27 มกราคม 2551 23:46 น.

วาดเอา...ก็เท่านั้น (วาดครั้งที่ 5)

เสี้ยว

วาดหวังวาดฝัน วาดมันเข้าไป
วาดนกวาดไม้ วาดให้มันมี

วาดป่าวาดเขา เฝ้าวาดปาดสี
วาดสิ่งที่ดี ป่นปี้เปรอะไป

วาดสันติภาพ ฉาบวิวาทไว้
วาดรักอำไพ วาดไปแค่นั้น

วาดหวังสังคม โง่งมวาดฝัน
วาดหวังจำนรรจ์ สารพันจะวาด

วาดโลกสวยงาม สงครามป้ายปาด
วาดรัฐวาดชาติ อำนาจวาดไว้

วาดมนุษย์โลก วาดโศกโบกใส่
วาดตนยิ่งใหญ่ ตามใจใครเล่า

วาดโลกวาดฝัน เมามันกันเข้า
วาดตามใจเรา วาดเอาเท่านั้น

..................................

สักวัน
สักวัน
Peace may come true.
He gave his life, for we might enjoy peace.				
23 มกราคม 2551 00:35 น.

สาดสี ละเลงสะบัด

เสี้ยว

ปล่อยไปตามใจพู่กัน
จะวาดอะไรก็ช่างมัน ไม่สน
ละเลงเลอะเละราดสัปดน
ไม่เห็นต้องไปอดทนอะไรกับมัน

สาดสีสะบัดจุ่มซัดใส่
ฝีแปรงปล่อยปัดไปตามใจกระสัน
สะท้อนอารมณ์ขมประหลาดข้างในนั้น
ส่งสบถผ่านพู่กันโรมรันเอาตามใจ

ผสมมั่วๆ แล้วสั่วๆทา
ตามใจอารมณ์พาปัดไปทางไหน
พู่กันตวัดสะบัดตามแรงบ้าอย่างสะใจ 
เส้นสีเลอะเละนั่นปะไรอารมณ์กู

ดำๆเลอะๆกะดำกะก่าง
เส้นสายดูเก้งก้างน่าหดหู่
กระดาษเปียกจนเหี่ยวไม่น่าดู
สับสนน่าอดสูนี่อารมณ์กูละหรือ

คงเกินปัญญาวิลิศมาหราบรรจงแต่ง
เวิ่นเว้อวาดตะแบงให้แทนตัวหนังสือ
ตวัดซ้ำอีกกระดาษแทบฉีกเพราะมันมือ
ราวพู่กันใบ้บื้อนั้นมีชีวิต

น้ำหนัก เส้นสาย ลายแปรง
สะท้อนแสดงลำแสงอันบูดบิด
ก็ธรรมดาอย่างนี้ในความคิด
ก็วิปริตเช่นนี้หนอมนุษย์				
27 ธันวาคม 2550 12:36 น.

แสงนั้นที่หายไป

เสี้ยว

ฉันกำลังมองหา
แสงศรัทธาที่เคยฉายฉาน
ขุดความฝันอันแสนยาวนาน
ที่เคยยืนกรานจะไปให้ถึง

ขอบฟ้าที่ฝันที่ใฝ่
ยังคงมุ่งไปไม่ถึงเพียงครึ่ง
แต่หมดสิ้นแล้วเรี่ยวแรงฉุดดึง
ฉันจึงมาถึงได้เพียงแค่นั้น

ที่เคยมุ่งไปข้างหน้า
และแม้อ่อนล้าก็ไม่ไหวหวั่น
ก็เพราะขอบฟ้ามีแรงผลักดัน
ปลอบโยนในวันที่ใจเหนื่อยล้า

แต่เพิ่งรู้ คิดเองอยู่เสมอ
ที่จะได้เจอเธอตรงขอบฟ้า
คิดว่าตอนนี้เพียงรอเวลา
ให้เรามุ่งหน้า สุดฟ้าจะพบกัน

แต่กลับเห็นเธอไกลออกไปเรื่อยๆ
จนฉันเริ่มเหนื่อยจะมุ่งตามฝัน
และแล้วตอนนี้ก็รู้ว่าไม่มีวัน
จะตรงนี้หรือขอบฟ้านั่นก็ไม่มีเธอ

แล้วจะสู้ไปเพื่อสิ่งใดหนอ
ไม่มีใครรออย่างเคยคิดเสมอ
แสงศรัทธานั้นฝากไว้กับเธอ
ตอนนี้จึงได้เจอเพียงความมืดมน

เหม่อมองทะเลเวิ้งว้าง
ถอนใจกับขอบฟ้าแสนกว้างเกินข้ามพ้น
เรือลำน้อยที่ลอยอยู่ท่ามกลางทะเลวน
ไม่รู้จะทานทนคลื่นลมแรงได้เท่าไร

สักวันก็อาจม้วนตามแรงคลื่น
โคลงเคลงครืนครืนคลื่นโถมซัดใส่
กลางทะเลกว้างใครเล่าสนใจ
เรือลำน้อยที่จมดิ่งลงไปสู่ใต้ทะเล				
5 พฤศจิกายน 2550 13:17 น.

แล้วสักวันจะไปหา แด่พี่โจ้ วงพอส

เสี้ยว

บนหลังคาฉันนั่งมองฟ้า
เพราะอยากรู้ว่าเธออยู่ตรงนั้นไหม
ระยิบดาววะวิบวาวอยู่ไกลๆ
คล้ายเธอกะพริบตาให้เหมือนวันวาน

บนโลกที่ไร้ลมหายใจของเธอ
มีเพียงสายลมละเมอเป็นเพลงขับขาน
รูปเก่าๆ เพลงเก่าๆ เรียงร้อยเป็นตำนาน
ทำนองสอดประสาน เล่านิทานเรื่องของเธอ

และเธอยังคงเป็นแรงบันดาลใจที่สดใหม่
ยังคงเป็นเชื้อไฟเติมใจเสมอ
ผู้คนเล่าขาน จะจารจำความฝันของเธอ
แม้ที่ว่างจะห่างเกินพบเจอ 
...แต่หัวใจเธอไม่จากไกล

ค่ำคืนที่เงียบงัน
หากบทเพลงเหล่านั้น เสียงเธอยังสดใส
ยังเล่าเรื่องราว บอกกล่าวความเป็นไป
ข้อความยังเหมือนใหม่ แม้เจ้าของจากไปไม่กลับมา

ได้ยินไหมนั่นเสียงสะท้อน
จากใจที่แทบขาดรอนของคนมากหน้า
เสียงเหล่านั้นผูกพันเราไว้ตลอดเวลา
ว่า "สักวัน จะไปหา" ที่ปลายฟ้า...ฝั่งนั้น				
26 พฤษภาคม 2550 23:44 น.

พอแล้ว

เสี้ยว

พอแล้วมั้งเรื่องหัวใจ
ไม่ขอมีใครๆต่อไปจากนี้
ที่เจ็บเองยังฝืนๆได้บางที
แต่ทำเขาเจ็บนี่ ทำไมเราทรมาน

พอแล้วมั้งกับความรัก
เรื่องมากนัก รักเพียงตัวเองก็คงผ่าน
วันเหล่านั้น คงเก็บมันเป็นตำนาน
จากวันนี้จะไม่ขอพบพานไม่รักใคร

ยามยังดี ก็ดีกันจนหยด
ยามรักหมดกลับชิงชังผลักไส
นี่สินะ ที่เธออยากให้ฉันได้เข้าใจ
จึงสอนให้รู้ไว้ รักนั้นไซร้ไม่ใช่อะไรเลย

ไม่มีหรอกมั้งความรักที่เสาะหา
ไขว่คว้าเพียงมายาที่เปล่าเฉย
มีเกิดขึ้นมีดับไปทั้งนั้นเลย
สมดังคำเปรียบเปรย ว่ารักคือทุกข์ระทม				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเสี้ยว
Lovings  เสี้ยว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเสี้ยว
Lovings  เสี้ยว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเสี้ยว
Lovings  เสี้ยว เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเสี้ยว