ส่วนเกิน

รอยทาง

"จะคบกับผู้ชายคนนี้จริงๆ หรือ  พี่เป็นห่วงจิ๊บนะ" 
 ฉันพูดบอกจิ๊บด้วยความห่วงใหญ่    เธอเป็นรุ่นน้องจบจากสถาบันเดียวกัน   เป็นคนน่ารักผิวขาว  กริยามารยาทมนุษยสัมพันธ์ดี   จึงเป็นที่รักชื่นชอบของคนทั่วไป   จิ๊บมีหนุ่มๆ มาจีบเยอะ   เราพักอยู่ด้วยกันสนิทสนมรักจิ๊บเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง   คุยกันได้ทุกเรื่อง  จิ๊บมักมีเรื่องมาเล่าคุยปรึกษากันตลอด    แต่ด้วยเพราะเวรกรรมอะไรไม่ทราบ   จิ๊บต้องไปรักคนมีเจ้าของ   
 
 "เขาดีกับจิ๊บมากเลย"
" พี่เข้าใจ   แต่เขามีลูกมีเมียแล้วนะ"   ฉันพูด
"เขาบอกว่ารักหนู   เขาพร้อมที่จะดูแลหนูทุกอย่าง"
"เรายังโสด ยังสาว ยังสวย  พี่อยากให้จิ๊บเจอคนที่เขาไม่มีภาระทางครอบครัว"   ฉันออกความเห็นดูท่าทีจิ๊บ
"ตอนนี้ก็รักกันดีอยู่  แต่อนาคตข้างหน้าละ  หากภรรยาเขารู้ขึ้นมา" ฉันถามซ้ำ
"ทำงัยได้พี่   รักเขาเข้าไปแล้ว   เขาบอกว่ายอมรับทุกอย่างหากมีอะไรเกิดขึ้น เขาบอกภรรยาเขาไม่สบาย   ไม่ค่อยมีอะไรกัน   เข้าออกโรงพยาบาลประจำ   วันๆ  เขาต้องทำงานเหนื่อยหนัก  อยากหาคนมาช่วยกิจการธุรกิจ  เขาบอกเจอหน้าจิ๊บครั้งแรกก็รู้สึกถูกชะตาและชอบ    ยังงัยผู้หญิงคนนี้ก็ต้องตามจีบเอาให้ได้ หนูก็หนีปฏิเสธเขามาตลอด    แต่เขาก็ยังตาม  เขาให้การช่วยเหลือหนูทุกอย่าง"   
นั่นเป็นคำพูดของจิ๊บ  บรรยายคุณสมบัติของเฮียชัยให้ฉันฟัง   ฉันเองได้แต่อึ้งกับคำพูด     ฉันไม่ค่อยพอใจเฮียชัยที่มาตามจีบจิ๊บนัก   รู้สึกมีอคติในใจ   และยอมรับไม่ได้กับผู้ชายที่มีครอบครัวแล้ว   ไม่มีความซื่อสัตย์จริงใจ     แต่ก็ดูท่าทางเขาจะรู้ตัวว่าฉันไม่ชอบ  
"จิ๊บคิดอย่างไรถ้าวันหนึ่งต้องตกไปเป็นที่ 2"
"ก็ต้องยอมรับความเป็นจริง"   
"จิ๊บยอมรับได้จริงๆ นะ  ไหนเราจะต้องถูกคำครหามากมาย"  จิ๊บนิ่งเงียบไม่พูดอะไร   
"จิ๊บไม่ลองมองคนอื่นๆ ที่มาตามจีบจิ๊บบ้างละ"  ฉันออกความเห็น
"เฮียเขาเป็นผู้ใหญ่และให้คำปรึกษาหนูได้ทุกเรื่อง"
 จิ๊บพูดดู  ท่าทางจิ๊บเองก็คงรักผู้ชายคนนั้นไม่น้อยเช่นเดียวกัน  
ฉันไม่กล้าพูดอะไรต่อ........
จิ๊บย้ายที่พักไปอยู่อพาทเม้นท์ส่วนตัว   ฉันไม่พูดและยุ่งเกี่ยวในเรื่องส่วนตัวของจิ๊บอีก  เดี๋ยวได้ผิดใจกันเพื่อรักษามิตรภาพไว้    ฉันไม่เคยถามถึงเฮียชัยจิ๊บก็ไม่เคยเล่าให้ฟัง   เราจะคุยกันเรื่องอื่นเสียมากกว่า     
ฉันเฝ้าสังเกตดูการคบกันของทั้งสองคนอยู่หลายปี   ในที่สุดฉันก็พยายามทำใจยอมรับในตัวเฮียชัยได้บ้าง   จุดหนึ่งคือเขาสม่ำเสมอ  ดูจริงใจ   สามารถดูแลจิ๊บได้    สำหรับผู้หญิงคนหนึ่งที่ขาดที่พึ่ง    ครั้งหนึ่งจิ๊บได้รับอุบัติเหตุต้องนอนโรงพยาบาลหลายวัน  มีฉันคอยดูแล    หนึ่งในนั้นเฮียชัยไม่เคยห่างจิ๊บดูแลอย่างใกล้ชิด   ยังตามดูแลปฐมพยาบาล
"ผมรักจิ๊บจริงๆ นะครับ  ไม่ได้หวังหลอกอะไรเลย"     เฮียชัยพูดกับฉัน
"เสียดายจริงๆ   ที่ผมมารู้จักเขาช้าไป  ผมอยู่มานานก็เลยตัดสินใจอยู่กินกับแม่หม้ายคนหนึ่งและช่วยเขาทำธุรกิจจนขยายเติบโต"     เฮียชัยเปิดเผยเล่าชีวิตครอบครัวให้ฉันฟัง   ฉันได้แต่รับฟังไม่ออกความเห็นอะไร
"หากวันใดทางบ้านเฮียรู้ความจริงขึ้นมา  เฮียจะทำอย่างไร"  ฉันถาม
"ผมยังนึกไม่ออก   แต่คิดว่าผมมีวิธีการของผม"  ในใจฉันก็ยังคิดว่าเขาเห็นแก่ตัวอยู่ดี 
 "ไม่อยากให้น้องเขาผิดหวัง  เสียใจ  อยากเห็นเขามีความสุข  ครั้งหนึ่งชีวิตลูกผู้หญิง"   ฉันพูด
"ผมสัญญา   ว่าผมจะดูแลเธอเป็นอย่างดี"
"ขอบคุณเฮียแทนน้องเขาด้วยที่พูดเช่นนี้"  วันนั้นฉันยังกับเป็นญาติผู้ใหญ่ของจิ๊บ
เฮียชัยกลับไปจึงเป็นหน้าที่ฉันต้องดูแล      สุขภาพของจิ๊บดีขึ้นเรื่อยๆ    ฉันยังห่วงความรู้สึกของจิ๊บจนอดถามไม่ได้
"หากทางบ้านเขารู้ความจริง  จิ๊บจะทำอย่างไร"
"เฮียก็บอกจะไม่ให้มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น  เฮียจะจัดการเอง  เขาเคยเกริ่นๆ ว่าอยากหาใครสักคนมาช่วยกิจการ  แฟนเขาก็ไม่ว่าอะไร"
 
"จิ๊บยอมรับได้ใช่มั๊ย" ฉันถามย้ำ
"ถ้าเขายอมรับได้  ไม่มีปัญหาก็ดีไป  พี่ก็ขอเอาใจช่วย"   ฉันรู้สึกเห็นใจและเป็นห่วงยิ่งนัก   
/////////
"จิ๊บอยากให้พี่มีใครสักคนไว้คอยดูแลเหมือนกันนะ"
  ฉันอมยิ้ม เธอแสดงความห่วงใยฉันที่เห็นยังไม่มีแฟน   
"ขอบคุณมากที่เป็นห่วงพี่   ยังไม่เห็นใครเดินเข้ามาในชีวิตเลย   มีแต่เดินผ่านไปผ่านมา" ฉันพูดแกรมตลก
  "ก็พี่ไม่สนใจเอง"  
"อะไรมันก็เอาแน่ไม่ได้"   ฉันพูดขึ้น
"หนูเคยถามเฮียนะว่า  พี่ก็หน้าตาดี น่ารัก พูดก็ดี แต่ทำไมไม่มีคนมาจีบ"  
"แล้วเฮียเขาว่ายังงัยละ"  ฉันถามต่ออยากรู้ทัศนะ
 "เขาบอกว่าพี่ดูมั่นใจตัวเองเกินไป   ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบผู้หญิงที่เก่งกว่า" 
 "เอ้างั้นหรือ  การที่คนคิดว่าเราเก่ง  ทำงานช่วยเหลือตัวเองได้  ไม่ต้องเป็นภาระใครนี่กลายเป็นว่าไม่ดีสำหรับผู้ชายใช่มั๊ย" 
ฉันหัวเราะ
จิ๊บจะเป็นผู้หญิงดูอ่อนหวานสมกับความเป็นหญิงทุกอย่างจะตรงกันข้ามกับฉัน    เพียงแต่ฉันไม่ค่อยพูดจานัก  คนก็มักจะมองว่าฉันหยิ่งเข้าหายาก   แต่ถ้าเจอคนคุยถูกคอก็หยุดยากเหมือนกันนะคะ
แต่จริงแล้วฉันก็อยากมีแฟนนะคะ  เอิร์ก  เอิร์ก   ด้วยงานที่ต้องพบปะผู้คน   ลูกค้ามากหน้าหลายตา   ต้องดูแลองค์กร   เป้าหมายก็เลยไปทุ่มกับอย่างอื่นแทน    ต้องมีการแลกเปลี่ยนนามบัตรกันอยู่เรื่อยเพราะเรื่องงาน    ฉันมักจะได้รับเสียงโทรศัพท์จากคุณภรรยาทั้งหลายของลูกค้าไม่ขาดระยะ   จึงต้องรีบตัดบทหนีความรำคาญก็บ่อย    บ้างสามีต้องโทรศัพท์มาหาฉันให้คุยกับภรรยาเพื่อความกระจ่าง   บ้างกลายเป็นที่ปรึกษาปัญหาครอบครัว   การเป็นสามีภรรยากันนี่ดูมันยากจริงๆ   ฉันคิดจนรู้สึกหวาดหวั่น  
ฉันถูกย้ายงานไปอยู่ต่างจังหวัด    ได้รับโทรศัพท์จากจิ๊บ 
 "พี่หนูจะแต่งงานแล้วนะ"     ฉันแปลกใจ  
 "แต่งกับใครละ"  
"ก็กับเฮียชัยนั่นแหละตอนนี้จิ๊บท้อง"   ฉันนิ่งเงียบ   แต่จริงแล้วเขาอยู่ด้วยกันมาหลายปี
 "พี่ดีใจด้วย"     ฉันไปช่วยงานแต่งงานจิ๊บจนเสร็จสิ้นภาระ    แล้วเดินทางกลับต่างจังหวัด  เราได้แต่โทรศัพท์คุยกันไม่ขาดระยะเป็นกำลังใจเรื่อยมา   จิ๊บลาออกจากงานประจำมาเปิดกิจการส่วนตัวค่อนข้างไปได้ดี    จนกระทั่งกิ๊บคลอดลูกเป็นผู้ชาย  
  
หลายเดือนฉันมีโอกาสขับรถแวะเยี่ยมจิ๊บกับลูก   ลูกโตกำลังน่ารักน่าชัง  มีพี่เลี้ยงคอยดูแลหนึ่งคน   คืนนั้นเรานอนคุยกัน   ลูกตื่นขึ้นร้องตอนดึกจิ๊บเอานมให้ลูกดูด  
สาวสวยน่ารักที่ฉันเคยเห็น   ตอนนี้ต้องมาเป็นแม่ของลูก  มีเลือดเนื้อเชื้อไขเป็นของตนเอง  สถานะภาพเปลี่ยนไป      ฉันมองดูและคิดไปด้วยความตื้นตันใจ   
 "เฮียยังมาหาบ้างมัย"     ฉันถาม    จิ๊บนิ่งเงียบน้ำตาซึมแล้วก็เล่าให้ฟังด้วยเสียงสั่นเครือ
"เฮียมาดูลูกครั้งหนึ่ง   หลังจากนั้นก็เอาความจริงไปเล่าให้ที่บ้านหวังว่าเขาจะยอมรับ   เขาตามมาดูถึงที่ว่าใช่ลูกของเฮียจริงๆ มั๊ย   ซื้อข้าวของเครื่องใช้มาให้   หนูยกมือไหว้เขา  แต่เขาไม่พูดจาอะไรแล้วก็พากันกลับไป  และได้ข่าวทะเลาะกันยกใหญ่    ไม่ยอมให้เฮียมาหา   แต่ยังโทรมาสม่ำเสมอส่งค่าเลี้ยงดูลูกมาให้บ้าง  เขาก็บอกให้หนูอดทนรอคอยเขา  ยามเจ็บไข้ได้ป่วยก็ต้องกระเตงวิ่งพาลูกไปหาหมอเอง  เอาลูกกินนมแต่ละครั้งก็อดน้ำตาไหลไม่ได้  ไม่รู้จะต้องทนรอนานแค่ไหน"    
 
ฉันฟังคำพูดของจิ๊บอดสะอื้นในอกน้ำตาคลอเบ้าตาม    ฉันอยากเห็นภาพพ่อแม่ลูกนอนอยู่ด้วยกันเขาคงมีความสุข   ทำไมต้องรอคอยแบ่งความรักจากคนอื่นเช่นนี้     ฉันไม่กล้าถามซ้ำเกรงจะสะเทือนใจมากกว่านี้
ฉันเห็นจิ๊บและอดคิดใจหายไม่ได้   กับครั้งหนึ่งฉันเอารถเข้าอู่ซ่อม  ภรรยาเจ้าของอู่ก็มาต้อนรับเชิญฉันเข้านั่งห้องรับรอง  เขาเห็นทะเบียนรถคงไม่ใช่คนจังหวัดนี้แน่   เขาชวนฉันคุยเรื่องทั่วไป  จนกระทั่ง
"แต่งงานหรือยังคะ" เธอเอ่ยปากถาม  ฉันทำหน้างงๆ 
"ยังคะ"ฉันตอบ
"มีหน้าที่การงานดี  อยู่เป็นโสดก็ดี   ยังงัยๆ  ก็อย่าไปเจอคนมีเจ้าของนะ"    ฉันรู้สึกฉงนกับคำพูดเล็กน้อย
  
"คนมีเจ้าของเป็นอย่างไรหรือคะ"   ฉันถามอยากรู้ต่อ
 "โอ๊ยก็ตัวอย่างพี่นี่งัยได้พาลทะเลาะกับลูกกับญาติทางเมียเก่าทุกวัน  ทั้งที่เมียตายไปแล้ว กลัวแต่พี่จะมาแย่งสมบัติ"   ฉันคิดไม่กล้าพูดอะไรต่อ  ได้แต่เก็บไว้เป็นกรณีศึกษา
พี่ติ๋ม:   เป็นเจ้าของร้านอาหารฉันเป็นลูกค้าประจำ  มุมมองของพี่ติ๋ม "พี่ทำงานลี้ยงลูกเองจนเข้ามหาวิทยาลัย  พี่ไม่ต้องการให้เขาบอกบ้านใหญ่  จะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายกับชีวิตพี่   วันที่เขามาก็คือสามี   วันเขาลงเรือนไปก็คือคนอื่น"   น่าคิด
คุณหน่อย:  "หาสามีดีๆ สักคนมันยากยิ่งนัก   แต่การรักสามีไว้กับตัวเรานี่ยากยิ่งกว่าน้องเอ้ย"   เอ้อ  เป็นอย่างงั้นไป 
คุณหมวย:   "สามีออกทำงานนอกบ้าน  พี่จัดเตรียมกระเป๋าไม่เคยขาดตกบกพร่อง  และไม่ลืมที่ใส่กล่องถุงยางอนามัยเข้าไปด้วย  มีได้แต่อย่าเอาโรคมาติดพี่"   พี่แกใจกว้างดีแฮะ  
ทำให้ฉันรู้สึกเห็นใจจิ๊บยิ่งนักเพราะเป็นน้องที่รักกัน  ภาพเหตุการณ์ต่างๆ  เหมือนคอยเตือนใจคนโสดอย่างฉันหรือไร นา นา จิต ตัง"
 "ในเมื่อเดินมาแบบนี้แล้วก็ต้องยอมรับ      หนูไม่ได้ตั้งใจที่จะไปเป็น  ส่วนเกิน  ของใครเลย"    จิ๊บพูดแบบน้อยใจและช่างสะเทือนใจยิ่งนัก      
 
 "อย่าไปเสียใจเลย   ที่ผ่านมาก็ปล่อยไปเถอะ  ดีแล้วที่เรายังมีลูกมาเติมเต็มชีวิตดีกว่าไม่มีใครเลยเลี้ยงเขาให้ดีๆ "     ฉันตบไหล่เบาๆ  พูดให้กำลังใจ
เธอขอบคุณฉัน "ถ้าไม่มีพี่หนูไม่รู้จะคุยกับใคร"
จิ๊บไม่เหลือใครเลยพ่อแม่เสียชีวิตหมด   ฉันจึงรู้สึกผูกพันเหมือนน้องคนหนึ่ง "ถ้าพี่ไม่มีใครก็มาอยู่กับหนูนะ" 
ฉันยิ้ม   รุ่งเช้าฉันขับรถเดินทางต่างจังหวัดต่อและยังเฝ้าติดตามดูวิถีชีวิตของจิ๊บต่อไป
๑๑๑๑๑				
comments powered by Disqus
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    13 มีนาคม 2551 22:54 น. - comment id 99505

    อ่านสนุกมากครับ
    
    
    แต่ผมอ่านนิยายลำบาก
    เพราะกลัวความเจ็บปวด-ฮา
  • การัณยภาส

    14 มีนาคม 2551 07:19 น. - comment id 99510

    สวัสดีตอนเช้าค่ะ
    นี่ฉันใส่บาตรเสร็จแล้วถึงได้มาอ่านเรื่องสั้นของคุณรอยทางนะคะ ( ปิดทองหน้าพระ ฮิฮิ )
    โดยส่วนตัวแล้วฉันมักมีอคติกับคนที่ไปยุ่งกับสามีหรือภรรยาของคนอื่นเขานะคะ แต่พยายามมองอย่างเป็นธรรม ก็พอเข้าใจได้ว่าแต่ละคนมีเหตุผลของตนเอง
  • รอยทาง

    14 มีนาคม 2551 19:36 น. - comment id 99521

    สวัสดีคะ  คุณก่อพงษ์
    
    อย่างว่านะคะ เขาถึงได้เปรียบชีวิตเช่นดังนิยาย   แถมยังยาว  ไม่รู้จักจบจักสิ้นเป็นเสียด้วยซิ 20.gif20.gif  คนเกิดมาล้วนแต่มีกรรมลิขิต  แต่รอยทางคิดว่าเป็นเพียงแค่บางส่วน  บางส่วนเราสามารถกำหนดเองได้  คิดเช่นนั้น
    
    ขอบคุณคะ
  • รอยทาง

    14 มีนาคม 2551 19:43 น. - comment id 99522

    สวัสดีคะ  คุณการัณยภาส
    
    
    โอ  ขออนุโมทนาบุญด้วยคน  อะไรที่เราทำแล้วสบายใจทำเถอะคะ    จากความเห็น รอยทางเองก็มีความคิดเช่นคุณ   บางครั้งเราไม่ข้องเกี่ยว เขาก็มาข้องเกี่ยวเรา  สิ่งเหล่านี้เราต้องทำใจให้เข้มแข็งพอ   ทั้งนี้ก็แล้วแต่เหตุผลของแต่คะจะเจออย่างไร  
    
    อย่าลืมเข้ามาช่วยออกความเห็นด้วยอีกนะคะ  อยากทราบทัศนคติเกี่ยวกับสิ่งนี้ของแต่ละคน
    
    ขอบคุณคะ
  • การัณยภาส

    15 มีนาคม 2551 02:29 น. - comment id 99532

    สวัสดีตอนดึกสงัดค่ะ
    ดีใจมากเลยค่ะที่คุณรอยทางมีความคิดเห็นเช่นเดียวกับฉัน แต่ก็จริงอย่างที่คุณว่านั่นแหละ คือเราต้องเป็นฝ่ายเข้มแข็งให้มากๆ เพราะแรงยั่วยุกับสิ่งล่อตาล่อใจจากฝ่ายตรงข้ามนั้น มันอาจสะกดเราให้ต้องตกเป็นเหยื่อของเขาก็ได้
    ยังไงก็อยากรบกวนให้คุณรอยทางช่วยเข้าไปเยี่ยมชมกลอน และช่วยติชมให้ฉันด้วยนะคะ คือฉันอยากทราบความคิดเห็นและคำแนะนำจากหลายๆท่านน่ะค่ะ
    ขอบคุณมากค่ะ
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    15 มีนาคม 2551 06:11 น. - comment id 99537

    ผมเข้ามาดตามอีกตอนเช้า
    
    
    บอกได้เลยว่าชอบ  อ่านสนุกครับ
  • รอยทาง

    16 มีนาคม 2551 03:48 น. - comment id 99548

    สวัสดีคะ คุณการัณยภาส
    
    เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบากคะ   ตลอดเส้นทางเดินของชีวิต  หากใจ ไม่เข้มแข็งพอ  มันอาจทำให้ชีวิตทั้งชีวิตไหลออกนอกลู่ได้    แต่หากว่า "หากไม่เจอชายที่พึงเชย   อย่ามีคู่เสียเลยจะดีกว่า"  20.gif
    
    ยังงัยเสียรอยทางก็คิดว่าการมีคู่ก็ยังดีกว่าอยู่คนเดียวคะ  ตอนนี่ชีวิตครอบครัวมีความสุขดี
    
    ขอบคุณคะ
  • รอยทาง

    16 มีนาคม 2551 04:07 น. - comment id 99549

    สวัสดีคะ  คุณก่อพงษ์
    
    ขอบคุณมากนะคะ  ที่เนื้อหาทำให้คุณอ่านสนุก  ทำให้รอยทางได้บุญมีความสุขไปด้วย  แต่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากกว่าคะ
    
    แต่จริงๆ  แล้วอยากได้มุมมองของผู้ชายบ้าง   เราไม่ได้โทษว่าฝ่ายไหนดีหรือไม่ดี   แต่มันเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงสังคม   
    
    ตราปใดคนไม่มีสปีริตต่อความรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง   จิตใจไม่พัฒนา   หรือบางสิ่งบางอย่างอาจถูกฝังรากลึกมาแต่ครั้งบรรพบุรุษ  จนยากที่จะถอน  เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมไทยไม่น้อย
    
    นั่นแสดงถึงความเสือมถ่อยของคนในชาติ  ประเทศชาติ  อย่างเห็นได้ชัด (เป็นความคิดเห็นส่วนตัว)
    
    ขอบคุณคะ
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    16 มีนาคม 2551 08:58 น. - comment id 99557

    สวัสดีครับคุณรอยทาง
    
    
    โลกเหวี่ยงเร็วมั้งครับ
    ด้วยแรงลัพธ์ที่มาจากอำนาจของทุนนิยมใหญ่
    ที่ปั่นความต้องการบริโภคและปั่นทัศนคติการใช้ชีวิตให้นิยมวัตถุ 
    
    
    เราจึงเห็นผู้คนหัวหมุนที่จะหาสิ่งที่เขาคิดว่านั่นคือความสุขมาสะสม
    
    ความจริงคือเคว้งคว้างสุดเคว้างคว้าง
    คนรอบข้างที่เข้ามาเกี่ยวพัน แม้รูปแบบภายนอกที่เหมือนจะตอบสนองหัวใจอันเปราะบางได้บ้างไม่ได้บ้าง  บางคนก็คว้าไว้   เสี่ยงเป็นเสี่ยง   ยอมที่จะเสียใจภายหลัง ขอให้สมหวังแต่ต้นมือ
    
        ผมว่ามนุษย์เพศผู้  ฉลาดที่เข้าใจธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงนี้จนสามารถฉวยโอกาสสารพัดแบบเพื่อครอบครองทุกสิ่งทุกอย่าง
    
        ในมุมมองของผม  กับเรื่องของคนทั้งคู่ในเรื่องของคุณรอยทาง   ผมว่าทั้งสองน่าสงสาร  เขาจะถูกโลกเหวี่ยงให้หมุนไปหมุนไป เขาอยู่ในอาณัติของคนอื่น  คนอื่นกำหนดเขา จนเขาไม่สามารถกำหนดตนเอง  เขาจะมีความสุขเมื่อคนอื่นบอกว่าสุขเท่านั้น  ความสุขจริง ๆ เขาคงอาจมีโอกาสรู้จักมันเมื่อทุกอย่าง
    
    
    สายเกินไป
    
    
    เขียนอีกนะครับ
  • ดอกบัว

    16 มีนาคม 2551 11:14 น. - comment id 99562

    สวัสดีค่ะ พี่รอยทาง บัวขออนุญาตเรียกพี่นะค่ะ
    
    จริงๆแล้วบัวแค่อ่านผ่านๆค่ะมาปริ้นท์ไปอ่านละเอียดอีกครั้ง กับส่วนเกิน
    สำหรับบัวแล้วความถูกต้องมาก่อนค่ะ
    รักแค่ไหนถ้าบัวก็จะไม่ขอเอาความรักเป็นใหญ่เหนือความถูกต้องผู้หญิงมีความเสียเปรียบเสมอกับเรื่องแบบนี้ต้องยอมรับ
    ความผิดพลาดของตัวเองซึ่งมิได้เป็นผู้ก่อฝ่ายเดียว อิ อิ  พอดีกว่าบัวพูดแค่เนี๊ยและค่ะพี่รอยทาง กับเรื่องที่พี่เขียน "ส่วนเกิน"
    
    สำหรับบัวเค้าจะเคยมีใครมาก่อนไม่ว่ากัน
    นั้นคือผู้ชายแต่มิใช่มีพันธะนะค่ะ
    แต่เมื่อมีเราต้องเป็นหนึ่งเดียวค่ะ
    ถ้าทั้งโลกมีผู้ชายคนเดียวผู้หญิงล้นโลก
    ดอกบัวขออยู่โดดเดียวจนตายแหล่ะค่ะ
    อิ อิ อิ 
    บัวขอให้พี่รอยทางเขียนมาให้อ่านอีกนะค่ะ
    และขอให้พี่มีความสุขทุกวันค่ะ
    
    
    36.gif46.gif
  • การัณยภาส

    16 มีนาคม 2551 23:23 น. - comment id 99591

    ตอนนี้ฉันขอใช้สุภาษิตว่า "แม้นแผ่นดินไม่สิ้นชายที่พึงเชย ฉันยังหาไม่ได้เลยจะบ้าตาย"
  • จ่าน้อย

    17 มีนาคม 2551 09:58 น. - comment id 99596

    สวัสดีตอนใกล้เพล ครับผม
    
    
    เกิดเป็นชายถ้าเห็นแก่ตัว ก็สามารถทำให้หญิงดีกลายเป็นชั่วได้เหมือนกัน   
    
    บอกได้คำเดียวว่า  อย่เห็นแต่ตัว61.gif
  • รอยทาง

    17 มีนาคม 2551 19:04 น. - comment id 99599

    สวัสดีคะ คุณก่อพงษ์ 
    
    จริงๆ  แล้วแรงเวียงของโลกก็มีผลต่อการปรับตัวของมนุษย์ไม่น้อย   ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังไล่ล่าเราตลอดเหมือนเงาตามตัว  โดยเฉพาะการบริโภควัตถุในระบบทุนนิยมอย่างที่คุณกล่าวถึง   ปรับตัวทันถือว่าเป็นโอกาส  หากปรับตัวไม่ทันเราอาจตกเป็นเป้าหรือหลุมพรางนั้นได้  
    
    ทั้งนี้ขึ้นอยู่แต่ละคนต้องการให้ตัวเองไปยืนอยู่ตรงจุดไหนของชีวิต มากกว่า    การมีเป้าหมายที่เด่นชัดกับตัวเองมีส่วนที่จะทำให้เราไม่หลงทางได้  พอใจในสิ่งที่เรามีคะ  ไม่ดิ้นรนไขว่คว้าเกินกำลัง  หากแต่ไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเองคะ นั่นคือตัวตนของรอยทางคะ
    
    ขอบคุณคะ
    
    00000000
    
    สวัสดีคะ น้องดอกบัว
    
    ขอบคุณมากที่เข้ามาออกความเห็น  ภาคภูมิใจในความคิดเห็นคะ   บางคนเป็นเบอร์ 1 อยู่ดีๆ กลับกลายมาเป็นเบอร์ 2 ก็มี เป็นเรื่องที่รับรู้รับเห็นมาไม่น้อย
    
    เคยอ่านหนังสือเจอนะคะเป็นข้อคิดของผู้ชายคนหนึ่งเขาบอกว่า
     
    - หากต้องไปเป็นที่เขาเรียกว่าเมียน้อยนี่นะคะ  ก็ขอให้ยอมรับในความเป็นจริงไม่ว่าสาเหตุใด
    - อย่าไปเชื่อสามีว่าเขาจะอย่ากับภรรยา  เพราะเมียน้อยคือส่วนเกินในชีวิตเขา  เป็นของฟุ่มเฟือยจะหาเมื่อไรก็ได้
    - แม้จะรักมากแค่ไหนก็ควรหาทางเลิกกับเขาแล้วไปเริ่มต้นใหม่ดีกว่า
    
    ฝากบอกคุณสามีทั้งหลาย ยังงัยก็อย่าเอาเปรียบผู้หญิงและสังคม  หากมีเงินมากก็บริจาคเมียน้อยให้เขาไปทำทุนสร้างตัวเองเสียนะคะ
  • รอยทาง

    17 มีนาคม 2551 19:18 น. - comment id 99600

    สวัสดีคะ  การัณยภาส
    
    20.gif  พยายามต่อไปนะคะ อย่าปล่อยตัวเองเป็นเหยื่อให้คนอื่นตก  ต้องหัดเป็น "นางพราน"  ล่าเหยื่อเสียบ้าง  ต้องหว่านแหลากอวน  เผื่อจะมีปลาบางตัวหลงมาติดตาข่ายบ้างเซ่อๆซ่าๆ ก็อย่าให้หลุดไปละ    ส่วนใหญ่ที่ลอดตาข่ายไปตาข่ายมาดูปราดเปรียว  มักจะถูกฝังซืปเรียบร้อยแล้ว   19.gif
    
    ขอบคุณคะ
    
    -------------------
    สวัสดคะ  คุณจ่าน้อย   ที่แวะเข้ามาทักทายออกความเห็น  "อย่าเห็นแก่ต้ว"  คำนี่อ่านแล้วไม่ต้องแปล  แต่คนบางคนกลับไม่เข้าใจความหมาย
    
    ขอบคุณมากนะคะ
  • จ่าน้อย

    18 มีนาคม 2551 09:08 น. - comment id 99609

    หวัดดัอีกครั้งครับ
     
    ที่ผมพูดว่าอย่าเห็นแก่ตัวนะครับ  ผมเตือนเพื่อนผู้ชายที่ชอบเห็นแก่ตัว ครับ
    ให้คิดถึงหัวอกหญิงบ้าง 
    
    ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับญาติๆ พี่  น้อง  ของเขาบ้างเขาก็คงยอมรับไม่ได้เหมือนกัน
    
    
    รักษาสุขภาพให้แข็งแรงนะครับ
  • รอยทาง

    18 ตุลาคม 2552 05:37 น. - comment id 109020

    ขอขอบพระคุณ  คุณจ่าน้อยอีกครั้งคะ  สำหรับความเห็น

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน