไม่รู้ว่าจะมีปัญญาซื้อรถมาใช้ได้อีกหรือไม่   จากสภาพอั๊วให้เก้าพัน  เก้าพัน...เถ้าแก่เพิ่มหน่อยได้ไหมครับ  มันยังวิ่งดีนะ  ไม่ได้  มันเก่ามากอั๊วให้ลื้อได้เท่านี้  ถ้าไม่เอาไม่เป็นไร  เขาจำต้องรับเงินเก้าพัน  มันยังขาดอีกหลายพันทีเดียวกว่าจะซื้อคอมพิวเตอร์ได้  เขาจำต้องหาหยิบยื่นเพื่อนฝูงอีกครั้งกว่าจะรวบรวมเงินที่เขาคิดว่าพอจะซื้อมันได้  
วันนี้เขาจะต้องไปหาลูกแต่เช้า  เพื่อเอาเงินที่เขาหามาได้นำไปให้ลูก  เฮ้ย....คนขับรถบ้านแกมาอีกแล้วว่ะ  เพื่อนตะโกนบอกเด็กสาว  ทำให้เท้าที่จะก้าวมาหาบุตรสาวต้องหยุดชะงัก  นี่ลูกสาวบอกกับเพื่อนว่าเขาเป็นคนขับรถอย่างนั่นหรือ  เขากำเงินจำนวนสองมือยื่นส่งให้เด็กสาว  เอ่อ...พ่อ....คุณพ่อฝากเอาเงินมาให้  เขาก้มหน้าบอกบุตรสาว  เธอรับเงินทันทีไม่มีเสียงคำว่าขอบคุณหลุดจากปากสักคำ กลับบ้านไปเลย  เดี๋ยวหนูกลับบ้านเอง  เด็กสาวบอก  เมื่อกลศมีความรู้สึกว่าปวดหัว  เขาคิดว่าคงเกิดจากอาการเครียด  แต่พอเขาจะเข้าบ้านชายหนุ่มก็เป็นลมหมดสติ  เพื่อนบ้านต้องช่วยกันพาเขาส่งโรงพยาบาล   คุณกลศ....คุณเป็นโรคเนื้องอกในสมอง  หมอว่าคุณต้องผ่าตัดด่วน  ไม่งั้น   เมื่อได้ยินว่าผ่าตัดสมองทำให้เขารู้ว่าค่าใช้จ่ายมันสูงแน่  เขาคงไม่มีปัญญาจ่ายค่าผ่าตัดที่แพงลิบลิวแน่  ถ้าไม่ผ่าตัด   ผมจะอยู่ได้ประมาณเท่าไหร่ครับ   มันก็ขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพของคุณด้วย  หมอไม่กล้ารับรอง				
comments powered by Disqus
  • เพียงพลิ้ว

    12 ธันวาคม 2549 09:22 น. - comment id 94248

    อ่านแล้วคิดถึงพ่อค่ะ
    พ่อกานต์ก็ไม่สบายบ่อยค่ะ
    พาไปหาหมอบ่อยๆค่ะ
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • baramos

    12 ธันวาคม 2549 20:33 น. - comment id 94264

    ตรงมากเลยค่ะ6.gif10.gif31.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน