บันทึกแห่งความเจ็บช้ำ

บุญนำ

ขอเพียงไม่ทำอะไรส่งผลที่เลวร้ายต่อผู้อื่นก็นับว่าเป็นคนดีได้
การต่อสู้ดิ้นรนเอาชีวิตรอดของนายช่างใหญ่โมกราซูช่างละบากนัก ไม่มีใครหรอกจะรับราชการเพื่อผลประโยชน์ของปวงชนมากไปกว่าเขาอีกแล้วคิดดูซิครับ ขนาดยึดมั่นในหลักการรับใช้ปวงชน ไม่คำนึงถึงลาภยศส่วนตัว ถึงแม้ผู้บังคับบัญชาจะสั่งแล้วมิอาจขัดได้ก็ตามก็ยังนับว่าพอใช้ได้อยู่
   แต่อย่างว่าละครับต้องเข้าใขบูยอซุนหน่อย เพราะท่านเป็นคนที่กระตือรือล้นต่อการเมือง ไม่รู้ว่ามัวเมาหรือบ้าอำนาจหรือเปล่า หรือว่ามีความพยายามสูงกว่านี้ที่จะทะเยอทะยานกระทำเรื่องราวอื่นที่ผิดคุณธรรม
   หนักใจพวกคิรูมากกว่าที่เห็นแก่ลาภยศสรรเสริญส่วนตัว ทำร้ายคนทำร้ายประชาชนได้ลงคอ
   อาชางตัวเอกของเรื่องหัวเราะงอหาย เมื่อเห็นการกระทำต่างๆ โดยเฉพาะกับหัวหน้าหน่วยงานต่างๆ ซึ่งไร้สาระสิ้นดี อาชางบอกวาวีระบุรุษผู้กล้าจริงๆแล้วไม่จำเป็นต้องมีฐานะเลอเลิศแต่อย่างใด ขอเพียงมีจริยะสูงส่งก็พอ
   คำว่า จริยะสูงส่ง เป็นพื้นฐานแห่งคนจริงๆ คนดีๆเขาจะไม่มีร่องรอยความชั่วร้ายอยู่บนใบหน้า เช่นร่องรอยของความพยาบาท รอยยิ้มแห่งความละโมภ ตัวอย่างในรูปภาพข้างบน และร่องรอยของความลุ่มหลง
  อาชางก็พูดมากไปแล้วนึกได้ว่าพูดไปพูดมาแล้วเข้าตัวเอง คือเราก็ลุ่มหลงองค์หญิงธันว่าซะเว่อมากเกินไป แต่ก็เป็นธงชัยสำหรับจิตใจของชางอยู่แล้ว ก็นับว่าคนเราจะไม่มีใครที่ดีครบถ้วนร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างแน่นอน ฟันธงได้
   อ้าวแล้วแพ็กเจจะเป็นอย่างไรต่อไป อาชางหัวเราะกิ๊ก แล้วบุ้ยปากไปทางนายช่างใหญ่โมกราซู ที่จริงอาชางน่าจะคิดเองนะในฐานะที่เป็นองค์ชายโมกุง แต่เอาละเมื่อถามซือแป๋ๆก็จะว่าให้ นี่เอาตั้งแต่สมัยพระเจ้าเงี่ยวเต้เลยไหม อาชางซูฮกอาจารย์แล้วเรียนว่าขอเนื้อๆจะดีกว่าครับท่าน
   โมกราซู " ผู้นำต้องเป็นคนดีก่อน ความดีขั้นต้นคือต้องมีศีลธรรมประจำใจ การแต่งตั้งคนมาทำงานเป็นหัวหน้าก็ต้องมีวิธีคิด ไม่ใช่เอาลูกตัวเองมาตั้ง แต่ต้องเอาคนดีที่เป็นแล้วไม่ทำให้หน่วยงานนั้นฉิบหล่นหาไม่เจอ ในกรณีนี้ที่ผิดคือ เอาเมียเก็บมาตั้ง เอากิ๋กมาตั้งอย่างเงี้ยแล้วก็ชิบหล่นหาไม่เจอ หรือเอาคนที่ไม่มีความรู้ในงานนั้นมาตั้งมันก็มั่วแหลก แล้วผลของมันก็คือเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานไอ้คนตั้งเองก็ต้องรับกรรม เพราะไอ้ความที่มีลูกน้องแต่ ถูกครับพี่ ดีครับผม เหมาะสมครับท่าน เกิดเป็นนายต้องมีลูกน้องก็ต้องเลี้ยงลูกน้องหลายๆแบบที่ชั่วๆสุด จนถึง ที่ดีเลิศประเสริฐศรี ถามว่าทำไม อันนี้ต้องลองเอง
 "
   ละแล้วคิรู้ก็ยิ้มกริ่มเดินเข้ามา แล้วยื่นเอกสารให้อาชางอ่าน ในเอกสารเป็นคำสั่งกองทัพแพ็กเจ ให้อาชาง ปลดจากตำแหน่งไปเป็นตะพุ่นหญ้าช้าง อาชางมองหน้านายช่างใหญ่ และเดินคอตกออกจากไป ก่อนจะออกจากห้องอาชางเงยหน้าถามคิรูว่า รู้ไหมเขาย้ายข้าเพราะอะไร คิรู หัวเราะเยาะ แล้วตอบว่า ข้าก็ไม่รู้ 
   วีระบุรุษยามตกยาก ไม่ชอบสนทนาถึงความตกยาก นี่แตกต่างกับผู้คนธรรมดาที่เผชิญอุปสรรคขวากหนามเล็กน้อยก็ตัดพ้อตำหนิไม่รู้จักจบสิ้น หรือเป็นพวกที่เอาเปรียบคนอื่นเขามามากตลอดชีวิตพอตนเองโดนอะไรเข้าหน่อยก็เรียกร้องขอความเห็นใจ 
   อาชางสบัดหัวเลิกคิด คนเราหากคิดมีชีวิตสืบต่อไปก็ต้องมีเงินทองไว้จับจ่าย ดังนั้นเมือค่าสมองไหลจากเดิม หนึ่งหมื่นบาทหายไป เหลือแค่สามพันห้า ก็ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบใหม่ๆง่ายๆพอเพียงและเปี่ยมด้วยความสุขใจ เนื่องจากว่า อาชาง มักไม่ค่อยเห่อเหิมบ้ายศอยู่แล้วเรียบง่ายอยู่แล้วจึงไม่ต้องปรับอะไรมากมายก็เข้าที่ไม่นานนัก แต่ทว่าอนาคตของแพ็กเจจะเป็นอย่างไร
   อาชางนั่งมองไปในอนาคต จากที่จบการศึกษาจากโรงฝึกช่างมา ในเรื่องวิชาบริหารของโลกตะวันตก หรือคิดแบบชาวบ้านชาวบ้านเอา ใช้มุมมองจากนกมอง ใช้มุมมองของรากแก้วมอง ใช้มุมมองของบูยอซุนมอง ใช้มุมมองของเจ้าเมืองที่มีอิทธิพลแล้วก็พอจะสังเคราะห์ออกมาเป็นคำทำนายได้ว่า
   เจ๊ง เจ๊ง และ เจ๊ง
   นับตั้งแต่โบราณกาลมาแล้ว ไม่รู้มีผู้กล้ามากน้อยเท่าใดที่ต้องเจ็บช้ำ แทนที่จะได้ชื่อเสียงมาส่งเสริมบารมีวงศ์ตระกูลกลับต้องมาเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลใหม่ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่า ไม่ได้จริงใจที่จะทำเพื่อประโยชน์ของมวลชนจริง และดูถูกความรู้สึกนึกคิดของปวงชน
   หากยังไม่เข้าใจโปรดติดตาม เรื่องซอดองโย ต่อไป ว่าวิธีการคิดของอาชางสุดยอดแค่ไหน และถ้าเอาตามอย่างที่ดีๆของข้าแล้วแพ็กเจไปรอดแน่ อย่าลืมว่าแพ๊กเจต้องรอด.......				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน