::คำขอของผีและการปิดการขายของเขา::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

::คำขอของผีและการปิดการขายของเขา::
			ก่อพงษ์  พงษพรชาญวิชช์
				11  เมษายน  2550
	ผีในคำเรียกขานของคนในธุรกิจMLM หมายถึงใครก็ได้ที่เริ่มต้นธุรกิจเครือข่ายแล้วไปไม่รอด  จอดกลางครัน กลายเป็นผีหลอกหลอนแม่ข่าย หรือคนในเครือให้ขยะแขยงด้วยเกรงว่าจะเป็นแรงเสียดทานในการไปสู่เป้าหมายในธุรกิจที่โยงเป็นเส้นใยไม่รู้จบ
	ผมเป็นผีมาตั้งแต่ปี 2545  ปีนั้นผมเริ่มต้นเป็นลูกข่ายธุรกิจขายประกัน  ความล้มเหลวของผมคือไม่กล้าเอ่ยปาก  ผมเข็ดขยาดการปฏิเสธอย่างเข้ากระดูกแดง  ความหวาดหวั่นพรั่นพรึงของผมมาจากการที่ผมเคยถูกปฏิเสธเมื่อสมัยเป็นเด็กที่เอ่ยปากขอข้าวสารเขามานึ่งจี่    ช่วงนั้นบ้านเกิดของผมแห้งแล้งมาก  แล้งต่อกันหลายปี  ผมต้องดื่มน้ำขุ่น ๆ จากบ่อที่ไปรอขอดเอาหลายหมู่บ้าน  น้ำอาบพอมีบ้างแต่รสเค็มออกขมถูกสบู่เป็นคราบขาวเพราะน้ำใต้ดินแถบนั้นเป็นน้ำเค็มทั้งนั้น  เมื่อทำนาไม่ได้เราก็ต้องออกขอข้าวเปลือกข้าวสารเขามากินครับ  การเป็นผู้ขอนี่ต่ำต้อยเหลือเกินในความนึกคิดเบื้องลึก  ธุรกิจขายประกันของผมก็ล้มเหลวลงเพราะสวนความรู้สึกผู้ขอของตนเองไม่ได้
	สองปีต่อมาผมสมัครเป็นลูกข่ายธุรกิจขายตรงสินค้าอุปโภคบริโคนามอุโฆษสามบริษัท  ผมกินเองใช้เองสินค้าราคาสูงเหล่านั้นอย่างกับคนมีกะตังค์ทั้งหลาย  ในขณะกินผมท่องคาถากินแล้วรวยทุกวันทั้งเช้าเที่ยงเย็นโดยติดยันต์กันจนไว้หน้าบ้านด้วย ยันต์นั้นมีเนื้อความว่า กูให้มึงมีอิสระทางการเงินและเวลา  เวลาผ่านไปหนึ่งปีที่ผมออกหาลูกค้าและลูกข่ายได้เครือนั้นสามสายเห็นเงินขึ้นในบัญชีทั้งสิ้นหมื่นกว่าบาทแต่ผมก็ได้กินและใช้สินค้าไปหลายหมื่นบาทเช่นกัน     คุณเชื่อไหมครับ  ตอนนี้คนที่เริ่มธุรกิจพร้อมกับผมขึ้นฝั่งฝันของเขากันเกือบหมดทุกคน   แต่ผมยังตกตะกอนนอนก้นอยู่ในเมรุสำนึกแห่งผู้กลัวการขออย่างไม่รู้ผุดรู้เกิด  กลายเป็นผีหลอกวิญญาณหลอนสำหรับใครต่อใครอยู่เกือบตลอดนาทีที่ผมเดินออกไปนอกเรือนชาน  
	ผมเขียนวงจรMLMและวิถีของมันได้นะแต่ผมเข้าไม่ถึงวิญญาณของมัน    จึงเป็นเพียงภูติทางธุรกิจที่อาจจะหลอกหลอนเพื่อนพี่ป้าลุงหรือคนรักที่อยู่ในสายอมตะMLMทั้งหลายนั้น  
	เมื่อวานเพื่อนของผมโทรศัพท์มาหาและชักชวนผมให้เริ่มต้นธุรกิจMLMของธุรกิจน้ำมัน   ก่อนหน้านั้นสามวันหนังตาซ้ายของผมกระตุกเต้นอย่างแรง   เขามาหาผมพร้อมแผนการตลาดและเครือข่ายที่ผมไม่เคยนึกถึงมาก่อน เขาบอกว่านี่เป็นธุรกิจที่ใหม่สุด MLM สายอื่นทำเงินจากรายจ่าย  แต่MLMของเขาทำเงินจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง   ผมฟังวิถีการตลาดและเครือข่ายใหม่นี้อย่างตื่นเต้น  เสียงหัวใจตีซี่โครงตึงตูมเลยทีเดียว  ถ้าเป็นเมื่อปี2545 ตาของผมคงลุกวาวด้วยความอยากรวยและมีอิสระทางเวลา   แต่ตอนนี้หัวใจของผมกระตุกเต้นครับ ว่าจะปฏิเสธเพื่อนคนนี้อย่างไร   
	สมัครเลยนะ   เพื่อนของผมปิดการขายทันที
	ขอบคุณมากเพื่อนรักที่นำสิ่งดี ๆ มาแนะนำ  ผมบริจาคเงินให้วัดไปหมดแล้ว  เพื่อจะมั่งมีในชาติหน้า  ตามที่MLMศาสนพานิชย์แห่งหนึ่งสะกดจิตของผมให้เข้าMLMบุญของเขา  ผมพูดแบบกึ่งหัวหมอและหัวหมู
	งั้นก็..ไม่เป็นไรเพื่อน  นายเชื่อไหมว่าไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้
	อ๋อ..ผมเชื่อไตรลักษณ์
	นั่นแหละ  ถ้านายมีคนรู้จักอยากทำธุรกิจน้ำมันMLM บอกผมนะ ผมจะแนะนำเขา  แค่นี้นายก็มีรายได้แล้ว เราจะให้นายเป็นแม่ข่ายปริยาย รอรับรายได้จากการเผาไหม้ไม่รู้จบ  เพื่อนของผมปิดการขายครั้งที่สองสำเร็จอีก
	ได้เพื่อน  แต่ผมขออย่างหนึ่งได้ไหม
	อะไรหรือเพื่อน  เขาจ้องตาของผมไม่กระพริบ ถ้าไม่เกินความสามารถเราจะทำให้
	ไปเปลี่ยนอนาคตหรือชาติหน้าที่ผมเคยปรารถนาเอาไว้ต่อMLMศาสนพานิชย์ให้หน่อย  คราวก่อนโน้นผมอธิษฐานว่าให้เกิดบนกองเงินกองทอง อย่าอดอยากยากจน อย่าได้เป็นผู้ขอ 
	ได้เพื่อน  แต่เขียนใบสมัครนี้ก่อนนะ				
comments powered by Disqus
  • อัลมิตรา

    11 เมษายน 2550 19:53 น. - comment id 95648

    ไม่เคยเป็นสมาชิกในระบบ MLM เลยค่ะ
    แต่เคยไปฟังบรรยาย .. เพื่อนหลอกไป
    
    เฮ้อ !! .. การที่จะทำให้ใครสักคนสมัคร มีสารพัดวิธี
    
    เพื่อนบอกว่า .. "ว่างไหม ช่วยไปดูเครื่องคอมฯที่บ้านหน่อยสิ ไม่รู้เป็นไง มันอืด ๆ "
    
    พอหลวมตัวตกปากรับคำ .. เพื่อนก็พลิกคำพูดนิด ๆ
    "ขอแวะตรงนั้นหน่อยนะ  พอดีจะแวะไปเอาของ"
    " ของ ????... อะไร" อัลมิตราถามไป
    "น้ำยาสารพัดนึกเชียวล่ะ เครื่องเรื่อน เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า ๆ เช็ดหน่อย ใหม่ทันตา"
    " อืมม .. "
    " นะ แวะไม่นาน.."
    
    เอาเข้าจริง กลับพาอัลมิตราไปห้องใหญ่ เหมือนห้องสัมมนา
    มีการโหมโฆษณาอย่างครึกโครม คนนั้นคนนี้ รวยกันใหญ่
    อัลมิตราล่ะ นั่งหน้าบูดอยู่นาน .. ไม่พูดไม่จา กับใคร ลมเสีย..
    
    ขากลับ บอกกับเพื่อนว่า .."หากจะคิดคบหากันยาว ๆ อย่ามาหลอกกัน"
    
    มารู้ทีหลังว่า .. ที่บ้านเพื่อน มีคอมฯ ซะที่ไหน .. เฮ้อ ! (ยกกำลังสอง)
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    11 เมษายน 2550 20:14 น. - comment id 95649

    ลูกเล่นชั้นเชิงเยอะมาก
    ทั้งเรียนรู้เองและถ่ายทอดวิชากัน
    ภาพผิวเผินเหมือนผูกพันมั่นหมาย
    แต่ลึกๆคือห้ำหั่นเบียดแข่ง
    
    เขาเรียกว่าความสวยงามทางธุรกิจมั้งครับ
    ผมได้อะไรมาสำหรับเขียนมากพอดู
    
    
    วันนี้ฝนลงเม็ดป๊อกแป๊กครับ
    อากาศเย็นสบาย
    
    อยู่บ้านกันสองคนครับ
    ลูก ๆ ไปบ้านปู่
  • อัลมิตรา

    11 เมษายน 2550 20:23 น. - comment id 95650

    อั่นแน่ .. บรรยากาศโรแมนติค ฝนตกพรำ อยู่กันสองคน .. ฮา
    
    ที่กรุงเทพฯ ช่วงเย็น ฝนตกหนักค่ะ ไม่รู้ตั้งเค้ามากี่โมง
    แต่พอเลิกงานห้าโมงเย็น อัลมิตราก็รีบเผ่นกลับบ้านทันที
    ปรากฏว่า ต้องยืนชะงัก เพราะฝนตกหนัก
    อัลมิตราหอบกระดาษปึกใหญ่ ซึ่งเป็นงานที่จัดเตรียมทำเป็นเล่ม เลยไม่เสี่ยงกับฝน
    
    ยืนก็แล้ว นั่งก็แล้ว ฝนไม่หยุดตกซะที .. จะลุยฝนกลับบ้านก็กระไรอยู่ ห่วงงาน ..
    แถมวันนี้ เอารถเล็กมา ก็เลยปักหลักนั่งทานขนมรอให้ฝนหยุด
    
    กว่าฝนจะหยุด .. อัลมิตราก็อิ่มพอดี .. 
    บราวนี่หนึ่งชิ้น + เค๊กส้มอีกหนึ่งชิ้น ..
    ว่าจะตุนขนมเก็บไว้ทานในวันหยุดเสียหน่อย หมดจนได้ ฮา ..
    
    พรุ่งนี้ค่อยตุนเสบียงใหม่ค่ะ
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    11 เมษายน 2550 20:30 น. - comment id 95651

    โรแมนติก ..อืม
    
    เมื่อวานผมพาเธอร้องคารโอเกะหลายเพลง
    พวกรางวัลแด่คนช่างฝัน
    ทะเลใจ
    เจ้าสาวที่กลัวฝน
    บทเรียนสอนใจ
    เพลงเพื่อชีวิต
    เธอร้องได้หมดเลยครับ
    
    ก็แน่ละ
    เพราะเคยเป็นนักศึกษา
    ออกค่ายอาสาพัฒนาชนบทมาด้วยกัน
    
    
    ทราบข่าวเรื่องหนังสือที่คุณอัลมิตรากำลังทำแล้วครับ
    
    เอาใจช่วยให้สำเร็จและวางแผงเร็วๆครับ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน