อย่าทุบโต๊ะครับ

สะพั่งสะท้านไมภพ

ในห้องประชุมแห่งหนึ่งของมหานครใหญ่แต่เสื่อมโทรมทางด้านจิตใจสนองกับความต้องการได้อย่างสอดคล้องกับทุกชนชั้นได้อย่างน่าศึกษา อีกทั้งการปกครองของรัฐที่มีความแตกแยกแปลกไม่สามารถที่จะยึดเป็นรูปแบบที่คลาสสิคได้เลย คลับคล้ายกับว่าเป็นหลักยกเว้นในวิชาภาษาอังกฤษ ที่ โซลเดอร์ ให้อ่านเป็น โซลเย่อร์ อะไรยังงั้น นี่ถ้าหากนักเรียนที่ขี้เกียจเรียนหนังสือรู้ว่าจริงๆแล้วบ้านเมืองก็มีข้อยกเว้นมากมายจนมิอาจจะใช้ความเข้าใจให้มากกว่าความจำได้แล้วละก็ พวกนักเรียนเหล่านั้นคงจะเลิกเรียนตั้งแต่เจอไอ้ข้อยกเว้นอย่างว่าตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว
   ในขั้นตอนการเลือกประธาน ในที่ประชุมเห็นยศฐาบันดาศักดิ์ของผม แล้วทุกคนต่างก็จะเทคะแนนให้ มากกว่า คนที่ไม่มียศฐาบันดาศักดิ์ ผมหัวเราะในใจ เคี๊ยกๆๆ ข้อดีของคนที่มียศก็คือ ทำให้เขารู้ว่ามีประสบการณ์ในการทำงานมามากแค่ไหน แต่ทว่า สะพั่งคิด บางท่านมียศก็จริงแต่ก็อาจหามีปัญญาไม่ ดีแต่ทำงานให้นายรู้สึกพอใจไปวันๆโดยไม่คิดว่าเป็นเรื่องถูกต้องหรือผิดศีลธรรมแต่อย่างใด 
   ทุกคนมีความพยายามจะให้ผมเป็นประธานเสียให้ได้ ผมสะพั่งก็คิดไปอีกว่า เออ นี่แหละ คนภายนอกเขายังให้เกียรติแต่ไอ้พวกเดียวกันเนี่ยมันมีแต่ลบหลู่เกียรติพวกเดียวกันเอง ดีแต่ตีหน้าผู้ดี ทำตัวสูงศักดิ์ อวดร่ำรวย และแสดงความใกล้ชิดต่อเจ้านาย ชีวิตจริงๆก็เพียงแค่หามาให้นายได้ ก็เท่านั้น 
   ผมยกมือและมองหน้าทุกคนว่า หากจะให้ผมเป็นประธาน แล้วก็ควรจะทราบไว้ก่อนว่า ผมจะบริหารอย่างนี้กล่าวคือ หนึ่งจะไม่สั่งการ สองจะไม่ใช้แบบเดิมๆในการบริหาร เช่น บันทึการประชุมอาจไม่ต้องมีแต่อาจสรุปสั้นๆว่าที่ประชุมให้ใครทำอะไรเสร็จเมื่อไหร่งบกี่ล้านก็เท่านั้น
   สมาชิกคนหนึ่งยกมือ อยากขอทราบประวัติการของผม สะพั่งสะท้านไมภพ ผมยิ้มให้ครับแล้วชี้แจงว่า ข้อหนึ่ง เรียนให้ที่ประชุมทราบว่า ผมไม่อยากเป็นประธาน และข้อสอง หากยังไม่ชัดเจนก็ให้กลับไปดูข้อหนึ่งใหม่
   การชี้แจงแบบนี้ดันเกิดไปตรงกับนิสัยของคนไทยพอดีคือ ใจถึงแบบโง่ๆ พวกเขาจึงได้มีฉันทานุมัติให้กระผม สะพั่ง สะท้านไมภพ เป็นประธานคณะกรรมาธิการหนึ่งทันที
   สะพั่ง หัวเราะเคี๊ยกๆๆ ผมนึกแล้วว่ามันจะต้องเป็นเช่นนี้ แต่เอาละเมื่อพวกคุณประสงค์ให้ผมเป็นประธานแล้วผมก็จะแสดงวิธีการบริหารงานของผม ซึ่งมีรูปแบบโดยเฉพาะให้พวกคุณได้เห็นซึ่งผมคิดว่ามันคลาสสิคพอที่จะทำให้งานของคณะกรรมาธิการออกมาตรงใจประชาชน 
   สะพั่งจึงเริ่มชี้แจง ตำแหน่งใครอยากจะเป็นอะไรก็ใส่ชื่อเข้าไป แต่สำหรับหน้าที่ความรับผิดชอบจะได้ว่ากันในวันหลัง ประธานจะไม่สั่ง แต่ประธานจะทำหน้าที่ประธานสรุปความเห็นของสมาชิกแม้จะเป็นพวก มวยวน ก็จะขมวดให้สั้นๆเข้าใจและดูดี 
    และการประชุมแต่ละครั้งก็ไม่ควรใช้เวลาเกินหนึ่งชั่วโมง หากเกินกว่านี้ก็แสดงถึงสติปัญญาของประธานได้เหมือนกัน
    แต่โดยที่ผมพยายามสรุปรวบรัดเช่นนี้ รองประธานคนหนึ่งได้ยกมือ ภายหลังที่ผมได้เข้ามาทำงานได้สักสามเดือน ท่านบอกว่า ผมมีเรื่องติเตียนประธานนิดหนึ่งครับ นั่นก็คือ ประธานอย่าทุบโต๊ะ
   มันเหมือนกับฟ้าผ่าในยามแดดเปรี้ยง ผมสะท้านไมภพ ก็นึกย้อนไปในการประชุมต่างๆ อันที่จริง ผมไม่ได้ทำอะไรเลย ผมพยายามส่งเสริมความคิดริเริ่มของกรรมการแต่ละคนให้เขา ให้กำลังใจ และพยายามช่วยเหลือกรรมการในการเสนอของบประมาณ สิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อเขาได้รับมอบหน้าที่ ได้รับอำนาจในวงเงินแต่ละงานแล้ว ต่อไปก็เป็นเรื่องความเสียสละของเขา ทักษะของเขา ว่าจะมีผลงานออกมาอย่างไร ผมสะพั่งไม่ได้แคร์ว่าจะล้มเหลว แต่ทว่าหากเพียงครั้งแรกไม่เข้าท่าซะแล้วครั้งต่อไปก็อย่าหวังเท่านั้น นี่คือวิธีของผม วิธีให้โอกาส 
    ในการทำงานของคนๆหนึ่งหากทุ่มเทให้กับงานมากเต็มที่และมีผลงานออกมาดียอมรับก็ต้องเกิดความมานะถือดีถือตนขึ้นมา อันนี้ผมเข้าใจดี เมื่อเขาต่อว่าผมว่าทุบโต๊ะ ผมก็ยอมรับ ว่าทุบโต๊ะ แล้วก็ว่าเรื่องต่อไป แต่ผมเองก็ต้องระวังตัวแล้ว แม้ว่าดูเหมือนจะทุบโต๊ะแต่ทว่า ปัจจัยเรื่องเวลา มันสำคัญ ที่จะต้องไม่ชักช้าในเรื่องที่ไม่ควรชักช้า แต่ทว่าในห้วงที่ผ่านมาสามเดือน ผมได้ส่งเสริมให้มีการทำโครงการต่างๆออกไปแล้วซึ่งเร็วๆนี้จะสำเร็จผลออกมาเรื่อยๆ
   สะพั่งหัวเราะเคี๊ยกๆๆ ต่อไปผมจะไม่ทุบโต๊ะแล้ว แต่ผมคิดในใจว่าหลังจากผลงานชุดแรกออกมาแล้ว ในหกเดือนต่อไปก่อนหมดวาระคณะกรรมการทุกคนจะต้องรักษาสถานภาพเอาไว้ให้ประชาชนยกย่องสรรเสริญไว้ให้ได้ และจะหยุดโครงการใหม่ๆไว้ก่อนสำหรับคณะกรรมาธิการชุดใหม่ 
    ผมพยายามเข้าไปให้ข้อแนะนำกรรมาธิการแต่ละท่านที่มีความรับผิดชอบในการทำงาน พยายามขายความคิดในเรื่องการทำงานแบบมีขั้นตอนและมีการตกลงใจเพิ่มเติมในขั้นก่อนการเริ่มต้นขั้นตอนต่อไป ซึ่งจะทำให้ไม่มีผลกระทบในเรื่องงบประมาณหรือความเห็น 
   ผมสะพั่งสะท้านไมภพ มีความสุข แต่ไม่ใช่จากการเป็นประธาน แต่มีความสุขที่ได้แสดงตัวอย่างให้คนอื่นได้เห็นวิธีการบริหารงานแบบใหม่ของผมให้ประจักษ์ไว้ 
    ตามรอยเท้าทางเดินของผมที่ย่ำมาผมก็มีการศึกษารูปแบบต่างๆจนออกมาเป็นแบบของผมเอง และผมได้ชี้แจงแนะนำบรรดาเพื่อนพ้องน้องพี่ รวมถึงได้รับความรู้จากความเก๋าของรุ่นพี่ซึ่งผมคิดว่ามีส่วนสำคัญ เรียกกันว่ามีการต่อยอดด้วย ก็ทำให้รู้ได้ว่าปัญหาของการบริหารในปัจจุบัน มันเป็นเรื่องของแนวคิดที่พยายามจะไม่เข้าใจว่า การให้คนที่ตั้งอกตั้งใจในการทำงานขึ้นมาเป็นใหญ่นั้นมันมีคุณประโยชน์แก่ส่วนรวมมากทีเดียว 
   ผมสะพั่งสะท้านไมภพ ผลงานของผมมีทุกปีและเป็นผลงานที่ภาคภูมิใจทั้งนั้น เพียงแต่ว่า คร้านที่เอื้อนเอ่ยออกมา
    ผมไม่สามารถจะต่อต้านวิทยาการที่พวกเรียนระดับด๊อกเตอร์ได้นำมาให้ใช้ได้ เนื่องจากมันมีมากเกินไป มีมากจนกระทั่งศึกษาให้ครบก็ไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว ผมอาจจะโง่ก็เป็นได้ สะพั่งคิด แต่สะพั่งยักไหล่ 
    แม้ผมจะไม่เคยทุบโต๊ะ แต่ความหมายที่ว่า ไม่ให้ผมทุบโต๊ะ ยังคงคิดไม่ออกใตอนนั้น
    ดังนั้นผมจึงตอบรองประธานไปว่า ครับ ผมยอมรับว่าทุบโต๊ะ
    แม้ว่าจะยังไม่ค่อยแน่ใจว่าทุบโต๊ะหรือเปล่า แต่ทว่าเห็นแก่คนทำงานอย่างตั้งใจ เราก็ละตัวตนซะยอมเขาหน่อยเพื่อความก้าวหน้าของงานและลดปัญหาความขัดแย้งได้อย่างนิ่มนวล
    คำเตือนของเขาเปรียบเหมือนดังกระจกที่ส่องให้เราเห็นตามความเป็นจริง ไม่หล่อก็ฉายออกมาว่าไม่หล่อ ไม่ใช่กระจกในร้านตัดผมที่คนตัดมองอย่างไรก็เห็นว่าตนเองหล่อตนเองสวยงามเลิศเลอ
    ในเบื้องหลังของทุกคนสะพั่งยิ้มๆ มีเรื่องน่าอายหลายๆเรื่องที่ไม่สามารถกล่าวให้คนรู้ได้ว่า เรารู้ เราดู เราเห็น เราทำ 
    แต่ทว่าในการทำงานชิ้นหนึ่ง คาแรกเตอริสติก ของเราก็ควรจะเป็นไปในแนวทางที่ทำงานเป็นประการสำคัญ มิฉะนั้นแล้วจะไปทำให้เกิดอาการพังทะลายของความเชื่อมั่นรุกรามยิ่งกว่าเริม เมื่อมีคนเห็นเข้าแล้วบอกต่อ
    หนึ่งปีผ่านไป แม้ว่าความยั่วยวนในชื่อเสียงเกียรติยศเกียรติศักดิ์จะหอมหวลยวนใจแค่ไหน สะพั่งก็ขอกลับมาเป็นชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่งเหมือนเดิม
    สะพั่งหัวเราะให้กับมุมมองต่างๆของนักต่างๆ 
    เพียงเพื่อประโยชน์ตัวแค่นี้เหรอ ก็ทำทุกอย่างได้แม้จะขายชาติ
    ทำไมศาสนาพุทธถึงสาบสูญในอินเดีย
    ทำไมธรรมมะเช่น ศีลห้า จึงหาได้ยากเสียเหลือเกิน
    ทำไมพวกแบบป้ายว่าเป็นชนฝ่ายธรรมะหรือสูงส่ง แต่การกระทำกลับเลวเหลวไหลยิ่งกว่าพวกที่โดนป้ายสีว่าเป็นพวกอธรรม
    หรือเพียงแค่ผลประโยชน์และอำนาจ ใครที่ต่อสู้ช่วงชิงมาได้ย่อมถือว่าเป็นฝ่ายถูก
    สะพั่ง หัวเราะให้แก่ตนเองอีกครั้ง เคี๊ยกๆๆ
    สะพั่งตอบกลับรองประธานคนนั้นไปว่า ขอบคุณครับ ต่อไปผมจะไม่ทุบโต๊ะอีก				
comments powered by Disqus
  • นทธี ศศิวิมล

    8 กรกฎาคม 2551 19:47 น. - comment id 79681

    เอ...เรื่องจริงหรือเรื่องสั้นคะเนี่ย 1.gif
  • คนบนเกาะ

    7 กรกฎาคม 2551 11:17 น. - comment id 79698

    36.gif  กิริยาแบบนี้คล้าย ๆ เคยเห็นที่ไหนน๊า.....

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน